Samsung Gear S
วางจำหน่าย : 7 พฤศจิกายน 2557
ขนาด : 58.1 x 39.9 x 12.5 mm.
น้ำหนัก : 67 g
หน้าจอ : Super AMOLED capacitive touchscreen , 16 ล้านสี
ขนาดหน้าจอ : กว้าง 2 นิ้ว ความละเอียด 360 x 480 pixels
ชิปประมวลผล : Tizen-based wearable platform / CPU : Dual-core 1 GHz
แบตเตอรี่ความจุ : Li-lon 300 mAh
ระบบการเชื่อมต่อ : WiFi / Bluetooth v4.1
ช่องเสียบตัวเครื่อง : microUSB v2.0
หน่วยความจำภายในเครื่อง : 4GB , RAM 512MB
ช่องเสียบชุดหูฟัง : 3.5 mm Jack
เครือข่ายที่รองรับ :
2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
3G : HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100
SIM : Nano-SIM
สี : ขาว , ดำ
ราคา : 11,900 บาท
ด้วยดีไซน์ของ Samsung Gear S จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้ง Super AMOLED ขนาด 2 นิ้ว มีความละเอียด 360 x 480 พิกเซล มีปุ่มกดตรงกลางใต้หน้าจอแสดงผลเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงและการเคลื่อนไหววางอยู่ด้านซ้ายและขวาของปุ่ม ตัวสายเป็นแบบยางพร้อมตัวล็อคที่เป็นอลูมิเนียม สามารถปรับระดับตามขนาดของข้อมือได้ และสามารถถอดสายกับตัว Samsung Gear S ออกจากกันได้ ด้านหลังมีถาดใส่นาโนซิมและลำโพง สปิกเกอร์วางอยู๋ข้างกัน พร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ตรงกลาง แถบทองแดงนั้นเอาไว้เชื่อมต่อกับแท่นชาร์จ
ถึงแม้ Samsung Gear S จะสามารถใส่ซิมการ์ดและใช้งานการเชื่อมต่อ 3G ได้ อย่างไรก็ตามการติดตั้งแอพฯเสริมบน Samsung Gear S จะต้องทำผ่านสมาร์ทโฟนซัมซุงด้วยแอพพลิเคชั่น Samsung Gear Manager เท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเรื่องการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งอยู่บนสมาร์ทโฟนไปให้แสดงใน Samsung Gear S ได้ และส่งเพลงหรือรูปภาพ เพื่อเปิดดูหรือเปิดฟังบน Samsung Gear S ได้อีกด้วย
การสั่งงานใน Samsung Gear S จะใช้การสไวป์หรือการปาดนิ้วที่หน้าจอเป็นหลัก โดยจากหน้าแรก เมื่อปาดลงจะเป็นการเรียกเมนูปิดเสียงและปรับหน้าจอลงมา เมื่อปาดไปทางด้านขวาจะพบกับวิดเจ็ตที่เราตั้งค่าไว้ สามารถตั้งได้ถึง 5 หน้า เมื่อปาดไปทางซ้ายจะเจอกับการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งสามารถเปิดดู และหากเป็นข้อความหรืออีเมล์ก็ตอบกลับได้ทันที และกลับเข้าเมนูด้วยการปาดขึ้นด้านบน ในหน้านี้จะพบกับไอค่อนแมนูและแอพฯต่าง ๆ สำหรับเข้าไปใช้งาน และย้อนกลับด้วยการปาดจากด้านบนของหน้าจอลงมา
Samsung Gear S สามารถกดโทรออกได้ โดยสามารถสั่งให้หมายเลขบนสมาร์ทโฟนโอนสายมายัง Gear S เพื่อรับสายในขณะที่สมาร์ทโฟนไม่ได้อยู่กับตัวได้ และยังสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G จากซิมที่ใส่ไว้ หรือเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็ได้ สามารถเช็คอิเมล์และข้อความ ลบ หรือ ตอบกลับด้วยคีบอร์ดที่รองรับภาษาถึง 69 ภาษา ซึ่งแน่นอนว่ามีภาษาไทยให้ใช้งานด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นของซัมซุงก็ย่อมใช้งาน S Voice สั่งงานด้วยเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูรายชื่อ หรือโทรออก , ตั้งปลุก ฯลฯ กดปุ่มตรงกลาง 2 ครั้ง เพื่อเรียกหน้า S Voice ขึ้นมาใช้งาน ถ้าหากติดตั้งแอพฯเสริมจำพวก Nike+ Running ก็สามารถอกวิ่งได้โดยไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนไปด้วย เมื่อวิ่งเสร็จตัวแอพพลิเคชั่นจะทำการซิงค์ข้อมูลเองอัตโนมัติ หรือจะใช้ S Health ที่มาใน Samsung Gear S เลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ และวัดรังสี UV เมื่ออยู่กลางแจ้งได้
ใน Samsung Gear S สามารถใช้ระบบนำทางจาก HERE สำหรับ Gear ได้ทันที โดยทำการค้นหาสถานที่และแตะเพื่อนำทางได้เลย แต่ว่าจะเป็นการค้นหาเส้นทางสำหรับรถสาธารณะหรือเดินเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะไม่มีเน็ต แต่ก็สามารถระบุตำแหน่งได้
Samsung Gear S เป็นอีกขั้นของนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถใช้งานแยกจากสมาร์ทโฟนได้มากกว่าสมาร์ทวอชรุ่นอื่น ๆ โดยสามารถใส่ซิมเพื่อโทรออก รับสาย และยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 3G เพื่อใช้งานด้านต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟนมากเกินไป และด้วยหน้าจอโค้งทำให้มีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น กันเหงื่อกันฝุ่น สามารถใส่แล้วออกวิ่งได้ทันที ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนให้ยุ่งยาก โดยรวมแล้วเจ้านาฬิกาอัจฉริยะ Samsung Gear S นี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากขึ้นนั่นเอง
Credit : smart phone guide , gsmarena
By Admin Park
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console