Naruto, Bleach และ One Piece ถูกยกย่องให้เป็นสามทหารเสือ “Big Three” แห่งการ์ตูนโชเน็นในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา ด้วยความโด่งดัง ความฮิต ที่เรียกได้ว่าแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้มีการ์ตูนโชเน็นอีกหลากหลายเรื่องที่พยายามก้าวขึ้นไปให้ถึงระดับเดียวกับที่ 3 เรื่องนี้ได้ขึ้นไปยืนหยัดอยู่ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเอามากๆ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็ได้มีการ์ตูนโชเน็นยุคใหม่ 3 เรื่อง ที่ถูกมองว่าจะสามารถขึ้นมาเทียบเคียงกับเหล่า Classic Big Three ได้ ซึ่งในการ์ตูนยุคใหม่เหล่านี้ก็ได้มีการสะท้อนให้เห็นถึงการหยิบจับเอาบางสิ่งบางอย่างที่น่าประทับใจจากการ์ตูนรุ่นพี่มาประยุกต์ และดัดแปลงบ้างไม่มากก็น้อย จะเป็นเรื่องอะไรบ้างเราไปดูกันเลย
Boku no Hero Academia หรือ My Hero Academia เป็นการ์ตูนที่หลายคนมองว่าเป็นเหมือน “Successor” หรือ ผู้สืบทอด ของ Naruto เนื่องจากว่ามันมีความคล้ายคลึงกันเล็กๆระหว่าง 2 เรื่องนี้ อย่างการมีตัวเอกที่เริ่มต้นด้วยการตัวเปล่า ไม่มีอะไรเลย ไม่มีพลังหรือความเก่งกาจแบบที่คนอื่นๆในวัยเดียวกันมี แต่สิ่งที่พวกเขามือคือใจที่ไม่ยอมแพ้และความพยายาม
นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของตัวละคร คู่แข่ง และเพื่อนที่สนิทที่สุด อย่างคู่ อิซึคุ – บาคุโก ก็ทำให้แฟนการ์ตูนนึกถึงเรื่องราวของ นารุโตะ – ซาสึเกะ ขึ้นมาได้เหมือนกัน ทั้งนารูโตะ และ อิซึคุ ต่างยกย่องซาสึเกะ และ บาคุโก ว่านอกจากจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของตนแล้ว ก็ยังเป็นคู่แข่งที่ไม่อยากจะยอมแพ้ให้เช่นเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้นในจุดนี้ Hero Academia ก็ได้สร้างความแตกต่างที่น่าประทับใจไม่น้อย ในช่วงที่เหล่า Villain ได้จับตัวบาคุโกไป และพยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้าร่วมกับฝั่งของตน ระหว่างที่อิซึคุกำลังพยายามสุดตัวเพื่อมาช่วยบาคุโกนั้น บาคุโกไม่เคยวอกแวกไปคิดเรื่องการเข้าร่วมกับพวก Villain เลยแม้แต่นิดเดียว
จากมุมมองของผมแล้ว ยอมรับว่าการได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร มิโดริยะ อิซึคุ (เดกุ) นั้น ชวนให้หวนนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกเดียวกับตอนที่ดูนารูโตะจริงๆ เดกุที่ได้รับสุดยอดพลังอย่าง One For All มาก็ยังไม่สามารถควบคุมพลังอันยิ่งใหญ่ของตนเองได้ดี ใช้ก็ใช้ได้แบบผ่อนพลัง ถ้าปล่อยเต็มที่จะไม่ดีต่อร่างกายของตนเอง
เช่นเดียวกับนารูโตะที่มีพลังของจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว กว่าจะมาถึงระดับที่ควบคุมพลังได้ทั้งหมด กว่าจะคุยกับคุรามะรู้เรื่องจนกลายเป็นเพื่อนแท้ นารูโตะเองก็ได้ฝ่าฟันปัญหาการใช้และควบคุมพลังนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
Bleach >>> Jujutsu Kaisen
Bleach เทพมรณะ อีกหนึ่งการ์ตูนที่เชื่อว่าเป็นขวัญใจของใครหลายๆคนในที่นี้ ด้วยความโด่งดังยิงระยะเวลายาวนานไม่แพ้นารูโตะเลย แต่สำหรับ Bleach นั้นก็ได้มีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้าง “ผิดพลาด” ในระยะหลัง ทำให้บางคนตีว่าเป็นการ์ตูนที่จบลงอย่างไม่ค่อยงดงามเท่าไหร่
Jujutsu Kaisen หรือในชื่อไทย มหาเวทย์ผนึกมาร เป็นเรื่องที่มีบรรยากาศของเรื่องออกแนว Dark Fantasy คล้ายคลึงกับ Bleach แต่ฝั่ง Kaisen อาจจะมีความ Horror มากกว่าบ้าง ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่าการได้ดู Jujutsu Kaisen นั้นจะทำให้ใครหลายๆคนหวนนึกถึงบรรยากาศของการดู Bleach ในช่วงแรกเริ่ม
ที่สำคัญคือ Jujutsu Kaisen ได้เรียนรู้และจดจำข้อผิดพลาดที่ Bleach เคยได้ทำเอาไว้ นำมาปรับให้การ์ตูนของตนเองนั้นมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของ Bleach นั้น เหล่าตัวละครหญิงมักจะไม่ค่อยถูกทำให้มีบทบาทอย่างที่ควร หรือบางทีบางครั้งก็ถูกใช้สำหรับ Fan-Service มากเกินไป
เมื่อตัดภาพมาที่ Jujutsu Kaisen นั้น ใครที่เคยดูจะเห็นว่าตัวละครหญิงในเรื่องนี้มีหลายคนเลยที่ “แกร่ง” “เด่น” “สำคัญ” มีบทบาทต่างๆนานาได้ไม่แพ้กับเหล่าตัวละครชายของเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็น คุงิซากิ โนบาระ และ เซนอิน มากิ
One Piece >>>Demon Slayer
อ่านมาถึงข้อนี้ เชื่อว่าต้องมีคนร้อง “ห้ะ” ออกมากันบ้าง แต่อ่านก่อนนะ ใจเย็นๆ
เพราะการ์ตูนอย่าง One Piece และ Kimetsu no Yaiba (Demon Slayer) มีอะไรที่เหมือนกัน ร่วมกัน แบบที่คู่การ์ตูน 2 คู่ก่อนหน้านี้มีกันด้วยหรอ
ลูฟี่ มีพลังยางยืด ต้องการที่จะเป็นราชาโจรสลัด ส่วนทันจิโร่ ต้องการที่จะรักษาน้องสาวของตนเองให้หลุดพ้นจากการเป็นอสูร และกลับเป็นมนุษย์ธรรมดา ทั้งสองคนนี้ไม่มีอะไรร่วมกันเลย
แต่สิ่งที่ Kimetsu no Yaiba ทำได้ไม่แพ้ One Piece ก็คือ เรื่องของระดับความโด่งดังในยุคสมัยของตนเอง โดดเด่นกว่าการ์ตูนคู่แข่งขึ้นมา แถมมังงะยังมีจำนวนครั้งที่ตีพิมพ์สูงลิบลิ่วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้ง One Piece และ Kimetsu no Yaiba ต่างก็มีส่วนของเนื้อเรื่องที่เล่นล้อตามแบบฉบับการ์ตูนโชเน็นดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกล้าที่จะก้าวออกจากการเดินอยู่บนสูตรตายตัวเดิมๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของ World Setting ที่กว้างใหญ่เกินกว่าคนดูการ์ตูนเรื่องนี้ตอนแรกๆจะวาดฝันนึกถึงเอาไว้ การใช้เรื่องราวและประสบการณ์ในอดีต มาสร้างเสริมพลังความแข็งแกร่งให้กับเหล่าตัวละครในปัจจุบัน รวมไปถึงการมีตัวละครที่ค่อนข้างสมจริง ทำให้เหล่าแฟนคลับอินไปกับตัวละครในเรื่องได้อย่างง่ายดายเลย
แต่ข้อดีของดาบพิฆาตอสูรคือ “จบในจุดที่สมควรจบ” ไม่ลากยาว ไม่ยืดเยื้อ ครบจบสมบูรณ์ในตัวมังงะแล้ว
แล้วทุกท่านมีความเห็นอย่างไร กับการที่ MHA, Jujutsu Kaisen และ Kimetsu no Yaiba จะสามารถขึ้นมาเทียบเคียงกับ “การ์ตูนรุ่นพี่” ได้หรือไม่
- บทความโดย NuthSWR
- ข้อมูลจาก https://www.cbr.com