Samsung Galaxy S6 Edge

เปิดตัว : ครั้งแรก 2 มีนาคม 2015

วันวางจำหน่าย : ไตรมาสที่ 2 ปี 2015 (เมษายน 58)

ขนาด : 142.1 × 70.1 × 7 mm.

น้ำหนัก : 132 g

หน้าจอ : Super AMOLED capacitive touchscreen , Corning Gorilla Glass 4 , 16 ล้านสี

ขนาดหน้าจอ : กว้าง 5.1 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 pixels

ชิปประมวลผล : Android OS v5.0.2 (Lollipop) / Chipset : Exynos 7420 / CPU : Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 2.1 GHz Cortex-A57 / GPU : Mali-T760MP8

แบตเตอรี่ความจุ : Li-Ion 2,600 mAh

ระบบการเชื่อมต่อ : WiFi / Bluetooth 4.1 / NFC / Infrared

ช่องเสียบตัวเครื่อง : Micro USB 2.0

หน่วยความจำภายในเครื่อง : 32GB , RAM 3GB

ช่องเสียบชุดหูฟัง : 3.5 mm Jack

กล้องหลักความละเอียด : 16 MP / พร้อมแฟลช LED

กล้องหน้าความละเอียด : 5 MP

บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว : ความละเอียด 2160 x 3840 พิกเซล , รูปแบบไฟล์วีดีโอ : MPEG-4, 3GP, WMV, FLV, ASF, 3G2, AVI, MKV

เครือข่ายที่รองรับ :

2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900

3G : HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 / HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 – SM-G925T

4G : LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 17(700) – SM-G925T / LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 17(700), 20(800) – SM-G925A

SIM : Nano-SIM

สี : ดำ , ขาว ,ทอง

ราคา : 27,900 บาท

เจ้านี้ คือ Samsung Galaxy S6 Edge สมาร์ทโฟนที่หลุดมาจากดาวกาแล็กซี่อันไกลโพ้นที่ทาง Samsung ได้เริ่มต้นทำ Project Zero เป็นโปรเจคใหม่ มีการปรับเปลี่ยนการดีไซน์และวัสดุใหม่ทั้งหมดให้ล้ำตามยุคสมัย จากวัสดุหลัก ๆ ที่เป็นพลาสติกในรุ่นก่อน ๆ ในรุ่นนี้ จะไม่มีให้ได้สัมผัสกันเลยทีเดียว

โดยการดีไซน์ขึ้นรูปจะทำจากโลหะ 6013 Aluminum ชิ้นเดียว และใช้กระจก Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังคู่กัน พร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้วที่กำลังเหมาะไม้เหมาะมือผู้ใช้งาน ความละเอียดของจอระดับ Quad HD 2560 x 1440 (577 ppi) ผนวกกับขอบจอโค้ง Edge Screen ทั้ง 2 ข้าง เคลือบสารให้ความเงางาม แสดงผลชัดเจนขึ้นด้วยกระบวนการ Nano-Thin Multi-Coating และปุ่ม Home ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ใช้ปลดล็อคเครื่องได้อย่างง่ายดาย

สำหรับขุมพลังและระบบปฏิบัติการทำงานของเจ้า S6 Edge ตัวนี้ ก็ไม่ใช่ขี้ ๆ เลย ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ชิปตัวใหม่อย่าง Exynos 7420 ที่ใช้เทคโนโลยีระดับ 14 นาโนเมตรในการผลิตขึ้น เสริมด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Cortex-A57 2.1GHz + Quad-Core Cortex-A53 1.5GHz GPU Mali-T760 RAM 3GB แบบ DDR4 และยังใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop พร้อม TouchWiz ตัวใหม่อีกด้วย

ด้วยขอบจอโค้ง Edge Screen ที่หลาย ๆ ท่านเคยได้ยินมาจากรุ่น Samsung Galaxy Note Edge ทำให้คิดว่ามีถึง 2 ข้าง น่าจะใส่ช็อตคัตได้มากมาย แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น ขอบจอโค้งบน Samsung Galaxy S6 edge จะมีขนาดเล็กกว่าขอบจอโค้งบน Samsung Galaxy Note Edge และไม่สามารถใส่ช็อตคัตแอพฯหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ได้เลย แต่สามารถใช้งาน People edge ที่ใส่รายชื่อคนสนิทได้ถึง 5 รายชื่อ และเลือกสีประจำตัวได้ เมื่อหน้าจอคว่ำอยู่และมีสายโทรเข้ามา ขอบจอโค้งก็จะแสดงสีตามรายชื่อที่เราตั้งไว้ใน People edge โดยเรียกลูกเล่นนี้ว่า Edge lighting

Edge Screen ของ Samsung Galaxy S6 edge ยังคงมีลูกเล่นอย่าง Night Clock เหมือนบน Samsung Galaxy Note Edge ตั้งเวลาให้แสดงในขอบจอโค้ง เหมือนกับนาฬิกาข้างหัวเตียง และยังมี Information Stream ที่จะแสดงผล feed ต่าง ๆ อย่าง ข่าวจาก Yahoo , Miss call , สภาพอากาศ แม้ขอบขอโค้งจะมีถึง 2 ข้าง แต่ก็จะต้องเลือกใช้งานข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น

Samsung Galaxy S6 edge ได้ใช้รูรับแสงกว้าง f/1.9 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลมีระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น คมชัดขึ้น สำหรับการโฟกัสทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังมี Pro Mode สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตั้งค่าเวลาถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็น Manual Focus , White Balance , ISO และอื่น ๆ ส่วนโหมด Auto ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ทำได้ดีมาก ๆ อีกทั้งยังมี Tracking Autofocus ที่จะคอยติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหว ทำให้การถ่ายรูปภาพวัตถุเหล่านั้นคมชัดมากขึ้น และกล้องหลังสามารถบันทึกวิดีโอได้ในระดับ 4K (2160p) ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง รูรับแสง f/1.9 ถ่ายเซลฟี่ได้สว่างและสวยงามขึ้น พร้อมปรับหน้าเนียนให้อัตโนมัติอีกด้วย

Samsung Galaxy S6 Edge : Avengers Edition 

สำหรับแฟน ๆ Avenger เตรียมตัว เตรียมตังกันไว้ให้ดี ๆ เพราะเจ้า Samsung นั้นเป็นผู้สนับสนุนหลักในภาพยนตร์เรื่อง Avenger : Age of Ultron ภาคนี้ อย่างเป็นทางการสำหรับใครที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ก็คงจะเห็นว่าในเรื่อง Black Widow ได้ใช้โทรศัพท์ Samsung Galaxy S6 Edge ในตอนท้าย ๆ เรื่อง

โดย Samsung กับ Marvel ได้คิดโปรเจคพิเศษเพื่อแฟน ๆ ของ Avenger อีกด้วยนั่นก็คือ Project Samsung X Marvel โดยตัวโปรเจคนี้ ได้ทำออกมาเป็นสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S6 Marvel Edition ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะมีออกมาวางจำหน่ายให้จับจองมาเป็นเจ้าของกันอย่างแน่นอน วันนี้ เรามีภาพคอนเซ็ปของตัวเครื่องและหน้าตากระเป๋ามาให้เพื่อนขาว MetalBridges ได้ชมกันเรียกน้ำย่อยกันก่อน

ภายในกล่องจะมี Samsung Galaxy S6 Edge สีดำ พร้อมสายชาร์ต , หูฟัง , คู่มือการใช้งาน , สมุดโน้ต , เคสใสลาย Avenger และแท่นชาร์ตแบบไวเลส มาให้เรียกว่าครบจริง ๆ ครับ

Credit : Samsung , gsmarena , siamphone , whatphone

By Admin Park