ภาพยนตร์สุดคลาสสิคอีกเรื่องที่ เฉินหลง หรือ แจ๊คกี้ ชาน ได้ฝากไว้ในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด และมีการสร้างภาคต่อ มาอีก 2 ภาค รวมเป็น 3 ภาค

ใครๆก็คิดว่าน่าจะจบแล้วสำหรับตำนานคู่ฟัด…

แต่ล่าสุดในปี 2022 เฉินหลง ปรากฏตัวบนเวทีเทศกาลภาพยนตร์ Red Sea เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 8 ธันวาคม 2022 โดยเขาบอกกับแฟนๆ ว่าขณะนี้เขากำลัง “เจรจา” เพื่อสร้าง ภาพยนตร์ “Rush Hour ภาคที่สี่” 

“เรากำลังพูดถึงภาคที่ 4 ในตอนนี้” เขาบอกกับฝูงชนในงานเทศกาล พร้อมเสริมว่าเขากำลังจะพบกับผู้กำกับภาพยนตร์ในเย็นวันดังกล่าว เพื่อหารือเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ เขาไม่ได้ระบุผู้กำกับว่าเป็นใคร   (ซึ่งผลงานก่อนหน้าทั้งสามภาค เป็นของผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เบรตต์ แรตเนอร์)

เฉินหลง ได้แสดงภาพยนตร์ Rush Hour ทั้ง 3 เรื่องระหว่างในช่วงยุค 2000  ร่วมกับนักแสดงตลก คริส ทัคเกอร์ ที่จะเล่าเรื่องราว ของคู่หู ตำรวจฮ่องกงกับเจ้าหน้าที่ LAPD จอมพูดมาก เพื่อไขคดีระหว่างประเทศ

Rush Hour ต้นฉบับ ทำรายได้ 244 ล้านเหรียญทั่วโลกให้ New Line Cinema และทำให้เฉินหลง ที่เกิดในฮ่องกง เป็นดาราแอ็กชันในฮอลลีวู้ด แต่เขาวางแผนที่จะออกจากฮอลลีวูด เนื่องจากขาดบทบาทที่น่าสนใจ

“ผมพยายามไปฮอลลีวูดหลายครั้ง แต่หลังจากนั้น ผมก็ไม่ไปฮอลลีวูดอีกเลย เพราะภาษาอังกฤษของผมไม่ดี พวกเขาไม่ใช่วัฒนธรรมของผม พวกเขาไม่ชอบแอคชั่นแบบนี้” 

เขายังกล่าวว่า ก่อนหน้าเขาได้รับแต่บทตำรวจชาวเอเชียในอเมริกาเท่านั้น ซึ่งมันน่าเบื่อมาก และเขากระตือรือร้นที่จะขยายความคิดสร้างสรรค์ของเขาเมื่อบทสำหรับ Rush Hour มาถึงมือเขา

“ผู้จัดการของผมบอกว่า ดูสิ มีบทหนังมาให้ และมันชื่อ Rush Hour

ผมบอกว่าไม่ ตำรวจฮ่องกงอีกแล้วเหรอ?  ผมไม่เล่นนะ

แต่เขาพูดว่า แจ็กกี้ ทำไมคุณไม่ลองอีกซักครั้งล่ะ ผมตอบตกลง  ” นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”

หลังจากภาคแรกออกฉาย เฉินหลงกล่าวว่าเขาได้รับโทรศัพท์จาก แรตเนอร์ และ ทัคเกอร์ ซึ่งบอกว่า

“เพื่อน เราประสบความสำเร็จอย่างมาก เรามียอด 70 ล้านในสุดสัปดาห์แรก

แต่สำหรับผม ผมนับไม่ถูกหรอกว่า 70 ล้านคืออะไร ผมไม่รู้จักบ็อกซ์ออฟฟิศ

ผมเพิ่งรู้ว่ามันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

จากนั้นพวกเขาก็สร้างภาค 2 และภาค 3 ตามมา…” 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงแอ็คชั่นมายาวนาน ล่าสุด เฉินหลงบอกกับผู้คนในงานเทศกาลว่า เขาวางแผนที่จะสร้าง “แอ็คชั่นน้อยลง ขายหนังรักมากขึ้น” ในอนาคต 

ที่มา deadline.com