ชื่ออังกฤษ : Seoul Station
ชื่อเกาหลี : 서울역
ชื่อไทย : โซลสเตชั่น
ประเภท : ภาพยนตร์อนิเมชั่น
แนว : ระทึกขวัญ / สยองขวัญ / ดราม่า
ผู้กำกับ : Yeon Sangho (ยอน ซังโฮ)
ความยาว : 1 ชม. 32 นาที
ผู้ให้เสียงพากย์ : Ryoo Seung-ryong , Shim Eun-kyung, Lee Joon (MBLAQ)
ฉายไทย : 15 กันยายน 2016
ไม่ใช่เรื่องที่เห็นกันบ่อยเลย สำหรับการลงจอเงินในบ้านเราของหนังอนิเมชั่นจากฝั่งเกาหลี แต่ดูท่ากระแสของหนัง Train To Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง ที่พึ่งฉายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา จะสร้างปรากฏการณ์ความประทับใจให้คอหนังในไทยไม่แพ้ต่างประเทศ จากการกวาดรายได้ทะยานสู่ 70 ล้านบาท จนเตรียมขึ้นแท่นหนังเอเชียที่ทำเงินสูงสุดในบ้านเราขณะนี้
และจากกระแสฟีเวอร์ดังกล่าว ได้ทำให้ Seoul Station (โซลสเตชั่น) หนังอนิเมชั่นสัญชาติเกาหลีจากผู้กำกับเดียว โดย Yeon Sangho (ยอน ซังโฮ) ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่มาของภาคต่อฉบับ Live Action อย่าง Train To Busan ได้มาสานต่อความระทึกสุดสยองของเหล่าซอมบี้เกาหลีในบ้านเราอีกครั้ง แม้จะมีกำหนดฉายหลังฉบับดัดแปลงก็ตาม
ผู้กำกับ Yeon Sang-Ho (ยอน ซังโฮ)
ทั้งนี้ สำหรับ Yeon Sangho (ยอน ซังโฮ) นอกจากจะเป็นผู้กำกับหนัง Train To Busan และ Seoul Station แล้ว ก่อนหน้านี้เขายังเคยฝากผลงานหนังอนิเมชั่นสายดาร์กที่มีการสะท้อนเสียดสีสังคมไม่ต่างกัน มาแล้วถึง 2 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ The King of Pigs (2011) และ The Fake (2013)
แม้ Seoul Station จะเป็นอนิเมชั่นสายดาร์ก ที่บางคนมองว่าเป็นผลงานอินดี้ ทั้งจากงานภาพและโทนอารมณ์ที่ดูหยาบและดิบ ไม่เหมือนกับอนิเมชั่นทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้น ในด้านเทคนิคแล้ว ถือเป็นผลงานอนิเมชั่นรูปแบบ 3D Cel-shaded Animation ที่ใช้เทคนิคการลงสีบนโมเดล 3 มิติ ในสไตล์สีและเส้น คล้ายคลึงกับภาพ 2 มิติ ซึ่งถือเป็นอีกสไตล์งาน CG Animation หนึ่ง ที่นิยมกันปัจจุบัน
นอกจากนี้ หากมองในส่วนของผู้ที่มาให้เสียงพากย์ตัวเอกของเรื่องแล้ว ถือว่าไม่ใช่เล่นๆ เลย เพราะต่างเป็นดารานักแสดงฝั่งเกาหลีที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไม่ว่าจะเป็น Ryoo Seung-ryong (ริว ซึงรยอง ), Shim Eun-kyung (ชิม อึนคยอง) และนักร้องหนุ่ม Lee Joon (ลีจุน) สมาชิกวง MBLAQ ที่สาวๆ ชื่นชอบ อีกทั้งยังถือเป็นผลงานการพากย์เสียงครั้งแรกของเขาด้วย
เรื่องย่อ
ว่าด้วยเรื่องราวของ ซุกคิว ชายผู้พยายามตามหา เฮซอน ลูกสาวที่หายตัวไป? หลังจากหนีออกจากบ้าน ก่อนที่จะพบว่าเธอทำงานเป็นหญิงขายบริการอยู่ในกรุงโซล แต่แล้วขณะที่เขาพยายามปลอมตัวเป็นลูกค้า เหตุการณ์ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ณ สถานนีรถไฟโซล เมื่อไวรัสปริศนาได้แพร่ระบาด และเปลี่ยนผู้คน เริ่มตั้นแต่คนเร่ร่อนไปจนถึงผู้ที่สัญจรทั่วไป ให้กลายเป็นซอมบี้คลั่งออกอาระวาดไปทั่วทุกแห่ง จนเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นทวีคูณและเข้าโจมตีผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ขณะที่รัฐบาลได้ทำการปิดเมือง ให้กลายเป็นเขตกักกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลาม
ดังนั้น ซุกคิว, เฮซอน และแฟนหนุ่ม ผู้เห็นแก่ตัวของเธอ จึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดและหนีตายจากเมืองทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ดังกล่าว ว่าแต่ทั้งสามจะหนีรอดมาได้อย่างไร และจะมีเรื่องราวสายสัมพันธ์ในครอบครัวสุดซึ้ง หรือบทแง่มุมสะท้อนเสียดดีสังคม เช่นเดียวกับ Train To Busan หรือจะมีบทหักมุมอะไรหรือเปล่านั้น? ติดตาม Seoul Station กันได้ในโรงภาพยนตร์ 15 กันยายนนี้.
ตัวอย่างภาพยนตร์
รีวิว [ไม่สปอยล์]
- ขอขอบคุณ “มงคลเมเจอร์”
โปรดักชั่น = 2/3 | เรื่อง-การนำเสนอ = 2.5/3 | นักแสดง-บท = 2/3 | ความชอบส่วนตัว 1/1 = [ 7.5 /10 ]
ลุ้นเกร็งตลอดเรื่อง
ซ่อนมุกตลกได้ฮาแตกถูกจังหวะ
เสียดสีด้านมืดของสังคมได้อย่างเจ็บลึก
สไตล์ภาพไม่นิ้ง เส้นสีไม่สวย งานขยับหยาบๆ
แต่จังหวะการทิ้งน้ำหนักการเคลื่อนไหวของภาพให้ความรู้สึกสมจริง
พี้คสุด คือ การรู้แค่เรื่องย่อคร่าวๆ และรอเฉลยในโรง !!
จัดเป็นผลงานอนิเมชั่น 3D ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ และชวนให้นึกถึงความน่ากลัวของอนิเมชั่นสยองขวัญทางโทรทัศน์จากญี่ปุ่น ที่ใช้เทคนิค Flash อย่าง Yami Shibai ยามิชิไบ เรื่องเล่าผีญี่ปุ่น เสียจริงๆ สำหรับ Seoul Station โดย ผกก. Yeon Sangho (ยอน ซังโฮ) ซึ่งจุดที่ชวนให้นึกถึงนั้น นอกจากเรื่องราวระทึกขวัญชวนน่ากลัวที่ถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบอนิเมชั่นเหมือนกัน (แต่รูปแบบต่างกัน) แล้ว ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวของภาพที่ดูหยาบ ไม่เลื่อนไหลเป็นธรรมชาติอย่างที่หลายคนอาจคาดหวังจากผลงานอนิเมชั่นในอุดมคติ (และเอาจริงๆ จะเปรียบเทียบมวยข้ามรุ่นก็ดูจะไม่ถูกด้วยสิ)
แต่ถึงอย่างนั้น ข้อเสียที่ดูเป็นจุดด้อยนี้ กลับสามารถมองเป็นจุดเด่นของสไตล์อนิเมชั่นที่ใช้เทคนิค 3D Cel-shaded Animation มาถ่ายทอดเรื่องราวระทึกขวัญของมนุษย์และเหล่า “ซอมบี้” ได้ดิบอย่างลงตัว
ในส่วนของเนื้อหา/การดำเนินเรื่องนั้น… เรียกได้ว่า สามารถครองสายตาคนดูได้ตลอดเรื่อง เพราะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้นได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือ มีความไคลแม็กซ์ชวนให้ลุ้นและติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ที่มาพร้อมความน่ากลัวของซอมบี้เวอร์ชั่นอนิเมชั่นที่พุ่งพร่าน พร้อมกับบทพูดที่ทำให้มี “เหวอ!!”
นี่ยังไม่นับคำเฉลยบางอย่าง… และว่า “สำคัญ” ที่รอคอหนังไปหาคำตอบกันในเรื่อง…
เอาเป็นว่า… ขอจบการรีวีว Seoul Station แต่เพียงเท่านี้ ที่เหลือรอทุกคนไปพิสูจน์กันเองในโรงภาพยนตร์
ถ้าไม่ได้ดู Train To Busan มาก่อนเป็นไรไหม ?
ตอบเลย : ไม่เป็นไร เพราะเหตุการณ์แค่ต่อจากกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวพันกัน จะดูเรื่องไหนก่อน หรือไม่ดูเรื่องไหนก็ได้ ไม่กระทบทั้งคู่
ถามว่าสรุปแล้ว หนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ดีไหม ?
ตอบสั้นๆ : “ดีนะ ได้รับอะไรมากกว่าที่คุณคิดว่ารู้แน่นอน…”
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
สร้างครั้งแรก 26 สิงหาคม 2016 – 12.46 น.
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console