Watch Dogs 2 [รีวิว/เนื้อเรื่อง/สเปคขั้นต่ำ]

 

*** ขอขอบคุณร้าน CHANITA GAME (ชนิตา)

ที่ช่วยอนุเคราะห์แผ่นเกมส์สำหรับใช้ในการรีวิวครั้งนี้ด้วยครับ

 

 

 

Watch Dogs 2
ประเภท : Action / Open World
เครื่อง : PS4 / XboxOne / PC
วางจำหน่าย : 15 พฤศจิกายน 2016
พัฒนาโดย : Ubisoft

 

 

 

 

สเปคขั้นต่ำ PC

Intel CPU : Core 2 Quad Q8400 2.66GHz

AMD CPU : Phenom II X4 940

Nvidia Graphics Card : GeForce GTX 460 768MB

AMD Graphics Card : Radeon HD 5770 1024MB

RAM : 6 GB

OS : Win Vista 64

Direct X : DX 11

HDD Space20 GB

 

 

 

    “แฮกเกอร์ (Hacker) คือ บุคคลที่มีความสนใจในกลไกการทำงานของระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์อย่างลึกซึ้ง แฮกเกอร์ส่วนใหญ่ต้องมีความรู้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าโปรแกรมเมอร์ โดยจะเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพวกเขามีความใส่ใจที่จะนำความรู้พื้นฐานที่ผู้อื่นมองว่าธรรมดามาประยุกต์ใช้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแนวความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่ในสังคมดิจิตอลอยู่ตลอดเวลา แฮกเกอร์จะมีความเข้าใจในจุดอ่อนของระบบและที่มาของจุดอ่อนนั้นๆ เนื่องจากคอยติดตามข่าวสารและความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา การกระทำใดๆ ที่เกิดจากการศึกษาของแฮกเกอร์จะต้องแน่ใจแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูล”

 

 

จากเรื่องราวของแฮกเกอร์หนุ่มผู้ต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม สู่ภาคต่อที่กลับมาสานต่อเรื่องราวสุดมันส์ในโลกเปิดกว้าง ด้วยกราฟฟิกที่(โม้)ว่ากันว่า อัพเกรดถึงขีดสุด กับเกม Watch Dogs 2

 

 

 

เกมนี้คือ?

 

Watch Dogs 2 เกมแอคชั่นผจญภัยแบบ OpenWorld ผลงานจาก Ubisoft ผู้ผลิตเกมตระกูล  Assassin’s Creed  อันโด่งดังนั่นเอง โดยจุดเด่นของเกมที่ชัดที่สุด และเป็นจุดขายของการเล่นเกมนี้คือการ “HACK ทุกสิ่งอย่างภายในเกมส์มาเป็นอาวุธเพื่อแก้ไขสภาณการณ์ตรงหน้าให้ได้” 

 

ในภาคนี้จะเล่าเรื่องราวของกลุ่มแฮกเกอร์ขาโจ๋เด็กแนว “DedSec” สาขาซานฟรานซิสโก ที่ออกทำภารกิจแนวโรบินฮู้ด ช่วยเหลือผู้คนด้วยการเจาะระบบ ctOS 2.0

 

พระเอกของเกมนี้คือวัยโจ๋ผิวสี “มาร์คัส ฮอลโลเวย์” (Marcus Holloway) ที่เป็นสมาชิกของ Dedsec เขาเป็นคนที่ถูกใส่ความจากการความผิดพลาดของระบบอัลกิริทึ่มของระบบctOSที่ตัดสินเขาให้กลายเป็นจำเลยในคดีใหญ่…ซึ่งเป็นความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อแม้แต่น้อย เขาจึงเก็บความแค้นนี้ มาเป็นพลังแล้วเข้าร่วมกับ Dedsec เพื่อหาทางทำลายระบบ ctOS ที่คอยกดขี่ความเป็นอยู่ของประชาชนชาวซานฟรานซิสโก ผ่านทางระบบอินเตอร์เนตแบบที่เป็นอยู่ เพื่อไม่ให้ประชาชนตาดำๆถูกใส่ร้ายอย่างที่เขาเจออยู่

แต่ทว่าเรื่องราวมันซับซ้อนกว่านั้น ใครอยู่เบื้องหลัง? มาร์คัสถูกใส่ความได้ยังไง? ผู้ชักใย ctOS ต้องการอะไรกันแน่? ติดตามได้ในเกมครับ ขอไม่สปอยล์ละกัน

 

 

 

Gameplay

 

เกมนี้ยังคงเป็นแนว Openworld ในพื้นที่เปิดกว้าง รับเควสส่งเควสที่มีมากมาย ทั้งเควสหลักเนื้อเรื่อง และเควสย่อยที่มีมากมายมหาศาล โดยเกมนี้จะนับค่า EXP เป็นค่า Folower (การกดติดตาม กดไลค์) ซึ่งยิ่งทำภารกิจมากเท่าไหร่ ก็จะได้รับค่าการติดตามมากขึ้น

 

ซึ่งเมื่อค่าการกดติดตามถึงจุดๆหนึ่งแล้ว ตัวเกมก็จะให้แต้ม “Research Point” เป็นแต้มที่ให้เอาไปอัพเกรดความสามารถต่างๆ ทั้งด้านการแฮ็ก การขับขี่ยานพาหนะ การก่อวินาศกรรม การใช้งานระเบิด การใช้สื่อปลุกระดมพลให้พรรคพวกมาช่วยทำภารกิจ หรือแม้กระทั่งสกิลการใช้ปืน ก็สามารถใช้ค่า Research Point ที่ว่านี้อัพเกรดได้

 

แต่พอมีแต้มก็ใช่ว่าจะอัพได้เลย เพราะตัวเกมยังให้เราหาไอเทมพิเศษไว้ปลดล๊อกสกิลด้วย ซึ่งจุดนี้อาจจะพาลหงุดหงิดเล็กน้อย 

 

แต่ในแง่ของการเดินทางในเกมนี้ นอกจากจะสามารถฉกชิงเอารถชาวบ้านมาขับเล่นแล้ว ตัวเกมยังใช้ระบบ Fast Travel ที่มีมาให้ตั้งแต่ต้นเกมเลย ทำให้เกมนี้เล่นสะดวกขึ้นมากกว่าเกม Openworld ทั่วๆไปที่กว่าจะได้ใช้งานก็ปาไปครึ่งเกมแล้ว

 

แต่จุด Fast Travel ที่ว่า มักจะไปอยู่ตามร้านขายเสื้อผ้าแผงลอย ที่กระจายทั่วแผนที่ซะมากกว่า อันนี้ดีเลย เดินต่ออีกหน่อย ทำเควสได้แล้ว

 

เควสหลักของเกม จะอยู่ในแอพ Dedsec หน้าจอมือถือ ให้กดหา Main Operation (กรอบสีส้มๆ) ถ้าใครอยากจบเนื้อเรื่องเร็วๆ ก็ลุยเนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ได้ แต่ตัวละครจะไม่เก่งเลยในช่วงท้ายเกม อันนี้ก็อยู่ที่ฝีมือคนเล่นแล้วครับว่าจะพริ้วแค่ไหน หลังๆพวกใส่เกราะเดินชนกับเราแล้ว!

 

 

เมื่อเล่นไปเรื่อยๆเราจะพบกับความอึดของศัตรู ในกรณีที่เล่นสายบู๊แหลกแหกด่าน การสร้างอาวุธใหม่ๆ จึงจำเป็น ตัวเกมที่นอกจากจะดรอปปืนจากเหล่าคู่อริแล้ว ยังมีระบบสร้างปืนใช้เองด้วยเครื่องปั้นแบบ 3 มิติ ซึ่งต้องใช้เงืนที่ได้จากการไล่แฮ็กชาวบ้านตามถนน หรือฉกเอาในแผนที่ๆศัตรูนำถุงเงินหลักแสนไปซ่อนในรัง 

 

ปืนเก็บเสียงติดกล้องสไนเปอร์ อันนี้แอดมินแนะนำครับ ได้ใช้บ่อยๆแน่นอน

 

ของเล่นใหม่ของพระเอกในภาคนี้อาวุธระยะประชิดแบบใหม่ “Thunderball” ที่เอาลูกสนุ๊กเจาะร้อยด้วยเชือก (อารมณ์เหมือนเอาโยโย่ปาใส่ศัตรูแบบ “สิงห์สาวนักสืบ” ยังไงยังงั้น) รวมไปถึงการวิ่งสไตล์ Free Running ที่รวดเร็ว และคล่องตัวกว่า “ไอเด็น” พระเอกภาคแรก ซึ่งก็ทำให้เกมเพลย์สนุกและเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

 

ผู้เล่นสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว รวมไปถึงการเจาะเข้าระบบเพื่อล้วงเอาสิ่งต่างๆของNPCทุกตัวในเมืองได้ การแฮคในภาคนี้จะคล่องตัวมากขึ้น สนุกขึ้น แฮ็กกันยันท่อประปา ถนน ตู้เบรกเกอร์ไฟฟ้า หรือแม้แต่ระบบกล้อง CCTV ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เปิดดูได้อย่างเต็มที่ (ถ้าอยู่ในระยะของตัวผู้เล่น) ซึ่งจะช่วยในการระบุตำแหน่งศัตรู แถมยังแฮ็กผ่านกล้องได้ด้วย โคตรโกง

 

นอกจากนั้น เกมก็ยังมีระบบ “ภาพสแกนพื้นที่” ที่จะบ่งบอกจุดเควสต่างๆ จุดการแฮ็กระบบ ซึ่งถ้าเราไม่เปิดโหมดนี้เลย เราก็จะมองไม่เห็น Object บางอย่าง เพราะสีของวัตถุแวดล้อมนั้นทำให้สังเกตุยากมากๆ

 

การควบคุมโดรน / รถบังคับในเกมนี้ทำมาเข้าใจง่ายมากๆ ขยับซ้ายขวานิดๆหน่อยๆก็คล่องเลย แถมใช้แฮ็กได้ด้วยนะ!

 

Online Play
ภาคนี้มีระบบออนไลน์ให้เล่น ทั้งการดวลกันเอง การเล่นเควสท์ Co-Op ช่วยกันผ่านเนื้อเรื่อง หรือจะยกพวกซัดกันใน PVP ก็ได้ แต่ทั้งหมดนี้จะไม่ใช่การตั้งห้องเล่น แต่เป็นระบบจับคู่ของทาง Ubisoft ที่หาคนเล่นได้ยากมากๆในช่วงวันแรกๆของการจำหน่าย

 

โดยภารกิจ Co-Op นั้นสามรารถเล่นได้คนเดียวเช่นกัน  ซึ่งก็เป็นเควสที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ อยากปั๊มแต้ม แนะนำเล่นเดี่ยวไวกว่า…

 

 

 

 

+++

 

      

 

 Review 8/10 Rank B เกมดีอีกหนึ่งเกมที่ไม่อยากให้มองข้าม

เนื้อเรื่อง 3/3      งานภาพ 2/3    เกมเพลย์ 2/3    ความชอบส่วนตัว 1/1 

ตัวเกม Watch Dogs 2 ถือว่าเป็นการแก้ตัวที่ดีจากภาคแรก ที่มีเสียงตอบรับในแง่ของเกมเพลย์ งานภาพ ปัญหาต่างๆ ทีมงานได้ทำการแก้ไขจนออกไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวเกมมีสเกลขนาดใหญ่มากๆ และแน่นอนว่าในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถหาความบันเทิงจากการถ่ายเซลฟีในที่ต่างๆทั่ว ซานฟรานซิสโก หรือแม้กระทั่งการขับรถเล่นในเมือง ถึงแม้ว่างานภาพจะยังไม่สวยเท่า GTA V แต่ก็ไม่ได้ขึ้เหร่อะไรเลย (ซึ่งเป็นเกม Openworld ที่ทีมงานเมทัลบริดจ์ยกให้ว่าเป็นเกมแนวเโลกเปิดที่ภาพสวยที่สุด)

 

เนื้อหาของเกม เต็มไปด้วยสีสัน อารมณ์ขันของหล่าแฮกเกอร์ขาโจ๋ที่มารวมตัวกันท้าทายอำนาจรัฐที่มีสเน่ห์หลายๆตัว บทสนทนาที่เหมือนดูหนังซีรี่ยส์สนุกๆซักเรื่อง ซึ่งแตกต่างจากภาคแรกที่เนื้อหาค่อนข้างเครียด มืดทึม ออกไปโทนหนังใหญ่มากกว่า โดยภาคนี้สามารถเลือกเล่นเควสท์เนื้อเรื่องได้แบบไม่จำกัดว่าจะต้องเล่นเควสท์ไหนก่อนหลังในกรณีที่มีเควสเนื้อเรื่องให้ทำมากกว่า 1 เควส โดยลำดับเรื่องราวจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วเนื้อหาก็มารวมกันในบทสุดท้ายของเรื่องเช่นเดิม

 

ลูกเล่น Gadget การแฮ็กต่างๆทำออกมาสนุก เข้าใจง่าย เนื่องจากมีเควสท์มากมายให้ทำ จึงเป็นการปั่นตังค์ หาไอเทมมาอัพเกรดทักษะต่างๆ ก็เป็นส่วนที่สนุก (ปนหงุดหงิด เพราะการแฮ็กในเกมนี้ มีส่วนของการไขปริศนาที่โคตรซับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ใครชอบความท้าทาย อันนี้ไม่ว่ากัน)  แถมลูกเล่นของรถบังคับ โดรนจิ๋ว ก็ทำออกมาได้เข้าใจง่าย บังคับสนุก 

ในส่วนของ AI ไม่โง่อย่างที่คิด ทั้งในเมืองที่เดินไปๆมาๆมีการตื่นตัวต่อเหตุการณ์รอบข้างอยู่บ้าง ไม่ได้ยืนบื้อซะทีเดียว (เห็นได้ชัดตอนถ่ายเซลฟี่) แต่ถ้าไม่ได้อยู่ละแวกที่เกิดเหตุก็ยังคงมึนๆเช่นเดิม (ยิงกันสนั่นทุ่ง พวกเดินชิวเลย)

 

 

ในขณะที่ AI ศัตรูเกมนี้ มีการเดินตรวจเข้มมาก แถมมีประสาทสัมผัสที่ดี ดังนั้น การกด Stealth แบบ Assasin Creed นั้นอาจจะไม่ง่าย และถ้าพวกมันตัวใดตัวหนึ่งเห็นเรา ก็จะมีการเรียกกำลังเสริมให้สถาณการณ์ยุ่งยากหนักกว่าเดิม (แต่ส่วนนี้สามารถทดแทนได้ด้วย “สกิลเรียกพวก” ที่อัพมา สามารถใช้กำลังเสริมเป็นตัวล่อได้)

แต่ในส่วนแอคชั่นดวลปืนนั้นทำออกมาขัดใจชาว FPS ไปบ้าง ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวกันนิดนึง

 

 

ศัตรูตึงมือที่สุดคงไม่พ้น “ตำรวจสายตรวจ”ที่แอดมินจัดว่าไล่ล่าได้ดุเดือดพอๆกับ Need For Speed เลย เพราะพวกไล่ล่าไม่หยุด เห็นแค่ไฟท้ายรถนิดเดียวก็เรียกฮ.มาซุ่มยิง หรือตั้งด่านสกัดก กว่าจะสลัดหลุดไได้ก็ใช้เวลานานมากๆ  

 

เกมนี้เหมือนจะไม่มีจุดติ แต่จริงๆมีจุดเดียวเลยที่อยากจะติมากที่สุดก็คือ “งานภาพ” ที่ทาง Ubisoft โม้ไว้เยอะ พอมาทำจริงๆ โพลีก้อนต่างๆยังมีความหยาบ ติดเหลี่ยม มุม แตกกริดไปพอสมควร แถมเฟรมดเรทยังไม่ได้ตามที่ประกาศไว้ แต่ในส่วนของคัตซีนทำออกมาดีตามมารตฐาน

 

สรุป Watch Dogs 2 ถือว่าเป็นเกมที่ดี ลงตัวในแง่ของเนื้อหา และเกมเพลย์ครับ แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องรีบซื้อมาเล่นก็ได้ รอมันลดราคาแล้วจัดก็ยังไม่สายนะครับ!

 

 

แอดมิน Ak47

 

 

 

Trailer