The Untold Story ซาลาเปาเนื้อคน
ประเภท: ภาพยนตร์
แนว: อาชญากรรม, ระทึกขวัญ
กำกับโดย: Herman Yau
นำแสดงโดย: Anthony Wong, Danny Lee
เข้าฉายวันที่: 13 พฤษภาคม 1993
หากพูดถึงหนังฮ่องกงที่ได้ชื่อว่าโหดเข้าขั้นจนเป็นตำนาน แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงผลงานของ Herman Yau อย่าง The Untold Story ในปี 1993 ที่ได้นักแสดงขาประจำของเขาอย่าง Anthony Wong ในบทชายสุดโหดที่ลงมือสังหารเจ้าของร้านและครอบครัวอย่างเลือดเย็นก่อนจะอำพรางศพ ด้วยการนำเนื้อศพมาทำเป็นไส้ซาลาเปา แล้วเสิร์ฟให้ลูกค้ารับประทาน!! นี่คือหนังเกรดสามโหดที่สุด เท่าที่วงการหนังฮ่องกงกงเคยมีมา แล้วทำให้ชื่อของ Anthony Wong ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายจากเทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกงประจำปี 1993 นอกจากนี้มันยังสร้างแรงสั่นสะเทือนเมื่อหนังออกฉายทำให้เมนูซาลาเปาขายไม่ออกอยู่หลายปี จากอิทธิพลของหนังเรื่องนี้
ต้อนรับเดือนแห่งความสยดสยอง วันนี้เราจะย้อนรอยหนังเรื่องนี้กันครับ
เรื่องราวเมนูสุดสยอง
**คำเตือน- เรื่องราวและเนื้อหาบทความนี้ อาจมีภาพหรือการกระทำที่ชวนสยดสยอง โปรดใช้วิจารณญาณ**
เช้าวันหนึ่งในมาเก๊า ชาวบ้านที่อาศัยละแวกนั้นต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบชิ้นส่วนแขนขาศพลอยอยู่ชายฝั่งส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ก่อนจะแจ้งตำรวจให้มาดูพื้นที่ หลายชั่วโมงผ่านไปทางตำรวจก็ได้ทำการปิดพื้นที่ไม่ให้คนทั่วไปเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่ทีมสืบสวนนำโดย สารวัตรลี จะเข้ามาพื้นที่ก่อนจะนำชิ้นส่วนศพไปพิสูจน์หลักฐานว่าใครเป็นเจ้าของศพ
การสืบสวนกลับกินเวลานาน (ส่วนหนึ่งจากลูกน้องของสารวัตรลี) จนกระทั่งวันหนึ่งทีมของพวกเขาได้รับจดหมายจากจีนแผ่นดินใหญ่ส่งมา มีใจความว่าเขาติดต่อพี่ชายว่า ชื่อ เจิ้นหลิน ไม่ได้ร่วมเดือน ส่งจดหมายติดต่อหลายครั้งโดยพี่ชายเปิดร้านอาหารชื่อว่า ร้าน 8 เซียนมังกร อยากจะให้ช่วยตามหา ทำให้สารวัตรลีตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีชิ้นส่วนศพ โดยให้ลูกน้องไปสืบที่ร้านเพื่อหาเบาะแส
ทีมของสารวัตรลีก็เดินทางมายังร้านอาหาร 8 เซียนมังกรตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อตามหา แต่เมื่อเข้าไปในร้านกลับพบว่าเจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนชื่อ หวังจื่อเหอ ซึ่งเขาเห็นท่าทางเมื่อเจอตำรวจจึงตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเลี้ยงซาลาเปาหมูสับ เมนูขึ้นชื่อของร้านที่ใครแวะเวียนมาต้องสั่งจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งเจ้าของร้านก็เลี้ยงซาลาเปาและให้การกับตำรวจ ซึ่งเหล่าทีมตำรวจก็สังเกตท่าทางที่ดูลนลาน ก่อนจะกลับไปสถานี แต่ หวังจื้อเหอ ก็เลี้ยงซาลาเปาสองกล่องแบบไม่คิดเงิน
หลังจากกลับมาจากร้านอาหารเหล่าตำรวจจึงรับประทานอาหารเที่ยง นั่นคือซาลาเปาหมูสับเลิศรสของขึ้นชื่อจากร้าน 8 เซียนมังกร ก่อนที่พวกเขาและตำรวจแผนอื่นจะมารับประทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่วงแตกเพราะหัวหน้าพวกเขามาก่อนจะถามพวกเขาว่าไปสืบมาได้เบาะแสอะไรบ้าง ซึ่งได้ใจความคร่าวๆว่า หวังจื่อเหอ เซ้งร้านดูแลต่อจาก เจิ้นหลิน ในราคาประมาณแสนแปด นอกจากนี้ หนึ่งในทีมได้สอบถามแคชเชียร์ ที่จอซึ่งมีท่าทีหวาดกลัวเจ้าของร้าน แถมยังได้จดหมายจากเมืองจีนเช่นเดียวกับพวกเขา ทำให้สารวัตรลี เริ่มจะปะติดปะต่อ เรื่องราว ก่อนจะให้พวกเขาไปสืบข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งทนายที่ดำเนินเอกสารการโอนร้าน รวมถึงเบาะแสอื่นๆ
หลังจากที่ลงไปสืบเบาะแสอีกครั้ง ดูเหมือนว่าทุกอย่างเริ่มจะกระจ่าง ซึ่งพวกเขาได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า เอกสารเจ้าของร้านยังเป็นชื่อของ เจิ้นหลิน ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงยกร้านให้เจ้าของคนใหม่แต่ยังใด นอกจากนี้ลูกๆไม่ได้มาเรียนหนังสือนานหลายอาทิตย์ แถม เจิ้นหลินมีน้องชายอีกคนชื่อ เจิ้นปอ ซึ่งยังอยู่ในคุก บวกกับรอยนิ้วมือศพที่ได้รับว่าเป็นชิ้นส่วนศพคนในครอบครัว เจิ้นหลิน ทำให้สารวัตรลีตัดสินใจนำทีมไปยังร้าน 8 เซียนมังกร เพื่อสอบถาม หวังจื้อเหอ ที่รอบนี้เขากลับมีพิรุธจนทีมสารวัตลีสังเกตได้ชัด เมื่อออกจากร้าน จึงสั่งให้จับตาดู หวังจื้อเหอ ไม่ให้ละสายตา
ขณะที่ทางด้านหวังจื้อเหอ ก็เริ่มรู้สึกหวาดระแวงจึงตัดสินใจเตรียมตัวจะหลบหนีกลับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทานด้านทีมตำรวจก็ได้เบาะแสและหลักฐานที่พอจะหมัดตัวเขาได้ รวมถึงลูกน้องที่เจอหลักฐานที่เขาพยายามจะทำลายหลักฐาน พวกเขาจึงรีบไปท่าเรือแล้วพบว่า หวังจื้อเหอ กำลังจะหลบหนี จึงรีบเข้าจับกุม ก่อนจะนำตัวไปสืบสวนทันที
หลังจับจับกุมได้ สารวัตรลีและลูกน้องลงมือสอบสวน หวังจื้อเหอด้วยตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็ยืนกรานและปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนร้าย แถมพยายามจะหลบหนีซึ่งตรงกับจังหวะที่เหล่านักข่าวมารอทำข่าว จนข่าวออกมากลายเป็นว่าพวกเขาซ้อมผู้ต้องหา ทำให้สารวัตรลีจึงตัดสินใจส่งหวังจื้อเหอไปอยู่ในคุกเดียวกับ เจิ้นปอ น้องชายของเจิ้นหลิน แน่นอนว่าหวังจื้อเหอ จึงถูกน้องชายผู้ตายและนักโทษรับน้องแบบสะบักสะบอม ครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากอ่วมครั้งแล้วครั้งเล่า หวังจื้อเหอ ก็ถูกย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เขาก็มีความพยายามที่จะหลบหนีอีกครั้ง แต่สุดท้ายดิ้นไม่หลุดแถมยังถูกสารวัตรลีและลูกน้องเค้นสอบปากคำ แม้จะปากแข็งแค่ไหนแต่ท้ายสุดแล้วเมื่อดิ้นไม่หลุดเขาจึงยอมรับสารภาพว่าเขาได้ฆ่าจื้อหลินและครอบครัว ก่อนจะเผยเรื่องราวสุดสยองที่ทำให้สารวัตรลีและลูกน้องต้องจำไปจนตายเลยทีเดียว
ชนวนสาเหตุที่เกิดเหตุคดีสุดสะเทือนขวัญครั้งนี้ เกิดจากที่หวังจื้อเหอ และ จื้อหลิน มีเรื่องความขัดแย้งจากการเล่นไพ่นกกระจอก แล้วปรากฏว่า จื้อหลินแพ้พนันและติดเงินอีกฝ่ายอยู่ที่ 180,000 เหรียญ ซึ่งทางจื้อหลินก็ตกลงกับคู่กรณีว่าจะหาเงินใช้หนี้ภายใน 1ปี และเอาร้านอาหารเป็นค้ำประกัน แต่เมื่อ จื้อหลิน กลับไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้แถมหนี้ก็ยังพอกพูนมากขึ้น จึงตัดสินใจ ไม่หนีและไม่จ่าย ก่อนจะมีปากเสียงอย่างรุนแรง จนภรรยาของเขาต้องมาห้ามปราม แต่เมื่อทุกอย่างมันเดือดดาลจนเกินความควบคุม นายหวังจึงใช้ขวดปากฉลามตีที่หัวของจื้อหลิน ก่อนจะจับตัวคนในครอบครัว แล้วสังหารยกครัวอย่างเลือดเย็น
ตลอดทั้งคืนเขาลงมือฆ่าจื้อหลินและครอบครัวอย่างเลือดเย็น เมื่อฆ่าหมดทุกคนเขาใช้เวลาทั้งคืนทำการชำแหละศพทีละคนๆ โดยใช้เวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งมีบางส่วนที่นำไปใส่ในตู้แช่ บางส่วนก็เตรียมจะทิ้งลงทะเลเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งกินเวลาจนถึงเช้าวันใหม่ เมื่อญาติของจื้อหลินเข้ามา ก็จึงสังหารเป็นอีกศพ รวมทั้งสิ้น 10 ชีวิตที่ต้องสังเวยจากน้ำมือโหดของหวังจื้อเหอนั่นเอง
หลังจากนั้นเขาจึงเตรียมตัวนำชิ้นส่วนร่างกายที่เหลือไปทิ้งทะเล โดยช่วงนี้เขาจึงขโมยกุญแจร้านและหอบเสื้อผ้าหนีไปอยู่ใกล้ๆร้าน โดยเขาเขียนประกาศว่าปิดร้านสามวัน หลังจากนั้นก็กลับมาเปิดร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวอำมหิต สารวัตรลี จึงถามต่อไปว่าชิ้นส่วนร่างกายทิ้งลงทะเล แล้วพวกชิ้นเนื้อเขาจัดการอย่างไร หวังจื้อเหอจึงตอบที่ทำให้ทุกคนที่ได้ยินถึงกับสะอิดสะเอียนไม่น้อย เขาบอกว่า พวกชิ้นเนื้อศพเขาเอามาผสมกับเนื้อหมูนำมาทำไส้ซาลาเปาหมูสับ ส่วนกระดูกที่เหลือก็เอามาทุบละเอียดต้มพร้อมน้ำซุปแล้วมาผสมกับไส้ซาลาเปา จนกลายเป็น ซาลาเปาหมูสับ เมนูขึ้นชื่อของร้าน ซึ่งทำให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ศพที่ชายหาดพอดี แน่นอนว่าเหล่าลูกน้องสารวัตรลีที่ได้ยินถึงกับอาเจียนไม่หยุด (คนดูเองก็เช่นกัน ฮ่า!)
ในที่สุดหลังจากรวบรวมหลักฐานจนได้ข้อสรุปชัดเจนว่า หวังจื้อเหอ ได้ฆ่าล้างครัวจื้อหลินและครอบครัว 10 ศพ นอกจากนี้ยังพบว่าเขาเคยก่อคดีกับเจ้าหนี้ที่ฮ่องกงเมื่อหลายปีก่อน ในที่สุดศาลจึงตัดสินประหารชีวิตเขา ซึ่งทันทีที่ข่าวแพร่หลายออกไป ทำให้ผู้คนไม่กล้าทานซาลาเปาไปหลายปี เรียกว่าเป็นหนึ่งในคดีที่อำมหิตที่สุดในมาเก๊าก็ว่าได้
แต่ทว่า หวังจื้อเหอ กลับจบชีวิตตัวเองก่อนจะถึงวันประหารชีวิต ปิดตำนานฆาตกรสุดโหดแห่ง 8 เซียนมังกร ส่วนร้านก็ปิดตัวลงไปโดยปริยาย
จากคดีสะเทือนขวัญสู่ภาพยนตร์สุดโหด
The Untold Story หรือ ซาลาเปาเนื้อคนนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนังฮ่องกงที่โหดและอื้อฉาว ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งหนังมีที่มาจากเรื่องจริง ซึ่งในตอนนั้นมีสมมุติฐานหลายอย่างบนโลกออนไลน์ เช่น เหตุการณ์ที่เจ้าของร้านซาลาเปาที่ไม่มีเงินซื้อวัตถุดิบชั้นดีจึงขอให้น้องชายที่เป็นสัปเหร่อ หาศพคนมาเฉือนเนื้อแล้วเอาไปทำไส้ซาลาเปา หรือ ฆาตกรที่ฆ่าเจ้าของร้านแล้วสวมรอยเป็นเจ้าของร้านแทน แต่เมื่อดูเนื้อหาในหนังในที่สุดก็มีคนเผยว่าเหตุการณ์ที่เป็นต้นทางของหนังเรื่องนี้คือ เหตุการณ์ฆาตกรรมของนาย หวางซิเหลียน ที่ลงมือสังหาร เจิ้งเหอและครอบครัว ที่ภัตตาคาร 8 เวียนมังกร เรียกว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญในมาเก๊าแถมซาลาเปาขายไม่ออกไปพักใหญ่
และด้วยเรื่องราวที่สะท้านจนเป็นตำนานก็มีนักสร้างหนังคนหนึ่งที่หวังจะถ่ายทอดเรื่องราวสุดโหดลงจอใหญ่ เขาคือ Herman Yau ผู้กำกับลายครามของหนังฮ่องกง ที่หยิบคดีสุดโหดมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และส่งบทฆาตกรจอมโหดให้กับ Anthony Wong ซึ่งตัวหนังก็ยังคงแก่นกลักของเรื่องราวครบถ้วน มีเพียงปรับเปลี่ยนตัวละครเท่านั้น เช่นบทลูกจ้างชายหญิงที่มาแทนที่ญาติและพ่อครัวที่ถูกนายหวังฆ่าเพื่อให้มีน้ำหนักว่า เขายังฆ่าคนเพื่อนำเนื้อมาทำซาลาเปานั่นเอง
สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นที่จดจำนั่นคือการแสดงสุดโหดของ หวงซิวเซิน ที่สามารถถ่ายทอดบทบาทฆาตกรโรคจิตจนหลายคนหวาดกลัวแกกันเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละฉากก็รังสรรค์จนหลายฉากยังคงติดตาติดใจใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นฉากสังหารลูกจ้างสาวด้วยตะเกียบ (โหดมากๆ) และฉากสังหารยกครัวที่โหดเหี้ยมอำมหิต ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้ชื่อของเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกงประจำปี 1993 สาขานักแสดงนำชายอดเยี่ยมและคว้ารางวัลชินพลิกความคาดหมาย เพราะเป็นดาราจากหนังเกรดสามที่คว้ารางวัลใหญ่ เคียงคู่กับ Anita Yuen ที่ได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง C’est la vie, mon chéri ทำให้ปีนั้นเป็นปีที่น่าสนใจเพราะนักแสดงนำยอดเยี่ยมมาจากสายหนังที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ข้อสำคัญหนังเรื่องนี้ทำให้ชื่อของ หวงซิวเซิน กลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังเกรดสาม แล้วยังเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของเขาในอีกหลายปีต่อมา
ต้องบอกว่าหนังเรื่อง The Untold Story กลายเป็นหนังสุดโหดและอื้อฉาวหาเรื่องใดมาเทียบได้ แถมสร้างแรงสะเทือนทั้งในมาเก๊าและฮ่องกงเหมือนเหตุการณ์จริง อย่างที่ได้กล่าวไปว่าร้านซาลาเปาขายไม่ออกบางคนก็ไม่กล้าทานไปหลายปี ซึ่งหนังได้ฉายในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยที่ตอนนั้นดูจบต้องมีเรื่องคุยหลายอาทิตย์แน่นอน ขณะที่หนังก็มีสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนดังเทียบเท่าภาคแรก จนทุกวันนี้
ก็จบแล้วครับสำหรับย้อนรอยหนังดังสุดฉาว The Untold Story หรือ ซาลาเปาเนื้อคนที่นำมาฝากกัน ใครเคยได้ดูก็ลองมาเล่าสู่กันฟังได้เลยครับ….
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Untold_Story
https://www.blockdit.com/posts/5d8cd9dfc772012b2369a9f7
https://en.wikipedia.org/wiki/Eight_Immortals_Restaurant_murders