เรียกว่าเป็นซีรีส์แนวฮีโร่ที่ฉีกกรอบจนลืมภาพจำไปเลยกับซีรีส์ The Boys ที่ฉายทาง Prime Video (Amazon Prime) กับการพลิกเรื่องราวเมื่อเหล่าฮีโร่ที่เหล่าผู้คนต่างเชิดชู กลับกลายเป็นกลุ่มคนดัง ดาราหน้าจอผู้เย่อหยิ่งไม่สนคุณธรรม จนเกิดกลุ่มคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อกระชากหน้ากากคนดีจอมปลอมพวกนี้ กลายเป็นเรื่องราวในซีรีส์ ซึ่งตอนนี้เรื่องราวดำเนินมาแล้วถึง 3 ซีซั่น
แต่ก่อนที่จะไปดูซีซั่น 4 เราจะพาย้อนรอบไปดูเรื่องราวทั้งสามซีซั่นที่ผ่านมาเรียกน้ำย่อยกันครับ
The Boys Season 1
เรื่องราวจะเล่าถึงโลกที่มีเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มากมาย และมี The Seven กลุ่มสุดยอดฮีโร่ 7 คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Vought International โดยใช้ความเป็นฮีโร่กอบโกยผลประโยชน์ในคราบคนดีของสังคมที่คอยปกป้องบ้านเมือง ราวกับเป็นดาราเซเลบคนดัง และหวังจะเป็นบริษัทที่มีการลงทุนมากที่สุดในโลก
แม้ภายนอกจะเป็นฮีโร่ผู้ปกป้องบ้านเมือง แต่ฉากหลังเลวสะบัดได้ใจ ใช้ชีวิตเสเพล และทำตัวหยิ่งผยองมั่วยา บ้าเซ็กซ์ มีเรื่องฉาวซุกไว้มากมาย
ซึ่งสมาชิก The Seven ประกอบไปด้วย
Homelander หัวหน้าทีมผู้เป็นดั่งศูนย์กลาง มีความโรคจิต พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
Queen Maeve สาวน้อยมหัศจรรย์ที่ติดเหล้าเป็นว่าเล่น
A-Train ฮีโร่ที่เร็วราวกับเดอะ แฟลช แต่เสพสารกระตุ้นจนเลยเถิด
Black Noir พูดไม่ได้ แต่โหดโรคจิตพอๆกับ Homelander
The Deep เจ้าสมุทรเซ็กซ์จัด เห็นหญิงไม่ได้ต้องขอแอ้ม จนมีเรื่องฉาวโฉ่มากมาย
Translucent มนุษย์ล่องหนจอมวิตถาร
และสมาชิกใหม่ล่าสุดอย่าง Starlight หญิงสาวที่ใฝ่ฝันอยากเป็นฮีโร่ แต่เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมพบว่า นี่มันแตกต่างจากที่เธอฝันด้วยซ้ำไป แถมต้องเจอความวิปริตของเหล่าสมาชิกในทีมอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม The Seven ก็กลายเป็นขวัญใจของประชาชน แม้ว่าพวกเขาจะเลวทรามขนาดไหนก็ตาม…
แม้จะมีหลายคนยังคงเชิดชูเหล่าบรรดาฮีโร่จอมปลอม แต่ก็ยังมีกลุ่มคนตาดำๆที่ได้รับผลกระทบจากความแสบและความเลวของเหล่าฮีโร่ จึงตัดสินใจรวมทีมตั้งตนเป็นศาลเตี้ย เพื่อจะกระชากหน้าการฮีโร่ให้ราบคาบในนาม The Boys เหล่าคนธรรมดาที่มีความแค้นกับกลุ่มฮีโร่ และพร้อมจะกระทืบให้จมดิน
เรื่องราวเริ่มมาจากวันธรรมดาของเซลล์ขายเครื่องไฟฟ้าร้านเล็กๆในเมือง “ฮิวอี้” ที่กำลังกลับบ้านกับแฟนสาว…แต่ A-Train ได้วิ่งผ่านร่างแฟนสาวจนกลายเป็นเศษเนื้อ ทำให้ฮิวอี้แค้นจัด ที่คนรักต้องจบชีวิตจากเหล่า The Seven ทำให้เขาได้มีโอกาสเจอกับ บิลลี่ บุชเชอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่มีความแค้นกับเหล่าฮีโร่จอมปลอม ซึ่งเขาได้รวมสมาชิกที่มีเป้าหมายเหมือนกันนั่นคือ “ถล่มกลุ่มฮีโร่ให้สิ้นซาก” โดยเขาเองก็ทราบเรื่องราวของฮิวอี้ดี เพราะยังมีอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่ม The Seven แต่ไม่สามารถปริปากบอก นั่นเพราะ Vought บริษัทที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มฮีโร่คนดีพวกนี้ ใช้อำนาจเงินตราปิดปากนั่นเอง
แล้วฮิวอี้ก็ต้องจำใจร่วมทำภารกิจกระชากหน้ากากคนดี โดยเป้าหมายแรกคือ A-Train โจทก์ของฮิวอี้ โดยจะทำทีเป็นยอมสงบศึก เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ แต่ทว่าแผนการที่จะทำการสอดแนมนั้นดันมีคนได้ยินคือ Translucent มนุษย์ล่องหนหนึ่งในก๊วน The Seven ก่อนจะตามไปคิดบัญชีฮิวอี้ถึงที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าของเขาที่ทำงานอยู่ โชคดีที่ บุชเชอร์ เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ก่อนจะร่วมมือกันกระทืบมนุษย์ล่องหนจนน่วม และลักพาตัวมาสอบสวนว่า “A-Train วิ่งไปไหน” ในวันที่วิ่งชนแฟนฮิวอี้ตาย
ฮิวอี้ได้พบกับ “เฟรนชี่”สมาชิกอีกคนของ The Boys ผู้ชำนาญด้านอาวุธ และนักเคมีตัวยง เพราะนอกจากสร้างแล้ว ยังเสพเองด้วย ทั้งก๊วนกำลังหาวิธีฆ่า Translucent ที่มีผิวหนังแข็งดุจเพชร และล่องหนได้ บุชเชอร์ จึงตัดสินใจใช้ระเบิดฝังก้นของ Translucent ให้ระเบิดจากภายใน ซึ่งหลังจากการกดระเบิดจนมนุษย์ล่องหนกลายเป็นเศษเนื้อ ทีม The Boys ก็ได้เบาะแสว่าวันที่แฟนฮิวอี้ตาย คือ A-Train กำลังวิ่ง มาจากบ้านของ Pop Claw แฟนของเขา จากการเก็บสารกระตุ้น Compound V นั่นเอง
ในอีกฟากหนึ่งเราก็ได้รู้เรื่องราวของการมีอำนาจของ Vought โดยมีซีอีโออย่าง เมเดลิน สตีลเวล ที่คอยยื่นข้อเสนอให้กับคนในรัฐบาลถึงการมีข้อดีในการมีเหล่าฮีโร่คอยปกป้อง แต่พวกคนในสภาเขามองว่าการมีของฮีโร่อาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะถ้าเกิดพวกเขามีอำนาจมากขึ้นผลเสียก็ย่อมจะตามมาอีกมากมาย แต่เธอก็ยื่นในสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ ก็ทำให้มีหลายคนถูกล็อบบี้โดยฝีมือของเธอ เพื่อหวังจะให้ฮีโร่เข้ามามีบทบาทแทนที่นั่นเอง
อีกฟากหนึ่ง The Boys ทราบแล้วว่า เซรุ่มไม่ได้อยู่ที่ A-Train หากแต่เป็น PopClaw ที่ดูแลเก็บไว้อย่างดี ก่อนที่เธอจะแอบหยิบมาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่เกิดเหตุที่เธอพลั้งมือฆ่าคน ทำให้ก๊วน The Boys เข้าเผยตัวก่อนจะข่มขู่แบล๊คเมล์เธอเกี่ยวกับเซรุ่มแลกกับจะปิดเหตุการณ์นี้ให้เงียบ ก่อนที่พวกเขาจะได้เบาะแสว่ามี Compound V ขายอยู่ที่ตลาดของชุมชนในย่านเอเชีย ก๊วน The Boys ได้พบเด็กสาวชาวเอเชียนามว่า คิมิโกะ ที่กลายมาเป็นสมาชิกของ The Boys ในเวลาต่อมา แต่กว่าจะได้ตัวเธอเข้าร่วมทีมก็สะบักสะบอมเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
ในภายหลัง Popclaw ก็ถูกแฟนหนุ่มจัดการอย่างเลือดเย็นหลังเธอยอมเปิดเผยว่า The Boys เป็นคนอยู่เบื้องหลังนั่นเอง
ทางฝั่ง The Seven ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามีคนกำลังจ้องจะเล่นงาน หลังได้เห็นศพของเพื่อนร่วมทีมอย่าง Translucent แต่ทว่าก็มีภารกิจให้พวกเขาไปจัดการ นั่นคือการช่วยเครื่องบินที่กำลังถูกจี้โดยผู้ก่อการร้าย
Homelander และ Queen Maeve จึงรับหน้าที่ทำภารกิจครั้งนี้ แต่ทว่า Homelander กลับไม่ช่วยนำเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัย และปล่อยให้ผู้โดยสารจบชีวิตทั้งลำอย่างน่าสงสาร
แล้วความแสบยังไม่จบแค่นั้น…Homelander ปั้นหน้าเศร้าและสารภาพว่าพวกเขาไปช่วยไม่ทัน เพราะต้องรอรัฐบาลอนุมัติ (แสบจริงๆ)
ในเวลาต่อมา บุชเชอร์ และ MM ก็ไปยังสถานพยาบาลที่มีความเกี่ยวข้องกับเซรุ่มที่ชื่อ Compound V แล้วพบว่า เรื่องที่ฮีโร่มีพลิงวิเศษและกำหนดโดยพระเจ้า ไม่มีจริง แต่เป็นการใช้เซรุ่มนี้ฉีดไปยังเด็กทารก
ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครอื่นนั่นคือ บริษัท Vought นั่นเอง แล้วอาจจะเป็นหลักฐานมัดตัวได้ดีที่สุด
ตอนนี้กลุ่ม The Boys ก็พร้อมที่จะต่อกรกับเหล่า The Seven … บุชเชอร์ ได้ชวนไปนั่งคุยเล่นกับฮิวอี้และรู้เรื่องที่เขากับ Starlight คบกันก็ได้แต่เตือนว่าคนธรรมดากับฮีโร่ไม่มีวันได้คบกัน
ก่อนที่เขาจะเล่าอดีตของตัวเองให้ฟังว่า เขาเองก็ไม่ต่างจาก ฮิวอี้ เพราะ ภรรยาของเขาก็ถูก Homelander ขืนใจ และหายสาปสูญไป สร้างความแค้นให้กับเขาจนกลายเป็นที่มาของก๊วน The Boys
ในตอนท้ายของซีซั่นแรก ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็เปิดฉากโจมตี ส่วน บุชเชอร์ ก็แวะไปหา เมเดลิน สตีลเวล จับเป็นตัวประกัน แต่โชคร้ายที่ Homelander เข้ามาได้ก่อน แล้วหันไปจัดการ สตีลเวล อย่างเลือดเย็น
บุชเชอร์ จึงกดรีโมตระเบิดในตัวของสตีลเวล กะว่าจะตายไปพร้อมกันแล้วทุกอย่างจะจบลง
แต่ทว่า…บุชเชอร์ ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า Homelander ยังไม่ตาย และพบว่า ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ แถมยังมีลูกชายกับ Homelander …ด้วย
The Boys Season 2
ผลจากซีซั่นที่แล้ว ทำให้ ก๊วน The Boys กลายเป็นภัยสังคม แล้วตัวหัวหน้าทีมอย่าง บิลลี่ บุชเชอร์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ เมเดลิน สตีลเวล (ซึ่งความจริงแล้วเป็นฝีมือของ Homelander) หายตัวไป
เท่ากับว่าตอนนี้ ก๊วน The Boys ที่เหลือต้องเจอกับอันตรายทั้งจากฝั่งรัฐ และ Vought ในการตามล่าพวกเขา
ขณะที่ทางฝั่ง The Seven เองก็ไม่ต่างกันเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อ ประธานบริษัท อย่าง สแตน เอ็ดการ์ ที่ต้องการจะสานโปรเจ็คเดิมนั่นคือการสร้างสถานการณ์เหล่าวีรบุรุษ รวมถึงวายร้ายแบบครบวงจร เพื่อแสดงให้เห็นว่าการมีฮีโร่เป็นสิ่งที่จำเป็น แถม Homelander หัวหน้าทีมจอมโฉดก็ต้องเจอกับไม้เบื่อไม้เมาอย่างน้องใหม่ของทีมนามว่า Stormfront สาวพลังพายุสายฟ้าผู้บ้าโซเชียล แถมยังสร้างความแค้นให้คิมิโกะ ด้วยการฆ่าน้องชายของเธออย่างเลือดเย็น
แม้ว่า บุชเชอร์ จะกลับมาพร้อมกับความงุนงงว่าทำไมภรรยาของเขาเขายังไม่ตาย จึงคิดหาทางที่จะทำให้เขาเข้าถึงศูนย์วิจัยลับที่ขังเธอไว้ และพาเธอออกมา
แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า เธอรักลูกที่เกิดจาก Homelander มากจนไม่สามารถหนีตามบุชเชอร์ ได้
ในขณะเดียวกัน Starlight หรือ แอนนี่ ก็ตัดสินใจเป็นสายคอยช่วยเหลือ The Boys อย่างลับๆเพื่อกระชากหน้ากากทีม Seven
Homelander ถูกใจ Stormfront มากๆ ทั้งคู่เลยสานสัมพันธ์กัน เพราะแนวคิดที่สุดโต่งเรื่องคุณค่าของความเป็นฮีโร่ ซึ่งตัวจริงของ Stormfront เป็นอดีตเป็นภรรยาผู้ก่อตั้งบริษัท Vought โดยเธอได้รับสาร Compound V มาตั้งแต่สมัยสงครามโลก เธอคือหนึ่งในกลไกของพรรคนาซี ที่เชื่อว่าพวกที่แข็งแกร่งควรได้รับสิทธิพิเศษเหนือใคร ๆ
ในตอนนี้ทิศทางการเมืองเริ่มปั่นป่วน เมื่อการไต่สวนคดีของ Vought จากหลักฐานการสร้างสาร V ที่ทำให้คนมีพลังพิเศษ ผิดจริยธรรม กลายเป็นลานสังหารหมู่ หัวตัวระเบิดเลือดนองจนการไต่ส่วนไม่สามารถดำเนินได้
ทางด้านThe Boysเมื่อรู้ความจริงแล้วว่า Stormfront คือฮีโร่จากยุคนาซี เธอจึงตามล่าบุชเชอร์และครอบครัว ก่อนที่ภรรยาของเขาจะสละชีพ แต่ลูกชายของ Homelander ก็ได้ใช้พลังเลเซอร์เผาร่างของ Stormfront จนสิ้นสภาพ
บุชเชอร์ ต้องเสียภรรยาที่รักไปอย่างแท้จริง ก่อนที่ Homelander จะตามมาเพื่อจัดการก๊วน The Boys
ซึ่งท้ายที่สุด Queen Maeve ข่มขู่ว่าถ้า Homelander ไม่ยอมจบ เธอจะเผยความจริงต่อสื่อ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินที่ทั้งสองเคยปล่อยให้คนทั้งลำต้องตายใน SS1
ลูกชายของ Homelander เลือกที่ไปอยู่กับ บุชเชอร์ และอยู่ในการดูแลของ CIA
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Vought ก็แก้ข่าวและโยนความผิดให้กับ Stromfront ว่าเป็นฮีโร่นาซี ส่วน Homelander และ สมาชิก The Seven ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็พ้นข้อหา
แต่ทาง Homelander ดูเหมือนจะได้รับความนิยมลดลงแม้จะยังเป็นผู้นำของ The Seven เหมือนเดิมก็ตาม แม้ว่าดูเหตุการณ์จะจบลง
แต่ความจริงนี่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นต่างหาก
The Boys Season 3
หลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นที่สอง Homelander ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะความนิยมลดลงและยอมให้ Starlight เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำร่วม
ทางฮิวอี้ ตอนนี้ได้เข้ามาทำงานนั่งโต๊ะในหน่วยงาน “ปราบปรามเหล่าฮีโร่ทุจริต” ซึ่งมีทีมของ บุชเชอร์ คอยทำหน้าที่จัดการพวกนี้ในภาคปฎิบัติการณ์
ทุกอย่างดูน่าจะดีขึ้น ทว่าฮิวอี้ก็มารู้ความจริงว่า “นาเดีย “ สส.ที่ผลักดันให้ ก๊วน The Boys มีงานทำนั้น คือผู้ที่มีพลังในการระเบิดคน แถมเป็นเบื้องหลังการสังหารหมู่ใน SS2 อีกด้วย
เมื่อการต่อสู้บนดินไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้ ทำให้ฮิวอี้ ร่วมมือกับ บุชเชอร์ ลงสนามในหาทางฆ่า Homelander
ซึ่ง บุชเชอร์ และพรรคพวก ก็บินไปยังรัสเซีย ตามเบาะแสที่ Queen Maeve ได้ให้มาว่า มีสิ่งที่ฆ่า Homelander ได้อยู่ที่นั่น…
สิ่งที่ฆ่า Homelander ได้ คือพลังของ Soldier Boy ฮีโร่รุ่นดึกของ Vought และยังเป็น The Seven รุ่นแรกของบริษัท ที่ถูกทางรัสเซียจับไปทดลองหาวิธีฆ่าสารพัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
แถมยังมีสารกัมนตภาพรังสีรุนแรงมากๆติดตัวมาด้วย ซึ่งสารนี้เอง ที่ทำให้พลังจาก Compound V หมดสภาพลง
ซึ่งการบาดเจ็บสาหัสของ คิมิโกะ ที่มีความสามารถในการฟื้นฟูที่สุดยอดแม้โดนยิงหัวก็ไม่ตาย คือข้อพิสูจน์ถึงพลังของ Soldier Boy นั่นเอง
บุชเชอร์ ยื่นข้อเสนอว่า จะหาสมาชิกเพื่อนรักเพื่อนแค้นของ Soldier Boy มาให้เชือด แต่ขอเพิ่ม Homelander ลงไปในลิสท์ด้วย ทั้งสองดีลสำเร็จ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่ทำให้ก๊วน The Boys ต้องแตกออกเป็นสองความคิด คือ MM , Starlight และ เฟรนชี่ ไม่เห็นด้วยกับการใช้พลังของ Soldier Boy มาฆ่า Homelander
ส่วน ฮิวอี้ กับ บุชเชอร์ ยังคงเดินหน้าตามล่าก๊วนเพื่อนเก่าของ Soldier Boy พร้อมกับฉีดสาร V ตัวใหม่ที่ทำให้มนุษย์เป็นผู้มีพลังฮีโร่ 24 ชม. โดยมีผลข้างเคียงคือถึงตาย หากฉีดเกิน 4 เข็ม ซึ่งทั้งสองก็ฉีดไปแล้วหลายเข็ม…
บุชเชอร์ มากับ Soldier Boy เพื่อปิดจ๊อบ ฆ่า Homelander ที่ตึก Vought แต่ไม่สำเร็จ เพราะกลายเป็นว่า Soldier Boy กับ Homelander ต่างรู้ดีว่าทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน (Homelanderเกิดจากการผสมเทียม โดยมีเชื้อของ Soldier Boy)
เรื่องราวชุลมุนยกใหญ่ ยกพวกตีกันยับเยิน ก่อน Soldier Boy ชาร์จพลังสุดแรงเตรียมเป่าใส่ทุกอย่างที่ขวางหน้า
สุดท้าย Queen Maeve พุ่งชาร์จ Soldier Boy ตกจากตึกไปพร้อมๆกับพลังระเบิด…
Homelander ยอมถอย เพราะลูกชายขอร้อง
บุชเชอร์ ถอนตัว เรื่องราวจบลง…
Queen Maeve สูญสิ้นพลังจากระเบิดของSoldier Boy เธอบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ขอเลือกที่จะใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดา
Soldier Boy ถูก CIA จับแช่แช็งอีกครั้ง
Homelander เผยธาตุแท้ที่กำจัดคนเห็นต่างอย่างเลือดเย็น กระแสกลับดีจัด เพราะความเด็ดขาดไม่อ่อนข้อ และเหมือนลูกชายของเขาจะเริ่มชอบอะไรแบบนี้แล้ว
บุชเชอร์ เหลือเวลาใช้ชีวิตเพียง 6 เดือน ก่อนตาย เพราะสาร V ที่ฉีดรัวๆในการต่อสู้ครั้งก่อน… ทุกคนกลับมาที่สำนักงานในฐานะก๊วน The Boys อีกครั้ง…
ทั้งหมดนี้คือ เรื่องราว The Boys ทั้ง 3 ซีวั่นที่มาเล่าให้ฟังอีกครั้ง ก่อนจะไปสนุกในซีซั่น 4 ซึ่งถ้าขาดตกช่วงไหน ก็ต้องขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ…
@P.PETTY
-
BEYBLADE X : UX09 Starter Samurai Saber 2-70 L [รีวิว / สั่งซื้อ / เบย์เบลด / ของแท้ / ราคา / วันวางขาย]
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
เผยรายละเอียดใหม่ Mashin Souzouden Wataru “กำเนิดใหม่ วาตารุ เทพบุตรสองโลก”
เรื่องราวของผู้กล้าคนใหม่ที่ ชื่อ วาตารุ 12 มกราคม 2025
-
Soul Land: New World เกมเปิดโลก MMO ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซานเกมแรกของโลก เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว!
#เกมมือถือ #เกมออนไลน์ #เกมออกใหม่