เรื่องย่อ Star Wars ทุกภาค 1-7
14 ธันวาคม 2560 10:16 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Star-Wars-EP-1-7 (9)

“สตาร์วอรส์” หนังไซไฟผลงานขึ้นหิ้งระดับตำนาน จากการสร้างสรรค์ของ “จอร์จ ลูคัส” พ่อมดวิช่วลเอฟเฟ็คต์จากยุค70 ที่ใช้เทคนิคถ่ายทำที่ตื่นตะลึงคนยุคนั้นอย่างมาก โดยภาคแรกออกฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 ในชื่อ “สตาร์ วอร์ส” โดยบ. 20th Century Fox จนมีการสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค โดยเว้นระยะห่างแต่ละภาคเป็นเวลา 3 ปี และเรียกรวมว่า ไตรภาค Original 

-Star Wars Episode IV : New Hope (1977)
-Star Wars Episode V : Empire Strike Back (1980)
-Star Wars Episode VI : Return of the Jedi (1983)

 

จากนั้น ก็มีการสร้างเนื้อหาที่เล่าเรื่องราวที่มาของ ดาร์ธ เวเดอร์ ในชื่อ Star Wars Episode I-III ในช่วงปี 1999 – 2005

Star Wars Episode I: The Phantom Menace  (1999)

Star Wars Episode II : Attack of the Clones (2002)

 Star Wars Episode III : Revenge of the Sith (2005)

 

และไตรภาคปัจจุบัน ที่เล่าเรื่องต่อจากภาค Return of the Jedi มีกำหนดสร้างมาอีก 3 ภาค

Star Wars Episode VII : The Force Awakens (2015)

Star Wars Episode VIII : Last Jedi (2017)

Star Wars Episode IX (ยังไม่กำหนดชื่อและปีออกฉาย)

 

 

 

 

เรื่องย่อ

Star-Wars-EP-1-7 (1)

Star Wars Episode I: The Phantom Menace

สตาร์วอร์ส เอพพิโซด 1 : ภัยซ่อนเร้น

 

เรื่องราวปฐมบทของการต่อสู้ ความขัดแย้ง และด้านมืดของพลัง เมื่อเกิดข้อพิพาทด้านการค้าของสหพันธ์พาณิชย์ กับ ดาวนาบู ทำให้ “สมุหนายกวาโลรัม” ส่งอัศวินเจไดสองคนได้แก่ เจไดมาสเตอร์ “ไควกอน จิน” และ ศิษย์ของเขา “โอบีวัน เคโนบี” ซึ่งในข้อพิพาทดังกล่าวของสหพันธ์พาณิชย์ ได้มีข้อตกลงลับๆกับ “ดาร์ธ ซีเดียส” และได้สั่งการกำจัดอัศวินเจไดทั้งสอง แต่พวกเขาก็หนีออกมายังดาวนาบู และได้รับความช่วยเหลือจากชาวกันแกนส์ที่ชื่อ “จาจาบิงส์” 

 

หลังจากนั้นทั้งสามก็ตามไปช่วย “ราชินี อมิดาล่า” ซึ่งถูกจับตัวไว้โดยฝ่ายสหพันธ์พาณิชย์ได้สำเร็จ แต่ระหว่างทางหลบหนี ยานของทั้งหมดก็ถูกยิงตกมายังดาวทะเลทรายทาทูอีน และที่นั่นไควกอน ก็ได้พบกับเด็กชายที่ชื่อ “อนาคิน สกายวอล์คเกอร์” เด็กชายผุ้มีพรสวรรค์ด้านเครื่องกล และการเป็นนักบินฝีมือเยี่ยม อีกทั้งไควกอนเองก็สัมผัสได้ถึงพลังอันแรงกล้า และ “นำสมดุลมาสู่พลัง” ตามคำทำนายโบราณของเจได ซ่อนอยู่ในตัวเด็กน้อยคนนี้ แต่น่าเสียดายที่อนาคินไม่ได้รับเลือกให้ฝึกพลังตามวิถีเจได เพราะอายุเกิน อีกทั้ง “มาสเตอร์โยดา” ปรมาจารย์เจไดก็สัมผัสถึงอนาคตที่มืดมัว และความกลัวอย่างแรงกล้า แต่อนาคินก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการขับเครื่องบินทำลายฐานบัญชาการของกองทัพดรอยด์สหพันธ์ ส่วนไควกอน พลาดท่าถูก “ดาร์ธ โมล” ผู้ชำนาญศาสตร์แห่งซิธ (พลังด้านมืด) สังหารลง  แต่โอบีวันก็สามารถเอาชนะ ดาร์ธ โมล ลงได้ ในที่สุดอนาคินก็ได้รับการฝึกเป็นเจไดด้วยคำสั่งเสียของไควกอน จิน 

 

หลังจากนั้นโยดา และสภาเจไดสัมผัสถึงภัยซ่อนเร้นเกี่ยวกับการมาของเหล่า ซิธ ผู้ชำนาญศาสตร์มืด มักจะไม่ได้มาเพียงหนึ่งเดียว เพราะซิธมักจะมาคู่กันเสมอ (ศิษย์ และ อาจารย์)

 

 Star-Wars-EP-1-7 (8)

Star Wars Episode II : Attack of the Clones

สตาร์วอร์ส เอพพิโซด 2 : กองทัพโคลนจู่โจม

 

เรื่องราวภาค 2 จะเล่าถึงช่วงเวลาห่างจากภาคแรก 10ปี ตอนนี้ “อนาคิน สกายวอล์คเกอร์” ได้เติบโตเป็นพาดาวัน(ผู้ฝึกวิชาเจได)ผู้ห้าวหาญ ใจร้อนตามแบบเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั่วไป และไม่ค่อยเชื่อฟังคำสอนของโอบีวันผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ในช่วงที่จักรวาลอันไกลโพ้นกำลังเข้าสู่สงคราม ดาวเคราะห์จำนวนมากพยายามแยกตัวออกจากสาธารณรัฐกาแลกติกภายใต้การยุยงของอดีตเจได “เคานท์ ดูกู” และเริ่มมีเหตุการณ์การลอบสังหารวุฒิสมาชิก ทำให้อนาคินต้องทำภารกิจคุ้มกัน “ราชินีอามิดาล่า” หรือ “แพดเม่”อีกครั้ง ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกในรอบ10ปีของอนาคิน และแพดเม่ จนเกิดความรักขึ้นซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามของอัศวินเจได และทันทีที่เขากลับมายังดาวทาทูอีนบ้านเกิด เพื่อจะมาปลดปล่อยแม่ของเขาจากการเป็นทาส ก็พบว่าเขามาช้าไป แม่ของเขาจากไปแล้ว อนาคินเสียใจมาก และนี่คือจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ทำให้อีกด้านแห่งพลังด้านมืด ที่สถิตย์ในตัวอนาคินเริ่มฉายแวว

 

 

ส่วนโอบีวันผู้เป็นอาจารย์ ขอแยกตัวไปตามสืบที่มาของการลอบสังหารวุฒิสมาชิก จนสืบรู้มาว่า เมื่อ10ปีก่อน มีโครงการสร้างกองทัพมนุษย์โคลนเพื่อรับใช้สาธารณะรัฐที่ดาวเคราะห์คามิโน ที่นั่นเขาได้ประมือกับ “จังโก้ เฟตต์” และสืบจนรู้ว่าผู้ร้ายตัวจริงก็คือ “อุปราช ของสหพันธ์พาณิชย์ “ ได้ซ่องสุมกำลังกองทัพหุ่นดรอยด์ (แบบที่ใช้ในภาคแรก) ณ ดาวจีโอโนซิส และได้ส่งข้อมูลที่รู้มาทั้งหมดให้อนาคิน แต่ก็พลาดถูกเคานต์ดูกูจับตัวไป

 

อนาคินและแพดเม่เองก็ได้พยายามเข้าไปช่วยแต่สุดท้ายก็โดนจับไป ทั้งสามคนถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ “สมุหนายกพัลพาทีน” ที่ได้รับอำนาจเห็นชอบจากวุฒิสภาให้สานต่อโครงการกองทัพโคลน ก็ได้ส่งอาจารย์โยดา และกองทัพโคลน พร้อมอัศวินเจไดอีก 200 คนเข้าช่วยเหลือทั้งสาม โอบีวันเข้าต่อสู้กับเคานต์ดูกู แต่พลาดท่าจนได้รับบาดเจ็บ ด้วยพลังโทสะของอนาคิน ทำให้เขาเข้าไปประมือกับเคานต์ดูกู และก็พลาดท่าจนถูกตัดแขนขาด แต่โชคดีที่อาจารย์โยดามาช่วยไว้ทัน ทำให้เคานต์ดูกูล่าถอย สงครามจบลงที่กองทัพโคลนเป็นฝ่ายชนะ และแพดเม่ กับอนาคิน ก็แต่งงานกันอย่างลับๆ…

 

 

Star-Wars-EP-1-7 (7)

Star Wars Episode III : Revenge of the Sith

สตาร์วอร์ส เอพพิโซด 3 : ซิธชำระแค้น

 

3 ปีหลังจากสงครามกองทัพโคลน “ซิธ ลอร์ด” และ “เคานต์ ดูกู”ได้ทำการลักพาตัวสมุหนายกพัลพาทีนเป็นตัวประกัน ทำให้อนาคิน และโอบีวันต้องเข้าทำการช่วยเหลือจนทั้งสองได้พบกับเคานต์ดูกู ที่คุมตัวของสมุหนายก โอบีวันพลาดท่าจนสลบไป ส่วนอนาคินที่ใช้ความโกรธแค้นจากสงครามครั้งก่อนเข้าต่อสู้ และสามารถเอาชนะได้ สมุหนายกพัลพาทีนได้ทำการยุยงให้อนาคินสังหารเคานต์ดูกู แม้ว่าอนาคินจะลังเลและรู้สึกขัดแย้งกับวิถีของเจได แต่ด้วยความโกรธแค้นทำให้เขาลงมือสังหารเคานต์ดูกูลงได้

 

ในขณะนั้น แพดเม่เองก็กำลังตั้งท้องกับอนาคิน ซึ่งทำให้เขาเห็นนิมิตฝันว่าลูกที่เกิดมาจะทำให้เธอต้องตาย ทำให้เขาถูกชักจูงโดยสมุหนายกพัลพาทีน และเล่าถึงเรื่องราวการคืนชีพให้คนตายได้มาพูดคุยกัน ทำให้อนาคินรู้ว่าสมุนายกคือ “ดาร์ธซีเดียส” จึงได้แจ้ง “อาจารย์เจได เมซ วินดู”ให้เข้ามาจัดการกับคนร้ายตัวจริง และ เมซวินดูกำลังจะเอาชนะดาร์ธซีเดียสได้ แต่อนาคินกลับถูกเป่าหูจนเมซวินดู ถูกดาร์ธซีเดียสลงมือสังหาร และอนาคินก็ได้เป็น “ซิธคนใหม่” นามว่า “ดาร์ธ เวเดอร์” และเริ่มภารกิจแรกในการลงมือสังหารเจไดทุกคนไม่เว้นแม้แต่เด็กๆพาดาวันในวิหาร ซึ่งในขณะเดียวกันพัลพาทีนออกคำสั่งมาตรา66 (Order66) ที่มีหมายให้ผู้บังคับบัญชาโคลนทรูปเปอร์ทั่วกาแล็กซี กวาดล้างอัศวินเจได และนิกายเจไดจนนำไปสู่การก่อตั้งจักรวรรดิกาแลกติก ส่งผลให้เหล่าเจไดถูกกวาดล้างจนเกือบหมดสิ้น เหลืออัศวินเจไดเพียงสามคนในจักรวาลได้แก่ โอบีวัน อาจารย์โยดา และอโซกา ทาโน่

 

โอบีวันที่ได้เห็นภาพความสูญเสียของเจได ทำให้เขาตัดสินใจออกตามหาตัวอนาคิน ทั้งสองประมือกันอย่างดุเดือด แต่สุดท้าย อนาคินเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขาทั้งสองถูกตัดขาด ร่างถูกไฟคลอก ส่วนแพดเม่เสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดเด็กแฝดที่ชื่อ “ลุค” และ “เลอา” โดยลุค จะถูกส่งไปยังดาวทาทูอีนโดยมีโอบีวันดูอยู่ห่างๆ ส่วนเลอา ถูกวุฒิสมาชิกออร์กาน่านำไปเลี้ยง

 

ส่วน “ดาร์ธ เวเดอร์” หรือ “อนาคิน สกายวอล์คเกอร์” ถูกช่วยเหลือและผ่าตัดเปลี่ยนร่างเป็นไซบอร์ก สวมหน้ากากสีดำทมิฬ และรับใช้จักรวรรดิใหม่ที่สร้างขึ้นโดย ดาร์ธ ซีเดียส

 

 

 Star-Wars-EP-1-7 (4)

Star Wars : Rogue One

สตาร์วอร์ส โร้กวัน

 

เรื่องราวหลังจากภาคสามไปสิบกว่าปี เรื่องราวจะเล่าถึง “จิน เออร์โซ” และกลุ่ม Rogue One ที่มีภารกิจชิงเอาแบบแปลนของ “เดธสตาร์” อาวุธมหาประลัยที่สามารถทำลายดาวทั้งดวง ไปให้เจ้าหญิงเลอา โดยทีมที่เข้าชิงแปลนของเดธสตาร์ไม่มีผู้ใดรอดเลย

 

 Star-Wars-EP-1-7 (2)

Star Wars Episode IV : New Hope

สตาร์วอร์ส เอพพิโซด4 : ความหวังใหม่

 

ดาร์ธ เวเดอร์ ได้ถูกจักรพรรดิพัลพาทีนมอบหมายให้ไปชิงเอาแบบแปลนเดธสตาร์กลับคืนมา ที่ตอนนี้ เจ้าหญิงเลอาได้นำแปลนดังกล่าวซ่อนไว้ในหุ่นชื่อ R2D2 และส่งไปยังดาวทาทูอีน เพื่อส่งข่าวให้อาจารย์เจไดที่เหลือรอดอย่าง โอบีวัน เคโนบี ได้ทราบ ส่วนตัวเจ้าหญิงถูกดาร์ธ เวเดอร์จับตัวไป

 

ที่ดาวทาทูอีน R2D2 ได้พบกับ “ลุค สกายวอล์คเกอร์” เด็กหนุ่มชาวบ้านธรรมดาก็ได้พบกับข้อความลับดังกล่าว จนได้ไปพบกับ โอบีวัน อัศวินเจไดที่ที่เฝ้าดูลุคอยู่ห่างๆ และ “ฮัน โซโล” พ่อค้าของเถื่อนร่วมกันเดินทางเอาแปลนไปส่งที่ดาวอัลเดอราน แต่มาช้าไป เพราะดาวถูกเดธสตาร์ยิงทิ้งไปแล้ว

 

พวกของลุคถูกดูดเข้าไปในเดธสตาร์ จังตัดสินใจไปช่วยเจ้าหญิงเลอา โด ยโอบีวันได้ประมือ ดาร์ธ เวเดอร์ และพลาดท่าจนตัวเองทิ้งกายเนื้อไว้ กลายเป็นกลุ่มพลังงานแทน ลุคจะแก้แค้นให้แต่โอบีวันในร่างของพลังงานได้ห้ามไว้ ทั้งหมดหนออกมาได้ และมาวางแผนการถล่มเดธสตาร์ที่ดาวยาวิน4 พร้อมกองกำลังกบฏ ด้วยแปลนที่ได้มา และความร่วมมือของ ฮัน โซโล ทำให้ลุคสามารถขับยานX-Wing ทำลายได้ในที่สุด แม้ว่าดาร์ธ เวเดอร์จะหนีไปได้ก็ตาม ลุค และ ฮันได้รับเหรียญกล้าหาญ

 

 

 Star-Wars-EP-1-7 (5)

Star Wars Episode V : Empire Strike Back

สตาร์วอร์ส เอพพิโซด 5 : จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ

กองทัพจักรวรรดิเริ่มโต้กลับด้วยการไล่ล่ากองทัพฝ่ายกบฏ ไปสุดขอบจักรวาล ลุคได้เข้าร่วมกับกองทัพกบฏที่“ดาวน้ำแข็งฮอธ” ฐานที่มั่นแตกพ่าย แต่สมาชิกในกองสามารถอพยพหนีได้ แต่ลุคได้รับคำแนะนำจากโอบีวันให้ไปทำการฝึกฝนวิชากับ “อาจารย์โยดา” เจไดผู้แข็งแกร่งที่สุดที่ดาวเดโคบา ส่วนฮัน โซโลได้เดินทางไปหาเพื่อนเก่า แลนโด้ คาริเชี่ยน ที่ “นครเมฆา” (Cloud City) แต่ก็ถูกดาร์ธ เวเดอร์จับตัวมาแช่ในแท่งคาร์บอไนท์ ส่งไปให้แจ๊บบ้าที่ทาทูอีน

 

ลุคที่สามารถเรียนรู้วิถีของพลังได้บางส่วน ก็ได้ขอพักยกการฝึกจากอาจารย์โยดาเพื่อช่วยพรรพวกก่อน ลุค ที่ได้ประมือกับ ดาร์ธ เวเดอร์ ก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้ร่วมมือกับเขาในการครองจักรวาล แต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งสองได้ต่อสู้จนพลาดท่า ลุคถูกตัดข้อมือขาด และยังได้รู้ความจริงว่า “ดาร์ธเวเดอร์” คือพ่อแท้ๆของ ลุค นั่นเอง ลุคได้รับการช่วยเหลือจากเลอาที่ขับยานมิลเลเนียมฟอลคอน และได้กลับไปรวมกับกลุ่มยานกบฏซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ได้สำเร็จ แลนโด้ และ ชิวแบคก้า ตัดสินใจจะไปช่วย ฮัน โซโลกลับมา…

 

 

Star-Wars-EP-1-7 (3)

Star Wars Episode VI : Return of the Jedi

สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได

 

ลุค กลับไปยังดาวทาทูอีนเพื่อช่วย ฮัน จาก แจ๊บบ้า ฮันถูกช่วยออกมาสำเร็จ และทำลายรังของแจ๊บบ้าลงได้ ลุคได้เดินทางไปยัง ดาวเดโคบา อีกครั้งเพื่อที่จะฝึกฝนต่อ แต่อาจารย์โยดาบอกว่าลุคฝึกสำเร็จและไม่มีอะไรจะสอนแล้ว ก่อนที่จะสิ้นใจ เขาได้บอกกับลุคว่า ยังมีสกายวอล์คเกอร์อีกหนึ่งคนที่มีชีวิตอยู่นอกจากลุค และอนาคิน แล้วก็จากโลกนี้ไป…ลุครู้ทันทีเลยว่า เลอา คือน้องสาวฝาแฝดของเขาด้วยจิตใต้สำนึกบางอย่าง

 

ฮันได้ร่วมกับกองกำลังฝ่ายกบฏ และมีแผนที่จะทำลายเดธสตาร์ที่สร้างใหม่ แต่ทว่าเครื่องกำเนิดพลังงานบนดวงจันทร์เอนดอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่มากๆเพราะมันเป็นตัวสร้างเกราะกำบังที่แข็งแกร่งมาก แต่ด้วยความช่วยเหลือของพวก”อีว็อค”ทำให้ฝ่ายกบฏทำลายเครื่องกำเนิดพลังงานได้สำเร็จ ส่วนลุค แยกไปดวลไลท์เซเบอร์กับดาร์ธ เวเดอร์ โดยคราวนี้ลุคตั้งใจจะพา“พ่อ”กลับมาจากด้านมืดของพลัง ผลจบลงที่ลุคเอาชนะพ่อของเขาได้ และ ดาร์ธ ซีเดียส ก็เห็นแววความแข็งแกร่ง จึงพยายามชักชวนลุค ให้เข้ามาร่วมกับตน แต่ลุคปฏิเสธ จึงโดนสายฟ้าของดาร์ธซีเดียส ช๊อตใส่อย่างทรมาน อนาคิน ทนเห็นลูกชายที่กำลังจะตายต่อหน้าไม่ได้ จึงได้เอาแรงเฮือกสุดท้าย ทุ่มจักรพรรดิพัลพาทีนลงไปในช่องอวกาศ ก่อนสิ้นใจ อนาคินขอให้ลุคถอดหน้ากาก ดาร์ธ เวเดอร์ออก เพื่อจะดูหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย

สงครามจบลง ฝ่ายจักรวรรดิล่มสลาย สันติสุขกลับสู่จักรวาลอีกครั้ง ลุคได้การยอมรับว่าเป็น “อัศวินเจไดที่จะนำสมดุลยคืนสู่พลัง”

 

**ซึ่งก็ตรงกับที่ไควกอน จิน เคยคาดเอาไว้ว่าในตัวของสกายวอล์คเกอร์ จะสร้างสมดุลได้ เพียงแต่คาดการณ์ผิดไปนิดนึงตรงที่เป็นลุค ไม่ใช่อนาคิน…**

 

 

Star-Wars-EP-1-7 (1)

Star Wars Episode VII : The Force Awakens

สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 7 : อุบัติการณ์แห่งพลัง

 

30 ปีให้หลังการทำลายดาวมรณะดวงที่สอง “ลุค สกายวอล์คเกอร์” เจไดคนสุดท้าย หายตัวไป และ กองกำลังจักรวรรดิ์ ที่ได้สูญเสียแกนกลางของอำนาจไปแล้วเมื่อ30ปีก่อน ก็ได้รวมตัวกันใหม่ในเขต Unknown Sector (แดนลึกลับไกลโพ้น) ภายใต้ชื่อ“ปฐมภาคี” (1st Order) นำโดยผู้นำสูงสุด “สโนค” (Supreme Leader Snoke) เพื่อที่จะกลับมาทวงคืนความแค้นต่อกลุ่มกบฏสาธารณรัฐใหม่

 

 

แต่ทว่า“โพ ดาเมรอน” นักบินยอดฝีมือของฝ่ายกบฏได้ถูก“ไคโล เรน” นายพลหนุ่มแห่งปฐมภาคีจับตัวไปในระหว่างภารกิจออกตามหา “แผนที่” ที่ระบุพิกัดของ ลุค สกายวอล์คเกอร์ แต่โพได้ซ่อนแผนที่ดังกล่าวไว้กับ BB-8 หุ่นดรอยด์ของเขา และมันก็ออกเดินทางจนมาเจอกับ “เรย์” สาวน้อยนักเก็บขยะแลกข้าวไปวันๆ หลังจากนั้นไม่นานนักเธอก็ได้พบกับ “ฟินน์”ทหารปฐมภาคีที่กลับใจ ทั้งหมดหลบหนีการตามล่าของปฐมภาคีด้วยยานมิลเลนเนี่ยม ฟอลคอน ของฮัน โซโล พ่อค้าของเถื่อนในวัยชรา มุ่งตรงไปยังดาวเคราะห์ทักโคดานาเพื่อหาเบาะแสของลุค และแผนที่เพิ่มเติม ฟินน์ได้พบกับไลท์เซเบอร์ของอนาคิน และของลุค และเก็บมันไว้กับตัวตามคำขอของมาส คานาต้า ผู้ใช้วิถีแห่งพลัง

 

ในขณะเดียวกัน เหล่าปฐมภาคีก็ได้สร้างอาวุธทำลายดวงดาวที่ชื่อ “ฐานสตาร์คิลเลอร์”และเริ่มแสดงแสนยานุภาพด้วยการทำลายดาวในระยะทั้งหมดให้ชม ทำให้ฝ่ายต่อต้านคิดแผนทำลายฐานยิงโดยการโจมตีศูนย์ที่สำคัญ เลอาได้ฝากให้ฮัน พา “ไคโล เรน” ลูกชายของทั้งคู่กลับมาให้ได้ แต่ในภารกิจ “ไคโล เรน ได้สังหาร ฮัน โซโล” ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ท่ามกลางความสับสนในใจ และถูกชิวแบคก้ายิงใส่ด้วยความแค้น

 

ไคโล เรน ที่บาดเจ็บก็ได้ต่อสู้กับฟินน์ แต่ฟินน์ก็พ่ายแพ้ไป จนเรย์มารับช่วงต่อกับการดวลไลท์เซเบอร์กับ ไคโล เรน และสามารถเอาชนะมาได้อย่างฉิวเฉียด แต่ผู้นำสูงสุดสโนค ได้สั่งให้ไคโล เรนหนีไปจากดาวดวงนี้ ฝ่ายกบฏสาธารณรัฐใหม่ ฉลองชัย แต่ทาง ฟินน์ เรย์ โพ และ เจ้าหญิงเลอา ต่างยืนไว้อาลัยให้ฮัน โซโล

 

R2D2 ที่กลับมาใช้งานได้หลังจากปิดระบบตัวเองมานานหลายสิบปี ก็แสดงข้อมูลของแผนที่ส่วนที่เหลือ และนำพาเรย์ ไปพบกับ ลุค สกายวอล์คเกอร์ เจไดคนสุดท้ายบนดาวเคราะห์ห่างไกล และมอบกระบี่แสงที่เคยเป็นของบิดาเขาให้

 

 

แอดมิน Ak47