เปิดตำนานหนอนยักษ์กราบอยด์แห่งหนังชุด “ทูตนรกล้านปี” (The Tremors)

เปิดตำนานหนอนยักษ์กราบอยด์แห่งหนังชุด  “ทูตนรกล้านปี” (The Tremors)

 

ในช่วงยุค 90’s  เป็นช่วงยุคเฟื่องฟูของหนังสยองขวัญส่งตรงลงม้วนวีดีโอ บางเรื่องก็หายไปตามกาลเวลาหรือยังคงเป็นที่กล่าวถึงจนปัจจุบัน  หนึ่งในนั้นจะต้องมีหนังชุด The Tremors หรือชื่อไทย ทูตนรกล้านปี ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1990 ก่อนจะมีการสร้างภาคต่อจนถึง 7 ภาค กับเรื่องราวของสัตว์ประหลาดหนอนยักษ์ที่อาศัยอยู่ใต้ดินออกฆ่าผู้คน เป็นว่าเล่นจนทำให้เหล่าผู้รอชีวิตไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้กับพวกมัน  วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเจ้าสัตว์ประหลาดหนอนยักษ์จากใต้ดินผ่านเรื่องราวสยองปนความฮาจากหนังชุดนี้กัน เชิญรับชมกันได้เลยจ้า

**เรื่องราวในบทความนี้ได้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ**

 

 

 

 

 

 

 

ทำความรู้จัก กราบอยด์ (Graboid)

กราบอยด์ (Graboid)

กราบอยด์  เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายหนอนอาศัยอยู่ใต้ดินแถบทะเลทรายในรัฐเนวาด้ามานับหลายร้อยปี ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมีชีวิตตั้งแต่ยุคพรีแคมเบรียน  พวกมันเกิดจากไข่ที่ใช้เวลาฟักตัวก่อนจะพัฒนากลายเป็นหนอนยักษ์ ลักษณะจุดเด่นของมันคือ ปากมีลิ้นแยกที่สามารถเอาไว้ใช้รัดหรือลากเหยื่อแล้วกลืนร่างได้ทั้งตัว พวกมันสามารถรู้ตำแหน่งของเหยื่อได้จากการตรวจจับแรงสั่นสะเทือนบนพื้นดิน พวกมันเคลื่อนไหวโดยใช้เขี้ยวเล็กๆไว้เคลื่อนไหว ผิวหนังของพวกมันหนามาก ทำให้กระสุนปืนก็ไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากจะต้องใช้อาวุธหนักถึงจะจัดการได้อยู่หมัด

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเวลาผ่านไปพวกมันยังสามารถพัฒนาสายพันธุ์จนเป็น  ชีคเกอร์ (Shrieker) กราบอยด์ที่พัฒนาจนมีขาสองขาเหมือนนกหรือไก่ทำให้เคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว รวมถึงพัฒนาความสามารถออกล่าเหยื่อด้วยการใช้อุณหภูมิความร้อนในการล่าเหยื่อ ยิ่งมีจำนวนมากก็ทำให้พวกมันดูน่ากลัวเป็นทวีคูณ แล้วเมื่อมาถึงจุดหนึ่งพวกมันก็จะพัฒนาไปร่างขั้นสูงสุดด้วยการลอกคราบเหมือนแมลงก่อนจะกลายสภาพเป็น แอสบลาสเตอร์ (AssBlaster) โดยที่ความสามารถพิเศษคือ มันสามารถบินโจมตีเหยื่อได้ว่องไวและออกไข่จนเป็นกราบอยด์ ซึ่งวนเวียนตามวัฎจักรของมันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา

 

 

 

 

 

 

Tremors (1990)

เรื่องราวแห่งความสยองจากใต้ดินเริ่มต้นขึ้น เมื่อสองเพื่อนรักอย่าง วัล และ เอิร์ล ที่ยึดอาชีพรับจ้างสารพัดในเมือง Perfection พวกเขาวางแผนที่จะย้ายออกจากเมืองสุดแสนน่าเบื่อแล้วออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องล้มเลิกแผนกลางคันเมื่อพบว่าเกิดเหตุประหลาดทั้งมีคนเสียชีวิตบนเสาไฟฟ้าหลังขาดน้ำสามวัน หรือมีคนหายสาบสูญอย่างเป็นปริศนา แล้วเมื่อทั้งคู่ได้ทราบเรื่องราวจาก รอนด้า นักศึกษาด้านธรณีวิทยาที่คนพบว่าพื้นที่ในเมือง Perfection ได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างผิดปกติ  ก่อนที่ทั้งสามจะพบว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของสัตว์ประหลาดนามว่า กราบอยด์ จนทั้งสามต้องกลับไปตั้งหลักที่เมืองเพื่อบอกข่าวร้ายให้ทุกคนได้รู้

 

 

 

 

 

แม้ในตอนแรกชาวบ้านจะมองว่าเป็นเรื่องชวนหัว แต่เมื่อพวกมันบุกเข้ามาถึงตัวเมืองพร้อมทำร้ายคนในเมืองทีละคนๆ วัล และ เอิร์ลร่วมด้วยสองคู่รักนักแม่นปืนอย่าง เบิร์ต และ เฮเธอร์ กัมเมอร์  พร้อมผู้รอดชีวิตคนอื่นๆจึงร่วมมือกัน ช่วยกำจัดเจ้าหนอนยักษ์ตัวแล้วตัวเล่าที่เข้ามา แต่ทว่าเมื่อเหลือตัวสุดท้ายที่มันฉลาดกว่าทุกตัว ทำให้ วัล จึงยอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง วิ่งล่อเจ้าหนอนยักษ์แล้วใช้ระเบิดโยนใส่จนมันตกใจก่อนทีมันจะพุ่งตัวจนตกหน้าผาร่างแหลกกระจายในที่สุด

หลังจากปราบฝูงหนอนยักษ์นำมาสู่ความสงบสุขให้กับเมือง Perfection ได้สำเร็จ วัล กับ เอิร์ล จึงตัดสินใจที่จะย้ายเมืองเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามแผนที่วางไว้

 

 

 

 

 Tremors 2: Aftershock (1996)

6ปีหลังเหตุการณ์เจ้าหนอนยักษ์บุกเมือง ทั้ง วัล และ เอิร์ล  ทั้งคู่กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน โดยตอนนี้  เอิร์ล เลือกที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่เมือง Perfection แล้วหันมาเปิดฟาร์มนกระจอกเทศ แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งมาเยือนเขา ก่อนจะแนะนำตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันจากเม็กซิโก ได้มาขอความช่วยเหลือพร้อมเล่าเหตุการณ์ที่มาว่า เกิดเหตุเจ้าหนอนยักษ์กราบอยด์ได้ทำร้ายคนงานบ่อน้ำมันแทบทุกวันจนต้องสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนด แล้วเขาได้เห็นข่าวทั้งคู่ในฐานะผู้ปราบหนอนยักษ์โดยบังเอิญ เข้าจึงคิดว่า พวกเขาน่าจะจัดการได้  เอิร์ลที่ได้ยินเรื่องราวก็ปฏิเสธไป เช่นกัน เพราะเขาไม่อยากจะเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้อีกก่อนจะไปสงบสติอารมณ์ที่รถบ้าน  แต่แล้ว เกรดี้ ฮูเวอร์ คนขับแท็กซี่ที่พาเจ้าของโรงกลั่นน้ำมัน ผู้เป็นแฟนตัวยงของเอิร์ล ได้เกลี้ยกล่อมให้เขารับงานนี้พร้อมเสนอตัวจะเป็นผู้ช่วยอีกด้วย หลังจากพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน  เอิร์ลจึงยอมรับข้อเสนอกับการปราบหนอนยักษ์กราบอยด์ที่เม็กซิโก

 

เมื่อไปถึงโรงกลั่นน้ำมัน สถานที่เกิดเหตุในภาคนี้ เอิร์ลกับเกรดี้ได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนที่นี่ อาทิ ดร.เคท นักธรณีสาวสุดฮอต, ฮูลิโอ ผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยีที่ติดตั้งอุปกรณ์จับสัญญาณพวกกราบอยด์  แล้วทั้งสองคนก็เริ่มงานกวาดล้างพวกหนอนยักษ์กราบอยด์ แต่ดูเหมือนว่าการทำงานเพียงแค่สองคนอาจลำบากเมื่อพบว่าพวกมันฉลาดขึ้นยิ่งกว่าครั้งก่อน ทำให้เอิร์ลจึงขอความช่วยเหลือจาก เบิร์ต กัมเมอร์ เพื่อนซี้อีกคนจากภาคแรกให้มาช่วยงานนี้  โดยทางด้านเบิร์ตก็ได้ขนอาวุธเต็มอัตราศึก รวมถึงระเบิดเต็มคันรถเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เขาเล่าให้เอิร์ลฟังว่าตอนนี้เขากับเฮเธอร์ ภรรยาได้แยกกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลที่เขารับงานนี้เพราะอย่างน้อยจะได้มีอะไรทำไม่น่าเบื่อ

 

 

 

เมื่อได้เบิร์ตเข้ามาช่วยอีกแรง ปฏิบัติการณ์กวาดล้างหนอนยักษ์กราบอยด์ก็ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น จนเวลาผ่านไป เอิร์ล กับ เกรดี้ ก็พบกราบอยด์ตัวหนึ่งที่ผิดสังเกตที่อยู่ดีๆเหมือนแสดงอาการให้เห็นชัดเจน ก่อนที่พวกเขาจะต้องเฝ้าดูอยู่ห่างๆแล้วรอความช่วยเหลือจากบ่อน้ำมันให้ส่งรถมาช่วย

 

 

ผ่านไปหลายชั่วโมงจนมืดแล้วทั้งสองคนก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ประกอบกับว่ารถยกที่เอิร์ลติดต่อให้ ดร.เคทส่งมาช่วยก็จอดนิ่งสนิท ทำให้สองคนจึงต้องเดินไปดูด้วยตัวเอง แล้วความจริงต้องพบว่ากราบอยด์ที่พวกเขาเฝ้ากลับกลายเป็นซากเหมือนมีอะไรกระชากร่างจากมัน แล้วพอไปถึงรถกลับพบอีกว่า คนขับรถยกถูกฆ่าเสียแล้ว ทั้งคู่หวาดผวาแล้วเจอรถที่จะหลบหนีกลับยังบ่อน้ำมันอีกครั้ง  ทว่าคราวนี้พวกเขาได้พบกราบอยด์ตัวเป็นๆแต่มาในร่างใหม่ ชีคเกอร์ ที่อัพเกรดมีสองขาแล้วยังสามารถรู้ตำแหน่งของเหยื่อด้วยคลื่นความร้อน

เมื่อพวกเขากลับไปถึงบ่อน้ำมันก็พบว่าพวกชีคเกอร์ได้บุกมาถึงบ่อน้ำมัน มีเพียง ดร.เคท รอดชีวิตเพียงคนเดียวหลังจากที่ฮูลิโอกลายเป็นเหยื่อของชีคเกอร์ที่ฆ่าต่อหน้าต่อตาเธอ  แล้วเบิร์ตที่กลับมาในสภาพวินาศสันตะโรหลังจากเมื่อคืนถูกพวกชีคเกอร์รุมเล่นงานแต่ด้วยทักษษะและความชำนาญอาวุธ เขาก็กลับมาแต่แลกที่ใช้กระสุนหมดเกลี้ยง

 

 

โชคดีว่านอกจากจะรอดกลับมาได้ เบิร์ตก็จับตัวชีคเกอร์ตัวเป็นๆ  ก่อนที่ทั้งสี่คนจะช่วยกันขนไปยังในกรงเพื่อศึกษาพฤติกรรม จนรู้ว่า พวกมันจะรู้ตำแหน่งเหยื่อด้วยคลื่นรังสีความร้อน  แล้วยังสามารถเพิ่มจำนวนหลังจากกินอาหารหรือเหยื่อแล้วมันเกิดขึ้นจริง เมื่อพวกมันเกิดการขยายจำนวนจนบ่อน้ำมันกลายเป็นรังของพวกชีคเกอร์ขนาดย่อมๆไปซะแล้ว

 

เมื่อสถานการณ์มันบีบคั้น เบิร์ต กัมเมอร์ จึงเสี่ยงชีวิตล่อพวกมันไปยังโกดัง แต่กลับพบว่ามันเป็นโกดังที่เก็บเสบียง นั่นหมายถึงพวกมันเพิ่มจำนวนอีกหลายเท่าจนแทบจะทำลายโกดัง เอิร์ลจึงอาสาที่จะเข้าไปกดระเบิดท่ามกลางฝูงชีคเกอร์จากข้างใน ก่อนจะตั้งเวลานับถอยหลังแล้วระเบิดก็ทำงานจนราบเป็นหน้ากลองในที่สุด!

 

 

 

 

Tremors 3: Back to Perfection (2001)

เรื่องราวในภาค 3 คราวนี้  เป็นคิวของ เบิร์ต กัมเมอร์ ที่ได้บทเด่นตั้งแต่ภาคนี้เป็นต้นไป  โดยเรื่องราว้ล่าว่าเบิร์ตยังคงปราบเจ้ากราบอยด์ต่อไปทั่วตราบใดที่พวกมันยังออกมาอาละวาด ก่อนจะกลับเมือง Perfection ซึ่งเวลาผ่านไปเมืองนี้กลับกลายเป็นสถานท่องเที่ยวย่อมๆ  โดยมีจุดขายคือตำนานกราบอยด์ โดยมี  โจดี้ ชาง  หลานสาวของ วอร์เตอร์ ชาง เจ้าของร้านผู้ล่วงลับจากภาคแรก (ถูกเจ้ากราบอยด์งับ) เข้ามาดูแลกิจการและยังมี แจ็ค ซอว์เยอร์ ไกด์เถื่อนที่หลอกหากินกับนักท่องเที่ยวด้วยการพาท่องไปยังสถานที่มีฝูงกราบอยด์ (ไม่มีซักตัว)  จนเมื่อกราบอยด์เล่นงานผู้คนอีกครั้ง เบิร์ตจึงเปิดสัญญาณเตือนภัยก่อนที่จะปรึกษาหารือเพื่อกำจัดเจ้าหนอนยักษ์ที่อยู่คู่กับเมืองให้หมดไป

 

 

 

คราวนี้เบิร์ตก็ได้พบความจริงอีกครั้ง เมื่อเหล่ากราบอยด์ได้พัฒนาสายพันธุ์ไปอีกขั้นจากชีคเกอร์กลายพันธุ์มาเป็น แอสบลาสเตอร์ ที่ความน่ากลัวของพวกมันคือสามารถบินได้ ที่งานนี้นอกจากจะเล่นงานคนในเมืองแล้วยังตามไปเล่นงานถึงบ้านของเบิร์ตจนถล่มราบเป็นหน้ากลอง ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขามีไปจนหมดสิ้น

 

หลังจากต้องเสียบ้านและอาวุธไป เบิร์ตจึงไม่ต่างจากเสือที่หมดเขี้ยวเล็บ แจ็คและโจดี้  จึงเสนอให้เขาลองสร้างปืนยิงมันฝรั่งเอาไว้ต่อกรกับพวกแอสบลาสเตอร์ เบิร์ตจึงเสี่ยงกับแผนนี้แล้วใส้ทั้งสองคนออกไปหาอุปกรณ์ที่พอจะสร้างปืนได้ เมื่อได้ของทั้งหมดเบิร์ตจึงใช้ความร็และความสามารถสร้างปืนยิงมันฝรั่งแล้วประเคนกระสุนไฟใส่พวกมันกระจุยตัวแล้วตัวเล่า พอจนถึงตัวสุดท้ายที่มันรู้เกมของพวกเขาทำให้เบิร์ตเกือบจะเสียหลัก โชคดีที่กราบอยด์เข้ามางับแอสบลาสเตอร์ตัวสุดท้ายพอดีหยุดการขยายพันธุ์ของพวกมันได้สำเร็จอีกครั้ง

 

เมื่อทุกอย่างกลับคืนสู่ความปกติในเมือง Perfection เบิร์ตยังคงปล่อยให้เจ้ากราบอยด์ที่ช่วยเขาไว้อยู่ที่นี่ต่อไปในฐานะสัตว์สงวนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ใครเอาไปใช้ประโยชน์ได้ แถมยังเสนอแนวคิดด้วยการติดตั้งแผ่นป้องกันชั้นใต้ดินเพื่อป้องกันจากเหล่ากราบอยด์บุกอาละวาดในอนาคตอีกด้วย

 

 

 

 

 

Tremors 4: The Legend Begins (2001)

ภาคนี้น่าจะเรียกว่าเป็นภาคที่เล่าย้อนจุดกำเนิดเรื่องราวทั้งหมดของหนังชุดนี้ รวมถึงเล่าที่มาของตระกูลกัมเมอร์ที่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเขาชื่นชอบและหลงใหลกับอาวุธปืนหัวปักหัวปำ รวมถึงเรื่องราวต้นกำเนิดของเมืองในหนังชุดนี้อย่างเมือง Perfection Valley ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อว่าเมือง Rejection (ฮ่า)

ในปี 1889 ที่บริเวณที่การขุดเหมืองแร่ในเนวาด้า  ฮวน  คนงานได้เห็นเหตุการณ์ที่เพื่อนหลายคนถูกดูดเข้าไปก่อนจะตายอย่างเป็นปริศนา จนทำให้มีการสั่งปิดเหมืองเพื่อหาสาเหตุเรื่องราวทั้งหมดในครั้งนี้

 

 

 

บรรยากาศในเมือง Rejection กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจากข่าวลือทำให้ชาวบ้านบางส่วนเลือกที่จะหนีไปอาศัยอยู่เมืองอื่น  แต่ก็ยังมีกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะอยู่เมืองนี้ต่อไป ประกอบด้วย ครอบครัวตระกูลชาง ชาวจีนอพยพที่หวังจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่, คริสติน เจ้าของโรงแรม และ เทโคป้า เพื่อนสนิทของคิสติน รวมถึง ฮวน คนงานเหมือง

 

วันหนึ่งคุณนายชาง ได้รับคำทำนายจากเซียมซีก่อนจะบอกให้ทุกคนทราบว่า ผู้พิชิตกำลังจะมาเยือนที่นี่ซึ่งสอดคล้องกับโทรเลขที่ได้รับแจ้งว่าเจ้าของเหมืองจะเดินทางมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้

 

 

เมื่อถึงวันต่อมาพวกเขาก็ได้พบเจ้าของเมืองที่เดินทางมาจากฟิลาเดเฟีย เขามีชื่อว่า ไฮแรม กัมเมอร์ ทวดของเบิร์ต กัมเมอร์ นั่นเอง ด้วยบุคลิกท่าทีเรื่องมากและเอาแต่ใจรวมถึงความเจ้าเล่ห์ที่ทำให้หลายคนไม่ชอบเขาเป็นอย่างมาก  เมื่อฮวนมาถึงไฮแรมจึงไปหาเขาก่อนจะได้รับฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อฟังเรื่องราวจบเขาจึงขอให้ฮวนรวบรวมคนงานเหมืองไปยังจุดที่เกิดเหตุ

 

 

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ไฮแรม ลงความเห็นว่าให้เปิดเหมืองตามปกติ ก่อนจะตั้งแคมป์เพื่อเดินทางกลับเมือง แล้วทันใดนั้นก็เกิดเห็นสิ่งมีชีวิตเข้าโจมตีคนงานเหมืองหลายคน  ซึ่งมันก็คือกราบอยด์นั่นเอง ทำให้ไฮแรมและฮวนจึงหนีออกมาก่อนจะเดินเท้ากลับเมืองไปอย่างสะบักสะบอม แล้วเล่าสิ่งที่เห็นให้ทุกคนฟัง ไฮแรมจึงตัดสินใจใช้โทรเลขติดต่อนักฆ่าหรือมือปืนที่เก่งๆให้มาร่วมกำจัดกราบอยด์ จน 1 เดือนผ่านไปก็มีคนเดินทางมาที่เมืองนี้เขามีชื่อว่า เคลลี่ มือพระกาฬ

 

 

เคลลี่เป็นมือปืนที่ทำงานได้ทุกอย่างที่ค่าจ้างเป็นเงิน ทำให้ไฮแรมต้องสละกระดุมเพชรและเงินเล็กๆน้อยที่ติดตัวเป็นค่าจ้างล่วงหน้า ก่อนจะร่วมทางกับไฮแรมและฮวนเพื่อกำจัดเจ้ากราบอยด์  เมื่อไปถึงกลับพบว่าพวกมันฉลาดมีไหวพริบมากขึ้น ในที่สุดเคลลี่ก็เสียท่าให้กับพวกกราบอยด์ ไฮแรมจึงส่งข้อความกลับไปยังเมืองเพื่อให้คริสตินพาหลบหนีออกมาในเวลาต่อมา

 

หลังหนีหลับมาได้ ไฮแรมตัดสินใจที่จะทิ้งเหมืองและขายให้คนอื่นเพื่อลืมเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมาถึงเมืองท่าเขาร็สึกผิดที่ทิ้งทุกคนให้เผชิญกับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น เขาตัดสินใจที่จะไม่กลับเมืองฟิลาเดเฟีย  ก่อนจะไปซื้ออาวุธแล้วขนลำเลียงกลับมายังเมือง Rejection พร้อมปกป้องเมืองจากฝูงกราบอยด์พร้อมกับชาวบ้านจนสามารถกำจัดเหล่ากราบอยด์ทั้งหมดลงได้สำเร็จ

 

 

 

เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ไฮแรมตัดสินใจคุมเหมืองที่นี่ด้วยตัวเองพร้อมกับได้เงินก้อนใหญ่เพื่อเปิดเหมือง โดยกำไรที่ได้จากเหมืองเขาตัดสินใจจะปรับปรุงเมืองให้ดีขึ้นพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเมืองจาก Rejection มาเป็น Perfection ตราบจนทุกวันนี้พร้อมกับตำนานตระกูลของกัมเมอร์

 

 

 

Tremors 5: Bloodlines (2015)

เรื่องราวกลับมาเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันเมื่อ เบิร์ต กัมเมอร์ ยังคงใช้ชีวิตอยู่ใน Perfection พร้อมกับทำรายการแนวรอดชีวิตแบบเดียวกับ แบร์ กิล จนกระทั่งชายที่ชื่อ อีริค แวนวิค ตัวแทนจากอุทยานแห่งชาติแอฟริกาขอให้เขาเดินทางไปยังกาวเต็ง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมนุษยชาติ ได้มีการพบเจ้าแอสบลาสเตอร์ ออกอาละวาด พร้อมกับการมาของชายปริศนาที่ชื่อ ทราวิส เวลกอร์ ชายผู้เคยเป็นตากล้องและเป็นแฟนตัวยงของเบิร์ต ขออาสาร่วมทริปครั้งนี้ด้วย

 

เมื่อทั้งสองเดินทางไปถึงแอฟริกา เบิร์ตได้เจอกับกราบอยด์สายพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากที่เคยเจอมา เพราะนอกจากร่างจะใหญ่ขึ้นแล้วพวกมันมีความดุเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะตัวนางพญาที่มีชื่อสุดแสบว่า ราชินีตัวแสบ แถมผู้จ้างวานอย่างแวนวิคได้เฉลยว่าตัวเขาไม่ใช่คนของอุทยานแห่งชาติ แต่เป็นพ่อค้าตลาดมืดที่ต้องการไข่ของกราบอยด์ไปขายในราคาที่สูงขึ้น ก่อนจะถูกตัวนางพญากำจัดต่อหน้าต่อตาทั้งสองคน ก่อนจะหาทางกำจัดก่อนที่มันจะจัดการคนทั้งหมู่บ้าน

 

ขณะเดียวกันทราวิสก็ได้เปิดเผยความจริงว่า เขาคือลูกชายโดยสายเลือดแท้ๆของเบิร์ตนั่นเอง ทำให้อีกฝ่ายไม่เชื่อหูกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีเวลาไม่มากก่อนที่ตัวนางพญาจะทำร้ายผู้คนไปมากกว่านี้จึงต้องจำใจร่วมมือกันโดยมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่ตอนนี้ตัวนางพญาได้บุกมาถึงที่นี่เรียบร้อย

 

 

ทั้งสองคนจึงวางแผนที่จะล่อพวกมันก่อนจะให้ชาวบ้านสร้างจุดสายล่อฟ้า  แล้วส่งเสียงดังเพื่อล่อมายังจุดดังกล่าวเมื่อตัวนางพญาเข้ามาตรงกับดักก่อนที่ฟ้าจะผ่ากำจัดตัวนางพญาลงได้สำเร็จ ก่อนที่คนในหมู่บ้านจะจัดงานเฉลิมฉลอง ซึ่งทั้งสองคนก็ได้มีโอกาสปรับความเข้าใจและสัญญาว่าจะได้ร่วมงานอีก

 

 

 

 

 

Tremors 6: A Cold day In Hell (2018)

สองพ่อลูกกลับมาร่วมทีมปราบกราบอยด์อีกครั้ง  หลังได้รับโทรศัพท์จากศูนย์วิจัยในแคนาดาหลังจากมีเหล่ากราบอยด์ออกอาละวาด ที่นี่เขาได้เจอกับ วัลลอร์รีย์ แม็คกีย์ ผู้ชำนาญเรื่องกราบอยด์แล้วยังเป็นลูกสาวของ วัล กับ รอนด้า สองพระนางจากภาคแรก ในภาคนี้นอกจากจะต้องสู้กับเหล่ากราบอยด์แล้ว เขาต้องสู้กับตัวเองหลังพบอาการเวลาคิดถึงเรื่องราวเมื่อต้องเจอพวกมัน ก่อนจะเฉลยว่ามีพยาธิเข้าไปทำลายระบร่างกายของเขา ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเหตุการณ์ในภาค3ที่ถูกกลืนแต่รอดออกมาได้ ฉะนั้นพวกเขาจึงต้องจับตัวกราบอยด์มาเป็นๆเพื่อสกัดยารักษาให้เบิร์ตอีกด้วย

 

 

 

 

Tremors 7: Strike Island (2020)

ภาคนี้ความพิเศษอยู่ที่ยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทย โดยสมมุติเป็นเกาะแห่งหนึ่งเมื่อบริษัทชีวภาพซึ่งมีเจ้าของผู้ชื่นชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจได้ซื้อเกาะแห่งหนึ่งแล้วทำการปล่อยเจ้ากราบอยด์ที่ตัดแต่งพันธุกรรมแล้วนำไปเลี้ยงในเกาะดังกล่าวพร้อมให้เหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักมาล่าพวกมันเพื่อเกมกีฬา ทำให้เหล่านักวิจัยที่ไม่เห็นด้วยกับบริษัทแห่งนี้ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตามหาใครซักคนที่จะหยุดเรื่องราวนี้ไปให้ได้  ถ้าไม่ใช่ เบิร์ต กัมเมอร์

 

หลังเหตุการณ์ในภาคที่แล้วเขาตัดสินใจใช้ชีวิตสันโดษบนเกาะในปาปัวนิวกินี  เพื่อบำบัดจิตใจของตัวเองแต่แล้ว จิมมี่ เด็กหนุ่มจากกลุ่มวิจัยที่ได้รับมอบหมายให้ตามตัวเบิร์ตก็มาหาคนที่ต้องการพบ ซึ่งตอนแรกเบิร์ตปฏิเสธจะไม่ทำงานนี้เพราะเขาล้างมืออำลาวงการ แต่เมื่อจิมมี่บอกว่าเขาเป็นคนเดียวที่จะหยุดเรื่องราวนี้ได้ ทำให้อีกฝ่ายจึงตัดสินใจรับงานนี้อีกครั้ง

 

เมื่อไปถึงศูนย์วิจัย ก็ได้เจอกับหัวหน้าจิมมี่ที่ชื่อ ดร.จัสมิน เวลเคอร์ หรือ แจส ซึ่งเบิร์ตรู้จักเธอเป็นอย่างดี เพราะเธอคือแม่ของทราวิส ตัวละครจากภาคที่แล้ว (ในเรื่องบอกว่าทราวิสมาไม่ได้เพราะถูกจับที่เม็กซิโก) การบพบกันทั้งคู่จึงมีความงอนตามประสาคนเคยรักกันนั่นเอง

 

 

 

เบิร์ตและจิมมี่พร้อมลูกทีมจึงไปสืบสถานที่เกิดขึ้นจนได้เจอกับ บิล เดวิดสัน เจ้าของบริษัทอาวุธชีวภาพที่เป็นคนต้นคิดกับการนำกราบอยด์ตัดแต่งพันธุกรรมมาปล่อยบนเกาะ เบิร์ตได้เตือนถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นแต่อีกฝ่ายก็ดื้อรั้นและบอกว่าเขาสามารถจัดการกับพวกนี้ได้ เอาเข้าจริงเหล่าเศรษฐีทีมของบิลโดนเก็บไปทีละคนรวมถึงตัวบิลเองที่กลายเป็นเหยื่อของพวกมันเข้าจนได้ จะมีเพียง แอนนา ที่ตัดสินใจขออยู่ทีมเดียวกับเบิร์ตจนสามารถกำจัดพวกมันได้สำเร็จ

 

 

 

เมื่อเหลือเพียงแค่ตัวเดียวซึ่งเป็นตัวที่ฉลาดเป็นกรดและโหดกว่าทุกตัว แถมเป้าหมายของมันคือเบิร์ต จึงตัดสินใจที่จะเสี่ยงเพื่อล่อให้มันตกลงหน้าผาที่เต็มไปด้วยกับดักที่กลุ่มของแจสกับแอนนาได้เตรียมไว้ แต่จิมมี่ขอไปเป็นเพื่อน ทำให้เบิร์ตที่ไม่ยอมให้จิมมี่ต้องเสี่ยงจึงยอมให้ไปด้วย เมื่อพวกมันมาถึง เบิร์ตจึงตัดสินใจสละชีวิตครั้งใหญ่ ให้กราบอยด์กลืนเขาไปทั้งตัวจนติดกับดัก เป็นการกำจัดตัวสุดท้ายได้สำเร็จ

เมื่อจิมมี่ได้สติเขาและทุกคนก็ได้ช่วยตามหาเบิร์ต เพื่อมีหวังว่าเขาจะอยู่ที่ไหนซักแห่งหนึ่ง แต่ก็ไร้ความหวังเมื่อเห็นหมวกและแว่นตาที่ตกหล่นอยู่…

 

 

เมื่อทุกอย่างจบลงเรียบร้อยจิมมี่, แจส และทุกคนก็ช่วยกันจัดงานศพให้เบิร์ตในฐานะผู้กล้าหาญที่ทำให้เกาะแห่งนี้ปลอดภัยจากเจ้าหนอนยักษ์กราบอยด์ ก่อนที่ตำนานของ เบิร์ต กัมเมอร์ นักล่ากราบอยด์จะเป็นที่กล่าวขานต่อไปไม่มีสิ้นสุด…

 

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวทั้งหมดของตำนานหนอนยักษ์กราบอยด์จากหนังชุด Tremors ทูตนรกล้านปี ที่นำมาฝากในครั้งนี้ ถ้าหากตกหล่นช่วงไหน ก็ต้อง ขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

@P.PETTY

 

ข้อมูลประกอบ

-          https://tremors.fandom.com/wiki/Tremors_Wiki00000000000000