ในโลกของภาพยนตร์ Starwars นั้น มีผู้คนมากมายหลายสายพันธุ์ มั้งมนุษย์ เอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาวหน้าตาประหลาดๆ มีหลากหลายอาชีพและความเป็นอยู่ แต่จะมีคนอยู่ไม่กี่กลุ่มที่มีบทบาท และความเก่งกาจจนถูกนำมาเล่าขานได้
และนี่คือ 10 ตัวละครStarWars ที่เก่งที่สุด วัดจากผลงานและบทบาทตามฉบับภาพยนตร์ โดยการประชุมของทีมงาน Metalbridges.com นะครับ มาดูกันว่า 10 ตัวละครนี้มีใครบ้าง มาดูกันเลย
10.ดาร์ธ มอล
ดาร์ธ มอล เป็นเด็กฝึกของ ดาร์ธ ซีเดียส ตั้งแต่เด็ก จะว่าเป็นเด็กปั้นของเขาเลยก็ว่าได้ โดยเขาได้รับการฝึกฝนทักษะด้านการใช้กระบี่แสงสองปลายแบบจูโยและจาร์ไค รวมไปถึงศิลปะป้องกันตัวเทราส คาซี ด้วยคล่องตัวชนิดหาตัวจับยาก ทำให้ดาร์ธ มอล ได้รับภารกิจลอบสังหารบุคคลสำคัญเสมอ แต่ในวิถีแห่งพลังนั้นเขายังไม่อาจเทียบชั้นกับเจไดมาสเตอร์ในสภาเจได้ได้ แต่ด้วยความว่องไว และการใช้พลังผสานเพลงดาบ สามารถเอาชนะเจไดมาสเตอร์อย่าง “ไควกอน จินน์” ในภาพยนตร์ EP1 ได้ แต่กลับชะล่าใจ จนพลาดท่าให้กับ “โอบีวัน เคโนบี” พาดาวันหนุ่ม เด็กฝึกของไควกอนซะอย่างนั้น
แม้จะเก่ง และเร็วแค่ไหน แต่ยังขาดทักษะด้าน การใช้พลังที่ชัดเจน ทำให้ดาร์ธ มอล เป็นตัวเลือกอันดับที่ 10 ของเวปไซต์เราครับ
(แต่หลังจากการตายในภาพยนตร์ ดาร์ธ มอลก็กลับมาในอนิเมชั่นชุด Clone Wars โดยดาร์ธมอล รอดจากการต่อสู้กับโอบีวัน และดัดแปลงร่างกายเป็นจักรกล แต่สุดท้ายก็แพ้โอบีวันอีกครั้ง ในช่วงปีที่ 2 ก่อนยุทธการยาวิน)
9 .เบน โซโล (ไคโล เรน)
ศิษย์เอกของ ลุค สกายวอลค์เกอร์ และเป็นลูกของ เลอา กับ ฮาน โซโล (จึงนับได้ว่าเขาเป็นหลานของลุค) เขามีความสามารถที่จะเรียนรู้ในวิถีแห่งพลังได้ดีเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่ก็มีบางอย่างที่อยู่ในตัวของเบน ที่บ่งบอกถึงด้านมืดในใจเหมือนกับดาร์ธ เวเดอร์ หรือ อนาคิน สกายวอลค์เกอร์ ผู้เป็นท่านตาของเขา…หลังจากเบนถูกเลอาส่งไปฝึกกับลุคผู้เป็นลุงแล้ว เขาก็พลัดเข้าไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของผู้นำสูงสุดสโน้ก แห่ง ปฐมภาคี (First Order) และได้สังหารเหล่าเจไดรุ่นใหม่ที่ลุคฝึกสอน และเบนก็เรียกตัวเองว่า ไคโล เร็น เข้าร่วมกับปฐมภาคี เป้าหมายของเขาคือ การสานต่อสิ่งที่ดาร์ธ เวเดอร์เคยเริ่มต้นเอาไว้ นั่นคือการทำลายเหล่าเจไดให้หมดไปจากจักรวาล
ด้วยพลังที่น่าสะพรึงอย่าง Force หยุดวัตถุให้ลอยกลางอากาศได้ ทั้งคนและลำแสงต่างๆ และสไตล์การต่อสู้เหมือนกับดาร์ธ เวเดอร์ (สมัยเกรียนแตก) ก็ถือว่าไคโล เรน เป็นตัวละครที่มีพลังพอสมควร แต่ขาดการขัดเกลาฝีมือเพลงดาบ (เพลงดาบมั่วมากเหมือนเด็กถือดาบ) และความวู่วามใจร้อนแบบเด็กๆ ทำให้หลายๆคนที่ได้ชมภาพยนตร์ภาค 7 ตางมองตัวละครนี้ว่า เป็น “ซิธลอร์ดวอนนาบี” เท่านั้น ยังไม่ได้โชว์เหนือโชว์เก่งอะไรมาก (แต่ให้วัดพลังกันก็น่าจะเก่งกว่าดาร์ธ โมลในแง่นั้นละนะ) หวังว่าในหนังภาคต่อๆไป เราจะได้เห็นตัวละครนี้เก่งและแกร่งขึ้น
8.โอบีวัน เคโนบี
จากเด็กหนุ่มอายุเกือบจะเกินเกณฑ์การฝึกวิถีแห่งพลัง จนกลายเป็นผู้มอบความหวังครั้งใหม่ให้กับจักรวาล โอบีวัน “เบน” เคโนบี คือ คนที่เคยผ่านทั้งการเป็นศิษย์เอกของ ไควกอน จินน์ และการเป็นอาจารย์ของ ลุค สกายวอล์คเกอร์แล้ว ถ้านับช่วงไตรภาคแรก เขายังเป็นพาดาวันหนุ่มที่ติดตามไควกอนไปในภารกิจเสี่ยงอันตรายต่างๆทำให้พาดาวันหนุ่มมีประสบการณ์มากขึ้น เรียนรู้ที่จะวางตัวให้เหมาะสม และเลื่อนขั้นมาเป็นเจไดมาสเตอร์ได้ในระยะเวลาอันสั้น เพราะเป็นคนที่ลงภาคสนาม ทำภารกิจจากสภาเจไดสำเร็จบ่อยครั้งนั่นเอง
ความเก่งของโอบีวัน สามารถนับได้จากการเอาชนะ ดาร์ธ โมล ที่เป็นซิธ ลอร์ดคนแรกที่ปรากฏตัวในรอบหลายพันปีตามท้องเรื่อง และโอบีวันยังเป็นผู้บรรลุวิถีการต่อสู้ด้วยกระบี่แสงแบบโซเรสุ (วิถีกระบี่แสงสายป้องกัน) ปัดป้องทุกการโจมตีได้สมบูรณ์แบบ ทั้งปืนเลเซอร์ และกระบี่แสงด้วยกัน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ใช้กระบี่แสงสายป้องกันที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังเป็นคนที่สามารถเอาชนะ “ดาร์ธ เวเดอร์” (อนาคินวัยหนุ่ม) ลงได้ที่ดาวมุสตาฟาร์
ช่วงบั้นปลายที่ร่างกายไม่เอื้อ วิถีพลังของโอบีวันก็แกร่งกล้าพอที่จะสอนให้ลุคเรียนรู้ในวิถีแห่งพลัง และดึงลุคเข้าสู่วิถีเจไดเบื้องต้น (เหมือนเตรียมความพร้อมก่อนจะไปเรียนกับมาสเตอร์โยดา) และหลังจากสิ้นชีพด้วยมือของ ดาร์ธ เวเดอร์ ใน EP4 (เจ้าตัวเตรียมใจจะตายอยุ่แล้ว) วิถีแห่งพลังของโอบีวันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล คอยให้คำแนะนำแก่ลุคผ่านกายทิพย์ หรือเสียงเป็นครั้งคราวอีกด้วย
7.ลุค สกายวอล์คเกอร์
ความหวังใหม่ของกาแลกซี่ เด็กหนุ่มชาวไร่ธรรมดาใน ดาวทาทูอีน ที่แห้งแล้ง และกลายมาเป็น “ผู้ก่อตั้งลัทธิเจไดใหม่” โดยตำนานของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ เป็นที่รู้จักจากการที่เขาเป็นผู้ทำลายดาวมรณะดวงแรกในภาพยนตร์ EP4 ด้วยการใช้วิถีแห่งพลังรวมเข้ากับการขับยาน X-Wing และยังโน้มน้าวให้ ดาร์ธ เวเดอร์ ผู้เป็นพ่อกลับใจ จนสามารถสังหาร ดาร์ธ ซีเดียส ลงได้ และนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิกาแลกติกใน EP6 หลังจากศึกสงคราม ลุคได้ละทิ้งยศทางทหาร (ยศนายพล) กลับไปใช้ชีวิตสันโดษ ออกเดินทาง และสอนผู้มีพลังทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ความสงบสุขของจักรวาล
แม้ว่าจะเคยพ่ายให้กับ ดาร์ธ เวเดอร์ จนเสียข้อมือข้างขวาไป แต่ใน EP6 เราจะได้เห็นเพลงดาบของลุคที่เทียบชั้นกับเวเดอร์ได้อย่างสูสีในระยะเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะ(แบบเว่อร์ๆ)ออกมา และนอกจากนั้น เขายังเป็นผู้ก่อตั้งนิกายเจไดใหม่ ฝึกสอน เบน โซโล (ไคโล เรน) หลานตัวเองได้ แถมยังรับรู้กระแสพลังที่คล้ายกับพ่อของเขาในตัวหลานชายคนนี้ (แต่เบนก็กลับมาฆ่าศิษย์ของลุคหมดลัทธิอย่างที่ระแวงจริงๆ) อีกนัยยะหนึ่งก็อาจจะหมายความว่า พลังของลุคนั้น ใกล้เคียงกับเจไดมาสเตอร์ในยุครุ่งเรืองก่อนยุทธการยาวินแล้วก็ว่าได้
6.อนาคิน สกายวอลค์เกอร์
เจไดสายเกรียน ผู้ละเมิดข้อบังคับของเจไดมันแทบทุกข้อ ทั้งการมีความรัก การมีอารมณ์โกรธ การเสียดสีประชดประชัน และกลายเป็นสุดยอดวายร้ายที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เราจะพูดถึงช่วงที่เป็นอนาคินกันก่อน โดยเขาเป็นอัศวินเจไดที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน ในยุคร่วงโรยของนิกายเจไดซึ่งถูกเชื่อว่าเป็น“ผู้ถูกเลือก” จากคำทำนายของเจได ว่าเขาคือผู้ที่จะนำสมดุลย์คืนสู่พลัง (แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่) แต่ถ้ามองในมุมของนักบินยานอวกาศ เขาก็คืออัจฉริยะของยุคเลยก็ว่าได้ อนาคินมีความสามารถด้านเครื่องยนต์กลไกสูงมาก เป็นคนที่เข้าใจระบบยานต่างๆ และใช้มันได้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
อนาคิน เป็นเจไดที่มีอารมณ์ของมนุษย์ในตัวมากที่สุดผิดกับเจไดคนอื่นๆที่ละทิ้งซึ่งความรัก ลาภยศ หรือแม้แต่ความโกรธแค้น (ซึ่งอนาคินมีหมด) ทำให้เพลงดาบของอนาคินมีทั้งความว่องไว และรุนแรง ด้วยกระบวนท่าที่5ของเพลงดาบชิเอ็น กับเพลงดาบอาตารุ ที่เน้นการฟาดฟันอย่างหนัก และจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว หลายครั้งมันก็แสดงให้เห็นถึงอารมณ์เกรี้ยวกราดที่มีในตัว แม้ว่าในEP2เขาจะพ่ายให้กับเคาท์ดูกูแทบหมดสภาพ แถมยังเสียมือขวาไป แต่ใน EP3 เขากลับเอาชนะดูกูด้วยความโกรธ เพราะเห็นโอบีวันถูกทำร้าย ยิ่งได้คำยั่วยุจาก สมุหนายกพัลพาทีน ทำให้อนาคินสังหารดูกู และเป็นก้าวแรกสู่วิถีด้านมืดของพลัง
ซึ่งการเอาชนะเค้าท์ดูกู ที่เป็นตัวละครที่จัดว่าเก่งในด้านเพลงดาบของจักรวาล ทำให้อนาคินเป็นตัวละครเก่งอันดับต้นๆ แม้ว่าจะใช้วิถีพลังไม่มากนั่นเอง…แต่ด้วยความโกรธ เกรี้ยวกราด และวู่วาม ทำให้อนาคินต้องพ่ายให้กับโอบีวัน ที่ดาวมุสตาฟาร์ และสวมเกราะสีดำทมิฬ กลายเป็น “ดาร์ธเวเดอร์” อย่างที่เราๆรู้จักกัน
5 .ดาร์ธ ไทรานัส (เค้าท์ ดูกู)
ศิษย์เก่าของมาสเตอร์โยดา , อดีตครูฝึก ณ วิหารเจได และ อาจารย์ของไควกอน จินน์ ที่มีพลังแกร่งกล้า เป็นหนึ่งในเหล่าจอมกระบี่แสงที่มีฝีมือฉกาจที่สุดแห่งกาแลกซี ว่ากันว่ามีเพียงมาสเตอร์โยดาและเมซ วินดูเท่านั้น ที่จะสามารถต่อกรกับเพลงกระบี่ มาคาชิ (กระบวนท่าเน้นความสง่างามและการแทง) ของเขาได้ แต่ศรัทธาในนิกายเจไดของเขาเริ่มเสื่อมถอย และมองหาพลังที่แกร่งกว่า ทำให้เขาเลือกที่จะสวามิภักดิ์ต่อดาร์ธ ซีเดียส และขึ้นแท่นเป็นศิษย์เอกต่อจากดาร์ธ มอล ที่ตายไป โดยใช้ชื่อใหม่ว่า “ดาร์ธ ไทรานัส”
ด้วยเพลงดาบของเขา ก็มอบความปราชัยให้ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ และ โอบีวัน เคโนบี ในสงครามโคลน แถมยังตัดแขนขวาไปด้วย แต่ทว่าใน EP3 อนาคินสามารถไล่ต้อนดูกูจนมุมได้ด้วยพลังโทสะที่อัดแน่น และลงมือสังหารเคาท์ดูกูต่อหน้า ดาร์ธ ซีเดียส ซึ่งผิดไปจากวิถีเจได ซึ่งหลังจากนั้น ดาร์ธ ซีเดียสก็เห็นแววพลังด้านมืดในตัวของอนาคิน
แม้พลังของดาร์ธ ไทรานัส จะไม่ได้ถูกใช้บ่อย แต่ซีนที่ประมือกับโยดา และ สองเจไดหนุ่มใน EP2 ก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าเขาคือเทพในด้านเพลงกระบี่อีกคนในจักรวาลสตาร์วอร์สเลยก็ว่าได้
4. ดาร์ธ เวเดอร์
อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ที่หลงผิดด้วยอารมณ์โกรธแค้นต่อโชคชะตา และสิ่งรอบข้าง ทำให้เขากลายเป็นซิธลอร์ดผู้ชั่วร้าย และแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ ดาร์ธ ซีเดียส เคยฝึกสอนมา หลังจากการต่อสู้กับ โอบีวัน ที่ดาวมุสตาฟาร์ เขาก็ยิ่งทวีความเกลียดชังต่อเหล่าเจได และผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้เมียของเขาอย่าง แพดเม่ ต้องตาย (ซึ่งจริงๆไม่เกี่ยวเลย) ลอร์ดเวเดอร์ที่ทวีความโกรธเกรี้ยว และการเสียแขนขาไป ก็ยิ่งทำให้ด้านมืดของพลังในตัวลอร์ดเวเดอร์กล้าแกร่งขึ้นจนน่ากลัว แม้ว่าเพลงดาบของเวเดอร์จะไม่คล่องแคล่ว ว่องไว หรือใกล้เคียงกับสมัยที่เป็นอนาคินผู้เชี่ยวชาญเพลงดาบอาตารุ แต่ก็ยังคงความร้ายกาจจากการได้พลังด้านมืดมาเสริม ทำให้เวเดอร์แทบจะไม่ต้องลงมือประดาบกับใครเลยในรอบหลายสิบปี เพียงแค่โบกมือ ก็ฆ่าคนได้แล้ว (เจ้าตัวนิยมใช้ท่าบีบคอ – Force Choke เป็นประจำ ทั้งใช้ขู่ และฆ่า) จนกระทั่งได้ดวลกับลูกชายตัวเองอย่าง ลุค สกายวอล์คเกอร์
แต่ เวเดอร์ ก็ต้องพ่ายให้กับ ดาร์ธ ซีเดียส เพราะพลังสายฟ้าของดาร์ธ ซีเดียสที่ทำลายระบบเครื่องพยุงชีพ ใน EP6 (จากการที่ เวเดอร์ไม่มีปอด หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องจักรนั่นเอง จึงเป็นสาเหตุว่าเวเดอร์ไม่เคยใช้พลังสายฟ้าเลย ทั้งที่ตัวเองคือซิธลอร์ด)
3.ดาร์ธ ซีเดียส (สมุหนายกพัลพาทีน)
สมุหนายกคนสุดท้ายของสาธารณรัฐกาแลกติก และเป็นจักรพรรดิ์คนแรก (และคนเดียว)แห่งจักรวรรดิกาแลกติก ภายนอกที่ดูเหมือนตาแก่ใจดี มีวุฒิภาวะแบบนักการเมืองที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริง เขาคือทรราชย์ที่หมายจะสานต่ออุดมการณ์ของนิกายซิธ คือการทำลายนิกายเจได ด้วยการรวบอำนาจการบริหารของจักรวาลมาอยู่ในมือของตน และได้ออกคำสั่ง “Order66″ ที่ระบุให้ทำการกวาดล้างเจไดทั้งหมด และก็ทำได้สำเร็จจริงๆโดยที่ตัวเองแทบจะไม่ต้องลงมือให้เหนื่อยเลย
ถึงจะใช้อำนาจทางการเมืองเข้าบีบจนตัวเองเป็นใหญ่ แต่พัลพาทีนเองก็จัดว่าเป็นซิธลอร์ดที่เก่งกาจ และ บรรลุในศาสตร์มืด โดยเขาสามารถเอาชนะเจไดมาสเตอร์ถึงสองคน ก่อนที่จะดวลดาบกับมาสเตอร์วินดูแบบตัวต่อตัวได้ ก่อนจะเพลี่ยงพล้ำโดนมาสเตอร์วินดู สะท้อนพลังสายฟ้าของตัวเองช๊อตใส่จนหน้าเหี่ยวย่น (ซึ่งตัวของวินดูก็ถือว่าเก่งระดับสามารถดวลกับเคาท์ดูกูที่จัดว่าเป็นเทพกระบี่ของจักรวาลได้) รวมไปถึงการต่อสู้ชนิดสูสีกับมาสเตอร์โยดาได้ ทั้งเพลงดาบ และวิถีแห่งพลัง (แม้ว่ามาสเตอร์โยดาจะเป็นฝ่ายถอยไปเองก่อนก็ตาม) ไม่มีอะไรต้องกังขาถึงความเก่งกาจของลอร์ดแห่งด้านมืดคนนี้แล้ว
2.เมซ วินดู
เจไดมาสเตอร์ที่จัดว่าเก่งเป็นอันดับสองของจักรวาล (ในภาพยนตร์ โยดากลับบอกว่า เมซ วินดู คือเจไดที่เก่งที่สุดในจักรวาลซะงั้น) ทั้งเรื่องของเพลงกระบี่ หรือวิถีแห่งพลังก็ตาม ความเก่งในเพลงกระบี่ของเขาเข้าขั้นปรมาจารย์ได้ และมักถูกนำไปเทียบเปรียบมวยกับเคาท์ดูกูเสมอ แต่มาสเตอร์วินดูเหมือนจะมีภาษาีที่ดีกว่า เพราะว่ามาสเตอร์วินดูเป็นผู้ที่คิดค้นวิชา “กระบี่แสงวาแพด” ที่ต่อยอดจาก “เพลงกระบี่จูโย” แต่ใส่ความก้าวร้าว ร้ายกาจเกือบจะเข้าสู่วิถีมืด เพราะผู้ใช้จะมีเพียงแค่คำว่า บุกทะลวงในหัวเท่านั้น ซึ่งต่างจากวิถีเจไดที่เน้นการตั้งรับโดยสงบ จัดว่าเป็นผู้ที่ฝึกวิถีพลังเจไดที่อยู่ปากเหวของศาสตร์มืด
การต่อสู้ของมาสเตอร์วินดูที่เด่นชัดก็คือการดวลกับ “จังโก้ เฟทท์” นักล่าเงินรางวัลตัวแสบของจักรวาล เพลงกระบี่ของวินดูไม่สะท้านกับปืนเลเซอร์ของจังโก้ มีแต่จะวิ่งโถมเข้าหา และสุดท้าย เขาก็สามารถตัดศีรษะของจังโก้ได้ในดาบเดียว ใน EP2 …รวมไปถึงการต่อสู้กับ สมุหนายกพัลพาทีน หรือ ดาร์ธ ซีเดียส การรุกไล่ด้วยเพลงกระบี่วาแพด ก็ทำให้มีชัยเหนือพัลพาทีน เพียงเท่านี้ก็บ่งบอกแล้วว่าเมซวินดู คือตัวละครที่เก่งกาจอันดับต้นๆ
ถ้าไม่มีปัจจัยอย่าง อนาคิน เข้ามาขวาง เรื่องราวของ StarWars และ ซิธลอร์ด คงจะจบลงใน EP3 (มาสเตอร์วินดู ตายเพราะอนาคินเข้ามาตัดแขน และถูกสายฟ้าของพัลพาทีนซัดซ้ำจนกระเด็นตกตึกไป)
1.โยดา
“เจได ไม่มีคำว่าลอง มีแค่ทำ หรือไม่ทำ!” วลีเด็ดจากปากเอเลี่ยนแก่ๆร่างแคระอายุ 800 กว่าปีที่มีชื่อเสียงและทรงพลังที่สุดในกาแลกซี และเป็นหนึ่งในเจไดแห่งสาธารณรัฐกาแลกติกที่รอดชีวิตจาก สงครามโคลน และการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ เป็นผู้ที่บรรลุศาสตร์ของเจไดทุกแขนงตั้งแต่เพลงกระบี่ ไปจนถึงวิถีแห่งพลัง (แต่ไม่มีใครทราบว่าโยดาสำเร็จวิชากระบี่แสงวาแพดของมาสเตอร์วินดูหรือไม่!?) เป็นผู้ที่มองโลก และเข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง สามารถจับกระแสพลัง นิมิต ความกังวลของผู้คนรอบข้างได้ราวกับตาเห็น แต่โยดามักจะไม่ค่อยแสดงออกอะไรมาก และชอบพูดอะไรให้ผู้ฟังกลับไปขบคิดเอาเอง ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่ลุค สกายวอล์คเกอร์จะมาขอฝึกวิชา ก็ยังพูดจากำกวมวกวนแบบนักปราชญ์เหมือนเดิม…
ผลงานการต่อสู้ของโยดา อาจะไม่เยอะ แต่ลีลาการต่อสู้ด้วยเพลงกระบี่อาตารุ ที่รวดเร็วว่องไวจนรับมือได้ยาก ก็โดดเด่นจนเป็นซีนที่กล่าวถึงเสมอ ทั้งการต่อสู้กับ “เคาท์ดูกู” ใน EP2 ที่ดูโอนอ่อน แต่ทรงพลังในการใช้พลัง อีกทั้งยังต้านการโจมตีของเค้าท์ดูกูจนต้องล่าถอยกลับไป หรือแม้แต่การดวลกับดาร์ธ ซีเดียส หรือพัลพาทีน ที่สภาสูงก็เช่นกัน เรียกได้ว่าพลังของโยดาที่เป็นด้านสว่าง สามารถรับมือกับพลังด้านมืดของพัลพาทีนได้ แม้การดวลจะจบลงที่ทั้งคู่กระเด็นตกจากแท่นลอยในสภาก็ตาม ก็ถือว่า โยดา กับพัลพาทีน มีสเกลพลังไม่ต่างกันเลย ยกเว้นกำลัง และอายุเท่านั้น
—————————–
ผ่านไปแล้วกับ “10 ตัวละครStarWars ที่เก่งที่สุด” วัดจากผลงานและบทบาทตามฉบับภาพยนตร์ โดยการประชุมของทีมงาน Metalbridges.com นะครับ ก็ถ้าตกหล่น ผิดพลาดตรงไหน หรือมีตัวละครแนะนำ ก็ลองแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะครับ
แอดมิน AK47
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก