The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
แนวภาพยนตร์ : Action / Sci – fi
ผู้กำกับ: ฟรานซิส ลอว์เรนซ์
ผู้ผลิต: ฟรานซิส ลอว์เรนซ์, นิน่า จาค็อบสัน, แบรดฟอร์ด ซิมป์สัน
ผู้อำนวยการผลิต: ซูซาน คอลลินส์, ทิม พาเลน, จิม มิลเลอร์
นักแสดงนำ: ทอม ไบลท์; ราเชล เซเกลอร์; จอช อันเดรส ริเวรา; ฮันเตอร์ เชเฟอร์; เจสัน ชวาตซ์แมน; ปีเตอร์ ดิงเคลจ; วิโอลา เดวิส
บทภาพยนตร์: ไมเคิล อาร์นดท์
นี่คือหนังที่ดัดแปลงจากนิยายของ ซูซาน คอลลินส์ (Suzanne Collins) ที่จะพาทุกคนไปยังยุคสมัย “ช่วงต้น” ของเกมล่าสุดระทึก The Hunger Games ใน The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (ลำนำแห่งนกร้องเพลงและอสรพิษ)
เรื่องราวเกี่ยวกับ “คอริโอเลนัส สโนว์” ที่หลายคนคงจำได้ดีในมาดของประธานาธิบดีแห่งพาเน็มผู้ทรงอำนาจ ซึ่งเรื่องราวในครั้งนี้ จะเล่าถึงคอริโอเลนัสที่อายุเพียง 18 ปี ต้องเข้าร่วมเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 ในฐานะที่ปรึกษา ซึ่งจะเป็นเรื่องราว 60 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์ในหนังชุด The Hunger Games
ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก ทำให้เขาต้องจับคู่กับ ลูซี่ เกรย์ แบร์ด บรรณาการหญิงจากเขตที่สภายย่ำแย่ที่สุดอย่างเขต 12 โดยไม่คาดฝัน ชะตากรรมของพวกเขาผูกติดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกการตัดสินใจของคอริโอเลนัสสามารถนำไปสู่ชัยชนะหรือหายนะได้ทั้งสิ้น คอริโอเลนัสผู้มีความทะเยอทะยานเป็นเชื้อเพลิง มีการแข่งขันเป็นแรงผลักดัน แต่อำนาจย่อมมีราคาของมัน …
และเรื่องราวจะเล่าควบคู่ไปกับการทำความรู้จักกับสองบุคคลสำคัญอย่าง คาสก้า ไฮบัตทอม ผู้เป็นบิดาแห่ง The Hunger Games และ ดร.โวลัมเนีย กอล หัวหน้าเกมเมกเกอร์ผู้กุมชะตาชีวิตของผู้เข้าแข่งขันด้วย
Review
“ขอถามอีกครั้ง…คุณคิดว่า Hunger Games มีไว้เพื่ออะไร?”
เรื่องราวของ Hunger Game ที่แม้ว่าจะจบลงที่ความสงบสุขของ “แคตนิส เอเวอร์ดีน” แต่เหมือนว่าตัวผู้เขียนนิยาย และผู้กำกับเหมือนจะไม่อยากให้จบ เลยพาเราย้อนกลับไปยังพาเนม ในยุค60ปีที่แล้ว เป็นเซตติ้งเรื่องราวของ “คอลิโอเลนัส สโนว์” ชายหนุ่มหัวกะทิของสถาบันการศึกษาในแคปิตอล และต้องมาจับคู่กับสาวบ้านนอกจากเขต 12 ในศึกเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 ในฐานะ พี่เลี้ยง และ เครื่องบรรณาการ โดยมีเป้าหมายคือ เรียกเรตติ้งคนดู เพราะ แข่งมา 9 ครั้ง คนดูเบื่อ เลยต้องแก้เกมกันใหม่ เพื่อเพิ่มความสนุก…
ตัวภาพยนตร์นำเสนอโลกทัศน์ของพาเนมในอดีตที่บางส่วนยังซ่อมสร้าง ฟื้นฟูจากสงครามครั้งใหญ่ และเราจะได้เห็น “ประธานาธิบดีสโนว์” ในวัยหนุ่มที่เติบโตมาอย่างยากแค้น แต่ยังคงติดหรู มีหน้าตาในสังคมไม่ให้ใครนินทาลับหลัง โดยมีแก่นสารสาระของเรื่อง คือ “ความเปลี่ยนแปลงของใจคน” เป็นแกนหลัก และนำเสนอผ่าน 3 Chapter ซึ่งใช้เวลาจุใจถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
ภาพยนตร์จะเล่าถึง ช่วงชีวิตของสโนว์ – ก่อนแข่ง Hunger Games – ระหว่างแข่ง Hunger Games - และ หลังแข่ง Hunger Games
และนำไปสู่จุดที่สโนว์ กลายเป็นสโนว์ที่ร้ายการจากภาพยนตร์ทั้ง 4 ภาคที่เราๆท่านๆเคยดูกัน โดยมีส่วนของการเมือง การปกครอง วิธีคิดของผู้คนในพาเนม การแสดงออกของการต่อต้านเล็กๆ และการโอนอ่อนไหลตาม รวมไปถึงความลุ่มหลงในพลังอำนาจของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเกมล่าชีวิตทุกฝ่าย เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บทดูแน่น และเต็มระบบมากๆ ส่งผลให้ตัวภาพยนตร์มีความหนักหน่วงทางเนื้อหาหากพิจารณาในภาพรวม ออกจากโรงด้วยอารมณ์อึนๆ ตึงๆ และพาลคิดว่า “จบแบบนี้มันก็ดี หรือเค้าจะทำต่อรึป่าวว้า”
ในส่วนของนักแสดงอย่าง ทอม บลายธ์ นี่หล่อเนี้ยบได้ทุกลุค ตั้งแต่ลุคคุณชายผมบ๊อบสูทแดง ไปจนถึงลุกผมสั้นเกรียนเสื้อยืด คาแรคเตอร์ตัวละครนี้มีความชัดเจนในมิติของการนำเสนอ ทั้งด้านที่ดี ด้านที่ร้าย ด้านที่น่าหมั่นไส้ และด้านที่น่าสมเพช ตัวละครนี้มี Develop ที่ดีมากๆ และทำให้เรารู้ว่า โลกนี้เป็นคนดี อยู่ยาก แต่เป็นคนชั่ว อยู่ยากกว่า…แต่ก็ต้องอยู่
ส่วน ราเชล เซกเลอร์ นักแสดงสาวเจ้าดราม่าโซเชียล ส่วนตัวไม่อะไรกับมูฟเม้นระดับเฟมทวิตของนาง ดังนั้นจึงไม่เป็นประเด็นสำคัญในการรับชมภาพยนตร์ ตัวราเชล ตอนแรกที่มีข่าวว่า “นี่คือตัวละคร ลูซี่ เกรย์ ที่ดีที่สุด”…ส่วนตัวว่า โม้ เว่อไปป่าวในตอนก่อนเข้าไปรับชม
แต่พอได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ คนอื่นว่าไงไม่รู้ แต่แอดฯยอมรับว่า เธอแสดงได้ดีมากๆ และเราเชื่อว่านี่คือ “ลูซี่” ที่มีความสดใส น่ารัก อารมณ์ขัน ลึกลับ คุ้มดีคุ้มร้าย น่าเอาใจช่วย และน่าพิศวงในเวลาเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้แอดฯค่อนข้างชอบก็คือ แต่ละช่วงที่ลูซี่มีบท กว่า 40% เป็นการร้องเพลง และ เสียงของราเชล เซกเลอร์ คือเพราะมากๆ บางชอต บางช่วงนี่นึกว่าดูการ์ตูนดิสนีย์! อย่างที่บอก ถ้าเราตัดเรื่องอคตินอกจอ แล้วมาโฟกัสที่ผลงาน ถือว่า นี่คือผลงานที่ดีมากๆของนักแสดงสาวคนนี้
โดยรวมเป็นภาพยนตร์ที่มีความยาว เข้มในเนื้อหา รุนแรงในเกมล่า สวยงามในความรัก และหดหู่ในยามที่ก้าวผ่านไป
แล้วภาพยนตร์ก็โยนคำถามใส่คนดูว่า
“จริงๆแล้วโลกรอบตัวเราทำให้คนต้องโหด หรือ มนุษย์มันโหดโดยสันดานอยู่แล้ว”
กันแน่…
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
15 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
‘คอริโอเลนัส สโนว์’ รับบทโดย ‘ทอม บลายธ์’
เด็กหนุ่มวัย 18 ลูกศิษย์ของอะคาเดมีที่ฉลาดที่สุด ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแล ลูซี เกรย์ แบร์ด ตัวแทนหญิงจากเขต 12 เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 10
‘ลูซี เกรย์ แบร์ด’ รับบทโดย ‘เรเชล เซกเลอร์’
บรรณาการหญิงจากเขต 12 ที่มาพร้อมพรสวรรค์ในการร้องเพลงและเล่นดนตรี เธอถูกคัดเลือกให้มาเป็นบรรณาการของเกมครั้งนี้อย่างไม่ชอบธรรม
‘ซีเจนัส พลินท์’ รับบทโดย ‘จอช แอนเดรส ริเวรา’
หนึ่งในที่ปรึกษาเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 10 ที่เติบโตมาจากเขต 2 สโนว์เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาในแคปิตอล
‘ไทกริส’ รับบทโดย ‘ฮันเตอร์ เชเฟอร์’
อัจฉริยะด้านการเย็บผ้า ลูกพี่ลูกน้องของสโนว์ เป็นคนที่รักและห่วงใยคนในครอบครัวเสมอ
‘คาสก้า ไฮบัตทอม’ รับบทโดย ‘ปีเตอร์ ดิงก์เลจ’
บิดาแห่งเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ และคณบดีแห่งอะคาเดมี ผู้คิดค้นเกมล่าชีวิตที่ชี้ชะตาพาเน็มขึ้นมา
‘ดร. โวลัมเนีย กอล’ รับบทโดย ‘วิโอลา เดวิส’
เกมเมกเกอร์แห่งเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 10 และเป็นผู้ดูแลฝ่ายทดลองอาวุธของแคปิตอล
‘ลักกี้ ฟลิกเกอร์แมน’ รับบทโดย ‘เจสัน ชวาตซ์แมน’
ผู้ประกาศข่าวประจำแคปิตอลทีวี ที่กลายมาเป็นพิธีกรประจำการแข่งขันเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ คนแรกในประวัติศาสตร์
#TheHungerGames #SongbirdsandSnakes