Tron 3 ล่าข้ามโลกอนาคต 

แสดงนำโดย :  Jared Leto

อำนวยการสร้างโดย Joachim Rønning

ผลิตโดย : Disney

กำหนดฉาย  -

#disney  #tron  #tron3  #tronares  #jaredleto

“The Grid. A digital frontier. I tried to picture clusters of information as they moved through the computer. What did they look like? Ships? Motorcycles? Were the circuits like freeways? I kept dreaming of a world I thought I’d never see. And Then..One Day..I Got in”

“ The Grid.. พรมแดนดิจิทัล ผมพยายามนึกภาพกลุ่มข้อมูลในขณะที่มันเคลื่อนผ่านคอมพิวเตอร์ ว่ามันมีลักษณะอย่างไร เรือ มอเตอร์ไซค์ แผงวงจรเหมือนทางด่วนหรือเปล่า ฉันฝันถึงโลกที่คิดว่าจะไม่มีวันได้เห็นอยู่ตลอดเวลา แต่แล้ววันนึง…ผมก็ได้เข้าไปในนั้น”
-เควิน ฟลินน์ 

สิ้นสุดการรอคอยซักที สำหรับภาพยนตร์ไซไฟโลกคอมพิวเตอร์สุดล้ำอย่าง TRON ที่เพิ่งออกภาค 2 เมื่อ 15 ปีที่แล้ว และภาคแรก ที่ออกฉายในยุค 80 (สมัย เจฟฟ์ บริเจตต์ ยังหนุ่มๆโน่นเลย) แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้มีพล๊อตเรื่องที่หวือหวาชวนขบคิด แต่หนังโดดเด่นด้วยงานดีไซน์ งานโปรดัคชั่น การออกแบบฉาก รวมไปถึง OST ทุกเพลงที่ถูกสร้างสรรค์ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับโลกไซเบอร์ที่ลึกลับ น่าค้นหาราวกับแดนพิศวงอีกมิติหนึ่งที่มีเรื่องราวเบื้องลึกซ่อนอยู่…ก็สามารถทำรายได้ทั่วโลกสูงถึง 400 ล้านเหรียญ

และ หลังจากรอคอยกันมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี นับตั้งแต่ Tron: Legacy ในปี 2010 แฟรนไชส์ไซไฟสุดคลาสสิกจากดิสนีย์กำลังจะกลับมาอีกครั้งใน Tron: Ares ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 10 ตุลาคม 2025 โดยจะเป็นภาคที่สามของซีรีส์ และเป็นภาคต่อแบบ standalone ที่เชื่อมโยงโลกดิจิทัลกับโลกจริงอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

Tron: Ares จุดเริ่มต้นการเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์ และ โลกไซเบอร์

Tron: Ares จะเล่าเรื่องราวของ Ares  (อาเรส) โปรแกรมขั้นสูงจากโลกดิจิทัล ที่ถูกส่งมายังโลกจริงเพื่อปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปะทะครั้งแรกระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตจากโลกไซเบอร์ 

ถือเป็นทิศทางใหม่ของเรื่องราว หลังจากที่ TRON มักจะเล่าเรื่อง คนโดนดูดไปผจญภัยในโลกไซเบอร์ แต่กลายเป็นมนุษย์ถูกโปรแกรมคอมพิเตอร์บุกโลกแทน 

นอกจากนี้ โทนสีของเรื่องราวในภาคนี้ จะต่างจากสองภาคแรกที่ใช้โทนแสงสีฟ้า ตัดเงามืดสีดำ ที่สื่อถึงโลกดิจิตอลอันห่างไกล มาเป็นโทนสีแดง ที่แสดงถึง “การรุกราน และไม่เป็นมิตร”

นำแสดงโดย จาเรต เลโต ในบท Ares พร้อมด้วย การกลับมาของ เจฟฟ์ บริเจตต์ ในบท เควิน ฟลิน พระเอกจากภาคแรก และพ่อของพระเอกในภาค 2 ที่ตัวภาพยนตร์จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เขากลับมาได้ยังไง เพราะในภาค2 เขาได้สลายไปแล้ว

โปรเจกต์ภาคต่อของ Tron: Legacy เริ่มพัฒนาในปี 2010 แต่เจอกับการเปลี่ยนแปลงผู้เขียนบท ผู้กำกับ และการระงับแผนการผลิตหลายครั้ง จนในปี 2017 ดิสนีย์ตัดสินใจรีบูตเรื่องราวใหม่ โดยใช้ตัวละคร Ares ที่คงอยู่จากบทเดิมของภาคต่อ ก่อนที่ Joachim Rønning (จาก Maleficent: Mistress of Evil) จะรับหน้าที่กำกับในปี 2023 แทน Garth Davis

 มีอยู่ช่วงหนึ่ง การ์เลตต์ เฮดลัน (บทพระเอกภาค2 แซม ฟลิน ลูกชายของเควิน พระเอกภาคแรกสุด) และ โอลิเวีย ไวลด์   (สาวโลกไซเบอร์ ควอร์ร่า) ถูกกำหนดให้กลับมารับบทเดิม และมีแผนเริ่มการผลิตในปี 2015 แต่ทั้งสองคนที่ตอนนี้มาทำงานเบื้องหลังแล้ว  ต่างก็เปิดใจว่าอาจะกลับมารับบทในอดีต ถ้าบทมีเหตุผลมากพอ  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา เพราะดิสนีย์ได้ยกเลิก Tron: Ascension ก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มขึ้น 

เหตุผลที่ Tron: Ares ใช้เวลานานมากในการสร้าง การพัฒนาต่างๆ นั้นเป็นเพราะ Disney และผู้สร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังแฟรนไชส์ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าเนื้อหาของ Tron จะไปในทางไหนกันแน่ 

การถ่ายทำเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม 2024 ที่แวนคูเวอร์ หลังถูกเลื่อนจากปี 2023 เนื่องจากการประท้วงของสมาพันธ์นักเขียนและนักแสดงในฮอลลีวูด และเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน โดย Jeff Cronenweth (The Social Network) ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพ และ Tyler Nelson เป็นผู้ตัดต่อ

เพลงประกอบคือส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจดนำ เพราะเพลงที่ดีไซน์ออกมาเท่ ล้ำ และเข้ากับธีมเรื่อง ฝีมือของ Daft Punk ทำเอาไว้ดีมากๆ แต่วงก็ยุบไปแล้ว

และนั่นทำให้ Disney ต้องใช้งานวงดนตรี Nine Inch Nails วงแนวอินดัสเทรียลร็อกชื่อดังของ Trent Reznor และ Atticus Ross จะรับหน้าที่แต่งเพลงประกอบให้กับ Tron: Ares ภายใต้ชื่อวงอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกเขาเผยว่าการใช้ชื่อ Nine Inch Nails ทำให้กล้าทำอะไรที่ “ดิบ” และ “รุนแรง” มากขึ้น และดิสนีย์ก็สนับสนุนแนวทางนี้อย่างเต็มที่

Tron: Ares มีกำหนดเข้าฉายในระบบ IMAX 3D วันที่ 10 ตุลาคม 2025 โดยคาดว่าจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไซไฟที่น่าจับตามองมากที่สุดของปี

ทั้งจากชื่อแฟรนไชส์ที่เป็นตำนาน การกลับมาของ เจฟฟ์ บริเจตต์  และการผลักดันเรื่องราวของโลกไซเบอร์ เข้ารุกรานโลกจริงอย่างเต็มตัว

แอดมิน AK47