Slitterhead
ประเภท : Action / Horror
เครื่อง : PlayStation 5 , Xbox Series , PlayStation 4 และ PC
วันวางจำหน่าย : 8 พฤศจิกายน 2024
พัฒนาโดย : Bokeh Studio
ตัวอย่างเกมเพลย์
หลังจากที่แยกตัวกับ Konami มาได้พักใหญ่ๆ เหล่าทีมงานผู้ให้กำเนิด Silent Hill / Siren ก็ได้ออกมาทำงานในชื่อทีม Bokeh Studio เป็นนักพัฒนาอิสระ และนี่คือผลงานล่าสุดของพวกเขา ที่ให้ผู้เล่น สวมบท “มือปราบปรสิต” ในเกม Slitterhead
Bokeh Game Studio ก่อตั้งโดย เคย์อิจิโร่ โทยาม่า โดยเขาได้ร่วมมือกับ นักแต่งเพลงประกอบ อากิระ ยามะโอกะ ที่เคยร่วมงานกันมาก่อน และได้จัดทำเกมนี้ร่วมกันในฟิลลิ่ง ปรสิต + ความสยอง + เมืองที่แออัด ในสังคมที่เป็นพลวัตร…
ฉากหลังของเกม ตั้งอยู่ในถนนที่รกทึบของ “Kowlong” ที่เต็มไปด้วยความสับสนและความโกลาหล ตัวเกมเน้นไปที่การต่อสู้แอ็คชั่นผจญภัย ที่จำลองมาจากเกาะเกาลูนใกล้ๆเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ตัวเกมได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์ของ หว่อง กาไว มาอย่างเต็มที่ โดยหยิบเอาธีมความน่ากลัวของอสุรกายที่เหนือจินตนาการ พร้อมกับการต่อสู้ที่เร้าใจมารวมกัน โดยตอนนี้ตัวเกมไม่มีโหมดมัลติเพลย์ และจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องราวเป็นหลัก มีภารกิจให้ทำเป็น Challenge เพื่อปลดล๊อกคอสตูมใหม่ๆ หรือไอเทมปรับแต่งต่างๆ มากกว่า
ผู้เล่นเป็น “เฮียวกิ” ตัวตนที่ไร้ความทรงจำและร่างกายภาพ ที่ตอนนี้เขาต้องปะติดปะต่อเรื่องราวว่าเขาเป็นใคร มาทำอะไร จุดประสงค์ในตอนนี้ คือเขาต้องกำจัดสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในชื่อ “Slitterheads” ที่เดินแฝงตัวไปทั่วเมือง
ผู้เล่นที่เป็นเฮียวกิ คือกลุ่มก้อนพลังงานสีทอง ที่สามารถสิงร่างใครก็ได้ เพื่อเป็นร่างสถิตย์ชั่วคราว โดยการตามหาความทรงจำที่หายไป ก็จะมีกลุ่มพลังงานสีทองที่ตกหล่น จุดนี้จะมีการเปิดเผยเรื่องราว คำใบ้ และเควสท์ต่างๆ ซึ่งตัวเกมจะเป็นเส้นตรง ไม่ใช่ Openworld แต่ฉากจะมีมิติความลึด และความสูงของฉาก และอื่นๆให้สำรวจอีกมาก
และในเกมก็จะมีกลุ่มคนที่มีความเข้ากันได้กับเฮียวกิ ที่เรียกว่า “Rarities” ผู้ที่มีความสามารถพิเศษจากการ”ควบคุมเลือด” ที่เป็นได้ทั้งทักษะการต่อสู้ที่เหนือมนุษย์ และอาวุธพิเศษที่จะกำจัดเหล่า Slitterheads และจะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการแฝงตัวของพวกมัน และความสยองขวัญจากเหล่าปรสิตชั่วร้ายที่มีแผนการบางอย่างอยู่…
ในช่วงเริ่มเกม ผู้เล่นจะต้องสิงร่าง คน หรือ หมา เพื่อเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบ เมื่อจดจำเส้นทางการเดินที่เราจะสำรวจ ก็จะเปลี่ยนมาเป็นสิงร่างใครซักคน เพื่อตามหาเหล่าปรสิต Slitterheads มันอาจจะเป็นในร่างของสาวสวย ตำรวจ หรือกองกำลังพิเศษ เมื่อผู้เล่นต่อสู้จนพลาดท่าแล้วร่างต้นเสียชีวิต ก็จะต้องรีบหาร่างสถิตย์ใหม่เพื่อหลบหนี แต่ถ้าหาไม่ได้ก็จะ…Game Over ทันที
หลังจากได้ร่างสถิตย์แล้ว ฉากการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น มนุษย์ทีทุกคน Slitterheads สิง จะใช้อาวุธที่เรียกว่า “เลือด” เป็นการเอาเลือดที่แข็งตัว มาทำเป็นของมีคม หรือของจำพวกค้อนทุบเพื่อการต่อสู้
อาวุธเลือด
เลือดของโฮสต์สามารถนำไปใช้สร้าง “อาวุธเลือด” ได้ โดยกดปุ่มโจมตีซ้ำๆ กันเพื่อทำการโจมตีต่อเนื่อง ในขณะที่ใช้งานอาวุธ ผู้เล่นจะสามารถบล็อกการโจมตีของศัตรูได้เกือบทั้งหมด ทำให้โจมตีสวนกลับอย่างรุนแรงได้ อย่างไรก็ตาม การบล็อกหลายครั้งเกินไป ก็จะทำให้อาวุธเสียหาย ทำให้ผู้เล่นเสียพลังชีวิตเล็กน้อยในแต่ละครั้ง
เมื่อร่างต้นตาย หรือหมดสภาพ คุณจะต้องหาทางไปสิงร่างใหม่ จุดนี้ ตัวเกมได้เปิดช่องให้ผู้เล่นใช้จุดนี้ในการปรับแผนสู้กับบอสในเกมได้ เช่นเราต้องการตีบอสจากด้านหลัง เราก็แค่สละร่างเดิมที่อยู่ตรงหน้า แล้วไปสิงชาวบ้านในฉากที่หลังบอส ก็สามารถโจมตีต่อเนื่องได้ แต่ชาวบ้านจะมี HP และท่าสกิลที่น้อยกว่าพวก Rarities
ร่างกายของมนุษย์นั้นเปราะบาง โดนตีซัก2-3ทีอาจจะตายได้ ดังนั้นให้รีบใช้การเข้าสิงร่างอื่นที่ใกล้เคียงเพื่อหลบหนีอย่างรวดเร็ว และอย่าลังเลที่จะทิ้งร่างกายเมื่อไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เพราะต่อให้เป็น “Rarities” ก็ไม่ได้การันตีว่าจะชนะในการต่อสู้เดี่ยวๆได้ จำเป็นจะต้องใช้ฝูงคน เพื่อกลยุทธ์ในการหาร่างสถิตย์โจมตีจากทุกมุม
เกมนี้ยัง มีแนวคิดที่เรียกว่า “การปัดป้อง” แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเมื่อคุณถูกโจมตีโดยศัตรู ปุ่มทิศทางจะเด้งขึ้นมา
เมื่อคุณกดคอมโบ QTE ที่ขึ้นมาครบ และถูกจังหวะ จะได้รับโบนัสพิเศษ “Bloody Time” ช่วงเวลาที่เราสามารถโหมโจมตีอย่างหนักได้ด้วยคอมโบต่อเนื่องที่ทรงพลัง พร้อม Stats เสริมเล็กน้อย
ตัวละครที่สามารถเล่นได้ นอกจาก เฮียวกิ ที่ตระเวณสิงร่างคนเพื่อการต่อสู้แล้ว ยังมีเหล่านักล่า Slitterheads ผู้มีความสามารถ ที่เรียกว่า “Rarities” พวกเขามีสกิล ที่สามารถติดตั้งได้สูงสุด 4 สกิล โดยสองสกิลเป็น “ทักษะกดใช้งาน” เฉพาะตัวละคร และอีกสองจะเป็น “พาสซีพสกิล”
ตัวอย่างสกิล “War Cry” ซึ่งเรียกศัตรูใกล้เคียง และ “Blood Cracker” ระเบิดมือที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดในพื้นที่วงกลม นอกเหนือจากทักษะเหล่านี้แล้ว ยังมีพาสซีสสกิล “Poison Needle” ซึ่งทุกๆการขว้างเลือด จะเป็นแบบเคลือบพิษ
“ระเบิดเวลา Blood Ball ” ซึ่งระเบิดที่วาง จะมีดีเลย์ที่นานขึ้น ทำให้มีเวลาติดตั้งและหลบหนีที่สะดวกขึ้น จะดูดศัตรูและหยุดไม่ให้เคลื่อนไหว
Bloody Blast ซึ่งโจมตีศัตรูด้วยปืนลูกซองอันทรงพลัง ทักษะเหล่านี้ใช้ “เลือด” และ “มีเวลาคูลดาวน์” ดังนั้นจะไม่สามารถใช้ต่อเนื่องได้
รูปแบบการเล่นจะเน้นไปที่การต่อสู้ในสถานที่แคบ ความน่ากลัวของงานดีไซน์ และความเร้าใจของแอคชั่น ที่ยังคงเน้นการปัดป้อง การสะท้อนดาเมจ และ QTE รวมไปถึงการใช้ระบบร่างสถิตย์ที่พลิกแพลงรูปแบบได้
เกมเพลย์ตามภารกิจ และบทสนทนาระหว่างช่วงพัก จะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราว ผู้เล่นสามารถดำเนินเกมต่อไปได้โดยเลือกภารกิจและเลือกร่าง “Rarities” เข้าไปในด่าน
แกนหลักของเกมเพลย์อยู่ที่การติดตามตำแหน่งของ Slitterheads ระดับบอสที่ซ่อนอยู่ในแต่ละพื้นที่และเอาชนะพวกมัน ซึ่งจะมีภารกิจให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ภารกิจที่เน้นการต่อสู้เป็นหลัก จนถึงภารกิจที่ต้องให้ผู้เล่น เคลื่อนที่อย่าง แอบๆไปทั่วฉาก
ลำดับภารกิจและการรวมตัวละครโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับผู้เล่นที่จะเลือก โดยช่วยให้ผู้เล่นได้พิจารณาว่าต้องการใช้ความหายากหรือทักษะใดในภารกิจ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้เล่นจะย้ายไปที่หน้าจอ “ช่วงพัก” ซึ่งพวกเขาสามารถสนทนาเกี่ยวกับRarities ปรับปรุงความสามารถ เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ฯลฯ การปลดล็อคบทสนทนาใหม่นั้นมีความจำเป็น เนื่องจากภารกิจใหม่สามารถปลดล็อคได้ผ่านบทสนทนาเฉพาะ
คุณโทยาม่า กล่าวถึงเกมนี้ในการให้สัมภาษณ์ผ่านคลิปด้านบนนี้ สามารถสรุปใจความได้ว่า Slitterhead จะเป็นเกมที่ “ครอบคลุมความหลากหลายของความสยองขวัญ”
“เกมนี้ไม่ได้จัดเป็นเกมสยองขวัญอย่างสมบูรณ์” แต่กลับ “ครอบคลุมความหลากหลายของความสยองขวัญ” จากตรงนั้นผมต้องการขยายฐานผู้เล่นที่สามารถเข้าถึงเกมได้ รวมถึงผู้เล่นที่ไม่ค่อยเล่นเกมสยองขวัญ ผมต้องการเกมที่ “สนุก” สำหรับ “ความเป็นเกมแอ็กชัน” ในแบบของมัน แต่มีแนวคิดที่ไม่ใช่แค่การฆ่าศัตรูเท่านั้น มันจะทำให้ผู้เล่นเกิดความลังเลในจิตใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ ในบางฉาก ผมต้องการรวมทั้งแอ็คชั่น ความสยอง และดราม่าด้วยเกมนี้ กล่าวคือ เกมของพวกเราจะเน้นที่ความ “บันเทิง” มากกว่าเรื่อง “สยองขวัญธรรมดาๆ”
มีบางช่วงเวลาที่ช้าและเร็วเช่นกัน ผมต้องการรวมองค์ประกอบสยองขวัญบางส่วนไว้ในส่วนที่เกมผ่อนจังหวะให้ช้าลง สมดุลกับช่วงเวลาแอคชั่นที่บ้าคลั่งอย่างรวดเร็วรุนแรง”
คุณโทยาม่า ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปล่อย DLC และส่วนเสริม โดยกล่าวว่า
“เราต้องสร้างเกมหลักที่ “แข็งแกร่ง” ให้ได้ก่อน ในสมัยก่อนการตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจาก Sony แต่ในสถานะปัจจุบันของเรา ถ้าหากเป็นเรื่องสนุก เราก็สามารถทำมันต่อไป โดยไม่ต้องขอใคร ดังนั้นหากความต้องการมีมากพอ เราจะเห็นคำตอบได้ชัดขึ้น”
ตอนนี้ตัวเกมอยู่ในระหว่างการพัฒนา มีกำหนดออก 8 พฤศจิกายน