ชื่อไทย : คู่ซัดอันตราย
ชื่ออังกฤษ : Skin Trade
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : แอคชัน / ชีวิต / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : เอกชัย เอื้อครองธรรม
ความยาว : 96 นาที
นักแสดง : จา พนม, Celina Jade,Ron Perlman
กำหนดฉาย : 23 เมษายน 2015

จ่อคิวติดๆ กันเลยทีเดียว สำหรับผลงานหนังแอคชั่นโกอินเตอร์ของเอกหนุ่ม จา พนม ที่ฮอตสมกับเป็นเดือนเมษายนเหลือเกิน หลังจากที่ Fast & Furious 7 พึ่งเข้าโรงให้คอหนังได้สัมผัสความมันส์ไปเมื่อตอนต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด! หนังแอคชั่นแนวสืบสวนเรื่องใหม่ของหนุ่มจา ก็เตรียมอวดสายตาให้แฟนหนังทั่วโลกได้มันส์ระห่ำกันแบบ “ไม่ใช้สลิงค์ ไม่ใช้ตัวแสดงแทน” กันอีกครั้งใน Skin Trade คู่ซัดอันตราย โดยการกำกับของผู้กำกับชาวไทยอย่าง เอกชัย เอื้อครองธรรม ซึ่งในหนังเรื่องนี้เป็นการประกบคู่กันครั้งแรกของ จา และ ดอล์ฟ ลันด์เกรน ร่วมด้วยนักแสดงต่างชาติอย่าง รอน เพิร์ลแมน และ ปีเตอร์ วีลเลอร์ จาก Robocop โดยเนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องราวการตามไล่ล้างแค้นอาชญากรข้ามชาติของสองนายตำรวจหนุ่มจากคนละซีกโลกที่ต้องร่วมมือกัน เพื่อกำจัดวายร้ายผู้เป็นทั้งพ่อค้ามนุษย์รายใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุด!!

เรื่องย่อ

เรื่องราวการไล่ล่าล้างแค้นข้ามโลกของ 2 นายตำรวจจากคนละซีกโลก ได้แก่ นิค แคสสิดี้ (ดอล์ฟ ลันด์เกรน) ตํารวจนิวยอร์ค และ โทนี่ วิทยกุล (จา-พนม ยีรัมย์) ตํารวจไทย ซึ่งจำต้องโคจรมาพบกัน หลังจากต่างต้องทําการสืบสวนคดีกับการไล่ล่าตัว วิคเตอร์ ดราโกวิช (รอน เพิร์ลแมน) อาชญากรผู้มีอิทธิพลและพ่อค้ามนุษย์ขาโหด

เหตุการณ์เริ่มต้นจากนิคเข้าจับกุมวิคเตอร์และครอบครัวในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ แต่เกิดเรื่องผิดพลาดระหว่างจับกุม ณ ท่าเรือนิวเจอร์ซี่ย์ ทำให้ นิค พลั้งมือฆ่า อังเดร ลูกชายคนสุดท้องของวิคเตอร์โดยไม่ตั้งใจ ก่อเกิดเป็นความเครียดแค้นฝังหุ่นสำหรับวิคเตอร์ผู้เป็นพ่อ ประกอบกับเมื่อเขาสามารถใช้เส้นสายทำให้รอดพ้นจากการจับกุม เป้าหมายการแก้แค้นครั้งนี้จึงตกอยู่ที่ครอบครัวของนิค เมื่อสุดท้ายภรรยาและลูกสาวของนิคต้องตายต่อหน้าต่อตาของเขาท่ามกลางกองเพลิงโดยฝีมือสองลูกชายของวิคเตอร์ เรื่องราวการตามล่าข้ามซีกโลกจึงเกิดขึ้น

เมื่อวิคเตอร์หลบหนีการดำเนินคดีสู่ประเทศไทย โทนี่ วิทยกุล จึงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำทีมในการรับมอบหมายให้ดูแลคดีดังกล่าว แต่แล้วเมื่อ รี้ด (ไมเคิล ไจ ไวท์) เจ้าหน้าที่ FBI ผู้เป็นสายให้กับวิคเตอร์ ได้ให้ข้อมูลเท็จและทำการบิดเบือนข้อมูล ทำให้โทนี่หลงกลเดินตามเกมจนต้องสูญเสียคู่หูไปในเกมการไล่ล่า พร้อมทั้งเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของนิค ทำให้โทนี่แค้นเคืองนิคและเกิดเป็นการไล่ล่า(ผิดตัว)ขึ้นอีกครั้ง ยังดีที่โทนี่ยังมี มิน (เซลิน่า เจด) แฟนสาวสุดมั่น ผู้ที่เอาตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อให้ได้ข้อมูลสําคัญ 

อย่างไรก็ดี เมื่อคู่ซัดสองคนมาเผชิญหน้ากัน การต่อสู้อันดุเดือดเกิดขึ้น แต่แล้วกลับจบลงด้วยความเป็นมิตรที่สองคนต่างคาดไม่ถึง จากคู่ซัดกลายมาเป็นคู่หูอันตรายคูณสองจากคนละซีกโลก โทนี่ และ นิค จับมือกันมุ่งหน้าสู่จุดกบดานของวิคเตอร์ และลูกๆ โดยไม่รู้ว่าวิคเตอร์มีเซอร์ไพรซ์ที่จะทําให้บาดแผลของทั้งสองตํารวจบาดลึกลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เรามาร่วมลุ้นกันว่า หนังแอคชั่นโกอินเตอร์ของ “จา” เรื่องนี้จะมีทิศทางอย่างไรในวงการภาพยนตร์บ้านเรา 23 เมษายนนี้ รู้กัน!!

ตัวละคร

วิคเตอร์ ดราโกวิช รับบทโดย รอน เพิร์ลแมน

หัวหน้าอาชญกรผู้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องสูญเสียหลังการเข้าจับกุมของตำรวจทำให้เกิดความเครียดแค้นต่อ นิค แคสสิดี้ นายตำรวจที่ฆ่าลูกชายคนเล็กของตัวเอง

รี้ด รับบทโดย ไมเคิล ไจ ไวท์

เป็นสายของวิคเตอร์ ที่แฝงตัวมาอยู่ในเอฟบีไอ ทำงานให้กับ วิคเตอร์ ดราโกวิช 

นิค แคสสิดี้  รับบทโดย  ดอล์ฟ ลันด์เกรน

นายตํารวจจากนิวยอร์ค ตะบะแตก ทีมีความแค้นโดยส่วนตัวกับ วิคเตอร์ ดราโกวิช อาชญากรที่ทำลายครอบครัวของเขาด้วยเปลวเพลิง

โทนี่ วิทยกุล รับบทโดย จา-พนม ยีรัมย์

นายตํารวจไทยที่ได้รับหน้าที่ในการสืบสวนคดีของ วิคเตอร์ ดราโกวิช อาชญากรข้ามชาติ แต่กลับถูกคนในหักหลัง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจึงตามอดีตนายตำรวจ นิค แคสสิดี้ เพื่อแก้แค้น

มิน รับบทโดย เซลิน่า เจด 

แฟนสาวสุดมั่นของโทนี่ ที่เอาตัวเองเข้าเสี่ยงเพื่อให้ได้ข้อมูลสําคัญ ท่ามกลางการไล่ล่าครั้งนี้

Review

Skin Trade เป็นหนังไทย โปรดักชั่นไทยร่วมทุนสร้างกับทางฮอลลีวู้ด ที่หยิบเอาประเด็น”การค้ามนุษย์” มาเป็นthemeหลักของหนัง ซึ่งทีมงานนำเสนอเรื่องราวอาชญกรรมที่เลวทรามที่สุดอีกแบบที่มนุษย์กระทำต่อกันได้น่าหดหู่ และกดดันจริงๆครับ  มีหลายฉากที่สะเทือนใจ แววตาของผู้ที่เป็นเหยื่อนั้นชัดเจนมากๆ จนแอดมินนั่งหดหู่อยู่ในโรงหนังตลอดที่มีน้องๆนักแสดงที่เล่นเป็นเหยื่อมาเข้าฉากพวกนี้…

กว่า80% ของหนัง ถ่ายทำที่เมืองไทย และชายแดนประเทศ ทำให้คนไทยอย่างเราๆอินไปกับพล๊อตหนังได้ ซึ่งเป็นจุดที่คนไทยอย่างเราได้เปรียบครับ 55 อีกทั้งตัวหนังการเล่าเรื่องที่มีจังหวะที่ดีพอ จนทำให้คนดูยังพอตามทันสิ่งที่หนังอยากจะนำเสนอได้บ้าง

แต่การนำเสนอในแง่ของความเป็นภาพยนต์นั้น แอดมินถือว่า “สอบผ่านแบบคาบเส้น” (จริงๆอยากปรับให้ตกด้วยซ้ำ)ครับ เพราะตัวหนังเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ที่รวดเร็ว และยืดยาดปนๆกันไป การตัดต่อฉากที่พามึนๆงงๆ เหมือนคนตัดต่อ “เมาสมุนไพรบางอย่าง” รวมไปถึงตัวละครโง่ๆที่มีหน้าที่ในหนังเรื่องนี้เพียง”การเป็นกระสอบทราย”และ”เป้าซ้อมยิง”ให้พระเอกเล่นๆเท่านั้น ไม่ค่อยสมกับ “การเป็นอาชญกรระดับโลก” ซักเท่าไหร่…

พูดถึงการแสดงของนักแสดงต่างชาติอย่าง น้าดอลฟ์ หรือ น้ารอน ที่เป็นดาราแม่เหล็กรุ่นดึกนั้น ขอข้ามไปนะครับ เพราะพี่แกก็ทำหน้าที่ได้ปกติดีครับ ไม่มีตก แต่ที่แอดมินอยากพูดถึงเป็นพิเศษก็คือ “การแสดงของ โทนี่ จา” เพราะแอดมินเป็นแฟนหนังพี่แกมาหลายเรื่อง ดีมั่งห่วยมั่งก็ว่ากันไป

แต่มางานชิ้นนี้อย่าง Skin Trade ก็ทำให้แอดมินเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า”ความเป็นนักแสดง”ของเฮียจามากขึ้นอีกระดับนึง พี่แกมีบทพูดที่เป้นผู้เป็นคนมากขึ้น(พี่แกใส่สูทแล้ว หล่อโคตรๆ หล่อวัวตาย หล่อควายล้ม อันนี้พูดเลย) แอคติ้ง ท่าทาง สีหน้าการแสดงอารณ์ เรียกได้ว่า เข้าที่เข้าทาง และดูเหมือนว่าพี่มาถูกทางแล้วครับ

แต่ขัดใจนิดนึงตรงอารมณ์ของพี่จาครับ “พี่โกรธ โมโหใครมาครับ” โมโหได้ทั้งเรื่อง หน้าพี่ดู Argressive มากเวลาที่ไม่ได้เข้าฉากกับ เซลิน่า เจค (เพราะเวลาพี่แกเข้าฉากพระนางกับเซลิน่า พี่จาจะมีมุมที่เราไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนๆเลย นั่นคือ “สายตาแบบพระเอ๊ก…พระเอก” หวานหยดจนสาวละลายอะ บอกเลย!)

และจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ “ฉากบู๊” ครับ มันเป็นฉากที่แอดมินสามารถอธิบายเป็นคำพูดสั้นๆว่า “มันคือการเอาหนังยุค80 มารวมกับองค์บาก” เพราะสตอรี่บอร์ด การกำกับคิวบู้ระยะประชิดอย่าง หมัดเท้าเข่าศอก เตะต่อยเหมือนเจ็บจริงไรจริง จะมาในสไตล์หนังพี่จาที่เราๆเคยดูนั่นละครับ แต่ฉากบู๊ระเบิดเขาเผากระท่อมนี่มัน “หนังยุค80ชัดๆ” ทั้งฉากดวลปืน ระเบิด ถังน้ำมัน ทหารประเทศเพื่อบ้าน ที่มีมุมกล้องเชยๆ และเหล่า Extra (ตัวประกอบ)ทำหน้ามึนๆ เวลาปะทะกัน

Movie Rank B+ Score 7.5 /10

ตัวหนังถึงจะอุดมไปด้วยคำติเล็กๆน้อยๆ แต่ถามว่าเป็นหนังที่สนุกมั้ย? แอดมินเองก็บอกได้ไม่เต็มปากครับว่ามันสนุก แต่สามารถบอกได้ครับว่า”เป็นหนังที่มีเนื้อหาน่าสนใจ มีประเด็นให้ขบคิด” และบทสรุปของเรื่องที่ “จบได้แบบเรียลจัดๆ”  ไม่สว่างจ้าขาวจัดแบบหนังตลาด แต่ก็ไม่จบแบบหดหู่เศร้าสร้อยหงอยรับประทานแบบหนังคัลท์ครับ (แต่ก็รู้สึกหม่นๆในใจเหมือนกันครับตอนเดินออกมาจากโรง เหมือนโดนผู้กำกับทำร้ายจิตใจกัน) เป็นหนังที่ไปดูแล้ว “ไม่เสียดายค่าตั๋วแน่นอน!”

“ถ้าพวกเขาเลิกซื้อ…ฉันก็เลิกขาย” คำพูดนี้ของ”วิคเตอร์ ดราโกวิช” ที่รับบทโดย “รอน เพิร์ลแมน” เป็นวลีที่แอดมินถึงกับสะดุ้ง และคิดว่า มันสะท้อนได้ถึงปัญหาการค้ามนุษย์ได้เป็นอย่างดี…ถึงเวลาที่เราควรจะตระหนักถึงอาชญากรรมที่ไร้มนุษยธรรมนี้ได้แล้วหรือยัง? …หรือจะปล่อยให้วงจรของการ Skin Trade จะยังคงวนเวียนในสังคมมนุษย์ ตราบใดที่ยังมี “ตัณหาและราคะครอบงำ” มากกว่า “จริยธรรมและความถูกต้อง!”

หรือเราต้องรอให้มันเกิดขึ้นกับคนที่คุณรักเสียก่อน?

By : Admin@no_สวยสึดๆ

แอดมิน Ak47
ขอขอบคุณข้อมูลจาก majorcineplex.com 

ตัวอย่างภาพยนตร์