NETFLIX / Trailer / พากย์ไทย /ดูหนังออนไลน์ฟรี
ซามูไรพเนจร The Final /The Beginning
ชื่อญี่ปุ่น : るろうに剣心 (รูโรนิ เคนชิน)The Final /The Beginning
ชื่ออังกฤษ : Rurouni Kenshin หรือ Samurai X
แนว : Action, ประวัติศาสตร์
เขียนเรื่อง : โนบุฮิโระ วาสึกิ
แสดงนำ : ทาเครุ ซาโต้ , แมคเคนยู อาราตะ
เคนชิน ซามูไรพเนจร : ปฐมบท REVIEW 7/10
เพราะคาดหวัง เลยผิดหวัง
ต้องเข้าใจว่า แฟนๆมังงะชุดนี้คาดหวังมากเพราะนี่คือพาร์ทที่เข้มข้น และดราม่าที่สุดของเรื่อง เราจะได้รับรู้ว่าความเก่งกาจของมือพิฆาติบัตโตไซสมัยท๊อปฟอร์มนั้นจะเป็นยังไง น่าเสียดายที่หนังกลับจับบาลานซ์เรื่องแปลกๆอยู่ เหมือนภาคนี้ ทีมงานเน้นหนักในพาร์ทดราม่ามากจนทำให้คิวบู๊ดูจืดจางลงไปพอสมควร น่าจะนำเสนอได้เข้มข้นมันส์ทะลุจอกว่านี้ (ทั้งๆที่ทีมงานเองก็ไม่น่าจะชำนาญหนังรักโรแมนติกเท่าไหร่นัก) ไม่รู้ว่าทีมงานตีความโจทย์ของภาคนี้ยังไงไม่รู้ เลยทำให้กลายเป็นหนังที่ดาวน์เกรดฉากบู๊ เพื่อให้เวลาพาร์ทดราม่าเข้มข้นแทน ผลก็คือฉากดวลบอสภาคนี้ เข้าขั้นผิดหวังมากๆเลยล่ะ
ตัวหนังมีจุดบอดอย่างหนึ่ง สำหรับผู้ชมชาวต่างชาติอย่างเราๆท่านๆ เพราะว่าเนื้อหาในภาคนี้ จะเป็นสงครามระหว่างฝ่ายการเมืองในยุคนั้น แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นคงอิน และฟิน (เอาเคนชิน มาฟาดดาบกับ โอกิตะ โซชิ อัจริยะดาบของยุคนั้นได้อะ คิดดู)
แต่คนไทยอย่างเราก็จะงงๆหน่อย ว่าทำไมมันต้องฆ่าแกงกันแรงเบอร์นี้ เอาเป็นว่า เอาลิ้งก์นี้ไปอ่าน จะได้เก็ทครับ
กลับกัน พาร์ทดราม่า 90% ค่อนข้างตรงกับมังงะที่เคยอ่าน พาร์ทดราม่านำเสนอได้ครบประเด็นแหละ แต่ชวนง่วงจัดๆเลย ถ้าตัดเอาซีนสำคัญๆมาทำตัวอย่างนี่ถือว่าน่าดูนะ
แต่กลายเป็นหนังจริง แล้วรู้สึกว่า ทีมงานนำเสนอประเด็นครบ แต่อารมณ์ร่วมไม่มีเลย
ฉากขยี้ ซีนอารมณ์ต่างๆยกมาจากภาค Final เอนิชินั้น มีขยายมาหน่อยนึง ยิ่งกลายเหมือนโดนสปอยล์มาแล้ว ความว้าวเลยหายไป
ขอเสริมเรื่องงาน “พากย์ไทย” จากที่ดูแบบซับ และแบบพากย์ไทย ทีมงานมีปัญหาเรื่องการแปลบริบท และชื่อสิ่งของต่างๆ คุณจะได้ยิน “โทโมเอะสั่งโซดา” ในร้านเหล้า
หรือ ใครที่เป็นคอประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นน่าจะเคยได้ยินวลีที่ว่า “จงให้คนหนุ่มสาวเป็นคนบ้าคลั่ง” (คำพูดก่อนตายของ โยชิดะ โชอิน) แต่ในพากย์ไทยดันพูดว่า “โชกุนเป็นบ้า” เห้ย มันคนละเรื่องเลยครับท่าน!!
และบทแปลหลายๆอย่างที่เพี้ยนไปจากเนื้อหาจริงจากเสียงต้นฉบับ
ถามว่าเป็นปัญหาใหญ่มั้ย ก็ไม่ซะทีเดียวนะครับ เพราะโดยรวมยังดูรู้เรื่อง แต่มันแปลกๆ คาดว่าแปลมาจากซับ Eng อีกทีมากกว่า
ดีงามที่สุด และขยี้หัวใจได้ดีที่สุด ก็ “ฝีมือของนักแสดง” นี่ละ โดยเฉพาะ ซีนที่มาของแผลกากบาทนี่แหละ เจ๋ง และเป็นไปได้กว่าในมังงะ ที่มีดบินลงมาปาดหน้าเคนชิน
แต่ในหนังจะเรียล และจุกอกมากกว่า
สรุป หนังพังที่การลำดับความสำคัญ ฉากบู๊ช่วงท้ายที่ควรจะสนุกกว่านี้ ก็ทำไม่ถึง แถมพาร์ทดราม่าจัดๆระหว่างเรื่อง ก็ยังไม่ถึงอีก เสียดาย และผิดหวัง เพราะมันไปกองๆกันท้ายเรื่องนี่แหละ
เป็นภาคที่เขียนรีวิวสั้นที่สุด เพราะเจ็บใจที่สุดแล้ว 5555+
—————————————————————–
-
-
-
เคนชิน ซามูไรพเนจร : ปัจฉิมบท REVIEW 9/10
หลังจากที่รอคอยมานานนับปี ในที่สุดก็ได้ร่วมปิดตำนานซามูไรพเนจรภาคหนังโรง ที่โลดแล่นในวงการภาพยนตร์มานานเกือบ 10 ปี นับจากภาคแรกออกฉาย ซึ่งถ้าให้สรุปความรู้สึกที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิมครับ ว่านี่คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้
แม้ว่าแฟนคลับ ซามูไรพเนจร ที่ติดตามมาตั้งแต่เวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์มาก่่อน อาจจะรู้สึกเหมือนกับแอดมิน ตรงที่ “เล่าทุกอย่างไม่ครบ แต่จบสมบูรณ์อย่างสมเหตุผล” ในภาพยนตร์ได้ตัดอีเว้นท์การต่อสู้ที่กินเวลา ลากยาวมาหลายเล่ม ให้อยู่ใน 2 ชั่วโมงได้ แม้จะโดนตัด หัน ดัดแปลงบท แต่ตัวภาพยนตร์ กลับให้ความรู้สึก “พอดี” ในองค์รวม น่าเสียดายที่บางจุด กลับกลายเป็นสปอยล์เนื้อหาภาค The Beginning ซะงั้น
ส่วนสิ่งที่ขาดหายไป คือ เหตุผลของตัวละครฝ่ายเอนิชิ ที่แม้จะบอกว่า “รวมพลคนมีความแค้นกับบัตโตไซ” แต่ในหนัง เราไม่รู้สึกถึงความคับแค้นใจอะไรเลย ซึ่งจุดนี้ ในหนังสือการ์ตูน หรือแม้แต่อนิเมก็ตาม ก็ยังหยิบจุดดังกล่าวมาเล่า แต่ด้วยความที่มีเวลาจำกัด ทำให้ต้องตัดทิ้งในส่วนนี้ และนั่น ก็พาลให้เรื่องราวของ “ตัวละครสมทบ” กลายเป็นจืดจางไปเลย
ตัวละครที่ “เคยเด่น”จากภาคก่อนๆ กลายเป็น “บรอนต์เซนต์” ที่มีหน้าที่ถ่วงเวลาให้เซย่าไปลุยกับเคียวโก ใน 12 ปราสาท ยังไง ยังงั้น ไม่มีอะไรให้พูดถึง หรือจดจำไปกว่า ฉากบู๊ที่ต้องร้องว่า “เหยดเข้ เท่จัด” นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆ แถมบางตัวปรับบทแบบ “หายจากจอไปเลยก็มี” ซึ่งน่าเสียดายมาก ภาคก่อนอย่างเข้มเลยแท้ๆ
ส่วนฉากบู๊ เอาตรงๆ “เราไม่รู้สึกว่าเอนิชิเก่งกาจอะไรมากนัก” (ชิชิโอในภาคเกียวโตหม้อไฟทะเลเพลิงอะไรนั่น ยังดูเก่งกว่านี้เยอะ) ในหนังสือการ์ตูน มีการโม้บรรยายสรรพคุณของเพลงดาบวาโตไว้จนแบบเหลือเชื่อ แต่ในภาพยนตร์ ปรับให้เรียลขึ้น แม้จะหลงเหลือความ”เบียว” เอาไว้บ้าง
แต่ก็ยังรู้สึกถึง “เสน่ห์ที่หายไป” ซึ่ง ส่งผลถึงบทสรุปเรื่องราวที่ต่างไปจากหนังสือการ์ตูนไปพอสมควร จุดนี้ จะมองว่าดีก็ได้ จะมองว่าผิดคาด ก็ได้เช่นกัน
ส่วนตัว อยากให้เพลงดาบวาโตมันโม้กว่านี้ เอาแบบแทงแก้วหูแตกอะไรแบบนั้นไปเลย
ส่วนงานภาพ หายห่วง สวยงาม แคปภาพกันสนุกเลย (ถ้าสายเสพงานภาพนิ่งมาเห็นล่ะนะ) เพราะภาพถ่ายมุมกว้างในเรื่อง หรือแม้แต่การจัดแสงเงา ลำดับภาพ ล้วนขายบรรยากาศย้อนยุคที่เก็บดีเทลเล็กๆน้อยๆได้จนเราเชื่อว่าเขานั่งไทม์แมชชีนไปถ่ายทำในยุคนั้นจริงๆ ทีมงานทำพร๊อพ คือเก่งมากๆ และก็ใช้พร๊อพสิ้นเปลืองด้วยเช่นกัน
เสียงพากย์ไทย ตอนแรกหวั่นใจ ไปๆมาๆ เอ้า ดีจัดๆ ดูเล่นสนุกกับบทน้อยลง ซื่อตรงต่อต้นฉบับมากขึ้น และแคสเสียงคุณภาพมากๆ ไม่ใช่ของเดิมไม่ดี แต่เวอร์ชั่นนี้ ดูเรียล หนักแน่น ไม่มีมุกแทรกเล่นเอาสนุก และดึงฟิลเข้มๆให้ไปกับตัวภาพยนตร์จริงๆ แม้ว่าเสียงพากย์กว่า 80% จะใช้เสียงชุดเดิมก็ตาม
สรุปไม่มีอะไรมากไปกว่า “ถ้าคุณเป็นแฟนคลับเคนชิน คุณต้องดู!” แค่นั้นจริงๆ
ที่หัก 1 คะแนน เพราะเอาซาโนะ ตัวละครสุดเท่ มาเป็นกระสอบทราย เอาซะเละเป็นขรี้เลย แง่งงงงง 555+
อ่านสปอยล์เวอร์ชั่นมังงะจัดเต็มได้ ในลิ้งก์ คลิก
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
10 อาวุธดีไซน์สุดแนวในซามูไรพเนจร
Rurouni Kenshin Ibun: Ashitarou Zenka Ari [เรื่องย่อ / ตัวละคร / ซามูไรพเนจร]
25 ท่าไม้ตายจากการ์ตูนจั๊มป์สุดเจ๋งในความทรงจำ
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console