“ตำรวจอวกาศเกียบัน”
(宇宙刑事ギャバン Uchû keiji Gyaban)
ประเภท : Action Tokusatsu ฮีโร่
จำนวนตอนฉายอยู่ที่ : 44 ตอน
สถานะ : ออกอากาศจบไปนานเป็นชาติแล้ว!!
ออกอากาศครั้งแรก : ออกฉายฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อ 5 มีนาคม 1982
ระยะเวลาในการฉาย : 30 นาที ต่อสัปดาห์
ผู้ผลิต : Toei
แสดงนำโดย : เคนจิ โอบะ / วากิโกะ คาโนะ

อ่านเรื่องราวตำนาน “เมทัลฮีโร่”  คลิก

วันที่ 5 มีนาคม 1982 เป็นวันแรกของตำนาน “ตำรวจอวกาศ” ได้โลดแล่นบนจอทีวีที่ญี่ปุ่นครั้งแรก และที่ไทยหลังจากนั้น 1 ปีต่อมา ที่ช่อง 9 อสมท.สร้างเสียงฮือฮาในสมัยนั้น กับฮีโร่สวมเกราะเหล็กสีเงินแวววับจับตา ท่าไม้ตายที่เฉียบขาด (เชื่อว่าหลายๆคนเคยเอาไม้บรรทัดมารูดเป็นดาบเลเซอร์มาแล้ว) ส่วนตัวแอดมินเกิดไม่ทันรอบฉายทีวีครับ แต่ทันยุควิดิโอสแควร์ และรีรันซ้ำที่ช่อง 9 ของ “น้าต๋อย เซมเบ้” ในช่วงปี 2541 …

“เรื่องย่อ”

เมื่อมนุษยชาติมีความต้องการเรียนรู้ความเป็นไปของห้วงอวกาศ มีการสร้างสถานีอวกาศขึ้นเพื่อเป็นบันไดไปสู่การใช้ชีวิตและท่องเที่ยวไปในอวกาศของมวลมนุษย์ชาติ แต่อีกด้านหนึ่งของความมืดมิดในห้วงอวกาศ “จักรวรรดิมาคุ” ที่มี “ดอน เฮอเรอร์” เป็นผู้นำก็กำลังหมายจะครอบครองโลกและห้วงอวกาศอยู่

“ผู้บัญชาการคอม” แห่งสำนักงานตำรวจอวกาศทางช้างเผือก ได้ส่ง “อิจิโจจิ เรตสึ” หรือ “ตำรวจอวกาศเกียบัน” ลูกครึ่งชาวดาวบาร์ดและชาวโลก ลงมาที่บ้านเกิด เพื่อตามจับกุมเหล่ามาคุที่ลงมายังโลก และยังสืบหาที่คุมขังของ “วอยเซอร์” พ่อของเกียบันที่ถูกพวกมาคุจับตัวไป แต่ในระหว่างทางมาที่โลก “มีมี่”ลูกสาวของ “ผู้บัญชาการคอม” ได้แอบขึ้นยาน”โดลกีรัน” ตามเกียบันลงมาที่โลก จึงทำให้มีมี่ทำหน้าที่คู่หูไปโดยปริยาย

ในการต่อสู้กับพวกมาคุ ที่เต็มไปด้วยอาชญากรแห่งอวกาศ และปีศาจจากมิติอื่น ทวีความรุนแรงมากขึ้น ลำแสงเลเซอร์ที่พาดผ่านเหล่าร้ายในยามคับขันของ “ตำรวจอวกาศอลัน” สายตรวจอวกาศจากดาวบีช ก็ช่วยชีวิตเกียบันมานับไม่ถ้วน…

หลังจากสืบจนได้เบาะแสของ “วอยเซอร์” พ่อของเกียบันที่ถูกจับ แต่ก็สายไปแล้ว ร่างกายของวอยเซอร์ถูกพวกมาคุจับมาทรมานเค้นเอาความลับในการสร้างอาวุธเลเซอร์มานานนับสิบปี ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และจากโลกนี้ไปในที่สุด

เกียบันจึงเก็บเอาไฟแค้นทั้งหมด ไปเปิดศึกลุยเดี่ยวแลกชีวิตที่ปราสาทของพวกมาคุ ด้วยเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว “กำจัด ดอน เฮอเรอร์” ผู้นำจักรวรรดิมาคุให้ได้ ด้วยลำแสงของ “เกียบันไดนามิค” ที่รีดพลังจนหยดสุดท้ายของเขา ก็สังหาร ดอน เฮอเร่อร์ ลงได้สำเร็จ เกียบันได้เลื่อนตำแหน่ง กลับดาวบาร์ด และส่งมอบภารกิจให้ “ตำรวจอวกาศชาลีบัน” อย่างเป็นทางการต่อไป…

30ปีต่อมา ผบ.คอมได้มอบหมายให้เกียบัน ออกหมายจับ “ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์” ในฐานะ “ภัยคุกคามอวกาศ” ทำให้เกียบันต้องต่อสู้กับเหล่าโจรสลัดที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นขบวนการต่างๆได้ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นการ”ซ้อนแผน”ของเกียบัน เพื่อที่จะตามจับต้นตอของความวุ่นวายในอวกาศ “จักรวรรดิ์ซันการ์ค” แต่ทว่าพลาดท่า จึงกลายเป็นถูกจับตัวเสียเอง เหล่าโจรสลัดโกไคเจอร์จึงต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเกียบัน และถล่มรังของพวกซันการ์คลงได้ในที่สุด

หลังจากนั้น สำนักงานตำรวจอวกาศก็ได้รับรายงานว่า พวกจักรวรรดิมาคุ กำลังจะกลับมาอีกครั้ง จึงได้ส่ง “จูมอนจิ เกคิ” ตำรวจอวกาศคนใหม่ที่ทางสำนักงานได้ช่วยเขาออกมาจากอุบัติเหตุในการสำรวจอวกาศ ในโค้ดเนม “เกียบัน Type-G ” แต่ทว่าการต่อสู้อันหนักหน่วงนี้ ทำให้เกียบันคนใหม่ลำบากใจ และพลาดท่า จนกระทั่ง “อิจิโจจิ เรตสึ” หรือ “เกียบันรุ่นแรก” กลับมาช่วย และสั่งสอนตำรวจหน้าใหม่รายนี้ จนสามารถกำจัดพวกมาคุออกไปจากจักรวาลได้อย่างเด็ดขาด…

ตัวละคร

“ตำรวจอวกาศเกียบัน” หรือ “อิจิโจจิ เรตสึ”
เกียบัน ตำรวจอวกาศหนุ่ม (เป็นเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกับ “ด็อกกี้ ครูเกอร์” หัวหน้าหน่วยของ “เดกะเรนเจอร์”) ผู้ได้รับมอบหมายจากผบ.คอม ให้ลงมาที่โลกด้วยภารกิจติดตามจับกุมพวก”จักรวรรดิมาคุ” ด้วยความที่เป้นลูกครึ่งชาวโลกและชาวดาวบาร์ด ทำให้เขาไม่ลังเลที่จะลงมาทำหน้าที่นี้ อีกทั้งยังรับภารกิจค้นหา”ตำรวจอวกาศ วอยเซอร์” พ่อของเขาที่หายสาปสูญ และเชื่อว่าถูกจับตัวไปด้วยฝีมือพวกมาคุ

ตอนที่อยู่บนโลก เขาจะใช้ชื่อว่า “อิจิโจจิ เรตสึ” ซึ่งเป็นชื่อที่แม่ของเขา “อิจิโจจิ ทามิโกะ” ที่เป็นชาวโลกตั้งให้ ปกติเกียบันจะเป็นคนสนุกสนาน ติงต๊อง ร่าเริง และอ่อนไหวกับสาวๆ (ตามสไตล์พระเอกยุค 70 ที่ให้เกียรติผู้หญิงเสมอ แม้ว่าจะเป็นตัวร้ายก็ตาม) แต่ถ้ามีพวกมาคุบุกเมื่อไหร่ เขาจะจริงจัง มุทะลุสุดๆ จนบางครั้งก็เสียท่าพวกวายร้ายอย่างง่ายดาย

แต่ 30 ปีต่อมา เกียบันที่เติบโตขึ้น เป็นผู้อาวุโสในองค์กรที่เข้มงวด น่าเลื่อมใส และเป็นที่พึ่งของเหล่าตำรวจอวกาศรุ่นใหม่ได้ ถึงจะมีมุมเพี้ยนๆบ้างก็ตาม…

ยานพาหนะของเกียบัน

โดลกีรัน
ยานแม่ของเกียบันทำหน้าที่ในการส่งชุดของเกียบัน สามารถข้ามมิติได้ด้วยความเร็วแสง

มังกรอวกาศโดล
ร่างแปลงของโดลกีรันมีลักษณะเป็นมังกร โดยเกียบันต้องขึ้นไปยืนบนหัวมังกรเพื่อสั่งการ

 
ไซเบอร์เรี่ยน
ยานพาหนะที่เกียบันใช้เดินทางเข้าสู่บรรยากาศมาคุ แต่ของเกียบัน Type-G จะมีสีน้ำเงิน

กาเวียน 

รถถังขนาดใหญ่ ที่ปล่อยมาจากยานโดลกีรัน โดยจะบรรทุกอาวุธหนัก ทั้งปืนเลเซอร์ มิไซล์ ไว้รับมือกับพวกมาคุที่ขับยานบินมาไล่ยิง สามารถเร่งความเร็วสูงสุด 500 km/h และยังแยกส่วนเป็นเครื่องบินได้ด้วย

รถเจาะสคูเปอร์

รถขุดดินขนาดใหญ่ โดยจะทำงานในส่วนของงานช่วยเหลือ และเข้าทะลวงฐานทัพศัตรู มีระบบ Ai เคลื่อนไหวได้เอง กำลังเครื่อง 50,000 แรงม้า

“มีมี่”
ลูกสาวของ”ผู้บัญชาการคอม”สาวสวยคู่หูเพื่อนสมัยเด็กของเกียบันจากดาวบาร์ด เป็นคนที่เอาใจใส่ใจเกียบันเหมือนแม่มากกว่าเพื่อน  มีมี่รู้สึกกับเกียบันมากกว่าเพื่อน (แต่พระเอก”โง่”ไง…) แต่ด้วยฐานะ และหน้าที่ ทำให้มีช่องว่างของสองคนนี้ ซึ่งในเวลาต่อมา หลังจากกลับดาวบาร์ดแล้ว ทั้งคู่ก็ลงเอยกันด้วยดี…

“ตำรวจอวกาศ อลัน”
สายตรวจทางช้างเผือกจากดาวบีช เขามีภารกิจเพื่อช่วย”เจ้าหญิงริน” ที่ถูกพวกมาคุจับตัวไป ด้วยท่าไม้ตายสุดเท่ “แฟลช อิน โก”ที่ผสานกันระหว่างปืนเลเซอร์ และดาบเลเซอร์ ก็ได้ช่วยชีวิตเกียบันมาหลายต่อหลายครั้ง และทั้งคู่ คือมิตรสหายร่วมรบที่เก่งกาจและไว้ใจได้

“วอยเซอร์”
พ่อของเกียบัน ตำรวจอวกาศที่เก่งกาจ แต่ทว่าพลาดท่าจนถูกพวกจักรวรรดิมาคุจับตัวไป หลังจากการคุ้มกันนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองอาวุธเลเซอร์ โดยวอยเซอร์เป็นคนเดียวที่รู้ถึงโครงสร้างของมัน พวกมาคุจึงทรมานเขาทุกๆวัน นานนับสิบๆปี เพื่อให้เขาคายความลับออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งเกียบันมาช่วย แต่ทว่าร่างกายอ่อนแอจากการทรมาน ทำให้เข้าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งนั่น เป็นเหตุจุดประกายให้เกียบันบุกปราสาทจักรวรรดิมาคุ เพื่อสังหารดอนเฮอเรอร์นั่นเอง…

“ตำรวจอวกาศชาลีบัน” หรือ “อิกะ เด็น”
ชายหนุ่มที่เกียบันช่วยเอาไว้จากการโจมตีของพวกมาคุ เด็น ถูกส่งไปยังดาวบาร์ด และกลับมาในฐานะตำรวจอวกาศคนใหม่ พร้อมที่จะสานต่องานของเกียบันในการพิทักษ์โลกต่อไป…

“เกียบัน Type-G” หรือ “จูมอนจิ เกคิ”

นักบินอวกาศหนุ่มที่เกิดอุบัติเหตุพร้อมกันกับเพื่อนรัก “โอคุมะ โทยะ ” เกคิถูกเกียบันที่กำลังลาดตระเวณช่วยชีวิตไว้ แต่โทยะกลับถูกมิติมืดครอบงำ หลังจากกลับมายังโลก เกคิ และ โทยะ ต้องห้ำหั่นกันภายใต้ความลังเลที่จะปกป้องคนรักของเกคิ แต่ก็ได้เกียบัน สอนถึงวิถีของลูกผู้ชายอันเด็ดเดี่ยว จนทำให้เกคิตาสว่าง จนสามารถร่วมมีอกันกำจัดพวกมาคุ และจำใจลงมือกับโทยะ เพื่อนรักของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้…เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับโทยะ เกคิจึงสละความสุขในฐานะชาวโลกกับคนรัก ด้วยการเข้าเป็นตำรวจอวกาศอย่างเต็มตัว…

จุดที่เกียบัน Type-G แตกต่างจากเกียบันรุ่นแรก คือไฟที่ตา และตามตัว จะเป็นสีน้ำเงิน และลวดลายจะมีรายละเอียดที่เยอะกว่า

“เชอรี่”
ผู้ช่วยของเกคิ หรือ “เกียบัน Type-G” เป็นชาวดาวบาร์ด ลูกสาวเกียบันกับมีมี่ และยังเป็นหลานสาวแท้ๆของผบ.คอมอีกด้วย เธอเป็นหญิงสาวที่ห่วงใยความรู้สึกของเกคิ โดยที่เกคิไม่รู้ตัว (พระเอกโง่รุ่นสอง)

“จักรวรรดิมาคุ”

มีอีกชื่อว่า “จักรวรรดิ์สมิง” กลุ่มอาชญากรอวกาศที่รุกรานดาวต่างๆและมันก็หมายตาโลกเป็นที่ต่อไป พวกมันมีความสามารถในการ “สร้างบรรยากาศมาคุ” ที่มีแรงดึงดูดมากกว่าโลกร้อยเท่า ท้องฟ้าอึมครึมชวนอึดอัด มีแต่ชุดของเกียบันเท่านั้นที่สามารถทนต่อสภาพบรรยากาศนั้นได้ แต่กลับกันเหล่าปีศาจมาคุ จะแข็งแกร่งขึ้น

“ดอน เฮอเรอร์”
บิ๊กบอสขององค์กรนี้ มันหมายตาโลกเป็นที่ยึดครองต่อไป และปราถนาให้โลกเต็มไปด้วยคนชั่ว เพื่อที่มันจะเข้าปกครองคนชั่วเหล่านั้นเป็นกองกำลังของตนต่อไป

“เฮอเรอร์ เกิร์ล”

มนุษย์นก ผู้ติดตามของดอน เฮอเรอร์ ไม่มีพิษสงอะไรมากนอกจากการประจบเจ้านายไปวันๆ

“ฮันเตอร์คิลเลอร์”
ผุ้นำทัพเข้ารุกรานโลก อดีตเป็นตำรวจอวกาศ แต่เห็นแก่ผลประโยชน์ จึงย้ายฝั่งมาเป็นพวกของมาคุ แต่ทว่าสุดท้ายก็ถูกเนรเทศออกนอกอวกาศไปในที่สุด

“ดับเบิลแมน” 
ปีศาจระดับนายพลของจักรวรรดิมาคุ มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นมนุษย์ สร้างความปวดหัวให้เกียบันทุกครั้งที่พวกมันลงมือ

“ชัน ดอลบา” และ “แม่มดคิบะ”
ซันดอลบ้า เป็นลูกชายของ ดอน เฮอเร่อ และ แม่มดคิบะ ถูกเกียบันสังหารในตอนบุกปราสาทจักรวรรดิมาคุ และมาตายรอบสองด้วยฝีมือของเกียบัน Type-G

สำนวน “บรรยากาศมาคุ”
ตั้งแต่ตำรวจอวกาศเกียบันเกียเริ่มออกฉายในประเทศไทย เด็กไทยโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ก็ได้เริ่มใช้คำว่า บรรยากาศมาคุ หรือ มาคุ เป็นศัพท์สแลง แทนสถานการณ์หรือบรรยากาศที่เครียด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่สามารถพูดอะไรได้ หรือพูดไม่ออก คล้ายกับมีเมฆดำปกคลุม ในปัจจุบัน เด็กรุ่นนั้นได้โตเป็นผู้ใหญ่ บางส่วนก็ยังใช้ศัพท์นี้อยู่ และยังสามารถพบเห็นการใช้ศัพท์ดังกล่าวได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ถูกนำมาใช้ตอนเดี่ยว ไมโครโฟน โดยโน้ต อุดม ทำให้คนทั้งประเทศใช้ตาม

ของเล่น / ของสะสม

ของเล่นเกี่ยวกับเกียบัน ถือว่าเป็นสินค้าที่ค่อนข้างหายาก และราคาสูงมากในปัจจุบัน ทั้งของเก่าจากสมัยหนังฉาย หรือจะเป็นสินค้าใหม่แกะกล่องที่อัดเทคโนโลยีในการผลิต ออกแบบ ก้ยังเป้นสินค้าราคาสูง แต่คุณภาพก็สูงไม่ใช่น้อย

Dx โชโกคิน GB-74 “ยานโดลกีรัน” ของเล่นจากทางบ.โปปี้ ที่ราคาประมูลใน e-bay สูงลิบ และลูกเล่นใกล้เคียงกับในหนังพอสมควร (ถ้าวัดจากปีที่ผลิตออกมานะ)

โดดมาที่ยุคใหม่อย่างชุดผ้า RAH DX 578 1/6 Space Sheriff Gavan จากทาง Medicom เลย โดยสัดส่วนสวยงามสมจริงที่สุดเท่าที่มีของเล่นเกียบันออกมาขาย ราวกับมีคนใส่ชุดย่อส่วน วัสดุทำจากไดแคสท์ (พลาสติกผสมโลหะ) น้ำหนักและราคาไม่ต้องพูดถึง!! (19,950 เยน)

อันนี้ใหม่มาหน่อย กับสินค้าจากทาง Bandai  กับ SHFiguart เกียบัน ที่ออกมาเมื่อตอนปี 2013 แอดมินเคยเดินไปที่สะพานเหล็ก ยังเห็นหลายๆร้านเอามาวางขายนะครับ แต่พอถามราคาปุ๊ป ตั้งหลักกันแทบไม่ทัน เพราะทุกร้านพร้อมใจกันเคาะขายที่ 4,xxx บาทต่อ 1กล่อง ! ซึ่งมารู้ทีหลังว่า “เป็นสินค้า P-Bandai” นะั่นเอง หมดแล้วหมดเลย…

เกียบัน ถือเป็นฮีโร่สาย “ตำรวจอวกาศคนแรก” ที่ปูทางไปสู่แนวทางใหม่ของการสร้างภาพยนต์แนว “โทคุซัทสึ” ในช่วงเวลาที่คาเมนไรเดอร์ กำลังอยู่ในช่วงขาลง ตัวหนัง ได้นักแสดงมากความสามารถอย่าง “เคนจิ โอบะ” ที่ทำหน้าที่สวมชุดเกียบัน กระโดดเตะต่อยตีลังกาด้วยตัวเองเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงแกก็ไปเล่นหนังเซนไต ภายใต้ “สมาคมสตั๊นท์แมนของญี่ปุ่น” ในยุคนั้น แต่ด้วยหน้าตาที่ทะเล้น ดูมีสเน่ห์ เลยทำให้ได้รับบทเด่น เช่น “ขบวนการ แบทเทิลฟีเวอร์ เจ” รับบทเป็น “แบทเทิลเคนย่า” และ “ขบวนการมนุษย์ไฟฟ้า เด็นจิแมน” รับบทเป็น เด็นจิบลู 

คราวหน้าจะเป็นเรื่องราวของตำรวจอวกาศคนไหน อย่าลืมติดตามที่หน้าเวปของเราให้ดีๆนะครับ!

แอดมิน Ak47