TOKYO ESP [เรื่องย่อ/ ตัวละคร]

 

TOKYO ESP [เรื่องย่อ/ ตัวละคร]
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 東京ESP
ประเภท : Action, Sci-fi
จำนวนตอน : 12 ตอนจบ
ออกอากาศครั้งแรก : 12 กรกฎาคม ปี 2014 ทางช่อง Tokyo MX, CTC, tvk, TVS, SUN TV, TVQ, GBS, MTV, BS11
ระยะเวลาในการฉาย : 24 นาทีต่อตอน
ผู้ผลิต : Xebec
ลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนภาคภาษาไทยโดย : Bongkoch Publishing
Official website : http://www.tokyo-esp.org/

 

 

“เมื่อเหล่าผู้มีพลังจิตต่างใช้พลังพิเศษเข้าห่ำหันกัน ในโลกใบเดิมที่กำลังจะถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นโลกแห่งเอสเปอร์ พบกับอนิเมชั่นแอ๊คชั่นสุดมันส์เรื่องล่าสุดของปีนี้ Tokyo ESP”

 

 

 

เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองโตเกียว เมื่อ “ฝูงปลาเรืองแสง” จำนวนมากได้แหวกว่ายอยู่เหนือท้องฟ้าของเมืองนี้ น่าแปลกคือน้อยคนนักที่จะมองเห็นฝูงปลาเรืองแสงเหล่านี้ได้ และหากมีใครได้สัมผัสกับปลาเรืองแสงเข้า “พลังพิเศษ” หรือที่เรียกว่า **ESP บางอย่างในตัวของคนๆ นั้นจะถูกปลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งจะทำให้คนธรรมดากลายเป็น “ผู้มีพลังพิเศษ” หรือเรียกกันว่า ESPER ผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์แห่งสามัญความเป็นจริง…

 

ทว่า… พลังพิเศษอันเปรียบได้ดั่งพรแห่งปาฏิหาริย์ ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดเพี้ยน เมื่อเกิดการก่อการร้ายขึ้นในเมืองโตเกียว โดยผู้ก่อเหตุนั้นเป็นเหล่าผู้มีพลังพิเศษ สถานการณ์ขับขันในเวลานี้… สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์เพียงหนึ่งเดียวของพวกเขาเฝ้ารออยู่ ก็คือ…
การกลับมาของ “เด็กสาวสีขาว” ผู้ผดุงความยุติธรรม
(ESP ซึ่งย่อมาจาก Extra Sensory Perception ซึ่งหมายถึง “การรับรู้สัมผัสพิเศษทางระบบประสาท” )

 

แนะนำตัวละคร :

     

อุรุชิบะ รินกะ (พากย์โดย : Ibuki Kido)
Rinka Urushiba (漆葉 リンカ) 

 

สาวน้อยนักเรียน ม. ปลาย นางเอกของเรื่องนี้ ตัวเธอนั้นอาศัยอยู่กับคุณพ่อตามลำพังสองคน ซึ่งจู่ๆ ในวันหนึ่งเธอได้ตามเพ็กกี้ที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า จนได้พบกับปลาเรืองแสงและสัมผัสกับพวกมันเข้า นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเธอได้กลายมาเป็นผู้ใช้พลังพิเศษอย่างไม่ตั้งใจ ในเวลาที่กำลังใช้พลังพิเศษนั้น… เส้นผมของเธอจะเป็นสีขาว จนได้ชื่อว่า “เด็กสาวสีขาว” ถึงจะมีพลังพิเศษ แต่เธอก็มีทักษะวิชาการต่อสู้ แถมยังมีท่าไม้ตายเป็นลูกเตะ Skull Smashing Psy-kick

 

- รูปแบบของพลังพิเศษคือ “ไร้สสาร” ที่สามารถเปลี่ยนสภาพร่างกลายให้ทะลุผ่านวัตถุทางกายภาพได้ทุกๆ รูปแบบ (Phase Through Inanimate Objects)

 

 

 

เคียวทาโร่ อาซุมะ (พากย์โดย : Keisuke Koumoto)
Kyōtarō Azuma (東 京太郎)

 

ชายหนุ่มผู้คอยแนะนำรินกะในช่วงที่เริ่มใช้พลังพิเศษครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับการช่วยเหลือจากรินนะจากการถูกพวกนักเลงข่มเหงมาก่อน ในอดีตวัยเด็กนั้น… เขาสูญเสียครอบครัวและต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยสงครามกลางเมือง เขาได้ถูกช่วยเหลือโดยมินามิและโปรเพสเซอร์จากการถูกฆ่า ก่อนจะได้มาเป็นสมาชิกในครอบครัวอาซึมะ ในฐานะลูกบุญธรรม ตัวเขามีความตั้งใจอยากที่จะเป็นฮีโร่ผู้ยึดมั่นในคุณธรรม จึงใช้นามของบุรุษหน้ากากอีกา… ซึ่งตนเองย่อมรู้ดีว่ามันไม่ง่ายดาย คำพูดติดปากคือ “มิราเคิล” อันหมายถึง “ปาฏิหาริย์”

 

- รูปแบบของพลังพิเศษคือ เทเลพอร์ต (Teleport) การเคลื่อนไหวไปยังที่ๆ หนึ่งในช่วงพริบตา

 

 

 

รินโดว อุรุชิบะ (พากย์โดย : Tetsu Inada)
Rindō Urushiba (漆葉 竜胆)

 

ชายวัยกลางคนร่างยักษ์ ผู้เป็นคุณพ่อของรินกะ อดีตนายตำรวจเก่า นิสัยดุดันและรักความถูกต้อง รินกะเลยได้รับนิสัยบางส่วนของเขามา (ส่วนไอ้เรื่องความมุทะลุนั้น ก็คงสืบทอดจากคนพ่อสู่คนลูกกันมาด้วยเหมือนกัน) เขาได้กลายเป็นผู้ใช้พลังพิเศษอย่างงงๆ หลังจากที่ได้สัมผัสกับปลาเรืองแสง (ต้นแบบตัวละครตัวนี้ล้อเลียนตัวละคร วูฟเวอรีน ใน X-MEN ครับ)

 

- รูปแบบของพลังพิเศษคือ “เปลี่ยนร่างกายตัวเองให้เป็นสนามแม่เหล็ก” (Magnetic Field)

 

 

 

     

โคบุชิ คุโรอิ (พากย์โดย : Mai Aizawa)
Kobushi Kuroi “Black Fist” (黒井 小節)

 

สาวน้อยต่อยหนักผมสีแดง ในตอนแรกเธอเป็นจอมโจรไร้เงา หัวขโมยที่มักจ้องจะเอาของมีค่าที่ถูกใจ มีทักษะเชิงมวยอันน่ากลัวอยู่ไม่น้อย ช่วงแรกของเรื่องเธอเป็นศัตรูกับพวกรินกะที่มาขัดขวางการโจรกรรมของเธอ แต่แล้วท้ายสุดนั้น… คุณเธอดันไปแอบปลื้มคุณพ่อของรินนะที่ได้ช่วยเหลือเธอ จึงได้เข้าเป็นพรรคพวกด้วยซะแบบนั้น เธอมีน้องสาวที่ชื่อ โคซุกิ คุโรอิ ที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้าย อยู่ฝ่ายของโปรเฟซเซอร์

 

- รูปแบบพลังจิตคือ “การล่องหน” (Invisible)

 

 

 

มุราซากิ เอโดยามะ (พากย์โดย : Azusa Tadokoro)
Murasaki Edoyama (江戸山 紫)

 

น้องแว่นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเอโดยามะ (บุตรีแห่งสปาร์ตั้น อุ๊ป… ไม่ใช่ล่ะ) ด้วยความที่เธอเป็นลูกสาวของตระกูลยากูซ่าที่มีอิทธิพล จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อน อีกทั้งเธอยังกำพร้าคุณแม่ตอนที่ยังจำความไม่ได้ แต่พอได้มาเจอกับเพ็กกี้ เธอจึงได้แอบเลี้ยงดูเพ็กกี้โดยไม่ให้ทางบ้านได้รู้ เพียงเพราะต้องการเพื่อนสักคนที่เข้าใจในตัวเธอ พอเธอได้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มันจึงทำให้เธอเริ่มที่จะมีจิตใจเข้มแข็งมากขึ้นกว่าเดิม

 

- รูปแบบของพลังพิเศษคือ “ไซโคเมทรี่” (Psychometry) ที่สามารถอ่านความทรงจำของวัตถุที่ตกค้างอยู่ได้ (ที่เหนือกว่าก็คือ เธอยังสามารถเรียนรู้การฝึกวิชาการต่อสู้จากความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในอาวุธที่เคยมีคนใช้มาก่อนได้อีกด้วย)

 

 

 

เพ็กกี้ (พากย์โดย : Kaoru Mizuhara)
Peggi (ペギー)

เพนกวินปริศนาเพศผู้ที่บินได้ (?) ที่ยังไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากที่ไหนแล้วเกี่ยวข้องกันกับพวกฝูงปลาเรืองแสงอย่างไร เพียงแต่มันถูกเรียกว่า “คอลเลคเตอร์” (Collector=ผู้รวบรวม) นิสัยเชื่องและเข้าใจภาษาของมนุษย์ มีความสามารถในการกิน ESP ซึ่งหากใครถูกเพ็กกี้กลืนกินปลาเรืองแสง จะส่งผลให้สูญเสียพลังพิเศษไปทั้งหมด

 

 

 

โอโซระ อายุมุ (พากย์โดย : Megumi Ogata)
Ayumu Oozora (大空 歩)

 

หนุ่มแว่นที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์โยดาแพนด้า ในรุ่นที่ 8 เขามีทักษะวิชาการต่อสู้แบบคาลิ (Kali) จุดเด่นของเขาอยู่ที่ทรงผมที่ฟูฟ่องซึ่งตัวเขาไม่ชอบให้ใครๆ มาเรียกว่าเอฟโฟ

 

- รูปแบบพลังจิตคือ “การมองเห็นอนาคต” (Prognostication) ได้

 

 

 

อาซึมะ มินามิ (พากย์โดย : Sachika Misawa)
Azuma Minami (東 美奈実)

 

สาวน้อยผมดำ บุตรสาวของครอบครัวอาซึมะ ในสมัยวัยเด็ก… เธอเคยช่วยเหลือเคียวทาโร่ที่กำลังจะถูกฆ่า ก่อนจะพาไปอยู่ด้วย ซึ่งเธอเปรียบเหมือนน้องสาวบุญธรรมของเคียวทาโร่ ถนัดวิชาการใช้ดาบคู่ แม้เธอจะมีนิสัยที่เป็นคนพูดน้อย เย็นชาและดูเลือดเย็น แต่ใช่ว่าจะสังหารคู่ต่อสู้โดยที่ไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านต่อจิตใจใดๆ และมีฝีมือในการต่อสู้ที่ร้ายกาจมากๆ ตัวเธอเกลียดโลกใบเดิมที่เต็มไปด้วยมนุษย์จิตใจโสมม จึงพยายามที่จะดึงตัวเคียวทาโร่มาร่วมมือด้วย

 

- รูปแบบพลังจิตคือ “เทเลพอร์ต” (Teleport) เช่นเดียวกันกับเคียวทาโร่

 

 

 

     

โปรเฟซเซอร์ (พากย์โดย : Yoshihisa Kawahara)
Professor (教授= kyōju)

ชายหนุ่มมาดสุขุม มีชื่อที่แท้จริงว่า อาซุมะ โฮคุไซ (東 北斎) ตามเนื้อหาของมังงะนั้น เขาเป็นคุณพ่อของมินามิ และเป็นผู้รับอุปการะเลี้ยงดูเคียวทาโร่ เนื่องจากเขาเคยรู้จักกับครอบครัวของเคียวทาโร่มาก่อน เขาเป็นผู้วางแผนการที่จะให้คนธรรมดาได้กลายเป็นผู้มีพลังพิเศษ โดยการใช้ชิ้นส่วนศิลาที่มีปลาเรืองแสงสถิตอยู่ เพื่อสร้างกองกำลังเหล่านักรบพลังจิต ก่อการปฏิวัติเพื่อสร้างยุคใหม่ที่จะถูกปกครองด้วยเหล่าผู้มีพลังพิเศษ ล้มล้างกฎเกณฑ์ของโลกใบเดิมที่เต็มไปด้วยความเน่าเฟะของจิตใจมนุษย์

 

- รูปแบบของพลังพิเศษคือ “การสร้างภาพลวงตา” (Illusion) ที่ราวกับหลุดเข้าไปในอีกโลกที่เสมือนจริงได้

 

 

 

ภาพจากในอนิเมะบางส่วน :

 

ฝูงปลาเรืองแสงแหวกว่ายไปตามเมืองโตเกียว โดยที่น้อยคนนักจะรู้สึกตัวว่ามีพวกมันอยู่

 

 

รัฐสภาญี่ปุ่นถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เป็นเอสเปอร์บุกเข้ายึด และกำลังลอยอยู่เหนือเมืองโตเกียว 

ชายผู้ที่เรียกตัวเองว่าโปรเฟซเซอร์ เขาคือผู้นำของขบวนการก่อการร้ายในครั้งนี้

 

 

 

วิชาดาบคู่ของมินามิที่สามารถสังหารคู่ต่อสู้ที่กำลังชี้ปลายทางปืนมาหาตัวเธอได้อย่างน่ากลัว

 

 

 

ในช่วงแรกที่รินกะได้รับพลังพิเศษจากปลาเรืองแสง ยังเธอยังคงมึนงงๆ กับชีวิต จนได้เคียวทาโร่มาช่วยสอนให้

 

 

 

จอมโจรไร้เงาสิ้นลาย เมื่อเจอคอมโบคู่ประสานของรินกะและเคียวทาโร่แบบอยู่หมัด

เคียวทาโร่เข้าขวางทางหมดตรงของจอมโจรไร้เงาได้ทันจังหวะพอดี ก่อนจะใช้พลังเทเลพอร์ตจับตัวเธอเอาไว้ได้

 

     

 

เคียวทาโร่ประกาศตนว่าเป็นหน้ากากอีกาผู้ผดุงความยุติธรรม หลังจากจับจอมโจรไร้เงาได้แล้วส่งให้ตำรวจไป

 

 

 

เหล่าผู้ใช้พลังพิเศษกำลังวางแผนปล่อยฝูงปลาเรืองแสงเหนือเมืองโตเกียว

 

 

 

ปลาฉลามเรืองแสงที่เพ็กกี้เรียกออกมาเพื่อกลืนกินปลาเรืองแสงของอีกฝ่าย จนทำให้ไม่สามารถใช้พลังพิเศษได้อีกต่อไป

 

 

 

ยักษ์ขนาดมหึมาซึ่งเป็นภาพลวงตาที่โปรเฟซเซอร์สร้างหลอกขึ้น เพื่อชิงเอาเศษศิลาโบราณคืนจากโคบุชิ

 

 

 

ผู้คนต่างแตกตื่นที่ได้เห็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ลอยเหนือเมืองโตเกียว การเริ่มต้นของแผนการก่อการร้ายของเหล่าผู้มีพลังพิเศษ

 

 

 

โฉมหน้าที่แท้จริงของโปรเฟซเซอร์ที่มีแผลครึ่งหน้า (นี่มัน TWO FACE ใน BATMAN ชัดๆ )

 

 

 

เคียวทาโร่ตัดสินใจกระโดดไปช่วยรินกะที่บาดเจ็บจนหมดสติไป

 

 

 

แถมท้ายด้วยรูปสุด SEXY ของเด็กสาวสีขาว… เราที่เห็นแล้ว เราชอบมาก เราจึงแชร์และแบ่งบัน

(**ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก randomc.net)

 

 

 

 

AnimeRank : B+  คะแนน : 8.5/10 

ข้อดี : องค์ประกอบของการนำเสนอเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆ , ตัวละครในภาคอนิเมะออกแบบใหม่ได้ดูดีกว่าต้นฉบับมังงะ, เพลงประกอบอลังการดีซึ่งดึงอารมณ์ร่วมได้มาก

จุดด้อย : ฉากต่อสู้ดูไม่ค่อยเท่าไหร่, ภาคอนิเมะเล่นตัดมุกตลกออกไปเพียบ… จนกลายเป็นการ์ตูนเครียดซะแบบนั้น

 

ผลงานอนิเมะสร้างจากต้นฉบับมังงะของ อ. Hajime Segawa ที่วาดลงในนิตยาสาร Shōnen Ace magazine รายเดือน ในเครือของ Kadokawa Shoten ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2010 โดยจนถึงปัจจุบันนี้ออกฉบับรวมเล่มวางขายถึงเล่มที่ 11 ซึ่งในไทยนั้นได้รับลิขสิทธิ์ฉบับหนังสือการ์ตูนโดยค่าย บงกช พับลิชชิ่ง จนกระทั่งได้เป็นอนิเมชั่นทีวีซี่รี่ย์ โดยฝีมือการสร้างของ สตูดิโอ Xebec เริ่มออกฉายครั้งแรกเมื่อ 11 กรกฎาคม ปี 2014 ที่ผ่านมานี่เอง…

 

เนื้อหาของอนิเมะของเรื่องนี้ยังคงอิงโครงเรื่องจากต้นฉบับของมังงะอยู่เช่นเดิม แต่จะมีการวางไทม์ไลน์ช่วงเวลาขึ้นมาใหม่ โดยในตอนแรกสุดที่ออกฉายนั้น ได้หยิบยกเอาช่วงเวลาของตอนที่ 23 ของต้นฉบับมังงะ ซึ่งเป็นช่วงการดำเนินเรื่องที่พีคที่สุดมาเปิดเป็นตอนแรกของเรื่อง ก่อนที่ตัวบทในอนิเมะจะไปคนดูเข้าไปสู่เนื้อหาของตอนที่ 1 ตามต้นฉบับมังงะ อันเป็นจุดเริ่มต้นในเรื่องราวของตัวนางเอกว่าเป็นใคร และถ้าไม่ผิดแผกจากบทที่วางเอาไว้ อนิเมะน่าจะไปสิ้นสุดลงในตอนที่ 27 ของต้นฉบับมังงะ (เพราะหลังจากตอนที่ 27 จะมีการเปลี่ยนตัวแสดงหลักคนใหม่) ซึ่งหากใครติดตามในภาคมังงะเข้าใจดี จะเห็นว่าในมังงะมีการเล่นมุกตลกอยู่แทบทุกๆ ตอน แต่พอได้เป็นมาอนิเมะ ทางผู้สร้างเล่นตัดมุกเวิ่นเวอออกไปซะหมดเกลี้ยง กลายเป็นว่ามันทำให้ภาคอนิเมะมีเนื้อหาดูเคร่งเครียดขึ้นอย่างผิดหูผิดตามากๆ

 

ที่น่าสนใจนั้นคงเป็นแง่ของการเล่นมุกล้อเลียน หากลองสังเกตกันดูดีๆ แล้ว อ. Hajime Segawa ดูจะชื่นชอบฮีโร่หรือหนังภาพยนตร์จากทางฝั่งอเมริกามากๆ จึงได้สร้างตัวละครล้อเลียนออกมาโลดแล่นอยู่หลายตัว อย่างเช่น วูฟเวอรีน ใน X-MEN, มาสเตอร์โยดาจาก Star Wars, Two Face จาก BATMAN, Leonidas จาก 300 Spartans ฯลฯ สำหรับใครที่ติดตามผลงานมังงะเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะลองหาภาคอนิเมะมารับชมด้วยนะครับ ผมว่าสนุกไปอีกแบบนะ^^

 

By miraclesaven

 

Staff
Director : Shigehito Takayanagi
Series Composition : Hideyuki Kurata
Script : Hideyuki Kurata, Katsuhiko Takayama, Yasuko Kamo
Original creator : Hajime Segawa
Character Design : Shintetsu Takiyama
Art Director : Ryouka Kinoshita
Sound Director : Yota Tsuruoka
Director of Photography : Tomoyuki Nakata
Color design : Yumi Aburaya
Editing : Jin Nogawa
Music : Evan Call

 

Theme Song Performance : Faylan (OP), Yousei Teikoku (ED)
Opening Theme : “Tokyo Zero Hearts” by Faylan

 

 

 

 

Ending Theme : “Guze Άργυρóϛ” (Silver Salvation) by Yousei Teikoku