ชื่ออังกฤษ : Spider-Man: Homecoming

ชื่อภาษาไทย :  สไปเดอร์-แมน : โฮมคัมมิ่ง

ประเภท : ภาพยนตร์

แนว :  Action, Adventure, Family 

ผู้กำกับ : Jon Watts

ฉาย : 6 กรกฎาคม 2017

ปีนี้มาแน่นอนกับอีกหนึ่งตัวละครขวัญใจสาวกหนังฮีโร่อย่าง “สไปดี้” หรือ Spider-Man ฮีโร่ยอดนิยมแห่งวงการ  ผู้ที่ได้รับพลังพิเศษจากแมงมุม  สามารถกระโดดไต่ข้ามตึกไปมาและปราบเหล่าวายร้ายด้วยเส้นใย โดยในการรีบูตครั้งนี้  ค่ายต้นสังกัดอย่าง Marvel ที่ได้รับสิทธิ์เจ้าแมงมุมกลับมาแล้วก็ได้  ต้อนรับการหวนคืนกลับมาสู่บ้านของมาร์เวล   แล้วยังได้ปล่อยให้หนูน้อยแมงมุมออกมาวาดลวดลายโชว์ควมเกรียนไปแจในภาพยนตร์สงครามฮีโร่อย่าง Captain America Civil War ซึ่งก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างใช้ได้ดีเลยทีเดียว  

ทำให้หลายคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยหนังเดี่ยวๆ ของเขาและป้าเมย์ในปี 2017 ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ ในชื่อว่า Spider-Man: Homecoming 

เรื่องย่อ Spider-Man: Homecoming

เรื่องราวต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์ในช่วง Avengers ภาคแรก ที่นิวยอร์คโดนถล่มเละ “อันเดรียส ทูเมอร์ส” ชายผู้เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมากำจัดขยะ ก็ได้รับมอบหมายจากเทศบาลเมืองให้ทำการขนซากเอเลี่ยนสารพัดที่กองเต็มเมือง แต่ทว่าในตอนนั้นรัฐบาล จับมือกับ โทนี่ สตาร์ค ได้จัดตั้งหน่วยเก็บกวาดรัฐบาลสหรัฐ หรือ  “U.S. Department of Damage Control (D.O.D.C.)” ขึ้นมา ซึ่งไปทับไลน์ของทูเมอร์สเข้า ทำให้เขา และลูกน้องตกงานทันที เขาจึงพาทีมกู้ซากผันตัวไปทำงานผลิตอาวุธเถื่อนที่ใช้เทคโนโลยีจากเอเลี่ยน และอัลตรอน รวมไปถึงลักลอบกู้ซากแงะเอาวัตถุดิบมาสร้างอาวุธขายพวกโจรไว้ก่ออาชญกรรม จนร่ำรวย…ในฐานะ  “วัลเชอร์” (Vulture) ชายผู้ใส่เกราะติดปีกยักษ์

เวลาผ่านไป 8 ปีต่อมา…เหตุการณ์ใน Civil War “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ที่กำลังตื่นเต้นกับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมอเวนเจอร์สเฉพาะกิจ (เรียกว่าเด็กฝึกงานก็ไม่ผิด) แต่หลังจากที่ไปอาละวาดใน CivilWar เขาก็พบกับความจริงว่า ตัวเขาเป็นเพียงฮีโร่เด็กน้อย ที่ยังไม่แกร่งพอจะทำภารกิจใหญ่ๆได้ โทนี่ สตาร์คมักจะเฝ้าบอกเสมอว่า “ให้เป็นฮีโร่เพื่อนบ้านที่แสนดี” ไปก่อน โดยเน้นงานเล็กๆน้อยๆ…แต่วันนึง ปีเตอร์ ก็ได้พบกับแก๊งค้าอาวุธของทูมเมอร์สเข้า ทำให้เขาต้องตัดสินใจหยุดชายคนนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่ สตาร์คได้เห็นว่าเขาเองก็มีดีพอเหมือนกัน..

แต่ชีวิตวัยเรียนมัธยมของปีเตอร์นั้น ก็มีอุปสรรคในการตัดสินใจ ว่าจะเป็นนักเรียนที่ดี หรือจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดี…นี่คือบททดสอบ “บทแรก” ในฐานะฮีโร่ของ “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ในวัยมัธยมที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าในอนาคตเขาอาจจะเป็นหนึ่งในความหวังของทีมอเวนเจอร์รุ่นใหม่ก็เป็นได้…

ตัวละคร 

Tom Holland รับบทเป็น Peter Parker หรือ Spider-Man

เด็กหนุ่มไฮสคูลที่ได้รับพลังพิเศษจากแมงมุม  ทำให้มีความสามารถอันเหนือมนุษย์  เขาได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของฮีโร่อย่างถูกกฏหมาย ตามข้อเสนอของโทนี่ สตาร์ค  และได้รับชุดฮีโร่จากโทนี่ สตาร์คมาใช้งานด้วย

Robert Downey Jr. รับบทเป็น Tony Stark หรือ Iron Man

ชายที่เป็นมหาเศรษฐีเจ้าของ Stark Industries และยังเป็นฮีโร่ในชื่อของ “ไอรอนแมน” ผู้นำกลุ่มอย่าง The Avengers ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มในการเสนอให้เหล่าฮีโร่ร่วมลงชื่อเพื่อเข้าเป็นฮีโร่อย่างถูกกฏหมาย  และยังได้ชักชวนให้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์มาเป็นฮีโร่

Marisa Tomei รับบทเป็น Aunt May

คุณป้ายังสาวของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์  ที่เป็นห่วงความเป็นวัยรุ่นหลานชายตัวเองอยู่ไม่น้อย

Michael Keaton รับบทเป็น Adrian Toomes หรือ The Vulture

รีวิว  9 /10 Rank A

“ผู้ที่รู้จักรอคอยอย่างอดทน ผลของความพยายามนั้นจะไม่สูญเปล่า”

-กัปตันอเมริกา – สตีฟ โรเจอร์-

นี่คือการตีความสไปเดอร์แมนที่น่าดูมากๆ มีความน่ารักน่าลุ้น ตามสไตล์หนังวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การอยากเป็น “คนสำคัญ” ของใครซักคน จนลากมาถึงบทเรียนของการตัดสินใจเลือกทำอะไรบางอย่างของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ในวัยละอ่อนห้าวเป้ง ทำเอาคนดูแอบลุ้นไปกับเรื่องราวที่ว่ามา ตัวหนังสอดใส่ประเด็นที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของเด็กหน้าเนิร์ดๆคนนี้ได้อย่างลงตัว ทั้งสตาร์คที่หมายมั่นปั้นมือให้ไปเดอร์แมนเป็นฮีโร่ความหวัง แต่ก็ไล่ให้ไปทำงานเล็กๆน้อยๆเพื่อให้เรียนรู้ถึง “ความรับผิดชอบ”, “ตัวเลือก” และ “การใช้สติ” ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของการเป็นฮีโร่ (และเชื่อว่า โทนี่ ก็ไม่อยากให้สไปเดอร์แมนเดินตามรอยความผิดพลาดนั้น)

หรือแม้ “แอนเดรียน ทูเมอร์ส” แต่ตัวร้ายในเรื่องที่รับบทโดย “ไมเคิล คีตัน” นักแสดงระดับเทพ ที่ทำเอาขนลุกขนพอง เพราะแสดงออกทางสีหน้า พี่แกทำได้อย่างน่ากลัวในยามที่เป็นวายร้าย

ถึงในหนังจะวางตัวให้เขารับบทเป็นผู้ร้าย แต่ถ้ามองจริงๆแล้ว เขาก็เป็นเหมือน “เหยื่อ” ของอำนาจทุนนิยม (ที่โทนี่สร้างเส้นสายในรัฐจนตั้งหน่วยงานมาทับไลน์กู้ซากของทูเมอร์ส) และเหตุผลของเขาก็มีเพียงพอที่จะทำให้เขาเป็นวายร้ายที่น่า “สงสาร”มากกว่า “พวกเก่งจนน่าหมั่นไส้”แบบหนังมาร์เวลหลายๆเรื่อง

ซึ่งพลังการแสดงของไมเคิล คีตัน อดีตแบทแมนจากฝั่ง DC มาเล่นเป็นตัวร้ายให้มาร์เวล แถมมี Gimmick ของหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Birdman ก็ทำเอารู้สึกว่าทีมงานจงใจใส่ความ “ลักลั่น ย้อนแย้ง” ลงไปในตัวผลงานอีกด้วย และต้องขอชมทีมงานด้วยว่า “รักษาความลับได้เก่งมาก” ทั้งเรื่องของความสามารถของสไปเดอร์แมน หรือลูกเล่นชุดต่างๆ เรียกได้ว่าทำออกมาเซอร์ไพร้ซ์มาก ไอ้เรื่องของฟังก์ชั่นชุดของไอ้แมงมุมที่ปล่อยๆมาก่อนหน้า 7 อย่างนั้น ในหนังจริงๆเล่นได้อีกเยอะมาก มากจนรู้สึกว่าอยากเห็นในภาคต่อๆไปด้วย!

สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้พลาดคะแนน 10/10 ก็มีเพียงเรื่องเดียว คือ ฉากต่อสู้ที่ “มืด” และ  “รวดเร็ว ว่องไวจนดูไม่รู้เรื่องในหลายๆฉาก” ยิ่งช่วงท้าย คือความปวดตามาก หากจะมานั่งชมซีนสวยๆในระหว่างต่อสู้ละก็ต้องผิดหวัง เอาเป็นว่าไปดูเอาเนื้อหาน่าจะดีกว่า  

หนังจบ มี End Credit 2 ตัวห้ามพลาดเด็ดขาด

ทำเอา End Credit ของ Deadpool ดูมีสาระขึ้นมาเลย!!

รีวิวโดย แอดมิน Ak47

+

+

+

ตัวอย่างใหม่ล่าสุด  Spider-Man: Homecoming

บทความที่คุณอาจชอบ…

หนังเข้าใหม่น่าดูในปี 2017

AVENGERS: INFINITY WAR PART 1 [ตัวอย่างแรกซับไทย/เบื้องหลัง/วิเคราะห์เนื้อเรื่อง]