Star Wars Outlaws
ประเภท : Action / Openworld
เครื่อง : PS5, Xbox Series X|S, and PC
วันวางจำหน่าย 30 สิงหาคม 2024
พัฒนาโดย : Ubisoft / Massive Entertainment
สั่งซื้อแผ่นเกม Special Edition >>> คลิก
Ubisoft และ Massive Entertainment ได้ร่วมมือกับ Lucasfilm Games เปิดตัว เกม Star Wars Outlaws
ถือว่าการมาของทีมงาน Massive Entertainment ที่มาจับการพัฒนาเกม Star Wars เป็นครั้งแรกที่สำคัญมากๆ หลังจากที่แฟรนไชส์นี้ตกอยู่ในมือของ EA แบบผูกขาดมานานกว่า 8 ปี
Star Wars Outlaws จะให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ เกม Star Wars แบบโอเพ่นเวิลด์ขนาดใหญ่ครั้งแรก โดยมีฉากหลังเกิดขึ้นระหว่างเหตุการณ์ของ The Empire Strikes Back และ Return of the Jedi ผู้เล่นจะได้สำรวจดาวเคราะห์ที่แตกต่างกันทั่วทั้งกาแลคซี ทั้งที่โดดเด่นและสดใหม่
ผู้เล่นได้รับบทเป็น “เคย์ เวส” (Kay Vess) สาวนอกกฎหมายหน้าใหม่ ที่กำลังแสวงหาอิสรภาพและหนทางในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมกับ “นิกซ์” คู่หูตัวน้อยของเธอ แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือ การต่อสู้ ขโมย และชิงไหวชิงพริบใน ผ่านกลุ่มอาชญากรของกาแล็กซี่ เมื่อคุณคือเป้าหมายที่คนทั่วกาแล็กซี่ที่ต้องการตัวมากที่สุด
โดยตอนนี้ ทั้งสองก็กำลังต้องการงานใหญ่ ๆ ค่าตอบแทนสูง ๆ เพื่อพลิกชะตาชีวิต โดยในช่วงเวลาดังกล่าว จักรวรรดิกำลังถูกฝ่ายต่อต้านป่วนอย่างหนัก ซึ่งนำไปสู่ยุคทองของ “ธุรกิจใต้ดิน” ในฐานะหัวขโมยฝีมือดี เคย์ซึ่งได้ไปปล่อยของจนเข้าตา Sliro (สลิโร) ผู้นำกลุ่มอาชญากร เซเร็คเบช แบบเต็ม ๆ ซะจนโดนสลิโรวางค่าหัวเคย์เอาไว้ ทำให้ทั้งเคย์และนิกซ์ได้รับข้อเสนอเป็นงานเสี่ยงตายแลกกับอิสรภาพ
REVIEW 7/10
เนื้อเรื่อง 2/3
เกมเพลย์ 2/3
งานภาพ 2/3
ความชอบ 1/1
แต้มเต็ม 3 คะแนน ในแต่ละหัวข้อ 0=ไม่ไหว / 1 =พอไหว / 2 = กลางๆ / 3 = เจ๋ง
เกมไม่ได้แย่ ดีพอใช้ได้ แต่มาผิดเวลาที่ยุคนี้ ในวงการเกมมี “ตัวเลือกที่ดีกว่านี้” ให้ได้เล่น ซึ่งในรีวิวนี้ เราตัดเรื่อง Woke อะไรยังไงนั่นออกไปก่อนนะ เพราะต้องบอกว่าตัวละครในจักรวาลสตาร์วอร์ มันมีหลากหลายระดับข้ามสปีชีส์ไปแล้ว เรื่อง Beauty Standard ไม่มีผลแน่ๆ (555) และเราจะพูดถึง “ความเป็นเกมที่คนปกติเค้าเล่นกัน” เท่านั้นนะครับ
ภาพจำของเกมสตาร์วอร์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา เราจะถูกผูกขาดกับเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้กระบี่แสง ทั้งเหล่าเจได และซิธ กับกองทัพหุ่นดรอยด์และสัตว์ประหลาดมากมาย…แต่จักรวาลสตาร์วอร์ไม่ได้มีแค่นั้น มันยังมีหลายแง่มุมให้เล่า ทั้งมุมคนธรรมดา มุมทหารต๊อกต๋อย หรือแม้แต่พวกนอกกฎหมาย และเกม Star Wars Outlaws ก็เลือกที่จะนำเสนอในมุมของคนนอกกฎหมายที่มีเหลี่ยมเชิง และการวางโครงเรื่องที่น่าสนใจ เพียงแต่เกมเพลย์ และเควสท์ทางเลือกนั้น เบนความสนใจจนหลายครั้งมีการหลุดโฟกัสในส่วนนี้ไม่น้อย
แรกเริ่ม ตัวละครเอก “เคย์ เวส” สาวแกร่ง ที่เป็นแค่พวกนนอกกฎหมาย มีภาพลักษณ์ที่ทีมงานพยายามจะให้เป็น “ฮาน โซโล” เวอร์ชั่นสาว (ถ้าซื้อชุด DX มาจะมีชุดจับคู่สีฮานโซโลมาเลย) แต่บารมีของตัวละครนี้ ยังไม่ถึงขั้นที่จะเทียบกับฮาน โซโลได้เลย ทั้งด้วยกึ๋น และความกวนกะล่อนพลิกลิ้น
แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือ ทั้งคู่ ชีวิตที่ต้องต่อสู้กับพวกผู้มีอิทธิพลฝ่ายต่างๆในจักรวาลสตาร์วอร์ ใช้ชีวิตแลกเศษเงิน และการยิงปืนบลาสเตอร์กระบอกเดียวเสียวทั้งกาแลกซี่ (?)
โดยในเกมนี้จะมีฝ่ายต่างๆ ทำสงครามลับๆชิงอำนาจ บางฝ่ายก็ถึงขั้นส่งส่วย จ่ายต๋งให้จักรวรรดิ์ เพื่อสร้าง Back Up จากกองทัพ บ้างก็เป็นมาเฟียหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงและอยากจะกวาดทุกอำนาจมาเป็นของตน…แน่นอนว่าตัวเอกของเกมที่อยู่ตรงกลาง จะต้องทำภารกิจต่างๆที่แต่ละฝ่ายเสนอมาให้…
ซึ่งจุดนี้ คือข้อที่น่าสนุกของเกม เพราะถ้าเราทำเควสท์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากไป ก็จะทำอีกฝ่ายเขม่นหน้าได้ และของรางวัลแต่ละฝ่ายที่เสนอมาก็ไม่เท่ากัน บางเควสท์ให้ของดีมา บางเจ้าให้เงินมหาศาล บางฝ่ายเลือกให้เป็นสิทธิพิเศษในการเข้าพื้นที่ต่างๆเป็นต้น…
ซึ่งก็อย่างที่บอกในตอนต้นว่า “มันทำให้การเดินเรื่อง ค่อนข้างจะหลุดโฟกัสไปมาก” เพราะมัวแต่ทำเควสท์ที่มอบหมายมา ถ้าสายเสพเนื้อเรื่องที่หวังจะพาคนถ่อยสาวแกร่งคนนี้ไปยังปลายทาง ก็อาจจะต้องนั่งจำเนื้อเรื่องหน่อย ว่าทำไปถึงไหนแล้วนั่นเอง…และช่วงท้าย ตัวละครยิ่งเยอะ ยิ่งสร้างอิมแพคท์ให้ตัวละครที่เราเล่นมาไม่น้อย
ในส่วนของเกมเพลย์ ถ้าไม่อยากอ่านอธิบายยาวๆ สามารถจำกัดความได้ว่า “อยู่ในระดับที่ดีพอเล่นได้ แต่โคตรน่าเบื่อ” เกมเพลย์ของเกมนี้สามารถอธิบายได้ว่า มันเป็นการ “ยำรวมมิตรเกมในค่าย UBISOFT มาใส่สกิน Star Wars”
บางภารกิจ คุณอาจจะได้เล่นในแนว Watch Dog ที่ต้องแฮกระบบโน่นนี่ / บางฉากคุณต้องลอบเร้นแบบ Assasin Creed / ในช่วงสำรวจแผนที่กว้าง ตีป้อม Outpost เหมือนคุณกำลังเล่น FAR CRY / มีระบบคราฟท์ของ เปิดหีบเอาไอเทมวัตถุดิบไปขาย ซื้อของอัพเกรดยานต่างๆ แบบเกม RPG / มีช่วงยานยิงปิ้วๆ + มินิเกมเล่นไพ่จับคู่หาคนถือแต้มต่ำสุดกินรอบโต๊ะให้เล่นด้วยนะ…ซึ่งพอเอามารวมกัน เหมือนจะดี แต่ดันเป็นเกมที่ออกมาขาดๆเกินๆมั่วๆงงๆอย่างบอกไม่ถูก
ระบบ Gunfight ดวลปืนเลเซอร์ ทำออกมา ว่องไว ไหลลื่น แต่ไม่มีความหลากหลายมากนัก และนำไปสู่ ความเบื่อหน่ายที่รวดเร็ว (ฮ่าๆ) เพราะตัวเอกที่เราเล่น สามารถใช้ได้แค่ปืนพกบลาสเตอร์ที่กระสุนไม่มีหมด (แต่มีปืนร้อนต้องกดคูลดาวน์เอา)
ซึ่งปืนพกบลาสเตอร์ ก็ไม่ได้มีลูกเล่นการปรับแต่งเชิงลึกที่มากพอจะให้สนุกกับการโมดิฟายปืน (คือเราอยู่ในยุคที่เกมเดินหน้ายิงโมปืนได้ ติดดอทใส่เลเซอร์เปลี่ยนพานท้ายย้ายกระสุน พอมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกอึดอัดไปเลย แต่อีกมุมก็เข้าใจได้ เพราะสตาร์วอร์ มันก็ไม่ได้มีความหลากหลายด้านอาวุธขนาดนั้นละนะ ใส่อะไรแปลกๆไป เดี๋ยวก็ขัดกับ Lore เดิมอีก)
แถมปืนอื่นๆในเกมนี้ จะดรอปจากศัตรูเท่านั้น ใช้จนกระสุนหมด โยนทิ้งเท่านั้น แล้วกลับไปบลาสเตอร์ต่อ แม้จะมีระบบ “อะดรีนาลีน ช๊อต” ที่เป็นการล๊อกเป้าแบบในเกม Red Dead Redemption หรือต้องไปออกหาสกิลยิงปืน ที่ต้องไปเรียนจากปรมาจารย์ที่เร้นกายทั่วกาแลกซี่ ก็พอจะทำให้เกมเพลย์ในส่วน Gunfight ได้สนุกบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่ประทับใจเท่าไหร่อยู่ดี
ส่วนระบบอื่นๆ อย่างการแฮกระบบอุปกรณ์ต่างๆ / การสะเดาะกุญแจตามจังหวะเสียงสัญญาณ / การใช้งานเจ้าสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก NIX (และเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้แอดมินทนเล่นเกมนี้เพราะมันน่ารักดี 555+) ก็ทำให้การบุกฐาน การเปิดประตู หรือเปิดจังหวะการโจมตีแบบไร้เสียง สามารถทำได้ดี มีตัวเลือกมากขึ้น
ซึ่งก็สอดคล้องกับภารกิจส่วนมากในเกมนี้ ที่จะเน้นหนักไปที่การขโมยของ เจาะข้อมูล แล้วชิ่งกลับบ้านแบบมาไวไปไว มากกว่าการล้างบางสังหารโหด
แถมบางเควสท์ บอกแค่ “ความต้องการ” แต่วิธีการ หรือ Direction ไม่ได้บอกตรงๆ ผู้เล่นต้องตีความเองอีก เช่น เควสท์ “หาเงิน 1500 ให้ได้” คุณจะทำยังไง? ก็อาจจะขายของขยะ หรือทำเควสท์อื่นๆให้ได้ตังค์ หรือจะนั่งเล่นไพ่หาตังค์ก็ได้ หรือเควสท์หาคน ที่ต้องอาศัยถามคนข้างทางว่ารู้จักคนนี้ไหม
บางคนก็ตอบดี บางทีก็ตอบกวนตี- แถมไถตังค์เราด้วย บางคนจ่ายแล้วบอกก็โอเค บางตัวจ่ายแล้วไล่ให้เราไปตายซะก็มีเช่นกัน 555 ซึ่งเกมนี้
หลายสถานการณ์ การติดสินบน ก็แก้ปัญหาได้ เกมนี้มันมีบางฉากที่เข้าไม่ได้ ต้องลักลอบเข้าไป แต่ “ถ้ามี” ตัวเลือกจ่ายใต้โต๊ะ(บางเควสท์) ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น เพราะเควสท์บางเควสท์ บอกว่า “จงเข้าไปยังพื้นที่ๆกำหนด” แต่ไม่ได้บอกวิธีการเข้า ถ้าเซฟตังค์ ก็มุดท่อ หาทางโหนสลิงยิงใยอะไรว่าไป แต่ถ้าอยากจบเร็ว จ่าย จบเลย!
โดยรวมในพาร์ทเกมเพลย์ สามารถบอกได้ว่า ตัวเกมมีความกว้างในการวิ่งเล่นในฉาก แต่คับแคบในเชิง Action เพราะเท่าที่เล่น หลายอย่างที่เป็นเควสท์สำคัญ หรือเนื้อเรื่อง ก็ไม่ได้บอกตรงๆในเกม แต่จะมีการบีบให้ผู้เล่นต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นในการเล่น เช่น ห้ามส่งเสียง / ห้ามทำสัญญาณดัง / ห้ามให้ตัวละครนี้ตาย บลาๆๆๆ
มันทำให้อิสระในการตัดสินใจในการต่อสู้ เข้าฐาน หรือทำภารกิจ ดูจะจำกัดวิธีการเหมือนเกมยุคเก่าไปหน่อย และบวกกับระบบต่อสู้ที่มีแค่ปืนเลเซอร์กระบอกเดียวเสียวทั้งกาแลกซี่ด้วย ยิ่งทำให้ตัวเกมเพลย์หลายๆครั้งที่เล่น เข้าขั้น “น่าเบื่อ” ไปเลยครับ
ส่วนงานภาพ ก็ไม่รู้ว่า Ubiเค้าติดใจอะไรนักหนากับ Snowdrop Engine ที่บั๊กเยอะ และมีปัญหา Pre Shading ค่อนข้างสูง แถมเฟรมเรทสวิงไปมา ซึ่งรีวิวนี้เล่นในระบบ PS5 มานานราวๆ 10 ชม. เราก็ยังเจอกับปัญหานี้ ในช่วงคัตซีนเองก็ร่วง ในช่วงเกมเพลย์ จังหวะนัวๆก็เจอบ้าง แต่สิ่งที่ไม่ชอบเลยในเกมนี้คือ งานศิลป์ในที่เปิดโล่ง ตัวเกมเคว้งคว้างไร้ชีวิตชีวามากๆ ต่างจาก FARCRY เกมค่ายเดียวกันแท้ๆ…ทั้งการเล่นแสง เล่นสี ซึ่งเมื่อเทียบกับ Assassin Creed หรือ FARCRY ที่เป็นเกม Openworld ที่มีฉากธรรมชาติเยอะ พื้นที่เปิดโล่งก็ถูกถมด้วย NPC รถ วัตถุต่างๆที่ยังดูมีมิติ และสมจริงกว่านี้
อ่อ การวางองค์ประกอบของวัตถุต่างๆ ดูจงใจเกินไป โดยเฉพาะถังแก๊สเนี่ย แหม่ เห็นแล้วก็คัน อยากยิงเล่นขึ้นมาซะงั้น 555
รวมไปถึงมุมกล้องในช่วงเดินเข้าเมือง ที่จะบีบซูมใกล้หลังตัวละครมากเกินไปจนอึดอัด ซึ่งบางช่วงที่ต้องใช้การสังเกตจุดต่างๆที่จะต้องมุดท่อ ปีนป่ายในเมืองอาจจะต้องกด L1 เพื่อเปิดใช้งานโหมดขยายเป็นระยะๆ น่าหงุดหงิดมากกว่าความ Cinematic ที่ตัวเกมพยายามจะใส่เข้ามา
โดยรวม เป็นเกมที่อยู่ฝั่งที่ชอบครับ แต่ก็ระดับ “ดีพอเล่นได้” เพราะตัวเลือกในเวลานี้มี“ดีมากกว่า” จริงๆครับ
ถ้าเกมนี้ออกซัก 7-8 ปีก่อน มันอาจจะเจ๋งเลยก็ได้นะ
ค่าแผ่นเกมยุคนี้ไม่ใช่ถูกๆ
ก็เอาเป็นว่า “แล้วแต่ท่านเลยครับ”
เราคงไม่สามารถสรุปอะไรได้มากไปกว่าคำๆนี้แล้วจริงๆ เห้อ…
แอดมิน AK47
เกมเพลย์ 10 นาทีเน้นๆ
สั่งซื้อแผ่นเกม Special Edition >>> คลิก