Street Fighter: Assassin’s Fist [เรื่องย่อ/ตัวละคร]

     

 

Street Fighter: Assassin’s Fist
ผู้กำกับ : Joey Ansah
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Joey Ansah / Christian Howard
นักแสดงนำ : Akira Koieyama / Mike Moh / Christian Howard / Togo Igawa / Shogen / Gaku Space / Joey Ansah / Lee Hyunri
แนว/ประเภท : Drama
ความยาว : 1 ชั่วโมง 40 นาที
เรทไทย : ท
วางจำหน่ายแล้วในไทย ทั้งรูปแบบ DVD และ Blu-Ray
ผู้ผลิต : Assassin’s Fist Limited / Europa Films / Gloucester Place Films / Lonely Rock Productions

 

 

ถ้าพูดถึง Street Fighter เป็นชื่อของวิดิโอเกมสุดคลาสสิค ที่มีผู้เล่นทั่วโลก และปัจจุบัน ก็ยังออกภาคใหม่ๆตามบัญชาของทาง Capcom อยู่เรื่อยๆ แถมยังได้มีโอกาศออกสื่อหลายประเภท ทั้งหนังสือการ์ตูน อนิเมชั่น ไปจนถึงหนังโรง(ที่ทำออกมา“ห่วยสนิท”ได้ทุกภาคไป)

 

 

 

ถึงจะเป็นละครสั้นๆ แต่เปี่ยมคุณภาพครับ อันนี้ฟันธงเลย!! จงหามาดูซะ!!

 

แต่คราวนี้ Street Fighter ได้กลับมาในหนังสั้น “มินิซีรี่ยส์” ที่จะพาทุกคนที่ได้ชม ย้อนกลับไปในยุคปี 1980 ซึ่งเป็นในช่วงที่สองตัวละครที่เป็นที่รักของเกมเมอร์ทั้งโลก(?)อย่าง “ริว” และ “เคน” ที่ยังอยู่ในวัยละอ่อนหัดมวย ที่ต้องการบรรลุเคล็ดวิชา “ฮาโด” ซึ่งนั่น ทำให้ความลับของ “เคล็ดวิชาควงจอย และคันโยก” อย่างฮาโดเคน ก็ได้ถูกเปิดเผย…นี่คือสุดยอดละครซีรี่ยส์เรื่องเยี่ยมเปี่ยมดราม่า กับละครที่มีชื่อว่า “Street Fighter: Assassin’s Fist”

 

 

 

เรื่องย่อ

 

แก่นของเรื่อง คือการเล่าเรื่องราวของ “ริว” และ “เคน” ในวัยหนุ่ม ที่ยังต้องฝึกฝนกับอาจารย์ “โกเคน” ผู้สืบทอดวิชา “มู โนะ ฮาโด” (คลื่นฮาโดแห่งความว่างเปล่า) แห่งสำนัก “อันซัทสึเคน” ที่มีพลังทำลายล้างสูง ว่ากันว่า ผู้สำเร็จวิชานี้ จะเป็น “สุดยอดนักสู้ในใต้หล้า” (ว่ากันยังงั้นเลย) 

 

เคนที่เริ่มเบื่อหน่าย และอยากกลับบ้านเต็มทน ก็ต้องเปลี่ยนใจ เมื่อริว ขอร้องอาจารย์โกเคนให้สอนวิชา มู โนะ ฮาโด ให้ แต่การฝึกไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการเข้าถึงพลัง “คิ” (ปราณ) ของทั้งสองคนยังอ่อนอยู่ จนกระทั่งเคน ได้พบกับหนังสือประหลาด ที่อยู่ในสำนัก

 

เรื่องราวของความผูกพันของ ศิษย์-อาจารย์ ที่มีแง่มุมให้กลับไปคิดด้วย

 

เคน อ่านหนังสือเล่มนั้น และลองทำตามการเดินพลังคิในหนังสือ ทำให้อาจารย์โกเคน ต้องเรียกเคนมาอบรมยกใหญ่ และสั่งห้ามให้เคนบอกเรื่องหนังสือนี้กับริว

 

หนังสือที่อาจารย์โกเคนได้ริบมาจากเคน มันคือหนังสือที่บันทึก “ซัทซุย โนะ ฮาโด” ที่ถูก “โกคิ” น้องชายของเขาคัดลอกมาจากอาจารย์ “โกมะ” อีกที
และเรื่องราวของจุดกำเนิดของความรัก และความแค้น ระหว่างศิษย์พี่น้อง และอาจารย์ในอดีต จะกลับมาเป็นฝันร้ายของ “สำนักอันซัทสึเคน”ในปัจจุบันอีกครั้ง…

 

 

     

ย้อนกลับไปถึงที่มาวิชาอเวจีสังหาร อย่าง “โกเคน” และ “โกคิ” ที่ต้องแตกหักเพราะความเห็นไม่ลงรอยกัน

 

 

ตัวละคร

 

ริว (แสดงโดย Mike Moh )

ชายหนุ่มนักสู้ อดีตเด็กกำพร้าผู้หลงทางในป่า จนมาเจอกับอาจารย์โกเคน และฝึกวิชากับอาจารย์มาตั้งแต่ห้าขวบ เป็นหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้สูงมาก แต่เป็นคนเถรตรง ทึ่มๆ ไม่ทันคนเท่าไหร่ แต่เขานี่แหละ จะเป็นตัวแปรสำคัญของ “ซัทซุย โนะ ฮาโด” ในอนาคต

 

เคน (แสดงโดย Christian Howard)

ชายหนุ่มผู้ถูกพ่อที่เป็นมหาเศรฐี ส่งตัวมาฝึกกับอาจารย์โกเคน (เพื่อดัดสันดาน) ซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน (ไปรักกันตอนไหน อันนี้ก็ไม่ทราบได้?!) เคนเป็นยอดอัจฉริยะด้านการต่อสู้ เขามาเข้าฝึกกับอาจาย์โกเคนหลังจากริวหลายปี แต่เขาก็ใช้เวลาสั้นๆ เรียนรู้ทุกอย่างได้พอๆกับที่ริวรู้ ถึงอย่างนั้น เคนกลับเรียนรู้วิถีพลัง “มู โนะ ฮาโด” ได้ช้ากว่าริว แต่เขาเป็นคนที่ควบคุมพลังนี้ได้อย่างชำนาญ ผิดกับริว ที่มีพลังนี้มากเกินไปจนคุมไม่อยู่…เคนมีนิสัยยียวนตามแบบวัยรุ่นอเมริกันชน

 

 

 

โกเคน (แสดงโดย Akira Koeyama)

ปรมาจารย์หมัดฮาโด เจ้าสำนัก “อันซัทสึเคน” ที่สืบทอดมาจากอาจารย์ของเขา “โกมะ” อีกที เขาเป้นคนที่เข้มงวดกับการฝึกมาก พอๆกับความรักที่มีต่อศิษย์ทั้งสองคนเหมือนลูกแท้ๆของเขา และเป็นคนที่เก็บความลับของวิชามาร “ซัทซุย โนะ ฮาโด” มาตลอด…

 

 

 

 

โกคิ aka. อาคุม่า (โกคิแสดงโดย Gaku Space และ อาคุม่าแสดงโดย Joey Ansah )

น้องชายแท้ๆของอาจารย์โกเคน เป้นชายู้ทะเยอทะยาน หวังจะบรรลุวิชาสุดยอดแห่งการทำลายล้าง “ซัทซุย โนะ ฮาโด” จนต้องแตกหักกับอาจารย์ จนถูกขับออกจากสำนักไป แต่ระหว่างที่แอบฝึก เขากลับถูกธาตุไฟเข้าแทรก จนรูปร่างหน้าตากลายเป็น “ฝรั่งผิวสี” เอ้ย “ปีศาจนักสู้” อันมีท่าติดตาแฟนๆเกมนี้อย่าง “เมสึ ฮาโดเคน” และ “อเวจีสังหาร”

 

 

 

 

    

อเวจีสังหาร ตัวหนังจัดมาเหมือนมาก! (กดต่อยเบา > ต่อยเบา > เดินหน้า > เตะเบา > ต่อยหนัก กดเร็วๆนะ ฮ่าๆ)

 

“นี่มันหนังชอว์บราเดอร์ยุค 2014 ชัดๆ!!”

 

 

ครับ ตามพาดหัวตัวเบ้งๆนี่เลย คือการเดินเรื่องราวต่างๆ ตอนแรก เปิดประเด็นริวกับเคน แต่พอเข้ากลางๆเรื่อง กลับเป้นว่า เรากำลังดู “ดราม่าพี่น้อง”ของโกคิ และ โกเคน แม้กระทั่งปมประเด็นในเรื่องที่ใส่เข้ามามันทำให้แอบคิดได้ว่า “แอดมินนั่งดูหนังจีนจากบ.ชอว์บราเดอร์ยุค ’70 ไม่มีผิด” ทั้งเรื่องราวศิษย์ทรยศ การฝึกจนธาตุไฟเข้าแทรก แล้วกลายมาเป็นจอมมาร สร้างความแตกตื่นให้ยุทธภพ มีกระทั้งสูตรสำเร็จของดราม่ารักสามเส้า ก็ยังใส่เขามาแบบเนียนๆ!!

 

โกคิ ลงมือสังหารอาจารย์อย่างโหดเหี้ยมด้วยคอมโบสุดโหด แต่ก็ไม่ลืมขอบคุณที่ถ่ายทอดวิชามาแต่เล็กจนโต…

 

 

 

“Round 1…Fight!!”

 

กว่าหนังจะเข้าประเด็นของริว และ เคน ก็ปาเข้าไปจวบจะจบเรื่องแล้ว ซึ่งนั่น ก็ไม่พอในการเล่าให้จบในชุดนี้ได้ มันมีเรื่องราวโลกภายนอกสำนัก ที่รอการถ่ายทอดอยู่ แน่นอนครับ มันคือ “สัญญาณการสร้างภาคต่อ” ซึ่งก็กำลังจะมีมาจริงๆด้วยครับ

 

“อะบู๊เค่น!!” “พะโล้เป็ด” “ผัดเผ็ดปูเผ็ด”

 

สามชื่อนี้ ถ้าใครเป็นคอเกมนักสู้ข้างถนนรุ่นเก๋าๆจะทราบดีว่า แอดมินหมายถึงอะไร มันคือชื่อท่าต่างๆ ที่เด็กไทยยุค SFC ตั้งชื่อให้กับ “ฮาโดเคน” / “โชริวเคน” และ “ทัตสึมากิ เซมปูเคียกุ” (ลูกเตะพายุหมุน) ซึ่งสมัยนั้น เป็นการฟังภาษาญี่ปุ่นแบบเด็กๆน่ะแหละ…

 

 

“ฮาโดเคน!!” หรือ “อะบู๊เค่น” ชื่อที่เด็กหนวดหลายๆคนติดปากมาจนทุกวันนี้ (กดควงหน้า+ ต่อย)

 

 

 

    

“โชวริวเร็ปปะ” (โชริวเคนไฟ) ก็มีในหนังนะเออ!!

 

ตัวหนัง ถ่ายทอดท่าทางต่างๆ ราวกับหลุดมาจากเกมจริงๆ และทำออกมาสวยงามสมจริงทั้ง CG และ ท่วงท่า อันนี้ก็ต้องยกเครดิตให้กับ Christian Howard และ Joey Ansah ที่นอกจากจะแสดงเป็น เคน และ อาคุม่าแล้ว ยังแวะมากำกับคิวบู๊ด้วยตัวเองในฐานะแฟนบอยของซีรี่ยส์ Street Fighter มาตั้งกะเด็กๆ

 

 

 

   

“เมซัทสึ ฮาโดเคน” ก็มีในหนัง!!

 

เรื่องของเพลงประกอบฉากในละครชุดนี้ .. ก็เอาเพลงจากฉากในเกม Street Fighter มาแต่งทำนองใหม่ .. ซึ่งก็ถือว่าทำได้แปลกหู แต่เพราะ ส่วนOst ก็ใส่มาถูกจังหวะ และดึงอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดี

 

 

 

Movie Rank A  9/10 สำหรับแฟน Street Fighter

และ 6/10 Rank C สำหรับบุคคลทั่วไปนั่งดู

 

ข้อดี : หนังภาพสวยมาก เอฟเฟ็กต์เยี่ยม / ตัวละครเด่นๆบางตัว เลือกนักแสดงออกมามาเหมือนในเกมเป๊ะ / ประเด็นดราม่าทำออกมาได้อารมณ์หนังจีนกำลังภายในมากๆ / หนังเข้าใจง่าย / ฉากบู๊ สนุกดี ถึงจะมีมาไม่บ่อย แตได้อารมณ์ในเกมสุดๆ (ยิ่งท่าอเวจีสังหารนี่ สำเนาถูกต้องกันเลยทีเดียวเชียวแหละ)

 

ข้อเสีย : เป้นหนังที่ฉากบู๊ดูจืดๆไปซักนิด เพราะมีไม่เยอะมาก / ตัวละคนบางตัว แคสติ้งมาได้ไงไม่รู้ หน้าตาไม่ได้มีความเป็นญี่ปุ่น ก็ดันเล่นเป้นคนญี่ปุ่นซะงั้น / หนังเดาทางง่ายมาก เพราะไม่มีอะไรซับซ้อนเลย/ หนังเหมือนสร้างไม่เสร็จ เพราะจบแบบครึ่งๆกลางๆ (กะทำภาคต่อ แต่จบแบบละครมากไปหน่อย) ถ้าคนทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนๆเกม อาจจะร้องยี้ได้…

 

 

เป็นหนังที่แฟนๆ Street Fighter ต้องดูให้ได้ครับ จุดเริ่มต้นของอาคุม่า และเรื่องราวของวิถีของอเวจีสังหาร ได้ถูกเล่ามาในนี้แล้ว และรอดูภาค “สังเวียนระดับโลก” ที่จะเข้าสู่เนื้อหา Street Fighter ที่รวมนักสู้ทั่วโลก (อิงจากเกม SFC) ได้ ปีหน้าครับ!!

 

 

แอดมิน Ak47