Star Ocean 5 : Integrity and Faithlessness
ประเภท : J-RPG
เครื่อง : PS4 / PS3
พัฒนาโดย : Tri Ace / Square Enix
วันวางจำหน่าย :
Jap/PS3 – 28/4/2016
Eng/PS4 – 28/6/2016
Gameplay โดยเมทัลบริด [พากษ์ไทย]
การท่องอวกาศของมวลมนุษยชาติ ผ่านเรื่องราวอันแสนเศร้าสุดสะเทือนอารมณ์ กลับมาอีกครั้ง กับภาคล่าสุดที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปยังจุดเชื่อมโยงเหตุการระหว่างภาค 2 - 3 ใน Star Ocean 5 : Integrity and Faithlessness
Star Ocean คืออะไร!?
Star Ocean เป็นเกมที่พัฒนาโดย Tri Ace จัดจำหน่ายโดย Square Enix ถือเป็นหนึ่งในซีรี่ยอดนิยมในเกมแนว Japanese RPG เนื้อเรื่องเริ่มต้นในปี ค.ศ 2064 ผลจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ทำให้สารกัมมัตภาพรังสีปนเปื้อนไปทั่วโลกทำให้มนุษย์ต้องอพยพไปหาที่อยู่อาศัยใหม่ในจักรกวาลอันไกลโพ้น และเริ่มต้นปีศักราชใหม่ในชื่อ Space Date (SD) โดยเนื้อเรื่องทุกภาคจะมีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันเป็น Timeline เรียงเหตุการณ์ตามนี้
Space Date 10 – Star Ocean: The Last Hope ภาค 4
Space Date 346 – Star Ocean ภาค 1
Space Date 366 – Star Ocean: The Second Story ภาค 2
Space Date 537 – Star Ocean: Integrity and Faithlessness ภาค 5
Space Date 772 – Star Ocean: Till the End of Time ภาค 3
Gameplay / ระบบการเล่น
นี่คือเกมส์แนว J-RPG ขนาดแท้ด้วยการดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง เล่าเรื่องสนุกๆสไลต์อนิเมะผู้กล้าผจญภัย ที่ต้องฟัง(อ่าน)บทสนทนาแล้วคุณจะอินไปกับเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตาม ที่สำคัญไม่มีระบบ AutoSave ต้องกดเซฟเองเท่านั้น ส่วนระบบต่อสู้มาเป็นแนว Action กดโจมตีเบา/หนัก ตั้งกาดป้องกัน กระโดดหลบ เรียกใช้ท่าไม้ตาย แถมยังสามารถสลับใช้ตัวละครได้ตลอดเวลาอีกด้วย เรียกว่าพอสมีสกิลให้ใช้ครบและเพื่อนในปาตี้ครบทีม พอเข้าฉากต่อสู้เมื่อไรกดท่ากันมันเลย
ระบบการต่อสู้
ระหว่างที่เดินสำรวจแผนที่อยู่เราจะเห็นศัตรูเดินอยู่รอบบริเวณ เมื่อเข้าไปใกล้มัน ก็จะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้ทันทีแบบไร้รอยต่อ ที่ทีมพัฒนาเรียกระบบนี้ว่า Rpg Real-time battles seamless ซึ่งบางฉากก็จะมีศัตรูจำนวนมากดาหน้าเข้ามาทีละกลุ่ม ตะลุมบอนสู้กับพวกพระเอกที่มีเยอะเช่นกัน ให้อารม์ของความวุนวายในสงคราม ออกท่าไม่ตายรวดเร็ว สวยงาม เวอร์วังอลังการ และการบังคับก็ถือว่าเป็นเกมส์แนวแอคชั่นมันๆเกมส์นึงเลย
- เดิน/เคลื่อนที่
- หมุนมุมกล้อง / กดลง = รีเซ็ทมุมกล้อง
- โจมตีเบา / กดค้างเป็นท่าไม้ตายที่ติดตั้งไว้ระยะใกล้/ไกล
- โจมตีหนัก / กดค้างเป็นท่าไม้ตายที่ติดตั้งไว้ระยะใกล้/ไกล
- เข้าหน้าจอเมนูใช้ ไอเทม เวทย์มนต์ ปรับ Roles
- กดค้างป้องกัน / เวลาป้องกันได้กด อีกที Counter
+ - แดชหลบหน้าหลังซ้ายขวา
- ซ้ายขวาเปลี่ยนตัวละคร / ขึ้นลงปิดAI รอออกคำสั่ง
L1/R1 – เปลี่ยนเป้าโจมตี
R2+ - ใช้ท่าไม้ตายสุดยอด (ต้องมีเกจพลัง)
การอัพสกิล/Battle Skill
ในแต่ละตัวละครสามารถเรียนรู้ท่าใหม่ได้จาก หนังสือเรียน โดยหนังสือ1เล่มสามารถเลือกใช้ได้กับ2คนเช่น Fidel กับ Victor จะใช้หนังสือเรียนหลักสูตรเดียวกันจึงต้องเลือกว่าจะอัพให้ใคร ซึ่งท่าที่ได้ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน โดยสามารถหาหนังสือเรียนท่าต่างๆ ได้จากหีบสมบัตหรือเควสต่างๆ เมื่อเรียนรู้ท่าแล้วก็นำมาติดตั้งเพื่อใช้งาน ระยะใกล้ 2 ท่า และ ระยะไกลอีก 2 ท่า เมื่อใช้ท่านั้นบ่อยๆ Level Skill ก็จะเพิ่มขึ้น
***Fidel ใช้เล่มเดียวกับ Victor
***Miki ใช้เล่มเดียวกับ Fiore
***Emmerson ใช้เล่มเดียวกับ Anne
ระบบ Roles เสริมพลังให้ตัวละคร
ในตอนต่อสู้เราสามารถสลับตัวละครได้ตลอดเวลา แต่ก็บังคับตัวละครได้ทีละตัวอยู่ดี ไม่มีระบบ Co-op เพราะฉะนั้นตัวที่เราไม่ได้บังคับ AI จะเป็นคนบังคับให้ซึ่งมันก็จะโจมตีให้เองไปเรื่อย การจะเสริมให้ตัวละครเก่งขึ้นคือการติดตั้ง Roles ซึ่งจะเป็นการบวก Status ให้กับตัวละครนั้นให้เก่งขึ้นเพื่อให้เหมาะตามตำแหน่งในการออกรบโดนตัวละคร 1 ตัวสามารถติดตั้ง Roles ได้ชิ้นอย่าง และสามารถใช้เพชรในการอัพ Roles ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นได้ด้วย โดย Roles จะแบ่งได้ 4 สายดังนี้
สีแดง – เน้นเพิ่มพลังโจมตี
สีฟ้า – เน้นเพิ่มพลังป้องกัน
สีเขียว – เน้นช่วยเหลือ
สีเหลือง – เน้นบวกลุยแหลก
สีม่วง – เน้นเพิ่มพลังทางกายภาพ
ความสามารถเสริม / Specialties
เป็นสกิลเสริมอำนวยความสะดวกระหว่างการผจญภัย ซึ่งถ้ามีไว้ก็ช่วยให้เล่นเกมส์ได้ง่ายขึ้น เช่น ทักษะเก็บวัตถุดิบ ทักษะมองเห็นตำแหน่งหีบสมบัติบนแผนที่ ทักษะมองเห็นศัตรูบนแผนที่ รวมไปถึงทักษะการสร้างไอเทมคราฟของต่างๆ และตีบวกอุปกรณ์ ซึ่งจะปลดล๊อคทักษะโดยการทำเควสต่างๆ เริ่มต้นที่เควสของ Welth Laboratary ที่เมือง Myiddok เมื่อปลดล๊อคความสามารถแล้วยังสามารถอัพทักษะนั้นให้เก่งขึ้นโดยการใช้เพชรที่เก็บได้จากการต่อสู้
สร้างของ / Creation
คำสั่งที่ปลดลอคได้จากเมนู Skill Specialties ทำให้สามารถสร้างไอเทมใช้งานเจ๋งอย่าง Blueberry Potion (ฟื้น HP70%) หรือสร้างไอเทมพิเศษสำหรับส่งเควสต่างๆ หรือทักษะการตีบวกเอาไอเทมต่างๆมาเพิ่มพลังให้อุปกรณืสวมใส่ สามรถเรียนรู้ทักษะการสร้างของได้จากการทำเควสที่ Welth Laboratary ที่เมือง Myiddok
หีบที่เปิดไม่ได้ / Skill Lockpick
ในช่วงต้นเกมส์เราจะพบกับหีบสมบัติที่ปิดล็อค เปิดไม่ได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ Skill Lockpick ในการช่วยเปิด โดยสามารปลดล๊อคทักษะนี้ได้ในช่วงท้ายของเกมส์ โดยการทำเควสที่บอร์ดกลางเมือง Central Resulia จำนวน 3 เควส
- Subjugation Directive: Gileeghas
- Subjugation Directive: Walking Conflagrations
- Survive This!
เนื้อเรื่อง บทสรุป / Walkthrough
ณ ดาวเคราะห์ Faykreed ที่อยู่ห่างไกลจากโลกไป 6พันปีแสง เรื่องราวเริ่มต้นที่เมือง Sthal Village นักดาบหนุ่ม Fidel และ Ted กำลังฝึกฝีมือดาบ (สอนวิธีบังคับ) เสร็จแล้วเดินไปด้านบนของเมืองจะเจอกับเพื่อนสาวชื่อ Miki เราจะพูดคุยกันว่าช่วงนี้เจอพวกคนแปลกหน้าลอบเข้ามาในหมู่บ้านในตอนดึก น่าจะเป็นพวกคนเถื่อนที่หวังจะทำลายหมู่บ้าน พวกเราจึงไปปรึกษาท่านนายก แต่เขาคงจะแก่เกินไปที่จะสู้แล้ว จึงฝาก Fidel ให้ช่วยจัดการเรื่องนี้แทน
หลังคุยเสร็จพวกคนเถื่อนก็เข้ามาบุกหมู่บ้านจริงๆ จัดการให้หมด แล้วไปคุยกับท่านนายกอีกครั้ง เขาจะแนะนำให้เราลองไปขอกำลังเสริมจากเมืองหลวง โดย Miki จะขอร่วมเดินทางไปด้วย ออกจากเมืองผ่านทาง Passage on the Cliffs มุ่งหน้าต่อไปที่ชายทะเล Coast of Minoz ระหว่างทางเจอกับบอส Discord Gere ในระหว่างที่สู้จะมีนักรบหนุ่มเข้ามาช่วยจนเอาชนะบอสได้ เขาคือ Victor หนึ่งในนักรบของพระราชา เมื่อพูดคุยกันจึงทราบว่า ผู้สอนเพลงดาบให้ Victor ก็คือพ่อของ Fidel นั่นเอง และเขาเองก็กำลังจะไปเมืองหลวงเช่นกัน แต่ต้องแวะทำธุระที่เมือง Myiddok ซะก่อน ทั้ง3จึงออกเดินทางไปด้วยกัน
เมื่อมาถึงเมือง Myiddok นอนพักที่โรงแรม 1 คืน พอออกมาจะพบ Victor กำลังพูดคุยกับสาวสวยสุดเซ็กซี่ ซึ่งเธอคือ Fiore นักเวทย์สาวที่พระราชาของ Resulia ขอยืมตัวมาจากอณาจักร Langdauq เพื่อให้มาช่วยทำสงครามกับอนาจักร Trei’Kur คุยเสร็จแล้วออกจากเมืองไปที่ทุ่งหญ้า Resulian Plains มุ่งหน้าต่อไปที่เมืองหลวง Central Resulia ที่หน้าปราสาทจะพบกับ Daril พ่อของ Fidel ที่ออกมาต้อนรับ Fiore และเมื่อบอกเล่าปัญหาของเมือง Sthal Village กลับไม่ได้รับคำตอบอะไรเพราะตอนนี้อนาจักรกำลังอยู่ในภาวะสงครามต้องเตรียมกำลังทหารไว้ให้พร้อมก่อน เหตุนี้ Daril จึงสั่งให้ Fidel กลับไปประจำการที่ Sthal Village ก่อนและ Victor จะแนะนำให้ใช้เส้นทาง Dakaav Footpath จะเป็นทางลัดกลับไปที่เมืองได้ไวกว่า
ในระหว่างเดินทางใน Dakaav Footpath เราจะพบกับยานเหาะบินตก เมื่อเดินไปดูจะเจอเด็กผู้หญิงหนีออกมาจากยานและพวกที่จะมาตามจับเธอ Fidel จึงตัดสินใจช่วยเธอไว้ ในระหว่างที่กำลังสู้กับพวกที่มาตามจับ เด็กหญิงก็ปล่อยพลังหยุดร่างของศัตรูไว้หมด แล้วเธอก็สลบไป ทั้ง 2 จึงต้องพาเธอกลับมาที่เมืองด้วย เมื่อมาถึง Sthal Village ปรากฎว่าเมืองโดนพวกคนเถื่อนโจมตีอีกแล้วแต่ชาวเมืองช่วยกันต้านไว้ได้ Fidel พาเด็กน้อยกลับไปพักที่บ้านแล้วมาปรึกษากับท่านนายก ซึ่งตอนนี้เมืองหลวงได้ส่ง Victor และนักรบอีก 2 คนมาช่วยเราจัดการพวกคนเถื่อนแล้ว ออกจากเมืองกลับไปที่ Dakaav Footpath จะมีทหารนำทางไปยังที่ซ่อนของพวกคนเถื่อน เข้าถ้ำไป ค้นหาประตูลับ (คุยกับMiki) แล้วจัดกรพวกหัวหน้าคนเถื่อนซะ แล้วเดินทางกลับหมู่บ้าน ชาวเมืองต่างดีใจเมื่อได้ทราบข่าวชัยชนะ
ในขณะเดียวกัน เด็กหญิงที่ช่วยมาก็ฟื้นแล้ว แต่กลับจำอะไรไม่ได้เลย รู้เพียงแค่เธอชื่อว่า Relia ด้วยเหตุนี้ Fidel จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจาก Fiore ที่อยู่ที่เมืองหลวงและเมื่อบอก Victor แล้วเขาเห็นด้วย จึงจะรวมกลุ่มเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงอีกครั้ง เมื่อไปถึง Central Resulia ปรากฎว่าสงครามได้เริ่มขึนแล้วและ Fiore เองก็อยู่ที่สนามรบ ให้ออกเมืองไปทางประตูตะวันตก มุ่งหน้าไปช่วยต่อสู้จัดการกับหทารของ Trei’Kur แล้ว Relia ก็ระเบิดพลังหยุดเวลาไว้อีกครั้ง และทุกคนก็ได้เห็นพลังของเธอชัดเจน Fiore จึงแนะนำให้พวกเราไปที่อณาจักรเวทย์มนต์เผื่อจะทราบถึงพลังของ Relia เดินทางไปทางเมือง Myiddok หยุดพักที่โณงแรมแต่จะมีกลุ่มคนลึกลับที่ไม่หวังดีตามมา เราจึงต้องรีบหนีไปทาง West of Eastern Eihieds และก็ปะทะกับกลุ่มคนลึกลับที่นี่ ซึ่งมันมีพลังบาเรียคลุมร่างไว้ทำให้โจมตีไม่เข้า และก็มีคนลึกลับอีก 2 คนเข้ามาช่วยสลายเกราะที่ป้องกันศัตรูให้ และจัดการพวกมันลงได้ ซึ่งเขาและเธอมีชื่อว่า Emmerson และ Anne ดูเหมือนทั้ง 2 คนก็กำลังหนีจากพวกทีมาโจมตีเราเหมือนกันจึงขอร่วมเดินทางเข้ากลุ่มไปกับเราด้วย
เมื่อมาถึงอณาจักร Santeroule และสอบถามรุ่นน้องของ Fiore แล้วก็ยังไม่ได้ของมูลเกี่ยวกับพลังของ Relia แต่เขาสังเกตสัญลักษณ์ของ Relia ที่น่าจะเป็นอักษรโบราณจึงแนะนำให้ลองไปดูที่สถาบันเก่าแก่น่าจะได้เบาะแสอะไรมาบ้าง เมื่อมาถึง Ancient Institute เด็กน้อยก็มีอาการเจ็บแปลบและพอจะจำได้ว่าเธอเคยถูกพาไปสถานที่หนึ่งซึ่งต้องเดินทางผ่านทะเลทราย… Fiore เลยคิดว่าน่าจะเป็นห้องทดลองอาวุธของอนาจักร Trei’Kur ที่เป็นดินแดนทะเลทราย แต่การจะไปอนาจักรนั้นในภาวะสงครามคงจะยาก พวกเราจึงต้องกลับไปที่ Central Resulia เพื่อให้ Victor พาข้ามชายแดน เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ปรากฎว่าสงครามได้ลามมาถึงที่นี่แล้วและทุกคนก็กำลังเตรียมการรบในปราสาทซึ่งพวกเราทุกคนก็อาสาช่วยร่วมรบด้วย จัดการศัตรูไปเรื่อยๆจนเส้นทางหลบหนีเปิดออก แต่ระหว่างที่กำลังจะออกจากเมืองก็เจอกับ Pavine หัวหน้าหน่วยของกลุ่มลึกลับที่คิดจะมาจับตัว Relia ซึ่งเจ้าพวกนี้มีอาวุธที่ทันสมัยมากจนเราสู้ไม่ได้
ระหว่างที่ชุนละมุน Relia ก็ระเบิดพลังของเธออีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นการวาร์ปทุกคนหนีออกมาจากบริเวณนั้นและมาโผล่ที่ดินแดนน้ำแข็งด้านนอกเมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขตของอนาจักร Trei’Kur และ Emmerson ก็ทราบถึงตำแหน่งของห้องทดลองนั้น ทำให้พวก Fidel เกิดความสงสัยแต่ก็ยังคงเชื่อใจและออกเดินทางต่อ และก็เข้าปะทะกับกลุ่มของ Pavine ที่ตามมาจนได้ เมื่อจัดการมันลงได้เจ้านี่จะไม่พอใจมากจึงพาลหันปืนยิงปืนใส่ Relia แต่ Miki เอาตัวมาบังกระสุนไว้จนบาดเจ็บสาหัส Emmerson จึงตัดสินใจเปิดเผยสถานะของตัวเองและวาร์ปทุกคนขึ้นไปบนยานอวกาศ Charles D. Goale เพื่อใช้เทคโนโลยีขั้นสูงรักษาอาการบาดเจ็บของ Miki ซึ่งคงต้องใช้เวลาเป็นวันกว่าจะหายดีและ Emmerson ก็ได้เฉลยว่าเขาคือกัปตัปของยานลำนี้ และ Anne ก็เป็นลูกเรือของยานเช่นกัน เธอได้ทำการวิเคราะห์ชี้พิกัดของห้องทดลองลับอีกครั้ง ทั้งหมดจึงวาร์ปลงจากยานเพื่อไปไขความลับพลังของ Relia กันต่อไป
เมื่อลงมาที่ทะเลทราย Trei’kuran Dunes ให้เดินหาทางเข้าห้องทดลองที่ซ่อนอยู่ เมื่อเจอแล้ว Anne จะใช้เครื่องมือของเธอในการเปิดประตูทางเข้า Relia จะรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก นี่คือที่ที่เธอถูกเลี้ยงดูมาพร้อมๆกับเพื่อนๆพี่น้องของเธอ เมื่อเข้ามาถึงด้านในสุดก็ได้พบกับห้องควบคุม Anne จึงทำการเก็บบันทึกข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำกลับไปวิเคราะห์ แต่หุ่นระบบรักษาความปลอดภัยก็เข้ามาโจมตีทันที ให้เน้นป้องกันตัว Anne เอาไว้อย่าให้เธอตาย (สู้ไม่ไหวให้ไปเก็บเลเวลข้างนอกก่อน) เมื่อจัดการหุ่นได้หมดห้องทดลองนี้ก็จะนับเวลาถอยหลังเพื่อทำลายตัวเอง ให้เรารีบหนีออกมาให้ทัน เมื่อกลับไปที่ยาน Miki ก็หายจากการบาดเจ็บแล้ว Emmerson เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟังว่า ยานลำนี้ถูกส่งมาโดยสหพันธ์ Pangalactic ที่มาจากดวงดาวอันไกลโพ้น และที่เราอยู่นี่คือจักวาลลำดับที่ 4 ที่ชื่อ Faykreed ซึ่งสหพันธ์ Pangalactic และกลุ่ม Kronos ได้ทำสนธิสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับจักรวาลที่เป็นกลางอย่างที่นี่ แต่พวก Kronos ได้แอบแทรกแซงสงครามของ 2 อนาจักรอย่างลับๆ โดยใช้ อนาจักร Trei’Kur เป็นฐานสร้างอาวุธที่ร้ายกาจ ซึ่งก็คือการทดลองเด็กๆอย่าง Relia นี่แหละ ซึ่งมันคงไม่ใช่ภาระกิจตามหาพ่อแม่ของเด็กหลงทางอีกแล้ว และนี่คือเหตุที่สหพันธ์ส่ง Emmerson มาที่นี่ เขาจึงขอเก็บตัว Relia ไว้อยู่ในความดูแล ซึ่งเมื่อ Fidel เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดก็ยอมมอบเด็กให้เขาเป็นคนดูแลต่อไป และส่งตัว Fidel และ Miki ลงมาจากยาน
ในขณะที่ยาน Charles D. Goale กำลังจะออกเดินทาง ก็ถูกโจมตีโดยยานของ Kronos จนเสียหายหนัก Emmerson จึงออกอุบายหลอกกัปตันของศัตรูว่าเครื่องวาปในยานของเขาเสียหายไม่สามารถส่งตัวเด็กให้ได้ ให้ทางนั้นเคลื่อนยานเข้ามาใกล้เพื่อรับตัว Relia ไปเอง ส่วนทางนี้จะลดอาวุธลงแต่ขอแลกกับการให้ลูกเรือของ Charles D. Goale ได้มีเวลาอพยพออกจากยาน แต่ที่จริง Emmerson ได้กดตั้งเวลาระเบิดยานไว้ก่อนแล้ว เมื่อยานของ Kronos เข้ามาใกล้ก็ตูมมมม แต่พวก Emmerson / Anne / Relia ก็สามารถเปิดเครื่องวาปหนีออกไปได้ทันเวลาพอดี แรงระเบิดทำลายยานฝั่ง Kronos ย่อยยับ ลำแสงสว่างไปทั่วท้องฟ้า ขนาด Fidel ที่อยู่บนโลกยังสังเกตเห็นได้ชัดเจน พวก Emmerson ขับยานที่พึ่งย้ายไปกลับมาที่ ชายแดนอนาจักร Trei’Kur ขณะที่กำลังตรวจเช็คกำลังพลของลูกเรืออยู่… Relia ก็ถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตาด้วยการวาร์ปโดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนลงมือ
กลับมาที่ Resulia พวก Fidel กำลังวางแผนในการโต้กลับพวก Trei’Kur โดยมีแผนอ้อมไปตลบหลังพวกศัตรูผ่านทางอุโมงค์ Western Dakaav Tunnel เพื่อยึดฐานของพวกมัน เตรียมอุปกรณ์ไอเทมให้พร้อมแล้วออกจากเมืองมุ่งหน้าไปที่อุโมงค์กันเลย พอทะลุมาอีกฝั่งพวกหทารฝ่าย Resulia ก็มารอ พร้อมจะลุยกันมานานแล้ว บุกเข้าไปยึดป้อมศัตรูกันเลย ในระหว่างที่กำลับชุนละมุน Emmerson กับ Anne ก็เข้ามาสมทบอีกแรงจนทำให้เอาชนะศึกนี้ได้ และเมื่อ Fidel ทราบว่า Relia ถูกจับตัวไปเขาก็โกรธมาก แต่ด้วยข้อมูลใหม่ทำให้ทราบว่าเด็กน่าจะถูกจับตัวไปไว้ในฐานทดลองอีกแห่งในบริเวณนี้ ทั้งหมดจึงรวมทีมกันอีกครั้ง มุงหน้าไปทางใต้ของทะเลทราย ค้นหาทางเข้าที่ซ่อนอยู่ (แถวเนินหินฝา) แต่ในจังหวะที่ Anne กำลังเจาะระบบประตู ศัตรูก็บุกเข้ามาให้คอยคุ้มกันไว้จนกว่าเธอจะเปิดระตูได้ เมื่อเข้าไปในห้องทดลอง ที่นี่การคุ้มกันแน่นหนามาก และยังมีการทดลองสัตว์อสูรและยังพบเด็กทดลองคนอื่นๆด้วย ผ่าเข้าไปจนถึงชั้น3 ก็จะพบกับห้องล๊อคประตู และต้องให้ Anne เป็นคนเจาะระบบอีกครั้งและคอยคุ้มกันเธอเหมือนเดิม ก็จะเปิดประตูเข้าไปพบกับ Relia ได้สำเร็จ แต่ภาพลัษณ์ของเธอได้เปลี่ยนไปนิดหน่อยจากเด็กผมยาวเป็นผมสั้น และรีบพาเธอออกมาและกลับไปพักที่ ป้อมตะวันออก
กลับมาที่ Eastern Trei’Kur ดูเหมือน Daril พ่อของ Fidel กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมทัพเพื่อทำสงคราม แล้วเด็กๆก็เหนื่อยมากจึงขอเข้าไปพักในโรงแรมก่อน ในตอนดึก Fidel ได้ออกไปพูดคุยกับพ่อและรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายได้เติบโตเป็นคนที่พึ่งพาได้ซักที แล้วพวกหทาร Trei’Kur ก็บุกเข้ามากลับไปหาพรรคพวกที่โรงแรมแล้วออกมาจัดการศัตรูที่อยู่ทั่วบริเวณ พอสู้จนถึงจุดที่เรากำลังได้เปรียบ Der-Suul ที่เป็นหัวหน้าศัตรูได้ยิงเวทย์ไฟใส่ Relia แต่ Daril ได้เอาตัวมาบังไว้จบบาดเจ็บและทั้ง 2 ก็ถูกพวกทหาร Trei’Kur จับตัวไป Victor จะสั่งการให้ลูกน้องของเขาเฝ้าฐานเอาไว้ แล้วเขาจรวมกลุ่มกับพวก Fidel ไปช่วยเหลือตัวประกันทั้ง 2 มุ่งหน้าไปที่ Trei’Kur Slaughtery กันเลย ที่นี่เป็นป้อมปราการที่มีลักษณะเป็นทางวงกตให้เปิดแผนที่ดูว่ามีทางเชื่อมอ้อมไปทางไหนได้ เมื่อทะลวงเข้าไปจนถึงคุกในสุดก็จะเจอ Daril และ Relia แต่ Der-Suul ได้ดักรอไว้อยู่แล้วมันจะส่งกลุ่มทหารมาจัดการเราพอแพ้ มันก็จะสั่งให้ทหารยิงพวกเราทิ้ง จังหวะนี้ Daril กระโดดมารับกระสุนแทน Relia จนตัวเขาตายทุกคนรู้สึกสะเทือนใจมาก แต่ก็ต้องรีบกลับไปที่ฐานเพราะพวกทหารศัตรูบุกเข้ามาแล้ว Fidel รู้สึกเสียใจมากแต่ Miki ก็เข้ามาปลอบจนเขาลุกขึ้นร่วมศึกอีกครั้ง ออกไปจัดการไอ้เวร Der-Suul ซะ แต่ระวังให้มันร้ายกาจมากและมีเวทย์หมู่ที่รุนแรงมาก ถ้าเพื่อนตายพยายามรีบชุบชีวิตแล้วฮิลจนพลังเต็มก่อน พอเอาชนะได้ Fidel ก็จะได้รับดาบของพ่อเขามาสืบทอดต่อไป
ออกทำภาระกิจไขความลับพลังของ Relia กันต่อเดินทางผ่าน Myiddok มาที่เมือง Santeroule เข้าไปที่ปราสาทแต่รุ่นน้องของ Fiore จะบอกว่าเครื่องขยายอนุภาคที่เราจะใช้งานมันพงอยู่จึงแนะนำให้ไปใช้เครื่องนี้ที่ Ancient Institute ในระหว่างที่กำลังไปที่นั่น นายพล Alma ก็ปรากฎตัวขึ้น เขาคือหัวหน้าของพวก Kronas มหาวายร้ายอันดับต้นของแกแลคซี่ และเด็กที่อยู่กับเขาก็คือ Relia ตัวจริงส่วนเด็กที่อยู่กับเราคือ Feria เด็กคนนี้คือกุญแจสู่ขุมพลังที่จะทำให้ Kronas สามารถยึดครองแกแลกซี่ได้สำเร็จ Alma จับ Relia เป็นตัวประกันและบีบให้พวกเราส่งตัวเด็กให้กับมัน แล้วพวกมันก็ได้ตัวเด็กทั้ง2ไปสมใจ งานนี้กลายเป็นเรื่องราวขอพิพาทของพวก Kronas และสหพันธ์ ซึ่งเกินหน้าที่รับผิดชอบของพวกคนในดาว Faykreed แห่งนี้แล้ว และถ้าพวก Fidel ต้องการจะช่วย Emmerson และสหพันธ์ ก็จะต้องขึ้นยานวาร์ปข้ามมิติเดินทางไกลและอันตรายซึ่งอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาที่ดาวบ้านเกิดอีกเลยก็ได้ ทุกคนจึงแยกย้ายสลายกลุ่มกลับไปคิด โดยยังมีเวลาให้ตัดสินใจอีก 17 ชั่วโมง เมื่อผ่านฉากตัดสินใจซึ้งๆของทุกคนแล้ว ทุกคนตัดสินใจกลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้งที่เมือง Santeroule
เมื่อกลับมาขึ้นเรือ Charles D. Goale อีกครั้ง จนท.รายงานสถานะการว่าพวก นายพล Alma ได้วาร์ปหนีพวกเราไปด้วยความเร็วสูงมากถึง 14.3 SpeedWarp ซึ่งยานลำนี้ที่เรานั้งเป็นยานที่ดีสุดของสหพันธ์แต่ยังทำความเร็วได้แค่ 12.9 SpeedWarp เท่านั้น แต่ด้วยความรู้ของ Fiore น่าจะช่วยทำอะไรกับแกนวาร์ปได้บ้างจึงขอให้ Anne พาไปดูห้องเครื่อง ในระหว่างรอก็ให้เดินเล่นสำรวจยานไปเรื่อยแล้วกลับมาที่ The Bridge จะพบว่า Fiore หาวิธีผสานเวทย์มนต์ให้ทำงานร่วมกับแกนวาร์ปเพื่อเร่งความเร็วได้สำเร็จ พวกเราจึงแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนที่ Privte Quarter เมื่อตื่นขึ้นก็พบว่าเราเข้าปะทะกับกองยานของ นายพล Alma แล้ว และฝ่ายนั้นระดมยิงอาวุธที่หนักหน่วงมากซึ่งการจะฝ่าเข้าไปเป็นเรื่องยาก แผนใหม่คือส่งพวก Fidel วาร์ปเข้าไปข้างในฐานศัตรูและทำลายศัตรูจากด้านใน พอเข้ามาเราก็ได้เจอกับ Relia อีกครั้ง ช่วยเธอได้แล้วหนีออกจากที่นี่ แล้วกลับไปที่ยาน Charles D. Goale แยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วไปที่ Transport Room พูดคุยกับ MikiและRelia แล้วพากันไปที่ The Bridge แต่เด็กน้อยก็ดันไปได้ยินสิ่งที่ Emmerson บ่นจนทำให้เธอน้อยใจและวิ่งหนีไปที่ Cargo Bay พวกผู้ใหญ่ต้องจึงรีบวิ่งตามไปและปลอบเด็กน้อย และเพื่อเป็นการไถ่โทษพวกผู้ใหญ่จึงจะพาเธอกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยเหลือ Feria เด็กอีกคนให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ทั้งหมดวาร์ปกลับลงมาที่ดาว Faykreed อีกครั้ง
กลับเข้าไปที่ห้องทดลองบ้านของ Relia อีกครั้ง เข้าไปจนถึง B5F จะเจอกับนักวิจัยที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ นายพล Alma และจะพาเราไปหา Feria ระหว่างทางจัดการบอส Illustrious Manticore ช่วงแรกจะตีมันไม่เข้าพยายามต้านไว้จนกว่า Relia จะปล่อยพลังเพื่อสลายเกราะของมัน จัดการได้แล้วเข้าไปด้านในสุดจะเจอกับนายพล AlmaและFeria อีกครั้งและเผยถึงแผนการสร้างอณาจักรมนุษย์โคลนนิ่งที่เชื่อฟังคำสั่ง และเด็ก2คนนี้คือกุญแจสำคัญให้การปลดปล่อยพลัง Spacetime Symbo เพื่อให้แผนการสำเร็จและตอนนี้แผนที่วางไว้ก็ใกล้จะสมบูรณ์แล้วเขาจึงวาร์ปหนีไปอีกครั้ง หลังจากพวก Fidel ได้พูดคุยกับนักวิจัยที่เหลือรอดและได้ทราบพิกัดและคีย์การ์ดสำหรับเข้าไปใน The Signesilica ที่ ที่รวบรวมข้อมูลงานวิจัยทั้งหมดไว้ที่นั่น Relia ต้องบอกลาพ่อแม่และออกเดินทางอีกครั้ง กลับขึ้นยานแล้วไปที่ The Bridge เมื่อพบพิกัดเป้าหมายแล้วลงจากยานมาที่แดนน้ำแข็ง Northern Territory of Sohma ขึ้นไปด้ายบนสุดเข้าไปใน The Signesilica ในบริเวณนี้ศัตรูจะร้ายกาจมาสามารถโจมตีเราทีเดียวตายได้เลยให้รวมกลุ่มตีให้มันตายทีละตัวเก็บให้หมดโดยไว ฝ่าเข้าไปถึงด้านในสุดก็จะเข้ามาในสถานที่ ที่เราตามหา ห้องเก็บข้อมูลวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับเด็กทั้ง2 และ Reliaก ก็จดจำเรื่องราวทั้งหมดได้ซึ่งเธอก็คือเครื่องมือที่จะใช้สังหารทุกคนเพื่อสร้างโลกใหม่นั่นเอง ถือเป็นตัวอันตรายสุดๆ แต่พวก Fidel ไม่สนไจมุ่งหน้าไปปิดฉากถล่มพวกนายพล Alma กันเลย
กลับขึ้นยานอีกครั้งจะมีสัญญาณติดต่อมาจากผู้นำสูงสุดของ Kronos เขาแจ้งว่าการกระทำของ นายพล Alma นั้นอยู่นอกเหนือคำสั่งของสภาผู้นำและเป็นการละเมิดสนธิสัญญาที่เลวร้ายมากจึงมีการปรึกษากับผู้บัญชาการของฝ่ายสหพันธ์ว่าจะร่วมมือหยุดแผนการของ นายพล Alma ก่อนที่ปัญหาจะกระจายวงกว้างไปมากกว่านี้ โดยจะให้พวกเราเป็นตัวแทนเจรจาเกลี่ยกล่อมแต่กลับไม่เป็นผล นายพล Alma ยืนยันจะเดินหน้าแผนการต่อเพื่อสร้าง New Kronos ศึกสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้น แยกย้ายกลับไปพักผ่อนที่ Privte Quarter ในจุดนี้ถ้ายังมีธุระอะไรให้รีบกลับไปทำเพราะหลังจากนี้จะไม่สามารถกลับไปที่ดาว Faykreed ได้อีกแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมากลับไปที่ TheBridge ขณะนี้ยานรบศัตรูเตรียมประจันหน้ากับเราแล้ว เมื่อเปิดฉากโจมตีเราเสียเปรียบเป็นอย่างมาก จึงต้องใช้แผนส่งพวก Fidel ขึ้นยานเล็กบินฝ่าเข้าไปในฐานบัญชาการของศัตรู แแล้วบุกทะลวงเข้าไปหา นายพลAlma ซึ่งในจุดนี้ศัตรูค่อนข้างแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะตัวที่ใช้อาวุธปืนสามารถทำดาเมจได้รุนแรงมาก ให้พยามตั้งการ์ดป้องกันแล้วเข้าประชิดตัวเพื่อจัดการมันให้เร็วที่สุด ระหว่างทางจะเจอกับหัวหน้านักวิจัยที่ปล่อยสัตว์ประหลาด Shrouded Gaze จัดการมันได้แล้วไปต่อคราวนี้หัวหน้านักวิจัยถึงกับปล่อยร่างโคลนนิ่งของ Feria มาจัดการเราพยายามเอาชนะให้ได้แล้ว นายพล Alma ออกมาและไม่พอใจมากที่หัวหน้านักวิจัยนำร่างโคลนอันมีค่ามาใช่เสียของ เจ้านักวิจัยจึงโดนลงโทษให้รวมร่างกับสัตประหลาดกลายเป็นบอส Troras the Abomintion จัดการมันซะแล้วมุ่งหน้าไปต่อ
ที่ปลายทางด้านบนสุดจะพบกับจุดเซฟสุดท้ายและข้างหน้านี้คือบอสใหญ่สุดท้ายตัวจริงแล้วเตรียมตัวให้พร้อม แล้วเข้าไปพบกับ AlmaและFeria บอสใหญ่ร่างแรก Feria จะสร้างเกราะให้ Alma ทำให้เราตีมันไม่เข้าให้ยื้อเวลารอจนกว่า Relia ใช้พลังสลายเราะให้เราจึงค่อยรุมโจมตีมัน จนเปลี่ยนเป็นร่าง2ที่แข็งแกร่งขึ้นรุมตีมันโดยระวังอย่าปล่อยให้ตัวฮิลนอนตาย พออัดจนมันใกล้ตายจะ Alma จะทำการร่วมร่างกับ Feria กลายเป็นสัตว์ประหลาดร่างยักษ์ ในช่วงแรกเราจะไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย จนพรรคพวกของเราพลาดท่าทั้งกลุ่มแต่ Fidel ยังคงยืนหยัดและเกลี้ยกล่อมให้ Feria หยุดสู้ทำให้พลังป้องกันของ Alma ลดลงก็ได้เวลาจัดเต็มปล่อยของทุกอย่างที่มีใส่บอสตัวสุดท้ายได้เลย เมื่อเอาชนะได้แล้ว Feria จะถูกปลดปล่อยออกมาในสภาพพลังงานและรวมร่างอยู่กับ Relia ตลอดไป และก็จบเรื่องราวการเดินทางของกัปตัน Emmerson T. Kenny โดยที่ สหพันธ์และKronos ยังคงรักษาสนธิสัญญาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต่อไป…fin
Game Rank ฺB Score 70/100
เกมส์ RPG เนื้อเรื่องดีภาพสวย แต่มีระบบการเล่นเชยไปหน่อย
นี่คือภาคต่อขอซีรี่ Star Ocean ที่ภาคก่อนหน้า (4) ออกมาให้เล่นตั้งแต่ปี 2009 กับพลอตเรื่องไฮเทคล้ำยุคแบบ Star Trek กับการขึ้นยานสำรวจอวกาศ ค้นหาดาวดวงใหม่ที่มักจะมีเวทย์มนต์แฟนตาซีมาเกี่ยวข้องเสมอ ด้านเนื้อเรื่องถือว่าสนุกระดับเอาไปทำเป็นอิเมะได้สบาย แต่นี่มันคือเกมส์นะ
ด้านงานภาพถือว่าทำกราฟิกได้สวยงามหลังการมาก (PS4) ส่องเข้าไปใกล้ๆมองเห็น Textuer เสื้อผ้ากันเลยทีเดียวแต่น่าเสียดายที่อุปกรณ์เสื้อผ้ารวมถึงอาวุธทั้งหลายเมื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่แล้วภาพที่แสดงยังคงเป็นชุดและอาวุธแบบเดิมตลอด ส่วนของ Gameplay หลักสิ่งที่ควรจำไว้ให้ขึ้นใจตอนเล่นคือมันไม่มี Autosave ซึ่งเกมส์ RPG ชั้นดีในช่วงหลังก็มีมาให้หมดแล้ว ทำให้ในระหว่างที่กำลังดำเนินเรื่องมันๆก็ต้องแวะเข้าจุดเซฟกดเลือก Overwrite This Savs ให้เสียเวลาเล่นซะก่อน หรือถ้าคิดว่าเก๋าพอจะลุยผ่านไปยาวๆแล้วค่อยมาเซฟทีเดียว ขอเตือนว่าระวังตายแบบคาดไม่ถึงแล้วต้องย้อนกลับไปเล่นใหม่เป็นชั่วโมง แทบจะปาจอยทิ้งปิดเครื่องนอนกันเลย
อีกจุดที่ค่อนข้างน่ามคานมากคือเวลาตอนคุยกันยาวๆ กด Skip ไม่ได้นะครับ ต่อให้เป็นฉากที่เคยตายแล้วโหลดเซฟกลับมาเล่นซ้ำก็กดข้ามไม่ได้ต้องทนดูซ้ำเสียเวลามาก และเวลาคุยกันในปาตี้มันจะวิ่งไม่ได้ต้องบังคับให้เดินจนกว่าจะคุยกันจบ -*- ช้าจุงเบยไม่ทันใจวัยรุ่น
แต่สิ่งดีที่ขอชมก็คือเนื้อเรื่องสนุก กับระบบต่อสู้ที่รวดเร็วทันใจ ออกคอมโบกันกระจายเรียงท่าต่อเนื่อง 6 ตัวโคตโหด โคตมัน แต่ข้อเสียเล็กๆก็ยังมี คือการเลือกล๊อคเป้าทำออกมาไม่ค่อยสะดวกเท่าไร อยากจะเลือกตัวนึงมันไปล๊อคอีกตัวนึงให้ซะงั้น แต่ยังไงฉากต่อสู้ก็ถือเป็นจุดเด่นมากของเกมนี้ละนะ ใครชอบเกมส์แนว RPG ไม่ควรพลาด เกมส์สั้นมีไม่กี่ MAP เล่นประมาณ 20 ชม.ก็จบแล้ว
By Webmaster
***ของแถม***