The Duskbloods [Nintendo Switch 2]
06 เมษายน 2568 03:03 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

the_duskbloods 2-4-2025 (6)

The Duskbloods

ประเภท  PvPvE Action Multiplayer

ระบบ :Nintendo Switch 2

พัฒนาโดย : FROMSOFTWARE

วางจำหน่าย : 2026

the_duskbloods 2-4-2025 (1)

The Duskbloods เปิดตัวบน Nintendo Switch 2 เกมใหม่ที่ชวนให้นึกถึง Bloodborne แต่ไม่ใช่ภาคต่อที่แฟน ๆ รอคอย

 the_duskbloods 2-4-2025 (4)

เพราะในคลิป Nintendo Direct ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวเกมใหม่ ‘The Duskbloods’ ซึ่งเป็นเกมแอ็กชันมัลติเพลเยอร์ที่พัฒนาเพื่อ Nintendo Switch 2 โดยเฉพาะ สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ พอสมควร เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่า ค่ายเกมที่ทำเกมป้อนคอนโซลสายโหด จะมาทำเกมโหด ลงเครื่องเกมสำหรับครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการช๊อกแฟนๆที่เฝ้ารอคอยการกลับมาของ Bloodborne แต่กลับได้รับเกมใหม่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศลึกลับและความดิบเถื่อน บนนินเทนโดสวิทช์แทน

 

ซึ่งในบรรดาเกมที่สร้างกระแสฮือฮาในงานเปิดตัว Nintendo Switch 2 The Duskbloods ผลงานใหม่จาก FromSoftwar  พร้อมคำโปรยว่าเป็น “PvPvE Action Multiplayer ที่มีระบบ “บทบาท” ลึกที่สุด” เท่าที่สตูดิโอเคยทำมา ก็สะดุดตา และแฟนๆสายฮาร์ดคอร์ ดาร์คแฟนตาซี ต่างพากันให้ความสนใจ

CV_TDB_emb10

และจากบทสัมภาษณ์พิเศษของ Hidetaka Miyazaki เผยแพร่โดย นินเทนโด เราก็ได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า The Duskbloods ไม่ใช่แค่การทดลองอะไรใหม่ๆ ของ FromSoftware เสียทีเดียว แต่คืออีกก้าวของ ทีมงาน ที่หันมาทำเกมแอคชัน ที่ผสมผสานระบบ RPG และกลยุทธ์อย่างลึกซึ้ง ในฉากหลังที่หดหู่ ชวนขนลุก

 

 

โลกที่ใกล้ดับสูญ และการแย่งชิง “First Blood”

the_duskbloods 2-4-2025 (2)

คุณ Miyazaki  เล่าว่า เรื่องราวของ The Duskbloods เริ่มต้นในช่วงที่เรียกว่า “Twilight of Humanity” – ยุคสมัยสุดท้ายของมนุษยชาติที่อารยธรรมล่มสลายไปเกือบหมด ไม่มีใครเหลือให้จดจำ ไม่มีอนาคตให้ไล่ตาม โลกกลายเป็นสถานที่รกร้าง เต็มไปด้วยเศษซากแห่งสงครามและความสิ้นหวัง

 

ในช่วงเวลานั้น มีสิ่งที่เรียกว่า “เลือดพิเศษ” (Blood) ปรากฏขึ้น มันสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและจิตใจของมนุษย์ ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ธรรมดา บุคคลเหล่านี้เรียกตนเองว่า Bloodsworn – นักรบที่มีพันธะสัญญากับเลือด และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อ “First Blood” – สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอาจคืนอารยธรรมให้โลก… หรือทำลายล้างมันอย่างสมบูรณ์

The_Duskbloods_08

แต่ Bloodsworn แต่ละคนไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน พวกเขาถูก “เรียกตัว” ข้ามมิติเวลา บางคนมาจากยุควิกตอเรียน บางคนจากอุตสาหกรรมยุคต้น หรือแม้แต่โลกแฟนตาซีที่เรายังไม่รู้จักดี สิ่งนี้ทำให้ The Duskbloods มีบรรยากาศหลากหลาย ทั้งเมืองมืดแนวโกธิค, เขตโรงงานหมอกหนาทึบ, หรือทุ่งศพกลางทะเลทราย

 

“เราไม่ได้ตีความ Bloodsworn เป็นแวมไพร์แบบสยองขวัญ แต่เป็นภาพแทนของ ‘พลังที่สืบทอดจากยุคสู่ยุค’” — Hidetaka Miyazaki กล่าว

 

 

 

เกมเพลย์ PvPvE ที่เปิดเส้นทางใหม่ให้กับผู้เล่นทุกสไตล์

The_Duskbloods_09

หนึ่งในหัวใจของ The Duskbloods คือโหมด PvPvE Multiplayer ที่ให้ผู้เล่นสูงสุด 8 คน เข้าร่วมในแมตช์เดียวกัน โดยแต่ละคนจะรับบทเป็น Bloodsworn ที่มีประวัติ ความสามารถ และเป้าหมายเฉพาะตัว การเอาชนะไม่จำกัดเพียงการฆ่าคู่ต่อสู้ แต่เปิดโอกาสให้ใช้หลากหลายวิธีในการเก็บ Victory Points ซึ่งเป็นตัวตัดสินผู้ชนะในแต่ละรอบ

 

 

Victory Points: “ไม่จำเป็นต้องฆ่า” เพื่อ “ชนะ”

Duskbloods-Creators-Voice_04-04-25_011-768x432

Victory Points เป็นระบบแต้มสะสมที่ให้ผู้เล่นได้รับจากหลายกิจกรรม เช่น

 

-เอาชนะศัตรู (PvP)

-ปราบบอสในแผนที่ (PvE)

-ทำภารกิจเฉพาะ (Objective)

-เก็บไอเท็มหรือข้อมูลสำคัญ

-เอาตัวรอด จนหมดเวลา

 

ระบบนี้ทำให้แม้ผู้เล่นที่ไม่ถนัดต่อสู้ ก็สามารถชนะได้ด้วยการใช้กลยุทธ์ การเอาตัวรอด หรือสร้างพันธมิตรแบบชั่วคราว

 

“เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเขา ‘กำลังเขียนบทของตัวเอง’ ในสนามรบเดียวกัน” — Miyazaki กล่าว

 

 

Blood Customization: เมื่อชะตาเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสายเลือด

The_Duskbloods_10

The Duskbloods มาพร้อมระบบปรับแต่งตัวละครที่ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ แต่เจาะลึกถึงระดับ “ชะตากรรม” ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Blood History & Fate โดยผู้เล่นสามารถเลือกต้นกำเนิดของเลือด (เช่น ยุค, วัฒนธรรม, ประสบการณ์ในอดีต) และชะตาที่ตนจะเผชิญในแต่ละแมตช์ โดยระบบนี้จะเปิดทางให้ตัวละครมีบทบาทเฉพาะ เช่น

 

Destined Rival: มีศัตรูหนึ่งคนที่ระบบสุ่มมาให้ หากฆ่าได้จะได้แต้มพิเศษ

Destined Companion: ต้องตามหาคู่หูเพื่อร่วมมือให้ได้ก่อนเวลาหมด

Bloodbound Oath: ถูกบังคับให้ทำภารกิจพิเศษเพื่อให้พลังสายเลือดสงบลง

 

องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้แมตช์เดียวกันอาจมีผู้เล่นที่มีเป้าหมายและเส้นทางแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

 

Action Combat: ความเร็วสูง อาวุธระยะไกล และการเคลื่อนไหวไร้ขีดจำกัด

Duskbloods-Creators-Voice_04-04-25_007-768x432

Miyazaki กล่าวชัดว่า เกมนี้จะมีระบบการเคลื่อนไหวที่ “อิสระและสะใจที่สุด” เท่าที่เขาเคยพัฒนา โดยตัวละครจะสามารถใช้ super jump, double jump, dash, parry, และ teleport skill ที่ผูกกับสายเลือดของแต่ละคน

Duskbloods-Creators-Voice_04-04-25_009-768x432

อีกหนึ่งจุดที่ต่างจากเกมก่อน ๆ ของ FromSoftware คือ อาวุธระยะไกล ทุกตัวละครจะมีติดตัวเสมอ บางชนิดอาจเป็นปืนโบราณ ปืนลม เครื่องยิงกระสุนแสง หรืออุปกรณ์พลังเลือด ซึ่งสามารถใช้ได้ในระยะกลาง-ไกล

 

 

 

Event System: เปลี่ยนเกมแบบเรียลไทม์

Duskbloods-Creators-Voice_04-04-25_008-768x432

ในแต่ละแมตช์ จะมีอีเวนต์แบบสุ่มที่เปลี่ยนไดนามิกของเกมทันที เช่น หินยักษ์ที่ลอยขึ้นฟ้าพร้อมศัตรูใหม่ ,เขตพลังที่ทำให้ทุกคนต้องถอยร่น,Boss ลับที่ให้แต้มมหาศาลแต่เสี่ยงสูง

ผู้เล่นต้องตัดสินใจในเวลาอันสั้น ว่าจะเข้าร่วมกับเหตุการณ์หรือหนีเอาตัวรอดเพื่อแผนระยะยาว

 

 

แม้จะไม่ใช่ “Soulslike” อย่างเต็มตัว แต่ The Duskbloods ยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมืด ความโดดเดี่ยว การฟื้นฟู และการเลือกเส้นทางชีวิต ที่เป็นลายเซ็นของ Miyazaki มาตลอด

 

และที่สำคัญ — นี่เป็นเกมแรกที่เน้น “Multiplayer Role-based PvPvE” จาก FromSoftware อย่างเป็นทางการ

 

the_duskbloods 2-4-2025 (5)

‘The Duskbloods’ มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 โดยจะเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟบน Nintendo Switch 2 เท่านั้น รายละเอียดจะนำเสนอในโอกาสต่อไปครับ

 

 

แอดมิน AK47

 

#NintendoDirect #NintendoSwitch2 #TheDuskbloods