ในที่สุด Kimetsu No Yaiba Season 2 : Yuukaku-hen หรือ ดาบพิฆาตอสูร ซีซั่น 2 : ย่านเริงรมย์ ก็ได้ปล่อยตัวอย่างสั้นๆออกมาแล้ว แน่นอนว่า การมาของซีซั่นที่สองของทีวีอนิเมะเรื่องดังกล่าวจะออกอากาศ แฟน ๆ ต่างก็ดีใจกับข่าวใหญ่ที่เป็นประเด็นเข้ามา ปละหลายๆคน ยกให้เป็นภาคที่มันส์ที่สุดของมังงะเรื่องดังกล่าวด้วย
แน่นอนว่า ฉากหลังของอนิเมเรื่องนี้ คือ “ย่านเริงรมย์โยชิวาระ” สถานที่อโคจรชื่อดังในสมัยอดีตของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงๆมาตั้งแต่ยุคเอโดะ และย่านเริงรมย์นี้เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวมากมายของชายหนุ่มทั้งหลายขี้เหงาอยากหาที่ระบาย และหญิงสาวมากหน้าหลายตาที่ไม่อาจหวนกลับได้
จริงๆแล้ว คำว่า โยชิวาระ คือสถานที่ๆเรียกกันรวมๆมากกว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ คนญี่ปุ่นก็เรียกโยชิวาระได้หมดเลย แต่ที่ถูกต้องจริงๆ และขึ้นชื่อชนิดเป็นแดนสวรรค์ มีเพียงสามที่เท่านั้น ได้แก่ ชิมาบาระ ในเกียวโต เมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่น / ชินมาจิ ในหัวเมืองใหญ่อย่างโอซาก้า และ ย่าน โยชิวาระ ในเอโดะ หรือโตเกียวในปัจจุบัน
ที่มาของย่านนี้ เกิดในช่วงยุคสมัยของ โทกุกาวะ ฮิเดทาดะ (ราวๆปี ค.ศ. 1617) รัฐบาลบาคุฟุ ได้มีการจัดร่างกฎหมายสถานเริงรมย์ ให้เหล่านางโลม สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้อง ต้องย้ายไปอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อสะดวกต่อการดูแลจัดการ ทั้งในด้านความปลอดภัย และภาษี
ทำให้ซ่องนางโลมที่ใครนึกอยากจะเปิดก็เปิดเกลื่อนเมืองแบบยุคก่อนๆ ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป
ฟังดูเหมือนจะเป็นกฎหมายเอื้อนายทุนไม่กี่คนที่เป็นเจ้าของกิจการย่านบันเทิงกามรมย์ชั้นสูง แต่ที่จริงแล้ว เป็นการนำเอาสถานที่ๆมักจะเป็นปัญหาการเมืองมารวบไว้ที่เดียว เพราะหลายครั้ง การก่อกบฏ การสุมหัวตั้งซ่องโจร หรือการประชุมวางแผนโค่นอำนาจการปกครอง นั้น หลายๆครั้งมักจะเริ่มที่ย่านนางโลมเหล่านี้
แผนที่ย่านเริงรมย์โยชิวาระ ในปี 1846
แบบแปลนง่ายๆ มีประตูทางเข้า (ขวามือผู้อ่าน) และรายชื่อร้านรวงต่างๆที่ลงทะเบียนกับทางรัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่เดินกวดขันตามหัวมุมต่างๆแบ่งเป็น 6 บล๊อก
แผนที่ย่านเริงรมย์โยชิวาระ ในปี 1905
บนสุดของแผนที่ คือสำนักงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โรงพยาบาล สวนสาธารณะ และที่เหลือ คือพื้นที่ 6 บล๊อกเดิมแต่ดูง่ายขึ้น ล่างสุดคือประตูทางเข้าที่มีมาแต่เดิมในยุคเอโดะ
เพื่อป้องกันเรื่องดังกล่าว การออกกฎหมายฉบับใหม่ ก็ได้มีการเพิ่มกฏว่า…
1.”ย่านโยชิวาระ หรือย่านเริงรมย์นั้น จะ ต้องปลดอาวุธก่อนเข้ามา“
2. “ห้ามให้บุรษเพศใช้กำลังกับสตรีในย่านนี้”
3.”ห้ามให้ผู้ที่ไม่ได้มีชื่อในทะเบียน หรือผู้มาจากต่างถิ่น อยู่ในย่านโยชิวาระเกิน 24 ชม.โดยแขกที่เข้ามาต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐด้วย”
หากชายใดฝ่าฝืน แม้แต่ข้อเดียว เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ในการคาดโทษแบน ห้ามข้องเกี่ยวกับย่านเริงรมย์ตลอดชีวิต
โดยกฎนี้ มีผลบังคับใช้มาตลอดจนถึง ยุคไทโช ซึ่งนี่เป็นคำตอบของคำถามที่ว่า “ทำไมพวกของทันจิโร่ที่จะเข้ามาในย่านนี้ ต้องปลอมตัวเป็นนางโลมฝึกหัด” และ “ฝากดาบนิจิรินเอาไว้กับพวก “หนูล่ำ” (สัตว์นินจาของเสาหลักเสียง อุซุย) ก่อนเข้ามาทำภารกิจหาสายลับของอุซุยที่ขาดการติดต่อ ถ้าพวกทันจิโร่ ที่เป็นคนนอกพกดาบเข้าไป จะเกิดเริ่องวุ่นวายจนไม่สามารถทำงานได้นั่นเอง
แน่นอนว่า กฎที่มากขึ้น มีการลงทะเบียน มีการจำกัดคนเข้าออก ทำให้ย่านโยชิวาระ มีสถานะเป็นเขตปกครองพิเศษกลายๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงใช้กฎหมายเดียวกัน ส่วนมาก เด็กสาวที่เข้ามาในย่านนี้ในฐานะ “ผู้มอบความเริงรมย์” จะเป็นเด็กที่เต็มใจมาเอง ไม่ก็ถูกครอบครัวขายมา
ซึ่งถ้าเป็นเด็กสาวที่ถูกลักพาตัว หรือไม่ยินยอมพร้อมใจ ไม่มีเอกสารสัญญาค้าขาย เจ้าของหอนางโลมจะมีความผิดตามกฏหมายเอโดะ รับโทษหนักมาก ทำให้เป็นการลดอาชญกรรมการลักพาตัวเด็กมาขายอีกทางหนึ่งด้วย
หญิงสาวในโยชิวาระ จะเริ่มเข้ามาทำงานเป็นเด็กรับใช้ที่เรียกว่า “คามูโร่” (ระดับชั้นที่พวกทันจิโร่ต้องปลอมตัวเข้าไปหาข่าว) โดยรับใช้นางโลมระดับสูงที่เรียกว่า “โออิรัน” ซึ่งเหล่านวลนางกลุ่มนี้ ไม่ใช้หญิงบริการชั้นต่ำแต่อย่างใด พวกเธอล้วนแต่งกายด้วยกิโมโนสีสันฉูดฉาดบาดใจ เครื่องปิ่นผมราคาแพงระยับ และรอเหล่าขุนนางหนุ่ม (หรือแก่) มาใช้บริการ
ซึ่งกว่าจะได้ร่วมบรรเลงความสุขนี้ ชายหนุ่มต้องแสดงความอดทน ความพยายาม นัดพบพูดคุย กินดื่ม ทุ่มเงินให้ได้มากกว่า สามครั้ง สามครา จึงจะได้รับการพิจารณาว่าจะยอมรื่นเริงบันเทิงบนเตียงได้หรือไม่
ใช่แล้ว “โออิรัน บางคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกลูกค้าได้” การพิชิตใจสาวในหอโคมแดง นับเป็นหนึ่งในชาเลนจ์ของเหล่าขุนนางหนุ่มเงินเหลือใช้ที่จะเก็บแต้มโออิรันได้กี่คน แล้วมาขิงใส่กันนั่นเอง…
หญิงสาวงามเมืองทั้งหลายที่อยู่ในลูกกรงไม้ สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในย่านนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นของแต่ละวันของพวกเธอที่ต้องเจอ…
การออกจากการเป็นนางโลมในย่านนี้ มีเงื่อนไขง่ายๆ แต่ทำได้ยาก นั่นก็คือ
1.ทำงานเก็บเงิน ไถ่ตัว ซึ่งแม่เล้า หรือ โอก้าซัง จะคิดเงินตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ค่ากินอยู่เสื้อผ้าหน้าผมที่ชุบตัวจนกลายเป็นหญิงงาม รวมๆแล้ว ทำงานกันหน้ามืดเลยทีเดียว
2.มีขุนนาง เศรษฐีใจป๋าหน้าใหญ่ มาไถ่ตัว จะด้วยติดใจ สงสาร หรือลุ่มหลงอยากได้เป็นเมีย ก็สุดแท้แต่ แน่นอนว่า ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแพงระยับ
3.ป่วย / ตาย / หนี สามหัวข้อนี้ คือทางลัด ส่วนมากหนีไม่ค่อยรอด แต่จะป่วย แล้วก็ตายกันซะเยอะ เพราะโรคติดต่อทางเพศนั่นเอง (ยุคนั้นจะเป็นพวกหนองใน ซิฟิลิส)
ภาพ “วัดโจคังจิ”ในปัจจุบัน
หญิงนางโลมที่ตาย ส่วนมากจะมาฝังศพใน “วัดโจคังจิ” ถ้าชั้นสูงหน่อย ก็จะมีพิธี มีป้ายหลุมศพให้ แต่ถ้าเป็นนางโลมระดับล่างๆ ก็ถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา
จนมีการจัดตั้งศาลเจ้า และ สุสานหญิงงามไร้ญาติขึ้นโดยชาวบ้าน ขุนนาง และผู้มีจิตศรัทธา อย่างน้อยที่สุดตอนตาย ก็ควรได้รับสิ่งที่ดีๆอย่าง “สุสาน” และเพื่อตอบแทนที่เหล่าสาวงามเคยให้ความสุขแก่ชายหนุ่มในยามมีชีวิตอยู่
หลังจากยุคไทโชในปี ค.ศ. 1926 …. เข้าสู่ยุคโชวะ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในย่านนี้อย่างมากชนิด สรวงสวรรค์ถล่ม..
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าสู่กลางยุคโชวะ ในปี 1958 มีกฎหมาย “ห้ามค้าประเวณีอย่างโจ่งแจ้งทุกกรณี” ทำให้ร้านต่างๆในย่านนี้พากันปิดตัว นางโลม แม่เล้าได้ออกจากย่านดังกล่าว หาทางขายเองกินเอง ตามเมืองต่างๆ
ในที่สุด ย่านโยชิวาระก็ปิดตำนาน พื้นที่ในอานาเขตเหล่านั้น ถูกนำออกจากแผนที่กรุงโตเกียวชั่วคราวก่อนการบูรณะใหม่
เหลือเพียงเรื่องเล่า และภาพถ่ายเท่านั้น …
ย่าน โยชิวาระในปัจจุบัน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี มิโนวะ ปัจจุบันเรียกว่า Senzoku 4-Chome ในเขตไทโตะ ของโตเกียว ปัจจุบันพื้นที่นี้ยังคงเต็มไปด้วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการในรูปแบบผับ บาร์ สาวดริ๊งค์ (ตามแต่ตกลง) ร้านอาหารเล็กๆ และย่านที่อยู่อาศัยอันแสนสงบไปแล้ว
แหล่งของเล่นท่านชาย ตึกเขียวในตำนานอากิฮาบาระ Pop life department
แม้ว่าการบริการทางเพศในญี่ปุ่นจะถูก “ปรับเปลี่ยน” “เลี่ยงบาลี” “หลบข้อกฎหมาย” หรือ “กระทำทางอ้อม” ตามยุคสมัย แต่ความต้องการในเรื่องเหล่านี้ยังคงอยู่ กับประเทศที่ประชากรเกิดต่ำ พร้อมความเคร่งเครียดที่สูง ทำให้ความบันเทิงทางเพศได้ถูกปรับเปลี่ยนไปมากมาย จนกลายเป็นสื่อบันเทิง และงานบริการ ซึ่งเราคงไม่ต้องกล่าวถึงลงลึกไปมากกว่ากว่านี้เพราะเกรงว่าจะหลุดประเด็นไป…เอาเป็นว่า มันมีการปรับตัวตามยุคสมัย ตามกฏเกณฑ์สังคมที่เปลี่ยนไป แต่มันก็ยังคงดำเนินต่อไป…ตามความต้องการของมนุษย์
“ดาบพิฆาตอสูร Season 2″ อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังของยุคสมัยแฝงเข้ามา (แบบคนเขียนก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน 55+) มี “กิมมิค”เรื่องราว แถมเน้นหนักที่ ฉากแอคชั่นดุเดือด ที่การันตีโดยแฟนๆมังงะก็ตาม…
แต่อีกมุมหนึ่งดูเหมือนว่าแฟนๆอนิเม หลายคนจะกังวลพอควร เพราะเนื้อหาในภาคนี้ จะเล่าถึงฉากที่เต็มไปด้วยความรุนแรงหลายๆฉาก ทั้งฉากสังหารโหด ฉากเลือดสาดท่วมจอ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา การลดความรุนแรงของฉากโหดเลือดท่วมจอนี้มี “การแก้ไข” เพิ่ม “หมอก” สีดำในฉากที่คอของตัวละครระเบิดออก อย่างใน “Terra Formars” และในภาคสามของ “JoJo’s Bizarre Adventure” ตัวละครหลักของนักเรียนมัธยมปลาย คุโจ โจทาโร่ สูบบุหรี่ …ที่บุหรี่ปรากฏ หมอก”สีดำ” ลึกลับมาบดบัง
แต่ก็มีคอมเม้นท์บางส่วน ระบุว่า “ก็ย้ายเวลาฉายให้ดึกขึ้นสิ” หรือ “ฉันคิดว่ามันก็ดีสำหรับเด็ก ๆ นะ ถ้ามีพ่อแม่ที่ชอบเรื่องนี้ และสามารถอธิบายได้ว่า สังคมญี่ปุ่นในยุคก่อนๆ มันมีวัฒนธรรมที่เทาๆแบบนี้ พวกเขาจะได้พูดคุยกับพ่อและแม่ มีการพูดคุยกันมากขึ้น” ก็ต่างทัศนคติ ต่างคอมเม้นท์ ว่ากันไป…
ที่น่าสนใจนอกจากเรื่องราว Bacground ของย่านดังกล่าวแล้ว ในการสร้างงานภาพ “ย่านเริงรมย์ ” ของ “ดาบพิฆาตอสูร Season 2″ ทำให้หลายๆคนกังวลมากกว่า SS1 ทั้งหมอกดำเซนเซอร์อย่างที่กล่าวถึงไปแล้ว
รวมไปถึงการที่พ่อแม่จะอธิบายคำว่า “ย่านเริงรมย์” ให้เด็กๆที่ได้ดูเรื่องนี้เข้าใจได้อย่างไร เพราะสถานที่แห่งนี้…มันเกี่ยวพันกับอดีตของญี่ปุ่น ที่สามารถสะท้อนความเป็นมนุษย์ในหลายๆแง่มุม ทั้งแง่สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และยุคสมัย ที่คนรุ่นใหม่อาจจะต้องตั้งคำถามในหลายๆประเด็นอย่างแน่นอน
นี่คือสิ่งที่แฟนๆดาบพิฆาตอสูรต้องตั้งข้อสังเกต และติดตามกันต่อไป…
แอดมิน AK47
ที่มา…
Japan Times 22 July 2011
——————————-
ชมตัวอย่าง เรื่องย่อ “ดาบพิฆาตอสูร Season 2″ ในนี้
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก