The Duskbloods
ประเภท PvPvE Action Multiplayer
ระบบ :Nintendo Switch 2
พัฒนาโดย : FROMSOFTWARE
วางจำหน่าย : 2026
The Duskbloods เปิดตัวบน Nintendo Switch 2 เกมใหม่ที่ชวนให้นึกถึง Bloodborne แต่ไม่ใช่ภาคต่อที่แฟน ๆ รอคอย
เพราะในคลิป Nintendo Direct ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวเกมใหม่ ‘The Duskbloods’ ซึ่งเป็นเกมแอ็กชันมัลติเพลเยอร์ที่พัฒนาเพื่อ Nintendo Switch 2 โดยเฉพาะ สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ พอสมควร เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่า ค่ายเกมที่ทำเกมป้อนคอนโซลสายโหด จะมาทำเกมโหด ลงเครื่องเกมสำหรับครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการช๊อกแฟนๆที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของ Bloodborne แต่กลับได้รับเกมใหม่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศลึกลับและความดิบเถื่อน บนนินเทนโดสวิทช์แทน
ซึ่งในบรรดาเกมที่สร้างกระแสฮือฮาในงานเปิดตัว Nintendo Switch 2 The Duskbloods ผลงานใหม่จาก FromSoftwar พร้อมคำโปรยว่าเป็น “PvPvE Action Multiplayer ที่มีระบบ “บทบาท” ลึกที่สุด” เท่าที่สตูดิโอเคยทำมา ก็สะดุดตา และแฟนๆสายฮาร์ดคอร์ ดาร์คแฟนตาซี ต่างพากันให้ความสนใจ
และจากบทสัมภาษณ์พิเศษของ Hidetaka Miyazaki เผยแพร่โดย นินเทนโด เราก็ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า The Duskbloods ไม่ใช่แค่การทดลองอะไรใหม่ๆ ของ FromSoftware เสียทีเดียว แต่คืออีกก้าวของ ทีมงาน ที่หันมาทำเกมแอคชัน ที่ผสมผสานระบบ RPG และกลยุทธ์อย่างลึกซึ้ง ในฉากหลังที่หดหู่ ชวนขนลุก
โลกที่ใกล้ดับสูญ และการแย่งชิง “First Blood”
คุณ Miyazaki เล่าว่า เรื่องราวของ The Duskbloods เริ่มต้นในช่วงที่เรียกว่า “Twilight of Humanity” – ยุคสมัยสุดท้ายของมนุษยชาติที่อารยธรรมล่มสลายไปเกือบหมด ไม่มีใครเหลือให้จดจำ ไม่มีอนาคตให้ไล่ตาม โลกกลายเป็นสถานที่รกร้าง เต็มไปด้วยเศษซากแห่งสงครามและความสิ้นหวัง
ในช่วงเวลานั้น มีสิ่งที่เรียกว่า “เลือดพิเศษ” (Blood) ปรากฏขึ้น มันสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจของมนุษย์ ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ธรรมดา บุคคลเหล่านี้เรียกตนเองว่า Bloodsworn – นักรบที่มีพันธะสัญญากับเลือด และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อ “First Blood” – สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอาจคืนอารยธรรมให้โลก… หรือทำลายล้างมันอย่างสมบูรณ์
แต่ Bloodsworn แต่ละคนไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน พวกเขาถูก “เรียกตัว” ข้ามมิติเวลา บางคนมาจากยุควิกตอเรียน บางคนจากอุตสาหกรรมยุคต้น หรือแม้แต่โลกแฟนตาซีที่เรายังไม่รู้จักดี สิ่งนี้ทำให้ The Duskbloods มีบรรยากาศหลากหลาย ทั้งเมืองมืดแนวโกธิค, เขตโรงงานหมอกหนาทึบ, หรือทุ่งศพกลางทะเลทราย
“เราไม่ได้ตีความ Bloodsworn เป็นแวมไพร์แบบสยองขวัญ แต่เป็นภาพแทนของ ‘พลังที่สืบทอดจากยุคสู่ยุค’” — Hidetaka Miyazaki กล่าว
เกมเพลย์ PvPvE ที่เปิดเส้นทางใหม่ให้กับผู้เล่นทุกสไตล์
หนึ่งในหัวใจของ The Duskbloods คือโหมด PvPvE Multiplayer ที่ให้ผู้เล่นสูงสุด 8 คน เข้าร่วมในแมตช์เดียวกัน โดยแต่ละคนจะรับบทเป็น Bloodsworn ที่มีประวัติ ความสามารถ และเป้าหมายเฉพาะตัว การเอาชนะไม่จำกัดเพียงการฆ่าคู่ต่อสู้ แต่เปิดโอกาสให้ใช้หลากหลายวิธีในการเก็บ Victory Points ซึ่งเป็นตัวตัดสินผู้ชนะในแต่ละรอบ
Victory Points: “ไม่จำเป็นต้องฆ่า” เพื่อ “ชนะ”
Victory Points เป็นระบบแต้มสะสมที่ให้ผู้เล่นได้รับจากหลายกิจกรรม เช่น
-เอาชนะศัตรู (PvP)
-ปราบบอสในแผนที่ (PvE)
-ทำภารกิจเฉพาะ (Objective)
-เก็บไอเท็มหรือข้อมูลสำคัญ
-เอาตัวรอด จนหมดเวลา
ระบบนี้ทำให้แม้ผู้เล่นที่ไม่ถนัดต่อสู้ ก็สามารถชนะได้ด้วยการใช้กลยุทธ์ การเอาตัวรอด หรือสร้างพันธมิตรแบบชั่วคราว
“เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเขา ‘กำลังเขียนบทของตัวเอง’ ในสนามรบเดียวกัน” — Miyazaki กล่าว
Blood Customization: เมื่อชะตาเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสายเลือด
The Duskbloods มาพร้อมระบบปรับแต่งตัวละครที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่เจาะลึกถึงระดับ “ชะตากรรม” ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Blood History & Fate โดยผู้เล่นสามารถเลือกต้นกำเนิดของเลือด (เช่น ยุค, วัฒนธรรม, ประสบการณ์ในอดีต) และชะตาที่ตนจะเผชิญในแต่ละแมตช์ โดยระบบนี้จะเปิดทางให้ตัวละครมีบทบาทเฉพาะ เช่น
Destined Rival: มีศัตรูหนึ่งคนที่ระบบสุ่มมาให้ หากฆ่าได้จะได้แต้มพิเศษ
Destined Companion: ต้องตามหาคู่หูเพื่อร่วมมือให้ได้ก่อนเวลาหมด
Bloodbound Oath: ถูกบังคับให้ทำภารกิจพิเศษเพื่อให้พลังสายเลือดสงบลง
องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้แมตช์เดียวกันอาจมีผู้เล่นที่มีเป้าหมายและเส้นทางแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
Action Combat: ความเร็วสูง อาวุธระยะไกล และการเคลื่อนไหวไร้ขีดจำกัด
Miyazaki กล่าวชัดว่า เกมนี้จะมีระบบการเคลื่อนไหวที่ “อิสระและสะใจที่สุด” เท่าที่เขาเคยพัฒนา โดยตัวละครจะสามารถใช้ super jump, double jump, dash, parry, และ teleport skill ที่ผูกกับสายเลือดของแต่ละคน
อีกหนึ่งจุดที่ต่างจากเกมก่อน ๆ ของ FromSoftware คือ อาวุธระยะไกล ทุกตัวละครจะมีติดตัวเสมอ บางชนิดอาจเป็นปืนโบราณ ปืนลม เครื่องยิงกระสุนแสง หรืออุปกรณ์พลังเลือด ซึ่งสามารถใช้ได้ในระยะกลาง-ไกล
Event System: เปลี่ยนเกมแบบเรียลไทม์
ในแต่ละแมตช์ จะมีอีเวนต์แบบสุ่มที่เปลี่ยนไดนามิกของเกมทันที เช่น หินยักษ์ที่ลอยขึ้นฟ้าพร้อมศัตรูใหม่ ,เขตพลังที่ทำให้ทุกคนต้องถอยร่น,Boss ลับที่ให้แต้มมหาศาลแต่เสี่ยงสูง
ผู้เล่นต้องตัดสินใจในเวลาอันสั้น ว่าจะเข้าร่วมกับเหตุการณ์หรือหนีเอาตัวรอดเพื่อแผนระยะยาว
แม้จะไม่ใช่ “Soulslike” อย่างเต็มตัว แต่ The Duskbloods ยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมืด ความโดดเดี่ยว การฟื้นฟู และการเลือกเส้นทางชีวิต ที่เป็นลายเซ็นของ Miyazaki มาตลอด
และที่สำคัญ — นี่เป็นเกมแรกที่เน้น “Multiplayer Role-based PvPvE” จาก FromSoftware อย่างเป็นทางการ
‘The Duskbloods’ มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 โดยจะเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟบน Nintendo Switch 2 เท่านั้น รายละเอียดจะนำเสนอในโอกาสต่อไปครับ
แอดมิน AK47
#NintendoDirect #NintendoSwitch2 #TheDuskbloods