VS LAMUNE &40 FIRE
ชื่อญี่ปุ่น : VS騎士ラムネ&40炎(Basaasu Naito Ramune & 40 Fuaia)
ชื่อไทย : ลามูเนส เจ้าหนูยอดอัศวิน (ครั้งออกอากาศทางช่อง 3)
ชื่ออังกฤษ : VS Lamune & 40 Fire
ประเภท : แอคชั่น,โรบ็อต , ตลก
จานวน : 26ตอน
ผลิตโดย : Ashi Production , Asatsu
ฉายครั้งแรก : 3เมษายน 1996 – 25 กันยายน 1996
ฉายครั้งแรกในไทย : ทางช่อง 3 ปี 2542 และออกอากาศอีกครั้งทางช่อง UBC ประมาณปี 2543
“นี่คือการผจญภัยครั้งใหม่ในดินแดนฮาราฮาร่าเวิลด์ของ ผู้กล้าลามูเนส รุ่นที่ 3”
หลังจากที่ในปี 1990 “ผู้กล้าลามูเนส” ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้ว ในการผจญภัยของผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 2 ที่ได้ออกผจญภัยเพื่อตามหาหุ่นองครักษ์ 8 ตนเพื่อกอบกู้อาณาจักรอาราร่า ก่อนที่เขาจะกลับสู่โลกมนุษย์ บ้านเกิดของเขาหลังเสร็จภารกิจ และหลังจากผ่านมา 6 ปี ภาคต่อของผู้กล้าลามูเนส ก็ได้ออกอากาศเสียที ซึ่งคราวนี้ ตัวเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น รุ่นลูกของตัวเอกจากภาคแรก นั่นเอง ทำไห้เราไม่ต้องเดาเลยว่า หลังจากภาคแรกนั้น ลามูเนสรุ่น 2 กับองค์หญิงมิลค์ สมหวังในความรักต่อกันหรือไม่ เพราะพระเอกของภาคใหม่นี้ เป็นลูกของพวกเขานั่นเองแหละครับ
โดยลามูเนสภาคนี้ จะมีจุดแตกต่างไปจากภาคแรกพอสมควร โดยเฉพาะ “ลายเส้น” โดยเฉพาะ ใครที่เคยผ่านการดูอนิเมะแนวๆฮาเร็มอย่าง “Cyber Marionet J” เพราะลายเส้นและหน้าตาตัวละครมาแนวเดียวกัน ต่างจากลามูเนสภาคแรกมากทีเดียว อีกทั้ง เนื้อเรื่องแต่เดิมที่ปูพื้นให้เป็นแนวอนิเมะตลกๆไม่ซ๊เรียส เน้นการผจญภัย กลับกลายเป็นว่าตอนช่วงท้ายๆเรื่องนั้นมีเหตุการณ์ปวดตับ และดาร์คพอสมควรจนทำเอาคนดูถึงกับเหวอกันเลยทีเดียว
ส่วนการออกอากาศในประเทศไทย ทางบ้านเราเคยฉายในปี 2542 ทางช่อง 3 ซึ่งออกอากาศหลังจากที่ช่อง 3 ฉายภาคแรกจบไปได้ระยะหนึ่ง (มีเอาการ์ตูนเรื่องอื่นมาฉายคั่น) และออกอากาศอีกครั้งทาง UBC ราวๆปี 2543 ซึ่งหนนี้ ได้นักพากย์หนุ่มเสียงดีอย่าง พี่หนึ่ง ภัทรวุฒิ มาพากย์เสียง ดา ไซเดอร์ อีกด้วย ส่วนวิดีโอเทปแบบลิขสิทธิ์ในบ้านเรา ก็เป็นลิขสิทธิ์ของค่ายไรท์พิกเจอร์ส ที่ผลิตออกมาตามหลังภาคแรกติดๆกันเลยทีเดียว
เรื่องย่อ
“อาณาจักรอาราร่า” หลังจากที่สงบสุขมานาน 25 ปีหลังจากที่ “ผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 2” ช่วยเอาไว้ได้นั้น กำลังจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหม่ที่สั่นสะเทือนไปทั่ว “จักรวาลโดคิโดคิ” เพราะพลังอำนาจของ เทพปิศาจในตำนาน “อบราฮัม” ที่กำลังฟื้นตัวเองอยู่ในอีกมิติหนึ่งหลังจากเคยเสียท่าให้กับ “ลามูเนส รุ่นที่ 1” เมื่อราวๆ 5 พันปีก่อน กำลังแผ่พลังอำนาจมืดออกมา อีกทั้ง ยังส่งกองทัพทหาร นำทัพมาโดย “ดอน เจโนไซ” เข้ารุกรานอาณาจักรอาราร่า และจับตัว “ราชินีคาเฟโอเลต์” และ “องค์หญิงโกโก้” ซึ่งเป็นตัวละครจากภาคที่แล้วไปด้วย
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่โลกมนุษย์ “บาบะ ลามูเน” เด็กเรียน ม.ต้น ทายาทผู้ซึ่งสืบสายเลือดโดยตรงจาก “ผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 2” ได้พบกับ เด็กสาวปริศนา 2 คนที่ขอร้องให้เขานั้นซื้อแผ่น CD เกมส์ “ตำนานบทใหม่ของผู้กล้าลามูเนส” และเนื่องจากเห็นว่า ราคาแผ่นเกมส์นั้นถูกมาก จึงทำให้เขาตัดสินใจซื้อไปเล่นที่บ้าน และเมื่อเกมส์กำลังเล่นนั้น หญิงสาวปริศนาทั้ง 2 คน นาม ”พาเฟต์” และ “คาคาโอ” ก็ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง และพาตัว ลามูเนด เข้าไปในทีวีเพื่อเดินทางสู่ “จักรวาลโทคิโทคิ” ในฐานะ “ผู้กล้าลามูเนส รุ่นที่ 3”
ท่ามกลางความงุนงง และอาการแพ้น้ำตาผู้หญิง ทำให้ ลามูเนดนั้น เออออห่อหมก ยอมตกลงที่จะทำหน้าที่เป็น ผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 3 ในที่สุด โดยมีเป้าหมายคือ ปราบ “จอมปิศาจอบราฮัม” ให้ได้เพื่อนำความสงบสึขกลับคืนสู่ “คิระคิระเวิลด์” รวมถึงตามหา “เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3” แต่ในเวลานั้น ลำพังลามูเนสเพียงคนเดียว ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเขาจำเป็นต้องมี “เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเพลิง” ไคเซอร์ ไฟเยอร์ หุ่นยักษ์แห่งตำนานที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้ทำศึกกับอบราฮัมโดยเฉพาะ เพื่อใช้รับมือกับเหล่าลุกสมุนของอบราฮัม แต่ว่า การจะควบคุมไคเซอร์ไฟเยอร์ได้นั้น จำเป็นต้องนักบิน 2 คน
ในเวลานั้นเอง ผู้กล้าคนที่ 2 ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น นั่นคือ “ผู้กล้า ดา ไซเดอร์” ซึ่งเป็นอดีตสหายผู้กล้าของลามูเนสรุ่นที่ 2 ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาและยอมร่วมมือกับลามูเนสรุ่นที่ 3 เพื่อควบคุมไคเซอร์ ไฟเยอร์ โดยที่ไม่รู้ว่า รุ่นที่ 3 นี้คือลูกชายของรุ่นที่ 2 ที่เป็นอดีตสหายของเขา อีกทั้งยังมีศักดิ์เป็นหลานชายของเขาอีกด้วย
การเดินทางของลามูเนสเพื่อปราบเทพปิศาจอบราฮัม ทำให้เขามีโอกาสได้พบเจอกับเพื่อนและมิตรแท้มากมายที่พร้อมช่วยเหลือเขา ทั้งการได้พบเจอกับ “มิโตะ นัตโตะ” ลูกหลานของ “ผู้กล้าโบลต์” แห่งดินแดนกาโอกาโอ ที่ลามูเนสได้ช่วยเหลือเขาไว้ และที่นี่นั่นเองที่ทำให้ลามูเนสได้พบกับ “เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี” นาม กราฟ ธันเดอร์ โดยมี มิโตะ นัตโตะ และเพื่อนอีก 2 คนเป็นนักบิน ซึ่งก่อนจากกันนั้น พวกมิโตะได้สัญญากับลามูเนสว่า หากมีภัยเกิดขึ้นกับลามูเนสในการทำศึกกับอบราฮัม พวกเขาจะไปช่วยเหลือทันที
เพื่อพบเทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์ 2 ตนแล้วนั้น เหลืออีก 1 ตน ซึ่งพวกลามูเนส ก็ได้พบเจอกับ “สามเทพธิดามาริโอเนต” ซึ่งเป็นไซบอร์คที่มีความคิดและจิตใจเหมือนหญิงสาว นาม “ดรัม” , “ทรัมเป็ต” และ “เซลโล่” ซึ่งพวกเธอนั้นเป็นผู้ควบคุม “เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งธารา” นาม วอเตอร์ บารอน ซึ่งดรัม ที่เป็นผู้นำกลุ่มนั้น โดนลามูเนสตกหลุมรักเข้าเต็มเปา อีกทั้งพวกเธอทั้ง 3 คนก็รู้สึกดีต่อลามูเนสอีกด้วย
ช่วงกลางเรื่อง
หลังจากที่ได้พบเจอกับสหายและค้นพบ 3 หุ่นเทพแล้วนั้น ลามูเนส และสหายก็ต้องเผชิญหน้ากับ เทพปิศาจอบราฮัม ที่ทำพิธีคืนชีพตน และยึดร่างของ ลามูเนสรุ่นแรกเอาไว้ พร้อมให้ชื่อตนเองว่า “แบล็คลามูเนส” ได้เล่นงานพวกลามูเนสซะแทบกระอัก แต่ก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้
เหตุการณ์หลังจากนั้น จิตวิญญาณของ ลามูเนส ก็ได้หลุดข้ามเวลาไปพบกับ หญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งบอกกับลามูเนสว่า เธอนั้นชื่อ “ออร์แกน ซิมโฟนี่” เธอเป็นอดีตสหายร่วมศึกกับลามูเนสรุ่นแรก อีกทั้งยังบอกถึงที่มาที่ไปของ เทพปิศาจอบราฮัม ว่าจริงๆแล้วนั้น ในยุคอนาคต เป็นช่วงเวลาที่ อบราฮัม เรืองอำนาจและเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ มากมาย และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ นอกเสียจาก ย้อนเวลากลับสู่โลกอดีต ในช่วงเวลาที่อบราฮัมยังไม่แข็งแกร่งเหมือนในโลกคิระคิระยุตอนาคต ซึ่งนั่นเป็นแผนการของ ลามูเนสรุ่นแรก , โบลท์ นัต ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นบรรพบุรุษของ มิโตะ นัต และตัวของ ออร์แกน ได้ย้อนเวลาไปยังช่วงเวลา 5000 ปีก่อนยุคของลามูเนสรุ่นปัจจุบัน เพื่อเป็นการแก้ไขอดีต และถ้าหากสามารถทำลายอบราฮัมได้ ก็จะสามารถลบอบราฮัมให้หายไปจากประวัติศาสตร์และเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ไมได้เลวร้ายลามไปถึงยุคอนาคตของ โลกคิระคิระได้นั่นเอง และเธอยังเฉลยอีกว่า เธอเป็นผู้สร้าง หุ่นเทพทั้ง 3 หลังจากที่ ลามูเนส สละชีวิตผนึกอบราฮัมไว้ในร่างกายของเขา
จากเหตุการณ์ที่ลามูเนสรุ่นย้อนเวลาไปยังโลกอดีต อบราฮัมในยุคนั้น ชิงรู้ตัวก่อน จึงส่งร่างโคลนแห่งเทพปิศาจอีกตนหนึ่งนาม “โกบูริคิ” ติดตามลามูเนสรุ่นแรกไปด้วย (ซึ่งต่อมาก็โดนทั้งลามูเนสรุ่นแรก และ ลามูเนส รุ่นที่ 2 ปราบลง) และในช่วงเวลาที่อยู่ในโลกอดีตนั้น ลามูเนสรุ่นแรก ได้หลงรัก “เจ้าหญิงมิลค์” ในรุ่นสมัยนั้น และในศึกสุดท้ายกับอบราฮัม ลามูเนสไม่สามารถใช้ดาบผู้กล้าที่เป็นอาวุธไม้ตายในการทำลายอบราฮัมลงได้ เพราะถ้าหากว่าจะปลดปล่อยพลังจากดาบได้นั้น จะต้องสังเวยอีก 2 ชีวิต คือ โบลต์ และ ออร์แกน ทำให้ลามูเนสรุ่นแรก ตัดสินใจจะสละชีพตนเพื่อปิดผนึกวิญญาณของอบราฮัมเอาไว้ในร่างของตัวเอง และฝากดาบผู้กล้าเอาไว้กับออร์แกน
เพื่อให้คำสัญญาที่ให้ไว้กับ ลามูเนสรุ่นแรก ทำให้ ออร์แกน สร้างห้องแลปวิจัยเพื่อสร้าง คอมพิวเตอร์ควบคุมแกนเวลา และสร้าง หุ่นไซบอร์คสาว ทั้ง 3 คน นั่นก็คือ ดรัม เซลโล่ และทรัมเป๊ต ขึ้นมา เพื่อเป็นองครักษ์ให้กับผู้กล้าลามูเนสในยุคอนาคต
ช่วงเวลาสุดท้ายแห่งชีวิตของออร์แกน เธอได้รวมตัวเองเข้ากับ คอมพิวเตอร์ เพื่อที่เธอจะได้มีชีวิตอยู่ในนั้นตลอดกาลเพื่อคอยควบคุมและดูแล ช่องว่างระหว่างมิติและเวลา อีกทั้งยังเป็นคนที่ขอความช่วยเหลือและส่ง ลามูเนส รุ่นที่ 2 ในสมัยที่เพิ่งจะแต่งงานกับมิลค์ใหม่ๆ และเป็นช่วงก่อนที่จะให้กำเนิดลูกซึ่งคือ ลามูเนสรุ่น 3 ให้เดินทางข้ามเวลา ไปยังโลกคิระคิระในยุคของลามูเนสรุ่นที่ 3 เพื่อช่วยลามูเนสรุ่นที่ 3 รวมถึง สามพี่น้องศักดิ์สิทธิ์ (องค์หญิงมิลค์ ซึ่งเป็นแม่ของรุ่นที่ 3 , ราชินีเคาเฟโอเลต์ และองค์หญิงโกโก้) อันเป็นการที่จะพยายามช่วยปกป้องและไม่ให้ประวัติศาสตร์เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เพราะในอนาคต หากลามูเนสรุ่นที่ 3 ยืนยันที่จะไม่ใช้ดาบผู้กล้า ปราบเทพปิศาจอบราฮัมแบบเดียวกับลามูเนสรุ่นแรก ผู้ที่จะต้องตายซะเองก็คือ ลามูเนสรุ่นที่ 3
ช่วงท้ายเรื่อง
อบราฮัมที่สละร่างของลามูเนสรุ่นแรก และเปิดเผยร่างที่แท้จริงของตน อีกทั้งยังเล่นงาน 3 หุ่นเทพซะพังยับเยิน ในศึกสุดท้ายนั้น ลามูเนสไม่เหลือทางเลือกนอกจาก ใช้ดาบผู้กล้า ในการปราบอบราฮัม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ ดรัม และ มิโตะ ต้องพบกับจุดจบของชีวิต เพื่อทำให้ดาบผู้กล้านั้น แสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ เมื่ออบราฮัมถูกทำลาย ตัวของลามูเนส ก็ถูกส่งกลับมาสู่โลกตามเดิม
ลามูเนสที่ลืมตาขึ้นมาในเกมส์เซ็นเตอร์ และรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองฝันไป แต่ก็แปลกใจที่ตัวเองมาอยู่ที่รานเกมส์ตอนมืดค่ำแบบนี้ได้อย่างไร เมื่อเขาออกจากร้าน ก็พบว่า เพื่อนๆของเขามารอเขาอยู่ จากสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นจากโลกคิระคิระ และปาฏิหาริย์ ที่เขามีต่อ มิโตะ และ ดรัม ทำให้พวกมิโตะ และดรัม มาเกิดใหม่ที่โลกมนุษย์ราวปาฏิหาริย์ และได้เป็นเพื่อนกับลามูเนสอีกครั้ง
หลังจากที่กลับบ้าน พ่อแม่ของลามูเนส (ลามูเนสรุ่น 2 และองค์หญิงมิลค์) ก็ได้ทำเป็นถามลามูเนสเกี่ยวกับการผจญภัย ซึ่งรุ่นที่ 3 ก็ตอบไปว่า ผมได้เจอกับการผจญภัยที่วิเศษที่สุด เป็นอันปิดฉากการผจญภัยของลามูเนสรุ่นที่ 3
ตัวละคร
ผู้กล้าลามูเนส รุ่นที่ 3 (บาบะ ลามูเนด)
เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นปี 3 อายุเพียง 15 ปี เขาสืบสายเลือดมาจาก “บาบะ ลามูเนะ” หรือ “ผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 2” โดยตรงโดยที่เขาไม่รู้อดีตของพ่อตัวเองมาก่อน และมีสายเลือดรัชทายาทแห่ง “อาณาจักรอราร่า” โดยตรง เพราะแม่ของเขาคือ “เจ้าหญิงมิลค์” มีนิสัยแตกต่างจากพ่อเล็กน้อยคือ ไม่ค่อยโปรดปรานการเล่นเกมส์เท่ากับผู้เป็นพ่อ แต่มีวลีติดปากที่คล้ายคลึงกับพ่อคือ “ตอนนี้นะ เลือดในกายฉันมันเดือดพล่านสุดๆไปเลย” เรียกว่า มีนิสัยสุดโต่งอยู่เหมือนๆกัน ได้รับเลือกให้เป็นผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 3 เพราะอายุยังไม่เกินโควตา (ต้องห้ามเกิน 17 ปี) และถูกรบเร้าให้ซื้อแผ่นเกมส์ “ตำนานบทใหม่ของผู้กล้าลามูเนส” จาก พาเฟต์และคาคาโอ ที่ข้ามมิติมายังโลกมนุษย์ ปกติเป็นคนใจร้อน ไม่ค่อยยอมใคร ติดนิสัยลามกนิดๆ ขี้หลี ชอบผู้หญิงสวยเป็นที่สุด แต่ก็เป็นคนที่กล้าหาญและรักความยุติธรรมสุดๆเช่นกัน เป็นผู้บังคับหุ่นเทพ “ไคเซอร์ไฟเยอร์”
พาเฟต์
หญิงสาวผู้มาจากโลกคิระคิระ เธอเดินทางไปยังโลกมนุษย์เพื่อชี้นำ ลามูเนส ให้ไปยังโลกคิระคิระเพื่อกอบกู้โลกนั้น ปกติเป็นผู้หญิงขาวีนที่ไม่เคยกลัวใคร กล้าพูดขาต่อปากต่อคำ อีกทั้ง เป็นผู้หญิงที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอมีใจนึกชอบลามูเนสรุ่นที่ 3 และมักออกอาการหึงลามูเนสเสมอ
คาคาโอ
หญิงสาวคู่หูของพาเฟต์ เป็นสาวหวานที่ไว้ผมปิดหน้าปิดตาตลอด ผิวเข้มกว่าพาเฟต์ ชอบแอบโชว์เซ็กซี่เล็กๆแบบไม่ค่อยรู้ตัว มีพลังวิเศษอยู่กับตัว แต่เธอเป็นคนขี้อาย เลยไม่ค่อยแสดงความสามารถอะไรให้เห็นมากมายนัก ยกเว้นแต่เป็นคนห้ามมวยระหว่างลามูเนสและพาเฟต์ซะเป็นส่วนใหญ่
ดา ไซเดอร์
ผู้กล้าคนที่ 2 ที่มีประสบการณ์สูง ได้มาร่วมทีมกับลามูเนสรุ่นที่ 3 เขาเป็นผู้ที่เคยร่วมงานกับลามุเนสรุ่นที่ 2 มาแล้วจากภาคที่แล้ว อีกทั้งยังเป็นคู่หมั้นกับ “เลสก้า” หรือ “ราชินีคาเฟโอเลต์” แต่อยู่ในช่วงออกเดินทางท่องเที่ยว ยังมีนิสัยชอบปล่อยมุขแป้กๆอยู่เช่นเดิม และมีหุ่นยนต์งูผู้ช่วยเป็น เฮฟี่เมทัลโกะ อยู่เหมือนเดิม ด้วยความซวยที่เขาโดนกลุ่มของ ลิป โจมตีระหว่างที่กำลังจะเรียกควีนไซเดรอน หุ่นองค์รักษ์ประจำตัวของเขาออกมา ทำให้ไข่ที่บรรจุพลังของควีนไซเดรอน แตกละเอียดเละ อันเป็นผลที่ทำให้เขาต้องขึ้นบังคับ ไคเซอร์ไฟเยอร์พร้อมๆกับ ลามูเนสรุ่นที่ 3 แทน ในเวลาต่อมา เขาก็ได้ครองรักกับราชินีคาเฟโอเลต์อย่างมีความสุขหลังจากที่เทพปิศาจอบราฮัมโดนปราบ และที่สำคัญหากนับผังเครือญาติแล้วนั้น ดา ไซเดอร์ มีศักดิ์เป็นลุงเขยของลามูเนสรุ่นที่ 3 อีกด้วย แต่เจ้าตัวไม่ทราบว่า ลามูเนสรุ่นที่ 3 นั้นเป็นลูกขององค์หญิงมิลค์ น้องสาวของราชินีคาเฟโอเลต์
พีคิว
หุ่นยนต์ผู้ช่วยของลามูเนสรุ่นที่ 3 เขาเป็นลูกชายของ “ทามะคิว” หุ่นยนต์ผู้ช่วยของลามูเนสรุ่นที่ 2 และ “อูเลพี” ภรรยาของทามะคิว แน่นอนว่า เขาสามารถทำหน้าที่เรียกหุ่นยนต์เทพได้แบบพ่อของเขาเช่นกัน โดยลามูเนสจะทำการวางแผ่นซีดีบรรจุพลังของ ไคเซอร์ไฟเยอร์ ลงบนถาดซีดีที่ติดตั้งอยู่ที่ลิ้นของ พีคิว และพีคิวจะส่งคลื่นพลังไปยังประตูมิติกาลเวลาเพื่อเรียก ไคเซอร์ไฟเยอร์ ออกมา มักเรียกลามุเนสรุ่นที่ 3 ว่า “นายท่าน”
เฮฟวี่เมทัลโกะ
หุ่นยนต์ผู้ช่วยรูปแบบงูของ ดา ไซเดอร์ อยู่กับดาไซเดอร์มานาน 25 ปี นับจากยุคลามูเนสรุ่นที่ 2 ยังคงชอบเรียกดา ไซเดอร์ ว่า “ดาร์ลิง” เช่นเดิม
กลุ่ม 3 เทพธิดาไซบอร์ค
เป็นกลุ่ม 3 เทพธิดาที่เป็นไซบอร์ครูปร่างเหมือนผู้หญิง มีชีวิตจิตใจ เธอถูกสร้างขึ้นมาโดย “ออร์แกน ซิมโฟนี” ซึ่งเป็นอดีตสหายของลามูเนสรุ่นแรก โดยทั้งสามคน ถูกปิดผนึกเอาไว้ที่ใต้ดินของ “แอน แอน โซน” นานหลายพันปี เพื่อรอเวลาที่ ลามูเนส รุ่นที่ 3 จะเดินทางมายังโลกคิระคิระ และทำหน้าที่เป็นองครักษ์ของลามูเนส รวมถึง ควบคุมหุ่นเทพแห่งธารา “วอเตอร์บารอน” โดยทั้ง 3 คนนั้น ประกอบไปด้วย ดรัม , เซลโล่ และ ทรัมเป็ต หลังจากที่พวกเธอเสียชีวิตในศึกสุดท้ายนั้น วิญญาณของพวกเธอได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์อยู่ที่โลกของลามูเนส
ทายาทแห่งผู้กล้าโบลต์
เป็นกลุ่มนักสู้ที่มีรูปร่างเป็นคน แต่มีหน้าตาละม้ายคล้ายสัตว์ พวกเขาพูดภาษาคนได้ และได้กลายเป็นเพื่อนรักกับลามูเนสรุ่นที่ 3 แน่นอนว่าพวกเขาเป็นผู้ควบคุม หุ่นเทพแห่งปฐพี นามว่า “กราฟ ธันเดอร์” พวกเขาอาศัยอยู่ที่ กาโอ กาโอ โซน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าดิบโดยสมาชิกในกลุ่มนั้นประกอบไปด้วย มิโตะ นัต (เป็นทายาทที่สืบสายเลือดมาจาก โบลต์ นัต ผู้กล้าที่เป็นสหายของลามูเนสรุ่นแรก) , ชิเบิร์น , คาคู เลนโป และหลังจากพวกเขาเสียชีวิตจากการสู้ศึกกับ อบราฮัม ดวงวิญญาณของพวกเขาก็ไปเกิดใหม่ยังโลกมนุษย์และได้เป็นเพื่อนกับลามูเนสอีกครั้ง
บาบะ ลามูเนะ (ผู้กล้าลามูเนส รุ่นที่ 2 / อาคะ คาเซะ)
อดีตผู้กล้าในตำนานที่เคยช่วยกอบกู้อาณาจักรอราร่าและโลกคิระคิระ เอาไว้ได้ เขาแต่งงานกับ องค์หญิงมิลค์ที่มาใช้ชีวิตที่โลกมนุษย์เมื่อตอนอายุ 18 ปี เป็นพ่อของลามูเนสรุ่นที่ 3 ยังคงนิสัยชอบเล่นเกมและการผจญภัยเช่นเดิม อีกทั้ง ยังมีวลีติดปากเหมือนตอนหนุ่มๆคือ “ตอนนี้เลือดในตัวของฉันมันเดือดพล่านสุดๆเลยล่ะ” แต่ว่า พอแต่งงานแล้วนั้น มักจะออกอาการ “กลัวเมีย” สุดๆ แต่ก็รักมิลค์สุดๆ รู้ความจริงว่า ลูกชายของเขานั้น ในอนาคตจะกลายเป็นผู้กล้าลามูเนสรุ่นที่ 3 มาตั้งแต่ก่อนลามูเนสรุ่นที่ 3 จะเกิด เมื่อดวงจิตของ ออร์แกน ได้ข้ามมิติเวลามาพบกับ ลามูเนะรุ่นที่ 2 และมิลค์ที่อยู่ที่โลกมนุษย์ ว่าให้ไปช่วยลามูเนสรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นลูกชายของเขา ในโลกอนาคตอีก 15 ปีข้างหน้า ทำให้เขาต้องกลับไปยังดินแดนคิระคิระอีกครั้ง แต่ได้ใส่คอสตูมที่คล้ายๆกับตัวละครจาก “วิหคสายฟ้า กัตช่าแมน” ไปทำศึก และให้ชื่อตัวเองเป็นการปกปิดความจริงในชื่อว่า “อาคะคาเซะ”
บาบะ มิลค์ (องค์หญิงมิลค์ / โมโมะคาเซะ)
อดีตรัชทายาทและเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร อราร่า เธอมาอยู่ที่โลกมนุษย์เดียวกันกับลามูเนสรุ่นที่ 2 ในช่วงภาค DX และในเวลานั้น ลามูเนสรุ่น 2 ได้ขอเธอแต่งงาน และแน่นอนว่า มิลค์ก็ตกลง และกลายเป็นคู่รักสุดหวานแหววที่รักกันสุดๆ เธอเป็นแม่ของลามูเนสรุ่นที่ 3 ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ที่โลกมนุษย์ในฐานะแม่บ้าน ยังมีอารมณ์ขี้วีนและหึงลามูเนสรุ่น 2 อยู่บ้าง และปกปิดตัวตนว่าเธอไม่ใช่มนุษย์โลก และเป็นถึงอดีตองค์หญิง ไม่ให้กระทั่งลามูเนสรุ่น 3 รู้ ต่อมาได้เดินทางกลับไปยังโลกคิระคิระพร้อมสามี เพื่อช่วยลูกชาย ในฐานะ คู่รักนักสู้และมีโค้ดเนมว่า “โมโมะคาเซะ”
ราชินีคาเฟโอเลต์
หรือในชื่อที่หลายคนรู้จักนาม “เลสก้า” เป็นพี่สาวคนโตของ “สามพี่น้องศักดิ์สิทธิ์” ในภาคนี้ เธอขึ้นครองบัลลังก์ แทนพระบิดา โดยปกครองอาณาจักร อราร่าอย่างผาสุขมาโดยตลอด แต่สุดท้าย ก็โดนกองทัพของ อบราฮัมเข้าโจมตี และเธอก็โดน “ดอน เจโนไซ” จับตัวไปเป็นคนรับใช้ โดยใช้งานสารพัด เป็นคู่รักกับ ดา ไซเดอร์ เช่นเดิม มีศักดิ์เป็นป้าของลามูเนสรุ่น 3
องค์หญิงโกโก้
องค์หญิงคนรองที่ยังคงชอบใส่แว่นเด็กเนิร์ดเหมือนภาคที่แล้ว แต่เมื่อถอดแว่นแล้วจะเผยใบหน้าสุดแสนสวยออกมา มีศักดิ์เป็นป้าของลามูเนสรุ่นที่ 3 เธอมีความสามารถทางด้านเครื่องยนต์กลไก ถูกจับตัวไปพร้อมกับคาเฟโอเลต์ และโดนล้างสมอง ถูกจับใส่ไว้ในแคปซูลในฐานะ “สัตว์เลี้ยงเป็นๆ” ของอบราฮัม
กลุ่มกองทัพปิศาจอบราฮัม
ดอน เจโนไซ
คาแรคเตอร์นั้นเกือบจะเหมือน ดอน ฮารุมาเกะ ในภาคที่แล้ว เป็นแม่ทัพศึกของกองทัพปิศาจอบราฮัม พยายามตามล่าสามพี่น้องศักดิ์สิทธิ์เพื่อบูชายัญ ให้เทพปิศาจอบราฮัมคืนชีพ จริงๆแล้วไม่ใช่คนร้าย แต่ถูกอบราฮัมล้างสมอง แต่ในเวลาต่อมา ลามูเนส ก็จัดการช่วยให้เขาฟื้นความจำและกลับคืนสู่ร่างเดิม ซึ่งเดิมนั้น เขาเป็นนักบวชผู้ใจดีและอ่อนโยนแห่งโบสถ์ในโลกคิระคิระ
นาร์ซิสต์ แดนดี้
เป็น 1 ใน 2 ตัวร้ายในภาคนี้ที่ออกมาประฝีมือกับลามูเนสรุ่นที่ 3 แทบจะทุกตอน แดนดี้นั้นเป็นคนที่ภูมิใจกับกล้ามเนื้อและรูปร่างอันบึกบึนของตัวเองอย่างมาก แต่มักทำงานพลาดประจำ แต่ในเวลาต่อมา เขาก็ถูกปลดปล่อยจากการโดนควบคุมของอบราฮัม และตัวตนจริงๆของเขานั้น เขาก็เป็นนักบวชที่ฝักใฝ่ในคุณธรรมเหมือนกับ ดอน เจโนไซ
ฟิโรโมน ลิป
คู่หูของ แดนดี้ เช่นกันว่าเป็นผู้หญิงที่ชื่นชอบความใหญ่โตของหน้าอกตัวเองสุดๆ เป็นตัวร้าย แต่ในเวลาต่อมาก็หลุดจากการควบคุมของอบราฮัม
เทพปิศาจอบราฮัม / แบล็คลามูเนส
เป็นเทพปิศาจที่กำเนิดในช่วง 5000 ปีก่อนยุคลามูเนสรุ่นที่ 3 ในช่วงนั้นพลังยังไม่มากเท่าไหร่ แต่ในอนาคตนั้น เป็นสุดยอดจอมมารที่ไม่มีใครต่อกรได้ จนทำให้ ลามูเนสรุ่นแรกที่สมัยยังอยู่ในโลกอนาคต ต้องย้อนอดีตกลับไปยังโลกคิระคิระในโบราณกาลเพื่อจัดการกับ อบราฮัมในตอนที่ถือกำเนิดใหม่ๆ ในยุคนั้น อบราฮัม ไมได้โดนกำจัดอย่างถาวร แต่โดนผนึกเอาไว้ในร่างกายของลามูเนสรุ่นแรกมาโดยตลอดหลายพันปี และคืนชีพขึ้นมาในยุคของลามูเนสรุ่นที่ 3 แต่ได้ควบคุมร่างของ ลามูเนสรุ่นแรกเอาไว้ มันใช้ชื่อแทนตัวมันในร่างลามูเนสรุ่นแรกคือ “แบล็คลามูเนส” แต่แม้จะโหดร้ายขนาดไหน มันก็ถูก ลามูเนสรุ่นที่ 3 ปราบลงได้สำเร็จด้วย “ดาบผู้กล้า” ในที่สุด
หุ่นยนต์
สำหรับในลามูเนสภาคนี้ ไม่ได้มีหุ่นยนต์เยอะเหมือนภาคที่แล้ว แต่กระนั้น หุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัวของลามูเนสภาคนี้ก็นับว่า ออกแบบสวยงามและมีที่มาที่ไปที่ชัดเจนมากกว่าหุ่นองครักษ์ 8 ตัวในภาคที่แล้ว แต่ต่างกันที่ หุ่นในภาคนี้นั้น ไม่มีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง ต้องอาศัยการบังคับจากภายใน และมีร่างกายไม่ใช่จักรกลโดยแท้ แต่มีกายเนื้ออยู่ภายใต้ชุดเกราะ กึ่งๆเป็นหุ่นชีวะ มีมัดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น (ลองนึกถึงอีวาเกเลี่ยนดู) ถูกสร้างขึ้นมาโดย “ออร์แกน ซิมโฟนี่” เมื่อ 5 พันปีก่อน
ไคเซอร์ไฟเยอร์
“เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเพลิง” เป็นหุ่นเทพประจำตัวของ ลามูเนสรุ่นที่ 3 และ ดา ไซเดอร์ ต้องอาศัยการบังคับ 2 คนถึงเคลื่อนไหวได้ ปกติจะถูกซ่อนตัวอยู่ในมิติเวลาของออร์แกน และจะถูกเรียกออกมาเมื่อ ลามูเนส ใส่แผ่น CD ROM ที่บรรจุข้อมูลของไคเซอร์ไฟเยอร์ เข้าไปในตัวของ พีคิว มีกายสีขาว สามารถบินได้ด้วยการ กางปีกขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง มีอาวุธไม้ตายเป็น ดาบไคเซอร์ไฟ-เบลด ถูกทำลายไปในศึกสุดท้ายกับ อบราฮัม
กราฟ ธันเดอร์
“เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งปฐพี” เป็นหุ่นเทพที่อยู่ในเขต กาโอ กาโอ โซน บังคับโดย มิโตะ นัต , ชิเบิร์น และ คาปู เลนโป มีกายสีดำ เน้นพลังโจมตีที่หนักหน่วง ถูกสร้างขึ้นมาโดย ออร์แกน มีไม้ตายคือ “แกรน โบลต์ ครัช” เป็นแส้ที่อาบพลังงานไฟฟ้ากำลังสูง ฟาดใส่ศัตรู ถูกทำลายไปในศึกสุดท้ายกับอบราฮัม
วอเตอร์บารอน
“เทพอัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งธารา” เป็นหุ่นเทพตัวสุดท้ายที่อยู่ในเขต แอน แอน โซน ควบคุมโดย ดรัม , เซลโล่ และ ทรัมเป็ต เน้นโจมตีด้วยทวงท่าที่อ่อนช้อย สวยงามราวกับสายน้ำ มีกายสีฟ้า เคลื่อนตัวในน้ำได้อย่างว่องไว โจมตีด้วยท่า วอเตอร์ แอทแทค และแน่นอนว่า นี่ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดย ออร์แกน และถูกทำลายไปในศึกสุดท้ายกับ อบราฮัม
ของเล่น
แม้ว่าจะไม่ได้มีหุ่นยนต์มากเหมือนภาคแรก ที่ทำให้มีของเล่นผลิตออกมาจำนวนมาก แต่หุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัวจาก ลามูเนสภาคนี้ ก็มีการออกแบที่สวยงามและน่าสนใจมากพอที่จะทำให้มีการผลิตออกมาเป็นของเล่นเช่นกัน ทั้ง ไคเซอร์ไฟเยอร์ , กราฟ ธันเดอร์ และ วอเตอร์บารอน
สำหรับผม ตอนแรกที่ได้ดู เนื้อเรื่องมันก็ดูเบาสมอง คลายเครียด แอบมีฉากเซอร์วิสอยู่เพียบ (สมัยนี้คงโดนเซนเซอร์กระจาย) สมัยตอนฉายช่อง 3 นี่ไม่มีเซนเซอร์กันเลยนะครับ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพอผ่านพ้นช่วงกลางเรื่องมา เนื้อเรื่องมันดราม่าและดาร์คมากขึ้น ตัวละครตาย ต้องมีการเสียสละ และที่สำคัญคือ หุ่นพังยังเยินแบบไม่เหลือแม้แต่ซาก ทำเอาเหวอกันเลยทีเดียวครับตอนดู แต่เอาเถอะ เนื้อเรื่องยังอุตส่าห์หักมุมในตอนจบของซีรี่ย์ได้ ตอนนี้ก็ยังพอที่จะหาชมได้ ร็สึกจะมีขายเป็นแบบ V2D ที่อัดจากตอนช่อง UBC เอามาออกอากาศ ใครที่ไม่ทันดูในสมัยช่อง 3 ฉายหรือตอน UBC ฉายก็ลองหามาชมกันได้ครับ เนื้อเรื่องจะสั้นๆ ไม่ยาวเท่ากับภาคแรก แต่สำหรับผม ภาคนี้ปิดตำนานลามูเนสได้ลงตัวเช่นกัน และขยายปมหลายๆจุดได้ดีทีเดียว
บทความโดย Ohm Redhwak
-
[รีวิว] Fuuto PI: The Portrait of Masked Rider Skull ยอดนักสืบแห่งฟูโตะ ภาพสลักแห่งมาสค์ไรเดอร์สกัล
เรื่องราวความสัมพันธ์จาก มาสค์ไรเดอร์สกัล สู่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล
-
รายชื่อเกมออกใหม่ประจำเดือน [PS4 / PS5/ PC / Xbox SeriesX / XboxOne / Switch]
ข่าวเกมส์ออกใหม่ 2023 อัพเดทเกมส์มันส์ๆเกมไหนโดนใจ ไปอ่านกันได้
-
เกม MMORPG Dekaron Online Thai จะเปิด CBT วันที่ 29 ตุลาคมนี้
ตำนาน MMORPG เกม Dekaron Online Thai โดย Ubifun Studio ผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากเกาหลีใต้จะเปิด CBT ในวันนี้และเปิดให้ทดสอบตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 13:00 น. ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 10:00 น. ในการทดสอบครั้งนี้จะเปิดเนื้อหาเต็มรูปแบบกว่า 250 เลเวลให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ขณะเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นทุกคน ในการเข้าร่วมการทดสอบ CBT ครั้งนี้จะไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่ลงทะเบียนสร้างบัญชีในช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเล่น ก็สามารถเข้าทดสอบเกมได้แล้ว Dekaron เป็นเกม MMORPG คลาสสิกที่มีการต่อสู้ที่ตื่นเต้นและภาพที่เร้าใจ มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้เล่นชาวไทยเป็นอย่างมาก ในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับระบบ PK ที่มีความอิสระสูงในพื้นที่ DK ที่เต็มไปด้วยอันตรายและเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ นอกจากนี้ยังมีอาวุธและชุดเกราะสุดเท่ห์ อาชีพที่หลากหลาย และระบบการต่อสู้ PVP ขนาดใหญ่ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เล่น CBT ครั้งนี้จะเปิดด้วยวิธี Delete file test […]