หลังจากที่เปิดตัวมาได้เกือบเดือน ในที่สุด Mobile Suit Gundam : The Witch from Mercury หรือ โมบิลสูท กันดั้ม แม่มดจากดาวพุธ ตอน PROLOGUE (เกริ่นนำ) ความยาว 20 กว่านาที ก็ได้เปิดให้สาวกกันดั้มได้ดูนอกเกาะญี่ปุ่น ในซับไตเติ้ลภาษาต่างประเทศ รวมถึงซับไทยด้วย และ ได้สร้าง “ซีนจำ” พร้อมการปูเรื่องราวสุดหน่วง จนอาจจะได้ฟอกตับล้างไตไปกับอนิเมะเรื่องนี้แน่ๆ
บทความนี้ มีสปอยล์ แนะนำว่าให้ดูคลิปนี้ก่อน แล้วค่อยอ่านนะ
โมบิลสูท กันดั้ม แม่มดจากดาวพุธ「PROLOGUE」
และนี่คือ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ที่อนิเมะตอนพิเศษนี้ ได้ทิ้งไว้ให้เราได้ถอดข้อมูลบางอย่าง…
Background ของเรื่อง
ในปี A.S. 112 ได้มีการแบ่งฝ่ายของผู้คนออกเป็นสองส่วน ได้แก่ “เอิร์เธี่ยน” (ชาวโลก) และ “สเปเซี่ยน” (ชาวนิคมอวกาศ) ที่กำลังตึงกับความขัดแย้งของชาติพันธ์ุ
มนุษย์ที่อยู่บนโลก ก็อยากขึ้นไปใช้ชีวิตบนอวกาศ
ชาวอวกาศ ก็ถือตนเป็นชนชั้นสูงไม่อยากเสียผลประโยชน์บางอย่าง
อยู่มาวันหนึ่ง ทางเขตปกครองพิเศษที่ 3 ของฟร้อนท์ ที่เป็นหนึ่งในเขตโลก ได้ลงนาม อนุมัติงบจัดซื้อ “โมบิลสูทกันดั้มไทป์” จาก บริษัทเอกชน “ออคเอิร์ธ” ทำให้เกิดความวิตกว่า กองทัพโลกจะแกร่งขึ้นจากโมบิลสูทสุดอันตรายซีรีส์นี้
ย้อนไปก่อนหน้าเล็กน้อย สถาบันนาวาดิส ได้ทำการวิจัยสิ่งที่เรียกว่า “กันด์ฟอร์แมท” อุปกรณ์อวัยวะเทียมที่ช่วยชีวิตผู้คนบนโลกให้ใช้ชีวิตในอวกาศได้ เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อมนุษย์โลกยุคใหม่ แต่ว่างบทำงานวิจัยของสถาบันทางการแพทย์อย่างเดียว ไม่อาจพอ ทำให้ บริษัทเอกชน ออคเอิร์ธ ได้เข้าสนับสนุนสถาบันแห่งนี้ พร้อมข้อเสนองบประมาณจากทาง “สภาพัฒนาโมบิลสูท” เพื่อนำมาสานต่อกันด์ฟอร์แมท และ นำไปสู่การพัฒนาขั้นต่อไป ด้วยการนำระบบดังกล่าว มาใช้ร่วมกับโมบิสูททางทหารในอวกาศได้
แน่นอนว่า ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดของสองฝ่าย การที่บริษัทเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมอะไรซักอย่างกับกองทัพคู่อรินั้น ย่อมไม่เป็นผลดี
เทคนิคการกระจายข่าวสาร สร้างความหวาดกลัวจากฝ่ายอวกาศ ได้ปลุกแนวคิด โมบิลสูท และ กันด์ฟอร์แมท เป็นสิ่งอันตราย ด้วยการฉายภาพของเหล่าผู้เข้าเป็นนักบินทดสอบที่สูญเสียการควบคุมร่างกาย พิการ และอื่นๆผ่านสื่อมวลชนขึ้นมา … ทำให้ ผู้คนบนโลก และอวกาศ เริ่มมีเสียงแตกในแง่ของการสนับสนุนโครงการนี้ เพราะเป็นการล้ำเส้นจริยธรรมของมนุษย์ที่ถูกนำมาทำการทดลองเหมือนสัตว์
สภาพัฒนาโมบิลสูท ที่มีบริษัทเอกชนออคเอิร์ธทำงานวิจัยดังกล่าว ถูกกดดันอย่างหนักจากการกระจายข่าวสาร
และในที่สุด ทางสภาได้ประกาศ “ยกเลิกโครการพัฒนาโมบิลสูท กันดั้มทุกชนิด”
พร้อมกับการที่ทางสภาพัฒนาโมบิลสูทได้เตรียมเทคโอเวอร์บริษัทออคเอิร์ธ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการพัฒนาองค์กร
นอกจากนี้ ยังมี องค์กรอิสระ “คาเธดราล” ที่ไม่สังกัดฝ่ายไหน เข้ามาตรวจสอบการพัฒนาโครงการ เพื่อไม่ให้นำมาใช้ทำโมบิลสูทกันดั้ม หรือเทคโนโลยีกันด์ฟอร์แมทที่ยังทำค้างมาใช้ซ้ำ
โดยผู้แทนองค์กร “เดลลิง เรมแบรน” อดีตทหารผ่านศึก ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า กันดั้ม คือสิ่งชั่วร้าย
และ อาวุธสงคราม ต้องแยกจากวิทยาการทางการแพทย์
แต่แท้จริงแล้ว เดลลิง ได้มีดีลลับๆกับทางสภาอวกาศ เพื่อที่จะกำจัด “กันดั้ม” โมบิลสูทรุ่นทดสอบประสิทธิภาพสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
และยังมีความเกี่ยวข้องกับเบื้องหลังการสร้างข่าวสารบิดเบือนจนหลายๆคนวิตก กับการพัฒนาโมบิลสูทนั่นเอง
และแน่นอนว่า เดลลิง ไม่ใช้การเจรจาในการปิดงานวิจัย แต่เข้าใช้กำลังเก็บกวาดบริษัทเอกชนออคเอิร์ธที่พัฒนากันดั้ม
ถือเป็นการกำจัดเสี้ยนหนาม ที่จะเป็นภัยต่อกองทัพอวกาศ…พร้อมๆกับการสวมหน้ากาก “คนดี” บังหน้า
ในที่สุด แผนกวิจัยถูกทำลาย ผู้เกี่ยวข้องถูกสังหารทั้งหมด…
โมบิลสูทกันดั้มถูกทำลายไป 2 เครื่อง…
และ กันดั้มต้นแบบ “ลุฟริท” จำนวน 1 เครื่อง “หายสาปสูญ” จากเหตุการณ์ครั้งนี้…
กันดั้ม
มาจากคำว่า “กันด์” และคำว่า “อาร์ม” ที่เป็นปลายทางของการวิจัยระบบ “กันด์ฟอร์แมท” อวัยวะและประสาทเทียมที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องจักร (เหมือนกับที่ไซโคซาคุใช้ใน กันดั้มธันเดอร์โบลท์)
เดิมทีเป็นผลงานของทาง สถาบันนาวาดิส ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเยียวยาผู้ที่ใช้ชีวิตในอวกาศ ที่พิการจากการโดนรังสีคอสมิค เสริมสมรรถภาพในการทำงานบนอวกาศ หรือสูญเสียอวัยวะบางอย่างไปจนใช้ชีวิตได้ยากขึ้น
แต่แล้ว บริษัทเอกชนออคเอิร์ธ ก็เข้ามาเอี่ยว การพัฒนากันด์ฟอร์แมท จนนำไปสู่การสร้างโมบิสสูทรุ่นทดสอบ
ที่มีเชื่อเรียกว่า “กัน-อาร์ม” หรือ “กันดั้ม” ในเวลาต่อมา ภายใต้การดูแลโครงการของ ดร.คาร์โด นาโบ
ระบบ“กันด์ฟอร์แมท” จะเป็นการสร้างภาระทางกายและระบบประสาทนักบินทดสอบอย่างมาก
จากภาพที่เห็นช่วงต้นเรื่องสื่อให้เห็นว่า การฝืนใช้ระบบที่ยังไม่สมบูรณ์นี้ ส่งผลเสียจนถึงขั้นทุพลภาพ และ อาจถึงตายได้ พร้อมทิ้งบาดแผลที่ถูกระบบกัดกินทั่วใบหน้าด้วย
กันดั้มที่ใช้ระบบนี้ จะมีอาวุธควบคุมไร้สายทางไกล (คล้ายฟันเนลของ นิวกันดั้ม / ซาซาบี้) ที่ยิ่งเพิ่มภาระให้กับนักบินเข้าไปอีก
แต่ก็แลกกับการทำให้กันดั้ม มีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว ผิดไปจากเครื่องจักรทั่วๆไป พร้อมการเปลี่ยนแปลงสภาพอาวุธให้ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์อีกด้วย
ทั้งโจมตีระยะใกล้ กลาง ไกล ที่ประกอบได้หลากหลายครบเครื่องด้วยอาวุธเพียงชุดเดียว
นักบินทดสอบ เอลโนรา ซามายา ได้ทำการทดสบระบบกันด์ฟอร์แมท ถึง ระดับการตอบสนองที่ 33 ซึ่งเป็นระดับที่เป็นภัยต่อร่างกาย และไม่เคยมีใครมาถึงจุดนี้ ระดับการตอบสนองยิ่งมาก ยิ่งควบคุมอาวุธได้ดี
ในวันที่สถาบันวิจัยถูกบุกโดย“คาเธดราล”เธอก็พบกับลูกสาวของเธอ “เอริกต์ ซามายา” ในวัย 4 ขวบ ที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนักบิน ระหว่างเกิดเรื่อง
และยังมีชื่อของเด็กน้อยถูกบรรจุใน OS ของ กันดั้มลุฟริท รุ่นทดสอบ และยังสามารถตอบสนองผ่านพ้นระดับ 33 ไปแล้ว ทั้งๆที่เอลโนราไม่สามารถไปถึงได้
เอริกต์ มีส่วนในการควบคุมอาวุธโมบิลสูท จนสามารถทำลายข้าศึกได้ถึง 3 เครื่อง อีกทั้งระบบ“กันด์ฟอร์แมท” ยังไม่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อร่างกายเด็ก 4 ขวบอย่างเอริกต์ด้วย!
คุณพ่อ สละชีวิตเพื่อช่วยสองแม่ลูก ให้รอดจากการกวาดล้างของคาเธดราล
และน่าจะไปใช้ชีวิตที่เหลือในมุมหนึ่งของอวกาศแห่งนี้…
จนเวลาผ่านไป 10 ปี เข้าสู่เนื้อหาภาค TV…ตามคลิปนี้
นี่คือเรื่องราวที่เราถอดจากการฉาย โมบิลสูท กันดั้ม แม่มดจากดาวพุธ 「PROLOGUE」หลายคนที่กำลังงงเนื้อหา หรือไม่เข้าใจที่อนิเมะสื่อสารได้
ก็หวังว่า เกร็ดเรื่องราวที่เรานำมาขยาย จะทำให้ทุกท่านได้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น และมารอชมกันดั้มภาคนี้ พร้อมกับปวดตับไตไปด้วยกัน ตุลาคมนี้ครับ
แอดมิน Ak47