ขุดกรุเกมเก่า The House of The Dead
เรียกย่อๆว่า THOTD
ประเภท : Shooting
เครื่อง : เกมตู้ Arcade / Sega Saturn /PC / Dreamcast / PlayStation 2 /Game Boy Advance / Xbox / Nintendo DS / Wii / PlayStation 3 / Mobile phone/ Android / iOS
วางจำหน่าย : ภาคแรก ปี 1996 / ภาค 2 ปี 1998 / ภาค 3 ปี 2002 / ภาค 4 ปี 2005
พัฒนาโดย : SEGA / WOW Entertainment (SEGA AM1)
อ่านรีวิวเกมเก่าได้ในลิ้งค์
ขุดกรุเกมเก่า Bakusou Kyoudai Let’s & Go!! : Eternal Wings
ขุดกรุเกมเก่า : X-MEN : Children of the Atom
ขุดกรุเกมเก่า : Brave Fencer MUSASHIDEN
ขุดกรุเกมเก่า : Shadow of the Colossus
ขุดกรุเกมเก่า : Gundam Battle Assault 2
ขุดกรุเกมเก่า : Virtua Cop / Virtua Cop 2 / Virtua Cop 3
ในยุค90 เป็นยุคที่อุตสาหกรรมเกมกำลังเติบโต และตื่นเต้นกับการทำภาพโพลีก้อนสามมิติ ที่แหวกแนวทางการทำเกมยุคก่อนหน้าที่เน้นงานภาพพิกเซล2มิติลุยด่าน เกมตู้ หรือ Arcade เองก็กำลังได้รับความนิยมตามห้างสรรพสินค้า ด้วยแสงสีเสียงที่อู้ฟู่จัดหนักจัดเต็มกว่าการเล่นเกมที่บ้าน รวมไปถึงความท้าทายในการเล่นสูง ทำให้เป็นเหมือนการโชว์ฝีมือคนเล่นกลายๆ เพราะเล่นจบ ทำคะแนนสูงๆ ก็จะสามารถบันทึกชื่อของตัวเองย่อๆเอาไว้ให้คนได้ตื่นเต้นกัน
และนี่คือหนึ่งในเกมตู้ระดับตำนานแห่งยุค 90 ที่ได้ชื่อว่า ยาก โหด หินอีกหนึ่งเกม ที่หยิบยกเอาเรื่องราวไซไฟกึ่งๆสยองขวัญมาทำเป็นเกมยิงแหลกแจกกระสุน กับเกมที่ชื่อว่า The House of The Dead (เดอะเฮ้าส ออฟ เดอะเดด)
เกมนี้คือ!?
The House of The Dead เป็นผลงานเกมยิงผีสุดมันส์จากค่าย SEGA ที่ทำลงให้เครื่องเกมตู้อาเขต Sega AM1 (หรือที่รู้จักในนาม Sega-WOW) ภายใต้การดูแลการสร้างโดยคุณ ทาคาชิ โอดะ (Takashi Oda) ที่มีความคิดอยากจะทำเกมแนวๆล่าท้าผี แบบว่าล่าผีจริงๆ แต่เรื่องก็ถูกตีตกไป จนกระทั่งนำมาดัดแปลงเป็นคอนเซปท์ของการยิงซอมบี้ อีกทั้งตัวเกมยังได้รับแรงบันดาลใจ(จริงๆ) จากหนังหลายเรื่องที่คุณโอดะชื่นชอบ ทั้งเหล่าซอมบี้ที่มาจากหนังอย่าง Dawn of The Dead ของผู้กำกับ จอร์ช โรเมโร่ แม้กระทั่งบรรยากาศบางส่วน หรือโมเดลหน้าตัวละครอย่าง“โทมัส โรแกน” ที่มีความละม้ายคล้ายกับพระเอกหนังสุดฮอตในยุคนั้นอย่าง “แบรด พิทท์” ที่กำลังมีผลงานอย่าง “Se7en เจ็ดข้อต้องฆ่า” โดยผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ และที่สำคัญ เกมนี้ สร้าง และวางจำหน่ายเวลาเดียวกันกับ Resident Evil ที่กำลังดังในระบบคอนโซลอีกด้วย
ตัวเกมทำออกมาได้โดนใจผู้เล่น ด้วยแสง สี จัดเต็ม และมีดีเทลต่างๆ แถมมีช่วง Jumpscare ให้ได้สะดุ้งกันเป็นระยะๆ ทำให้เกมนี้กวาดคำชมในส่วนเกมเพลย์จากทุกสำนักทั่วโลก เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 6.8/10 และทำเงินให้กับทาง SEGA ไม่แพ้ Virtua Cop ที่ออกมาก่อนหน้านี้
เมื่อภาคแรกประสปความสำเร็จ ภาคสองจึงตามออกมาให้ได้เล่น ในช่วงปี 1998 และยังคงทำให้แฟนๆสนุกไปกับฉากหลังใหม่ ตัวละครใหม่ และบอสที่มีความท้าทายสูงในความยากที่อยู่ในเกณฑ์ “ไม่โหดร้ายกับคนเล่นจนเกินไป” บวกกับกระแสที่สั่งสมมาจากภาคแรก ทำให้ทีมพัฒนาตัดสินใจพอร์ทลงระบบคอนโซลอย่าง Dreamcast และ PC (ซึ่งในหลายปีให้หลัง ก็มีการพอร์ทลงให้ Xbox และ Wii อีกด้วย) แต่ถึงจะประสบความสำเร็จในแง่เกมเพลย์ และยอดขายของระบบต่างๆ
แต่ทว่าภาค 2 กลับเป็นภาคที่มีบทสนทนา กับเสียงพากย์ค่อนข้างแย่ซะอย่างนั้น
ภาค 3 เป็นภาคที่ขยับจากบอร์ดรุ่นเก่า สู่บอร์ดรุ่นใหม่อย่าง Sega Chihiro (เซก้า จิฮิโระ) ที่เป็นระบบเดียวกับ Virtua Cop 3 แน่นอนว่างานภาพสวยกว่าสองภาคก่อนหน้า มีความใกล้เคียงระบบคอนโซลอย่าง PS2 และ XBOX อ้วนดำ ซึ่งแต่เดิม ทีมงานของคุณ ทาคาชิ โอดะ (Takashi Oda) จะพยายามทำให้เกมนี้มีเฉดเซลอนิเมชั่น แต่ด้วยเหตุผลทางเทคนิค อีกทั้งยังเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของเกมดูการ์ตูนจนเกินไป คุณโอดะเลยปฏิเสธที่จะทำเกมนี้แบบเฉดอนิเม และแน่นอนว่า ถึงเส้นเรื่องจะดูไม่มีอะไร แต่เกมนี้ก็ทดแทนด้วยกราฟฟิก เสียงประกอบ และเกมเพลย์ที่สนุกไปอีกขั้น เพราะปกติเกมตู้ THOTD จะมีอาวุธเป็นปืนพก แต่ภาคนี้ กลับใช้ปืนลูกซอง เวลาเล่น ผู้เล่นก็ต้องลากเอาปืนลูกซอง ชักขึ้นลำด้วยตัวเองเวลาโหลดกระสุน ก็สร้างความสนุก และสมจริงขึ้น แถมกวาดคะแนนเฉลี่ยทั่วโลกที่ 7.3/10 อีกด้วย!
ภาค 4 ที่ถือเป็นภาคสุดท้ายของไทม์ไลน์หลัก ภาคนี้อัพเกรดงานภาพให้มีระดับเทียบเท่า PS3 และ XBOX360 (ตั้งใจลงให้ 2 เครื่องนี้ด้วยแหละ จริงๆแล้วตอนแรกกะไม่ทำลง พอเกมโดนสับว่า “ยากเกิน” เลยต้องทำลงให้) ออกให้บริการตามร้านตู้เกมใหญ่ๆของญี่ปุ่นในปี 2005
คราวนี้ SEGA สร้างความว้าว ด้วยการเล่าเรื่องราวย้อนถอยหลังจากภาค 3 และเปลี่ยนอาวุธจากลูกซอง มาเป็นปืนกล Uzi ที่มีความมันส์ในการสาดกระสุนอย่างบ้าคลั่ง และฝูงซอมบี้ที่เยอะราวกับยกขโยงกันมาทั้งหมู่บ้าน ความยากของเกมเองก็เข้าขั้นโหดสุดพลัง เรียกได้ว่าคนเล่นเกมนี้จบได้โดยใช้เหรียญไม่ถึง 4 เหรียญ นี่คือเจ๋งเลยทีเดียว (ไม่นับพวกคอนโซล + เลือดเยอะๆนะ) แน่นอนว่า เกมเพลย์ที่ดุเดือดมากขึ้น บอสไฟท์ที่อยู่ในระดับยากโรคจิต จึงทำให้แฟนๆบางส่วนไม่ค่อยชอบภาคนี้เท่าไหร่นักในระบบเกมตู้ จนทีมงานต้องออกเวอร์ชั่นคอนโซลเอาไว้ให้เล่นกันที่บ้านชิวๆแทน…
เรื่องย่อของทั้ง 4 ภาค
The House of The Dead
เรื่องราวของ The House of The Dead เริ่มขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม ปี 1998 “โทมัส โรแกน” (Thomas Rogan) และ “G” สองเจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษแห่งหน่วย AMS ที่ทำงานขึ้นตรงกับสหประชาชาติ (ถ้าเล่นคนเดียว จะเล่นเป็นโทมัส) พวกเขาทั้งสองได้เข้ามาสืบคดีปริศนาหลังจากที่โรแกนได้รับสายโทรศัพท์จาก“โซเฟีย ริชาร์ด” (Sophie Richards) คู่หมั้นของโทมัส โทรหาเขาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับหวาดกลัวอะไรบางอย่าง แล้วก็ขาดการติดต่อ
เขาสืบทราบว่าปลายสาย ระบุที่อยู่ก็คือ “คฤหาสน์คูเรียน” (Curien Mansion) ในยุโรปซึ่งเป็นทั้งห้องทดลอง และบ้านของ ดร.รอย คูเรียน (Roy Curien) นักวิทยาศาสตร์สาขาวิจัยชีวภาพ ชายผู้หมกมุ่นอยู่กับการทดลองเกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตและความตาย โดยมีนายทุนใหญ่คือบริษัทเวชภัณฑ์ “DBR Corporation” และด้วยการทดลองอย่างยาวนาน ก็ได้ทำให้ดร.คูเรียนเริ่มถลำลึก และเริ่มทำการทดลองกับมนุษย์อย่างจริงจัง…
แต่ทว่าตัวอย่างทดลองก็ได้หลุดออกมาจากคฤหาสน์คูเรียน (จะด้วยจงใจ หรืออุบัติเหตุก็ไม่ทราบได้) พวกมันเริ่มออกอาละวาด แพร่เชื้อจนผู้คนบางส่วนกลายเป็น “ซอมบี้ผู้ติดเชื้อ” ซึ่งในระหว่างการเดินทางโทมัส และ G ก็ต้องรับมือกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่หมายจะกระซวกไส้สายลับสองคนนี้ ทั้ง “เดอะ ชาริออต” (The Chariot -Type 27) จักรกลชีวะ ที่หมายจะฆ่าโซเฟีย (ส่งผลต่อฉากจบ) , “เดอะ แฮงค์แมน” (The Hangedman-Type 041) สัตว์ประหลาดกากอยล์ตามตำนาน , “เดอะ เฮอร์มิท” (The Hermit – Type 6803) ปีศาจ 6 ขา ที่ทำหน้าที่คุ้มกันทางเข้าคฤหาสน์คูเรียน ซึ่งทั้งคู่ก็ฝ่ามาได้ พร้อมคำถามในใจว่า มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
จนสุดท้าย พวกเขาก็ได้พบกับผลงานระดับมาสเตอร์พีซของดร.คูเรียน “เดอะ เมจิคเชียน” (The Magician Type 0) อมนุษย์ที่มีความน่าสะพรึง บวกความแข็งแกร่งด้วยพลังแห่งไฟ อีกทั้งยังมีความรู้สึกนึกคิด และไม่ยอมรับฟังคำสั่งจากมนุษย์ ที่มันมองว่าด้อยค่ากว่าตัวมันเอง มันจึงได้ทำการสังหารดร.คูเรียน และเพื่อไม่ให้อมนุษย์ตัวนี้หลุดออกไปยังโลกภายนอก ทำให้โทมัส และ G ต้องเผชิญหน้ากับมันในศึกสุดท้ายถึงสองครั้ง!
หลังจากเอาชนะเดอะ เมจิคเชียนลงได้ ก่อนตาย มันได้ทิ้งข้อความสั้นๆเอาไว้ว่า “พวกแก…ยังไม่ได้เจอของจริง…” ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้สองสายลับเอาไปคิดกันเล่นๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป…
ฉากจบของเกมนี้จะมีทั้งหมด 2 แบบ
แบบแรกคือ True Ending เกิดจากการที่ผู้เล่นสามารถทำคะแนนสูงสุดเกิน 60000 คะแนน จะเป็นการช่วยโซเฟียจากการตามฆ่าของบอส เดอะ ชาริออต ได้ เธอจะเป็นผู้รอดชีวิต โดยในเกมจะระบุว่า หลังจากที่เจอกับเดอะชาริออต เธอถูกมันฟาดให้สลบไปเท่านั้น
แต่ถ้าทำคะแนนต่ำกว่า เธอจะเป็นซอมบี้ที่พุ่งเข้าหาผู้เล่นในฉากจบ
The House of The Dead 2
เรื่องราวของ The House of The Dead เริ่มขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 2000 หลังจากข่าวการหลุดของตัวอย่างทดลองของดร.คูเรียนได้มาถึงหน่วย AMS และสหประชาชาติ ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะหาทางยับยั้งมหันตภัยนี้ และต้องการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มากมายเข้าร่วมภารกิจดังกล่าว แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่มือเก๋าอย่าง “G” ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อนก็เข้าร่วมเช่นกัน โดยเขาเลือกที่จะไปยังเมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี ที่ๆมีข่าวลือเรื่องสัตว์ประหลาดหลุดออกมา แต่ทว่าระหว่างการสืบสวน อยู่ๆ G ก็ขาดการติดต่อกลับมา
ทำให้ทางหน่วย AMS ได้ส่งทีมสายลับเข้าไปสองทีมได้แก่กลุ่มตัวเอก “เจมส์ เทย์เลอร์” (James Taylor) และ “แกรี่ สจ๊วต” (Gary Stewart) ไปยังเวนิซ และกลุ่มผู้ดูแลการอพยพชาวเมือง “เอมี่ คริสตัล” (Amy Crystal) และ “แฮรี่ ฮาริซ” (Harry Harris)
เจมส์ และ แกรี่ ได้พบกับ G ที่กำลังบาดเจ็บอยู่ แต่ทว่าพวกเขาก็พบกับกองทัพซอมบี้ และสัตว์ประหลาดที่เกิดจากฝีมือการค้นคว้าของ “คาเล็บ โกลด์แมน”(Caleb Goldman) ประธานของบริษัท DBR Corporation ผู้ให้การสนับสนุนการทดลองในช่วงสองสามปีให้หลังของดร.คูเรียน ทำให้สองคู่หูเจมส์ และ แกรี่ ต้องหาทางหยุดยั้งความวิปลาศของโกลด์แมนลงให้ได้
ระหว่างทาง นอกจากฝูงปลิงนรก ซอมบี้สารพัดแบบแล้ว เจมส์ กับ แกรี่ ยังต้องรับมือกับบรรดาขุนพลของโกลด์แมนที่หลุดออกมา ทั้ง “จัดจ์เม้นท์” (Judgment -Type 28) ชุดเกราะยักษ์ไร้หัวกับกากอยล์บินได้ , “เดอะ เฮลิโอแฟนท์” (The Hierophant -Type B 05) สัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในใต้คลองเวนิซ , “เดอะ ทาวเวอร์” (The Tower-Type 8000) สัตว์ประหลาดงู 5 หัว รวมไปถึง “เดอะ สเตรนจ์” (Strength-Type 205) ยักษ์ใหญ่ผู้ถือเลื่อยไฟฟ้าที่รอสองสายลับที่โคลอสเซี่ยม
เมื่อลุยมาถึงตึกที่ทำการของโกลด์แมน หลังจากฝ่าฝูงซอมบี้ และเหล่าบอสที่เคยปราบได้ จนมาถึงตัวตึก เพื่อไปต่อยังชั้นดาดฟ้า เจมส์ และ แกรี่ ได้พบกับ “เดอะเมจิคเชี่ยน” (The Magician-Type 0) ผลงานชิ้นโบว์แดงของดร.คูเรี่ยนที่คืนชีพด้วยฝีมือการค้นคว้า
และเทคโนโลยีของโกลด์แมน ก็ได้เสริมแกร่งให้กับ เดอะเมจิคเชี่ยน จนได้รับพลังใหม่ที่น่าสะพรึงในชื่อใหม่ว่า “ดิ เอมเพอร์เรอร์” (The Emperor-Type αlpha)
โดยตัวเอมเพอเรอร์ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “ผู้ควบคุมทุกกฎธรรมชาติ และสามารถทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง” ดังนั้นอย่าแปลกใจที่มันจะมีความน่าเกรงขาม และความสามารถระดับใกล้เคียงเทพเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังไม่ได้เป็นตัวทดลองที่สมบูรณ์อย่างที่โกลด์แมนหวังไว้ มันถูกจัดการโดยสองคู่หูสายลับ
โกลด์แมนที่สูญเสียจุดยืนในชีวิตก็กระโดดตึกฆ่าตัวตายหนีความผิด ส่วน G และสายลับคนอื่นๆที่มาทำคดีนี้ ก็อยู่รอดปลอดภัย…เป็นอันปิดคดีนี้
The House of The Dead 3
เรื่องราวของภาค 3 จะเกิดขึ้นในปี 2019 โลกได้เปลี่ยนไปอย่างมาก จากเหตุเมื่อปี 2003 หลังการตายของโกลด์แมน และ เอมเพอร์เรอร์ ทุกหย่อมหญ้ามีแต่ซากอารยธรรมโลก ความแห้งแล้งเข้ามาแทนที่ หน่วยงาน AMS ถูกยุบ จากความล้มเหลวที่ไม่สามารถหยุดยั้งภัยจากเชื้อไวรัสทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ทำให้อดีตเจ้าหน้าที่หน่วย AMS อย่าง“โทมัส โรแกน” (Thomas Rogan) ตัดสินใจก่อตั้งทีมสืบสวนลับขึ้นมาใหม่ และลงมือสืบสวนเรื่องราวต่างๆที่สถานีวิจัยของบริษัท EFI ที่ๆเขาเชื่อว่าต้นตอของหายนะโลกเมื่อปี 2003 เริ่มต้นที่นี่ แต่โทมัสก็ขาดการติดต่อไป
2 สัปดาห์ต่อมา… “ลิซ่า โรแกน” (Lisa Rogan)ได้ออกตามหาพ่อของเธอที่หายสาปสูญ ร่วมกับ “G” อดีตเจ้าหน้าที่หน่วย AMS มือพระกาฬเพื่อนซี้ของพ่อเธอ ทั้งคู่ก็มาถึงสถานีวิจัยของบริษัท EFI
เรื่องราวระหว่างการบู๊กับฝูงซอมบี้ และสารพัดสัตว์กลายพันธุ์ ของลิซ่า กับ G ก็จะคั่นด้วยคัตซีนที่เล่าเรื่องราวในอดีตของดร.คูเรียน ที่เล่าถึงแรงบันดาลใจในการค้นคว้าที่เป็นต้นเหตุของหายนะโลก
เมื่อหลายปีก่อน ลูกชายของดร.คูเรียน ได้ล้มป่วยอย่างหนัก และเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาได้ เขาได้เริ่มการวิจัยธรรมชาติของชีวิตและความตายเพื่อหาทางรักษาลูกของเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านั่นคือก้าวแรกของการพาโลกไปสู่หายนะ การทดลองมีผลที่ยังไม่น่าพอใจนัก เพราะมีแต่ตัวอย่างที่ล้มเหลว จะมีก็แต่ “เดอะ เมจิคเชียน” (The Magician Type 0) และ “วีล ออฟ เฟท” (Wheel of Fate – Type 0000/Tarot No.X) ที่มีผลลัพท์ที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ก็มาพังเพราะการบุกโจมตีของสองสายลับนั่นเอง
กลับมาที่ปัจจุบัน ลิซ่า กับ G ก็ได้พบกับบอสอย่าง “เดธ” (Death) ซอมบี้ยักษ์ ผู้รักษาความปลอดภัยในตัวอาคาร, “ฟูล” (The Fool -Type 0028/Tarot No. 0) ซอมบี้ชะนียักษ์ที่สร้างความปวดหัวด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของมัน และ “ซัน” (Sun-Type-8830) พืชยักษ์ที่โจมตี และแพร่เชื้อผ่านทางสายระยางค์ที่ยาว และว่องไว
หลังจากฝ่าฝูงซอมบี้ สัตว์ประหลาด และบอสที่ขวางทางมาตลอด ลิซ่าก็ได้พบกับพ่อของเธอ พร้อมๆกับ “แดเนียล คูเรียน” (Daniel Curien) ลูกชายของดร.คูเรียนที่น่าจะตายไปเมื่อหลายปีก่อน โดยเขาออกมายอมรับว่า เขาเป็นคนเรียกให้โทมัสมาช่วยเขา ต่อสู้กับผลงานของพ่อตัวเอง “วีล ออฟ เฟท”
ผลลัพท์หลังจากนี้จะมีทั้งหมด 4 แบบ
แบบแรก จบแบบ Good End
ลิซ่า และ แดเนียล สามารถเอาชนะวีล ออฟ เฟท มาแล้ว แดเนียลได้หยุดยืนอยู่ที่หน้าตึก พร้อมกับสาบานกับตัวเองว่าจะไม่เดินรอยตามความผิดพลาดของพ่อ ทุกคนก็ออกมาจากตัวตึกและก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย
จบแบบที่สอง จบแบบ Bad Ending
ลิซ่า และ แดเนียล สามารถเอาชนะวีล ออฟ เฟท มาแล้ว แดเนียลได้หยุดยืนอยู่ที่หน้าตึกด้วยอาการที่แปลกไป เชื้อไวรัสได้ลุกลามทั่วตัวแดเนียล แล้วพุ่งเข้าทำร้ายลิซ่า และไม่มีใครทราบชะตากรรมของทุกคนในที่นั้นอีกเลย
จบแบบที่สาม จบแบบเอาฮา
ลิซ่า และ แดเนียล สามารถเอาชนะวีล ออฟ เฟท มาแล้ว ลิซ่าก็พบว่ารถจี๊ปที่ตัวเองนั่งขามา ถูกซอมบี้ขโมยไป ลิซ่าจึงวิ่งไล่ตามรถของตัวเองในทะเลทราย และไม่มีใครทราบชะตากรรมของทุกคนในที่นั้นอีกเลย
จบแบบที่สี่ จบแบบทิ้งปริศนา
ลิซ่า และ แดเนียล สามารถเอาชนะวีล ออฟ เฟท มาแล้ว ทุกคนก็ออกมาจากตัวตึกและก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ในตัวตึกกลับมี “ชายใส่สูท” เก็บตัวอย่างของวีล ออฟ เฟท ไปเพื่อแผนการบางอย่าง (ชายใส่สูทที่ว่าก็ไม่ระบุว่าเป็นใคร)
The House of The Dead 4
เรื่องราวของภาคที่ 4 นี้จะเล่าเรื่องราวในช่วงปี 2003 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อจากภาค 2 ที่เล่าเรื่องราวผ่านตัวละคร “เจมส์ เทย์เลอร์” (James Taylor) พระเอกจากภาค 2 และ “เคท กรีน” (Kate Green) ที่กำลังทำการรวบรวมข่าวกรองที่ชั้นใต้ดินที่ห้าของสำนักงาน AMS สาขายุโรป โดยอดีตทั้งสองคนก็อยู่ในเหตุการณ์ “คดีของโกลด์แมน” ที่เวนิซด้วย และพวกเขาเชื่อว่าการทดสอบยังไม่สิ้นสุด แต่ก็เกิดเหตุแผ่นดินไหวฉับพลัน และทำให้พวกเขาถูกทำให้ร่วงลงไปยังชั้นที่ลึกยิ่งกว่า…
สองสามวันต่อมา เคท และ เจมส์ ที่กำลังรอความช่วยเหลือจากทีมกู้ชีพ ก็ได้พบว่าตัวตึกกำลังถูกบุกรุกจากกองทัพผีดิบ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจออกจากตัวอาคารผ่านทางท่อระบายน้ำชั้นใต้ดิน ไปยังห้องเก็บข้อมูล ที่นั่นพวกเขาได้พบว่าจะมีการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง แน่นอนว่าพวกเขาต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุด
ระหว่างทาง นอกจากกองทัพซอมบี้แล้ว เคท และ เจมส์ ก็ต้องเจอกับสัตว์ประหลาดระดับบอสอย่าง “จัซติส” (Justice-Type-0053) สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ขนาดยักษ์ , “เดอะ เลิฟเวอร์” (The Lovers-Type-6805) แมงมุมทาลันทูล่ายักษ์ , “เดอะ เอมเพรส” (The Empress-Type-1210) สิ่งมีชีวิตกายพันธุ์ที่มีความคล่องตัวสูง และอึดถึกทน และ “เทมเปอร์แรนซ์” (Temperance-Type 0483/Tarot No. XIV)
ในที่สุด ทั้งเจมส์ และ เคท ก็ได้รู้ความจริงว่า เหตุการณ์สัตว์กลายพันธุ์ และสงครามนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นจากฝีมือของอดีตประธานบริษัท DBR Corporation “คาเล็บ โกลด์แมน”(Caleb Goldman) ที่ถูกระบุว่าฆ่าตัวตายหลังจากเหตุกาณ์ในปี 1998 เขาติดต่อมายัง PDA ของเจมส์พร้อมระบุว่า ระเบิดนิวเคลียร์จะทำลายทุกอย่างในอีก 1 ชม.จากนี้ ทำให้ทั้งคู่ต้องไปยังตึกบริษัท DBR Corporation ที่ๆโกลด์แมนอยู่เพื่อยุติเรื่องเหล่านี้
แน่นอนว่าเส้นทางมายังตึกนั้นก็ไม่หมู เพราะนอกจากซอมบี้รายทางที่อึดขึ้น ทนขึ้นแล้ว ยังต้องรับมือกับบอสอย่าง “เดอะ สตาร์” (The Star – Type 0001) มนุษย์กลายพันธ์ุที่มีพลังจิตสูง แถมเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดต่อยอดมาจาก เดอะเมจิคเชียนอีกด้วย ถึงจะเอาชนะได้ แต่เจมส์เองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องทำงานของโกลด์แมน และสามารถหยุดระเบิดนิวเคลียร์ลงได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเจตนาของโกลด์แมนอยู่แล้ว โดยเขาประกาศกับทั้งสองผ่านทางจอมอนิเตอร์ว่า ความตั้งใจที่แท้จริงของเขาคือการย้อนมนุษยชาติให้กลับไปสู่สถานะดั้งเดิม ที่ไม่มีอาวุธห้ำหั่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทำร้ายโลกมากไปกว่านี้แล้ว
และยังเตรียมการขั้นสุดท้าย “กล่องแพนโดร่า” หรือแผนการปลุก “ไทป์เบต้า เดอะเวิร์ล” (Type-β “World”) เพื่อเติมเต็มส่วนที่หายไปของบทบาทการเป็นผู้สืบทอดของ “เอมเพอร์เรอร์” ซึ่งเป็นโครงการเดิมในปี 2000
ทั้งคู่ไม่อาจต่อกรกับพลังที่ใกล้เคียงกับเทพเจ้าได้เลย โดยเฉพาะในร่างที่สามของเดอะเวิร์ล ทำให้เจมส์ตัดสินใจสละชีพ ระเบิดตัวเอง เพื่อกำจัดมัน
ฉากจบของเกมนี้ มีทั้งหมด 4 แบบ
แบบแรก จบแบบ Good End
ที่โต๊ะทำงานของโกลด์แมน เขาได้ออกมาบอกกับผู้เล่นว่า “ใช่ มีอย่างนึงที่ลืมบอก มนุษย์จะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวที่ไม่ถูกทำลาย “ แล้วก็หายไปจากจอ
จบแบบที่สอง จบแบบ Bad Ending
เหมือนกับแบบแรก แต่ระหว่างที่โกลด์แมนพูด เขาก็ถอดแว่นตาให้เห็นแววตาสีแดงเหมือนกับมนุษย์กลายพันธุ์
จบแบบที่สาม
สายลับ G จะเป็นคนเดินมาที่ๆพวกของเจมส์ และ เคท สู้กับเดอะเวิร์ล แล้วบอให้เจมส์หลับให้สบาย เขาจะเป็นคนรับช่วงต่องานนี้เอง
จบแบบที่สี่ จบแบบทิ้งปริศนา
ภาพตัดมาที่ห้องทำงานของชายปริศนาคนหนึ่ง (คนเดียวกันกับที่โผล่มาในฉากจบภาค 3) พร้อมกับเฉลยว่า ที่แท้จริงแล้ว ยังมี “กล่องแพนโดร่า” อยู่อีกกล่องหนึ่ง (อาจเชื่อมภาค 3)
The House of the Dead 4 : Special
จริงๆภาค 4 ยังมีภาคเสริม ที่ชื่อ The House of the Dead 4 : Special ด้วยนะ แต่จะเป็นเรื่องราวหลังจากที่ เจมส์ระเบิดตัวเองตายไปแล้ว ทำให้เคท ต้องร่วมมือกับ G เพื่อกวาดล้างพวกที่เหลืออยู่ ในเกมก็จะเจอกับพวกบอสรีไซเคิลของเก่ามาโมดิฟายสีใหม่ เพิ่มลูกเล่นใหม่ๆของบอสเข้าไปแทน โดยใช้ฉากหลังเป็นภาค 3 แทน
และมีบอสเป็น “Magician Type 0″ เมื่อเอาชนะได้ ผู้เล่นจะต้องทำลาย กล่องแพนโดร่าอีกใบ (ที่ปรากฎในฉากจบแบบที่ 4 ของภาคหลัก) ด้วยการปาระเบิดใส่ตัวมันภายใน 10 วินาที ซึ่งจะส่งผลต่อฉากจบ สองแบบ
ฉากจบ Good End
เคท และ G สามารถปาระเบิดสกัดการเปิดกล่องแพนโดร่าอีกใบของ Magician Type 0 ได้สำเร็จ ทั้ง G และ เคท เดินออกจากห้องทดลอง แล้วเดินกลับเข้าเมือง โดยที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของทั้งสองคนหลังจากนั้น
ฉากจบ Bad End
เคท และ G ไม่สามารถปาระเบิดสกัดการเปิดกล่องแพนโดร่าอีกใบของ Magician Type 0 ได้ทำให้มันเตรียมร่างโคลนของตัวเองนับโหลในหลอดทดลอง ซึ่งพร้อมที่จะออกมาอาละวาดได้ทุกเมื่อ และเมื่อกล่องแพนโดร่าถูกเปิดออกไม่มีใครรู้ชะตากรรมของทั้งสองคนหลังจากนั้นเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จริงๆเรื่องราวของ The House of The Dead ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังสามารถต่อแยกย่อยไปเป็นภาคอื่นๆในระบบคอนโซล มือถือ และอีกมากมายหลายรูปแบบเกมเพลย์
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า เกมเมอร์อย่างเราๆ ก็ต้องเคยสัมผัสมากับเกมยิงผีเหล่านี้บ้าง ไม่ว่าจะทางการหยอดเหรียญเล่นเกมตู้ หรือโหลด PC มาเล่น แอดมินเชื่อเหลือเกินว่าไม่ค่อยมีใครสนใจเนื้อเรื่องกันซักเท่าไหร่ เพราะแค่ยิงกับพวกผีที่ดาหน้ากันเข้ามายังกะฝูงแมลง ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว…แถมเกมตู้อาร์เคด เอาจริงๆหัวใจหลักๆไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่องเท่าไหร่ เพราะใส่ใจกับเกมเพลย์มากกว่า…
แต่แอดมินเชื่อว่าเกมนี้ ถ้าต่อยอด หรือปั้นดีๆในยุคนี้ อาจจะดังไม่ต่างจาก Resident Evil เลยก็เป็นได้ ด้วยพล๊อตเรื่องที่มีจุดให้เล่นเยอะพอตัวนั่นเอง…
เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เนื้อเรื่องเกมอะไรเพิ่มเติม ก็ลองทิ้งชื่อเกมไว้ที่ใต้บทความได้นะ เผื่อแอดมินจะหยิบมาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ
แอดมิน Ak47
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก