Samsung GALAXY Note Edge
วันวางจำหน่าย : เปิดตัว ไตรมาสที่ 3 ปี 2014 (พฤศจิกายน 57)
ขนาดตัวเครื่อง : 151.3 x 82.4 x 8.3 mm
น้ำหนัก : 174 g
อุปกรณ์เสริม : S Pen stylus / Fingerprint sensor
หน้าจอ : Super AMOLED capacitive touchscreen 16M colors / Protection Corning Gorilla Glass 3
ขนาดหน้าจอ : 5.6 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 2560 pixels
ไฟล์เสียงรองรับ : MP3 , WAV ringtones
ช่องเสียบหูฟังขนาด : 3.5mm jack
หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง : 32/64 GB , 3 GB RAM (microSD , up to 128 GB)
รองรับ : WLAN Wi-Fi / Bluetooth / NFC
ช่องเสียบตัวเครื่อง : microUSB v2.0
กล้องหลักความละเอียด : 16 MP ความละเอียดภาพ 3456 x 4608 pixels มี LED flash ในตัว
กล้องหน้าความละเอียด : 3.7 MP , 1080p@30fps
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว : 2160p@30fps , 1080p@60fps
ชิปประมวลผล : Android OS v4.4.4 (KitKat) / Chipset : Qualcomm Snapdragon 805 / CPU : Quad-core 2.7 GHz Krait 450 / GPU : Adreno 420
แบตเตอรี่ความจุ : Li-ion 3,000 mAh
เครื่อข่ายที่รองรับ :
2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz
4G : LTE 800 / 850 / 900 / 1800 / 2100 / 2600 MHz
SIM : Micro-SIM
นี่คือ Smartphone รุ่นใหม่จากค่าย Samsung ที่ถือว่าได้สร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมา โดยนำจุดเด่นที่ส่วนโค้งด้านข้างมาทำเป็นจอที่สอง ซึ่งสามารถทำการแจ้งเตือนข้อความ เป็นนาฬิกา วางไอคอนต่าง ๆ ของ App หรือจะนำมาเป็นไม้บรรทัดก็สะดวกไม่เบาเลย แถมยังประหยัดพลังงานเพราะหน้าจอที่สองจะทำงานโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอหลัก
เมนูของ App ใน Samsung Galaxy Note Edge จะไม่เกะกะ อย่างเช่น การถ่ายรูป เมนูการเลือกฟังชั่นต่าง ๆ ก็จะอยู่อีกหน้าจอนึงที่เป็นหน้าจอที่สอง มันเลยทำให้เราเห็นภาพพื้นหลังได้แบบเต็ม ๆ ตากันเลยทีเดียว และสเปคของเจ้า Samsung Galaxy Note Edge ตัวนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกับ Samsung Galaxy Note 4 มากนักเท่าไหร่ จึงอาจจะทำให้มีการแย่งซีนกันเกิดขึ้นก็เป็นได้!
การออกแบบของเจ้า Samsung Galaxy Note Edge ตัวนี้ มีดีไซน์ที่ล้ำหน้ากว่าตัวไหน ๆ ของ Samsung เองเลยก็ว่าได้ ด้วยเฉียบคมในมิติ การมองด้วยสายตา ให้ไลฟ์สไตล์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
ความโดดเด่นบนหน้าจอของเจ้า Samsung Galaxy Note Edge ตัวนี้ บอกได้เลยว่า เป็นหน้าจอที่มีความโค้งมน แถมยังซ้อนแทบต่าง ๆ ไว้มากมายเลย ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
แถบหน้าจอด้านข้างสามารถสไลด์เลื่อนได้อย่างเป็นอิสระ แบบหายห่วง พร้อมทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (Kitkat) ด้วย CPU ที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่าง Qualcomm Snapdragon 805 Quad-core 2.5 GHzRAM 3GB แถมหน่วยความจำเครื่องก็ยังสูงถึง 64GB เลยทีเดียว
หน้าจอแสดงผล ขนาด 5.6” นิ้ว กำลังพอดีมือ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป หน้าจอมีสีสันที่สวยงามด้วยจอประเภท SUPER AMOLED + Quad HD ยิ่งทำให้ความคมชัดของหน้าจอเพิ่มมากขึ้นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของกล้องหน้ากล้องหลัง ก็ตอบสนองได้อย่างดี ด้วยความละเอียดของกล้องหลังที่ 16 MP ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องหน้าเจ้า Galaxy Note Edge ก็มาพร้อมกับความละเอียดของกล้องหน้าที่ 3.7 MP เพื่อให้คุณกับเพื่อน ๆ ได้ฟินกับการถ่ายรูปตัวเองกันไป
ใครก็ใช้สมาร์ตโฟนเป็นชีวิตจิตใจ ก็ตรงตามคอนเซ็ปต์ของเจ้า Galaxy Note Edge ตัวนี้ เลยครับ ตรงโจทย์ความ ฟรีสไตล์ ของคุณได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึก ก็มีปากกาในแบบฉบับของ Note พร้อมรองรับคุณทุกเมื่อ
ระบบมัลติทัชบนหน้าจอก็ทำได้ดี รองรับการใช้แอพพลิเคชั่นหลาย ๆ ตัวพร้อมกัน
สำหรับใครที่กลัวเรื่องแบตเตอรี่หมดไว หายห่วงไปได้ 1 เปราะ เพราะเจ้า Samsung Galaxy Note Edge มาพร้อมกับการชาร์ตแบตเร็วขึ้นถึง 30%
Galaxy Note Edge มีให้เลือกใช้กันอยู่ 2 สี ดำ กับ ขาว
รุ่นนี้จะมีวางขายกันประมาณเดือน พฤศจิกายน 2014 ก็เดือนหน้านี่เอง สำหรับราคาก็ยังไม่เป็นทางการมากนัก แต่ก็เริ่มต้นประมาณ 35,000 บาท ยังไงก็คงต้องติดตามข่าวสารกันต่อ ๆ ไป ว่าจะมีขายเมื่อไหร่ยังไง ใครที่เป็นแฟนของ Samsung อยู่แล้ว หรือ กำลังหาสมาร์ตโฟนที่ฟังชั่นและลูกเล่นหลากหลายแล้วล่ะก็ ตัวนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองอีกหนึ่งตัวนะครับ
Credit : Samsung , pantip , gsmarena
By Admin Park