SILENT HILL

ระบบ : PS5 / PC

พัฒนาโดย : Konami / Bloober

วันวางจำหน่าย 8 ตุลาคม 2024

สั่งซื้อเกมราคาดีสุดใน >>> Shopee 

Konami เปิดตัว Silent Hill 2 รีเมค!! ภาคที่ดีที่สุด จบหลากหลายรูท และเนื้อหาหมองหม่นที่สุดในเวอร์ชั่นรื้อทำใหม่หมด โดยมีกำหนดลงให้ระบบ  PlayStation 5 และ Windows PC พัฒนาโดย  Bloober เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในด้านเกมสยองขวัญทางจิตวิทยา เช่น Layers of Fear, The Medium และ Observer พวกเขาแสดงความตั้งใจที่จะสร้างเกมขึ้นมาใหม่พร้อมกับปรับปรุงให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงการเพิ่มกล้องแบบผ่านไหล่ ท่ามกลางการปรับปรุงอื่นๆ

“พูดง่ายๆ ก็คือ เป้าหมายของเราคือทำให้ทุกอย่างที่ทำให้เกมนี้เป็นเกมคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค แต่เจาะลึกเข้าไปในถนนหมอกของ Silent Hill ให้ลึกยิ่งขึ้นไปอีก”

นักพัฒนา Bloober Team กล่าว

 Silent Hill 2 remake จะเล่าเรื่องราวเช่นเดียวกับต้นฉบับ เมื่อตัวเอกชายวัยกลางคน “เจมส์ ซันเดอร์แลนด์” ได้รับจดหมายจากภรรยาเขา และแจ้งว่า เธอได้อาศัยอยู่ที่ Silent Hill เมืองแห่งความสงบเล็กๆ ย่านชนบทของอเมริกา ที่ๆทั้งสองตั้งใจจะไปเยือนซักครั้ง

แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อภรรยาของเจมส์ ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อสามปีก่อน!! 

ตัวเกม ทีมพัฒนาระบุว่า จะยังคงบอกเล่าเรื่องราวความเศร้าโศก จากการสูญเสีย ความสำนึกผิด และอื่นๆที่ตีกันภายในจิตใจของเจมส์ และแสดงมันออกมาเป็นรูปธรรม และจะสร้างขึ้นโดยอิงเกมเพลย์จาก “ต้นฉบับ” แต่ก็จะเป็นเกมที่สร้างใหม่ทั้งหมด โดยมีมุมกล้องผ่านไหล่ (แบบ RE2 รีเมค)

 เกมจะมีงานภาพกราฟิกที่ทรงพลัง มีรายละเอียดสูง มีการบันทึกเสียงพากย์ เพลง เสียงแวดล้อมทั้งหมดขึ้นมาใหม่ โดยนักแต่งเพลง Silent Hill คนเดิม  คุณ อากิระ ยามะโอกะ และงานศิลป์โดย อิโต้ มาซาฮิโระ ก็กลับมาสร้างความน่าสะพรึงนี้อีกครั้ง

“รีเมคยังมีสไตล์ดนตรีใหม่ ความท้าทายใหม่ การออกแบบเสียง และดนตรีที่จะทำให้แฟนๆ พอใจได้”

ยามะโอกะกล่าว

REVIEW 10/10 The Best!!

เนื้อเรื่อง 3/3   เกมเพลย์ 3/3    งานภาพ 3/3

ความชอบ 1/1

ดีทุกองค์ประกอบ ชอบทุกมูฟเม้นท์ และการเล่าเรื่อง เป็น 20 ชั่วโมงกว่าๆที่ “ไม่มีความรู้สึกเอนจอย” มีแต่ความเครียด หดหู่ กดดัน และเต็มไปด้วยพลังด้านลบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เกมนี้ควรเป็น เพราะมันตรงคอนเซปต์ที่ตัวเกมต้องการนำเสนอจริงๆ  แต่ไม่ใช่เกมที่ทุกคนเล่นได้…

แม้ว่าทีมงาน Bloober Team จะประสบความสำเร็จหลายครั้งในการสร้างเกมสยองขวัญมาแล้ว แต่นี่คือความท้าทายทีมพัฒนาเกมระดับกลาง ที่ต้องมารับงานรีเมคเกมที่เป็นตำนานของเกมเมอร์ยุค PS2 ทั้งโลก มั่นใจได้ว่านี่คือความกดดันที่ทีมงานแบกรับไว้ พร้อมกับกระแสข่าวที่บั่นทอนกำลังใจมากมาย แต่พวกเขาพิสูจน์แล้วว่า เกมที่ดี จะพาพวกเขาก้าวข้ามคำครหาทั้งหมดได้…

จาก Layers of Fear และ The Medium ตอนนี้มาถึง Silent Hill 2 … ถ้าคุณเล่นแบบช้าๆ สังเกตุ และจับจุดต่างๆได้ ก็จะพบว่านี่คือความพยายามที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน เอาใจใส่ และผลลัพท์ออกมาน่าทึ่งมากๆ แอดมินยกให้เป็นเกมสยองที่ดีที่สุดในรอบหลายปีมานี้เลยครับ

เนื้อเรื่องของเกม ยังคงเหมือนเวอร์ชั่น PS2 แทบจะถอดกันมา แต่ได้ใส่เนื้อหาเชิงลึกของตัวละครเพิ่มเติม เพิ่มความน่าติดตามมากขึ้น มีการขยายฉากบางฉากที่เป็นซีนจำให้มีน้ำหนัก มีเหตุผลมากขึ้น (ทั้งๆที่บางอย่างใน Silent Hill ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเลยก็ได้แท้ๆ) ตัวละคร เจมส์ เอง ก็มีมิติที่เป็น”คนที่เจ็บปวด” และ “แบกความรู้สึกผิด” จริงๆ ทั้งสีหน้า ท่าทาง ดูเป็นคนหม่นหมองได้น่าเชื่อถือ และพาเราไปยังบทสรุปที่ดิ่ง และ ดาวน์มากๆ

ยิ่งถ้าเป็นแฟนๆเกม ที่รู้ Lore ของเกมนี้มารองรับอยู่แล้ว บอกเลยว่า Lore Acculate เอาเรื่องอยู่ครับ ทั้งปีศาจแต่ละตัวที่ออกมา ตัวละครอื่นๆที่เจมส์พบเจอ ล้วนแล้วแต่เป็นภาพสะท้อนของความรู้สึกของเจมส์ที่ชัดเจนมากๆ มากกว่าเวอร์ชั่น PS2 ด้วยซ้ำ…

ตัวเกมเวอร์ชั่นรีเมค มาพร้อมกับฉากจบที่สื่อต่างประเทศระบุว่ามีทืั้งหมด 8 แบบ (แอดมินขอจบรอบเดียวนะครับ จะช๊อกตายเอา 555) โดยฉากจบแต่ละแบบก็จะมีเงื่อนไขต่างกันไป อันนี้ก็ต้องขอให้ไปเล่นกันเองครับ เพราะสเน่ห์ของเกมนี้ คือประสปการณ์เดินในซอกตึกที่วกวนราวกับเขาวงกต เผชิญหน้ากับความไม่รู้ และไขปริศนาปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยตัวเองนี่ละครับ

Silent Hill 2 สำหรับบางคน เป็นตัวแทนของเป้าหมายสูงสุดของการพิชิตเกมประเภทเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอด ทุกอย่างในเกมเต็มไปด้วยความไม่เจริญตา ทั้งตึกรามบ้านช่องที่ดูไม่น่าพิศมัย สัตว์ประหลาดที่บิดเบี้ยว ชวนขยะแขยง พร้อมปริศนาที่ต้องอาศัยการตีความ การอ่านมากพอสมควร แม้ว่าคุณจะเลือก Puzzle ที่ระดับง่ายสุดก็ตาม…

และสิ่งที่เพิ่มความกดดันเข้าไปอีกชั้น คือ “หมอก” แต่เดิม Silent Hill ใช้หมอก ในการบดบังการ Pre Load ของ Object ต่างๆในเกม ตามยุคสมัยที่เทคโนโลยีการทำเกมยังไม่เท่าทุกวันนี้ และมันได้เพิ่มความน่ากลัวจากทัศนวิสัยที่แคบมากๆ…

ในรีเมคนี้ หมอก คือหนึ่งในความกดดันที่เหมือนจริงมากขึ้น มันไม่ได้ถูกใช้บดบังการ Pre Load อีกต่อไป แต่หมอก ทำหน้าที่ของมันจริงๆ นั่นคือ บดบังทัศนวิสัย ตึกต่างๆ หน้าต่างหลายๆบาน ถูกหมอกเหล่านี้ซ่อนบังไว้ล่อลวงให้คุณเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อเสาะหาไอเทมที่จะพาคุณรอดตาย หรือไอเทมไขปริศนา และซ่อนเซอร์ไพร้ซในทุกย่างก้าว ทุกครั้งที่มีเสียงวิทยุคลื่นแทรก ความเครียดได้เข้ามาแทนที่ทันที เพราะเราจะได้เจอกับศัตรูที่น่าอึดอัดในท้องถนนของเมืองนี้…

ในขณะเดียวกัน ในตัวอาคารก็ยิ่งทวีความกดดันเข้าไปอีกเลเวล เนื่องจากตัวเกมได้ปรับมุมกล้องเป็นแบบ TPS ผ่านไหล่ ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับเหล่าผีห่าเหล่านี้ได้มากกว่าต้นฉบับ โดยในต้นฉบับ เรายังพอใช้มุมกล้อง วิ่ง เบี่ยงหลบพวกมันได้ไม่ยาก แต่เวอร์ชั่นรีเมค หลบหนีได้ยากขึ้น และนั่นทำให้เกมเข้าสู่การต่อสู้บ่อยครั้งขึ้น 

แต่เกมนี้ไม่ใช่เกมสาดกระสุน บู๊แหลก ดังนั้นการใช้ปืนจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย โดยในโหมด Stabdard ที่แอดมินเล่น จะใช้สเตปในการทุบผีตามฉากซัก 2-3ที แล้วปิดด้วยการยิงเพียง 1 นัด เมื่อล้ม เราสามารถกระทืบซ้ำได้ แอคชั่นเหล่านี้เราเชื่อว่าทีมงานคิดมาแล้วว่า ยังไงผู้เล่นต้องประหยัดกระสุน ทำให้ Close Combat ทำออกมาได้ไหลลื่น และปนสะใจไม่น้อย แต่ต้องจับจังหวะให้ดีๆ เกมนี้ยังดี มีแดชสไลด์ หลบไวๆได้ (สายเกม ที่ผ่านแนว Soul มาแล้ว จะจับทางได้ง่าย  สบายเลย)

นอกเหนือจากดนตรีที่ทางคุณ อากิระ ยามะโอกะ แต่งและเรียบเรียงใหม่ เพิ่มความเครียดแล้ว การออกแบบเสียงของเกมยังโดดเด่นจัดๆ หากคุณมีเครื่องเสียง หรือหูฟังที่ดี (เอาแค่หูฟังที่มีไดรเวอร์ 7.1 ก็ได้)  นั่นก็เพิ่มความตึงเครียดแล้ว เสียง คือสิ่งที่หลอนประสาทคนเล่นได้ตลอดเวลา ทั้งเสียงวิทยุแทรก เสียงกระเทกของบางอย่าง ที่อยู่บนชั่นถัดไป เสียงลากเท้า เสียงหยดน้ำ เสียงซากต่างๆที่กระทบกับพื้น  และเสียงกระซิบเบาๆ ที่ทำให้คุณสงสัยว่ามีอะไรอยู่ สิ่งเหล่านี้ เป็นการ “เลี้ยงบรรยากาศ” และ “ความตึงเครียดสะสม” ไม่ให้เกม มีจังหวะแผ่วที่แท้จริง ในเกมอย่าง RE หรือ Evil Within เอง ยังมีห้องที่ให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย

แต่ในเกมนี้ มีก็เหมือนไม่มี เพราะห้องเซฟที่ควรจะปลอดภัย กลับถูกเสริมเติมด้วยเสียงลม เสียงต่างๆ แทรกเป็นระยะๆ และไม่มีความรู้สึกผ่อนคลายใดๆ…

ส่วนงานภาพ ตัวเกมใช้ UE 5 พัฒนา ทำให้ถ่ายทอดความสวยงามของเกมได้เป็นอย่างดี แต่มีจุดสังเกตคือ คอมเสปคกลางที่แอดมินใช้เล่น (i5 / Ram 8 / GTX 1070) ตัวเกมจะมีอาการค้าง กระตุก และดีดออกจากเกมไปยังหน้าเดสทอปให้เห็นบ้าง มีอาการ Pre Load วัตถุไม่ทันบ้าง

แต่ถ้าเป็นคอมที่สเปคแรงกว่านี้ น่าจะไร้ปัญหาเลย แม้เกมนี้จะมีตัวเลือกด้านกราฟิกปรับแต่งได้น้อยมากๆ  แต่คอมเก่าๆซัก 3-4 ปีก่อน ยังเล่นไหว ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้ว แล้วงานภาพจัดว่าสวยงามซะด้วย แม้คุณจะเปิดกราฟิกต่ำสุดก็ตาม

แต่อยากจะบอกทิ้งท้ายว่า เกมนี้แม้แอดมินจะรักมาก ชอบมาก ให้คะแนนเต็มแบบหาจุดติไม่เจอ ก็ยังไม่แนะนำให้ทุกคนได้เล่นอยู่ดีครับ ตัวเกมมีความกดดันสูงมาก มีหลายฉากที่ไปสะกิดต่อมของผู้ป่วยซึมเศร้า และมีงานภาพที่ไม่ได้น่ามองในหลายๆจุด ทำให้เกมนี้ เหมาะกับคนใจแข็ง และชื่นชอบอะไรแบบนี้เป็นทุนเดิมมากกว่า ส่วนใครไม่เคยลอง แล้วซื้อเกมนี้มาแล้ว ก็ได้แต่บอกว่า

“ไม่ไหว อย่าฝืน” พักบ้างอะไรบ้าง เพราะเกมเค้าเลี้ยงบรรยากาศน่ากลัวแบบคงเส้นคงวามากๆ…

แล้วเจอกัน ในเมืองหมอก…

แอดมิน AK47

สั่งซื้อเกมราคาดีสุดใน >>> Shopee 

สเปค PC SYSTEM REQUIREMENTS ที่เล่นเกมนี้ได้

ขั้นต่ำ 
Requires a 64-bit processor and operating system
OS: Windows 10 x64
Processor: Intel Core i5-8400 | AMD Ryzen 3 3300X
Memory: 12 GB RAM
Graphics: AMD Radeon™ RX 5700 / NVIDIA® GeForce® GTX 1080
DirectX: Version 12
Storage: 50 GB available space
Sound Card: Windows Compatible Audio Device.

เป็นการปรับการฟิก Low/Medium ในสเกล FullHD (1080p) ที่ 30 FPS.

แนะนำ
Requires a 64-bit processor and operating system
OS: Windows 11 x64
Processor: Intel Core i7-8700K | AMD Ryzen 5 3600X
Memory: 16 GB RAM
Graphics: NVIDIA® GeForce® 2080RTX or AMD Radeon™ 6800XT
DirectX: Version 12
Storage: 50 GB available space
Sound Card: Windows Compatible Audio Device.

 
เป็นการปรับการฟิก Medium ที่ 60 FPS และ High quality ในสเกล 4k ที่ 30 FPS

สั่งซื้อเกมราคาดีสุดใน >>> Shopee 

#SILENTHILL #KONAMI
 #ps5 #ps5games #SilentHill2 #SH2 #stateofplay