รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง
ผู้กำกับ : เคอิจิ โอโทโมะ
นำแสดง : ทาเครุ ซาโต้ , เอมิ ทาเคอิ , ยู อาโออิ , เทรุยูกิ ทากาว่า
เขียนบท : คิโยมิ ฟูจิอิ (ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูน “ซามูไรพเนจร”ของ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ)
อำนวยการ : โอซามุ คุโบตะ
ผลิตโดย : Warner Bros., Amuse, Shueisha
ถือลิขสิทธิ์โดย : MONGKOL CINEMA
วันที่ฉาย : 2 ตุลาคม 2014
จากหนังสือการตูนเรื่องดัง จนกลายเป็นเวอร์ชั่นภาพยนต์ปี 2012 และประสปความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาแล้ว กับ “เคนชิน ซามูไร X” หรือชื่อที่คอการ์ตูนทุกท่านรู้จักกันดี กับ “ซามูไรพเนจร” ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์เสียงชื่นชมล้นหลามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สำหรับหนังที่มาจากการ์ตูนเรื่องนี้
และวันนี้ ภาคต่อของหนังซามูไรสุดดราม่าภาพสวย ก็กลับมาอีกครั้ง แถมคราวนี้มาทีเดียวสองภาคติดๆกันเลย กับ “รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง” หรือ “ซามูไรพเนจร ภาคชิชิโอ” นั่นเอง
เรื่องย่อ
เนื้อเรื่องของหนังในภาคนี้ จะอิงตาม “ซามูไรพเนจร : บทชิชิโอ” หลังจากจบเรื่องราวของอุโด้ จินเอ มือสังหารปลอมที่ออกอาละวาดหลายเดือนก่อน “ฮิมุระ เคนชิน” ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่โรงฝึกดาบกับ “คามิยะ คาโอรุ” จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ลอบสังหาร “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยฝีมือของ “ดาบสวรรค์” เซตะ โซจิโร่ ที่ต่อมา เคนชินได้ทราบความจริงว่า โซจิโร่ ได้ทำงานให้กับ “ชิชิโอ มาโคโตะ” มือสังหารรุ่นน้อง ที่รับงานต่อจากเขาในสมัยสงครามโทบะฟุชิมิ แต่ว่าการที่ชิชิโอได้ล่วงรู้ความสกปรกของรัฐบาลใหม่ ทำให้เขาถูกลอบสังหาร และถูกเผาไฟในที่สุด แต่ก็รอดชีวิตออกมาได้
“ชิชิโอ มาโคโตะ” และลูกสมุนยอดฝีมือขั้นเทพ “กลุ่มจุปปงคาตานะ” (สิบดาบมรณะ) ที่มีแผนจะเผาเกียวโต และยึดญี่ปุ่นเป็นของตัวเอง!!
ชิชิโอจึงเจ็บแค้นที่รัฐบาลทำกับเขาอย่างนั้น จึงออกรวบรวมพรรคพวก ก่อการปฏิวัติญี่ปุ่นด้วยการเผาเมืองเกียวโต อันเป้นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในเวลานั้นให้ได้… แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการของชิชิโอ และการจะเอาชนะสุดยอดมือสังหารได้ เคนชินต้องกลับไปเป้นมือสังหารอีกครั้ง!?…
ตัวละครสำคัญในภาคนี้
ฮิมุระ เคนชิน (แสดงโดย ซาโต้ ทาเครุ)
อดีตซามูไรมือสังหารของคณะปฏิวัติ (ที่หน้าเด็กกว่าอายุจริงในเรื่อง) ที่ได้วางมือแล้วออกพเนจรร่อนเร่ไปเรื่อย ในยุคที่เข้าสู่การเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยตามแบบตะวันตก หลังจากที่ใช้ชีวิตในสำนักดาบคามิยะแล้ว เขาก็ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน ดูแลคาโอรุ และทุกคนในชุมชนเล็กๆ
จนกระทั่งการกลับมาของชิชิโอ มาโคโตะ ซามูไรรุ่นน้อง ที่พกความแค้นหมายจะทำลายญี่ปุ่นให้ย่อยยับ ทำให้เคนชินต้องจับดาบ เพื่อปกป้องผู้คนอีกครั้ง…
คามิยะ คาโอรุ (แสดงโดย เอมิ ทาเคอิ)
สาวน้อยเจ้าของโรงฝึกดาบคามิยะ ที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนตาย ได้พบเจอกับคนพเนจรอย่างเคนชิน และหลังจากที่ได้ผ่านเรื่องร้ายๆอย่างเหตุการณ์ “บัตโตไซตัวปลอม” ออกอาละวาด เธอกับเคนชินก็ใช้ชีวิตในโรงฝึกดาบอย่างมีความสุขในทุกๆวัน
แต่วันหนึ่ง เคนชินต้องจากเธอไปทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้คาโอรุกลัวว่า “เคนชินจะไปเป็นมือสังหาร และ ไม่สามารถกลับไปเป็นคนพเนจรที่เธอรู้จักอีกต่อไป”…
ชิชิโอ มาโคโตะ (แสดงโดย ฟุจิวาระ ทัตซึยะ)
มือสังหารสมัยปฏิวัติ ที่รับงานต่อจากเคนชิน แต่ดันรู้ความลับของงานสกปรกของกลุ่มมากเกินไป จึงถูกฆ่าและเผาทำลายศพ แต่เดชะบุญรอดมาได้ แต่ก็ต้องอยู่ในสภาพมัมมีตลอดชีวิต จึงอยากแก้แค้นด้วยการใช้ไฟเผาเกียวโตให้วอดวาย และเริ่มแผนการครองประเทศต่อไป
ชิชิโอ มีเพลงดาบ “เพลิงมนุษย์” ที่ในหนังสือทำออกมาได้น่ากลัว แต่ในหนังจะมีให้เห็นหรือไม่ ต้องติดตาม
เซตะ โซจิโร่ (แสดงโดย คามิกิ ริวโนะสุเกะ)
เซตะ โซจิโร่ ฉายา “ดาบสวรรค์ โซจิโร่” เป็นเด็กหนุ่มยอดฝีมือหนึ่งในจุปปงคาตานะ ที่ชิชิโอฝึกมาเองกับมือ และมักจะเหน็บไปไหนมาไหนด้วยเสมอ เป็นคนที่ไม่มีอารมณ์โกรธ หรือยินดียินร้ายอะไรนัก เพราะถูกฝึกให้ลบ “อารมณ์” และ “จิตสังหาร” ออกไปจากตัว ทำให้เคนชินไม่สามารถเดาทางดาบของโซจิโร่ได้เลย อีกทั้งยังมีฝีเท้าที่ว่องไว เร็วในระดับ “ไม่ทิ้งเงาให้เห็น” เลยก็ว่าได้
ฮิโกะ เซจูโร่ (แสดงโดย ฟุคุยาม่า มาซาฮารุ)
ฮิโกะ เซจูโร่ อาจารย์ดาบที่สอนเคนชินมากับมือ ตามท้องเรื่อง เซจูโร่ จะมีอายุราวๆ 50ปลายๆแล้ว แต่หน้าตาเหมือนคนเพิ่งจะอายุ30 ต้นๆ (คนฝึกเพลงดาบล่องนภา หน้าจะไม่แก่) เป็นสุดยอดของสุดยอดฝีมือในเชิงดาบ ที่อยู่ในขั้น “แสวงพ่าย” คือไม่เคยแพ้ใครนั่นเอง คราวนี้ เขาจะมาช่วยเคนชิน หรือจะมาสั่งสอนวิชาใหม่ให้ อันนี้น่าติดตามเช่นกัน
ชิโนโมริ อาโอชิ (แสดงโดย อิเซยะ ยูสุเกะ)
ชิโนโมริ อาโอชิ หัวหน้ากลุ่ม “โอนิวาบัง” ชายผู้ต้องการสังหารบัตโตไซ เพื่อให้ได้คำว่าสุดยอดมาประดับหลุมศพเพื่อน อาวุธที่อาโอชิใช้คือ “ดาบสั้นคู่โคดาจิ” มีท่าไม้ตาย “ระบำหกดาบผ่านสวรรค์” ที่มีความเร็วสูงจนน่าตกใจ
มาจิมากิ มิซาโอะ (แสดงโดย ซึจิยะ ทาโอะ)
มิซาโอะ เป็นโอนิวาบังสาวน้อยที่รักและนับถืออาโอชิมาก นิสัยออกแก่นๆไปทางเด็กผู้ชายมากกว่า เธอร่วมทางไปกับเคนชิน เพื่อตามหาอาโอชิ ที่หายสาปสูญไป…
ไซโต ฮาจิเมะ(แสดงโดย เองุจิ โยสุเกะ)
ไซโต ฮาจิเมะ อดีตหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกองที่สาม ปัจจุบันใช้ชื่อว่า “ฟูจิตะ โกโร่” มีอาชีพตำรวจสันติบาล รักความยุติธรรมเข้าเส้น จึงทำงานให้กับเสนาบดีมหาดไทยโอคุโบ โทชิมิจิ ผู้ล่วงรู้ถึงแผนการของชิชิโอ และยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของเคนชินอีกคนในการต่อสู้กับชิชิโอ
ส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์ คงจะหนีไม่พ้นตัว “เคนชิน” ที่ทั้งเท่ และ น่ารักน่าหยิกของสาวๆ วันนี้เลยเอาประวัติสั้นๆมาให้อ่านกันครบ กับนักแสดงอัจฉริยะที่ชื่อว่า…
“ซาโต้ ทาเครุ”
“มาสก์ไรเดอร์ เดนโอ” คือบทบาทแจ้งเกิดของผู้ชายคนนี้โดยแท้จริง
ซาโต้ ทาเครุ เริ่มงานแสดงในปี 2007 กับบทของ “โนงามิ เรียวทาโร่” ชายหนุ่มดวงซวยที่ถูกเหล่ามอนสเตอร์แห่งกาลเวลาเข้าสิง จนแปลงร่างเป็นไรเดอร์เพื่อปกป้องกาลเวลา ถือเป็นงานแจ้งเกิดใน Kamen Rider Den-O หลังจากดังเป็นพลุแตกด้วยลีลาการแสดงที่เรียกได้ว่า “แนบเนียน” และ “เข้าถึงในบทบาทที่ได้รับ” ทำให้ทาเครุ ได้โลดแล่นในวงการบันเทิงญี่ปุ่น
ด้วยผลงานละครมากมายเช่น
Rookies (2008) / Bloody Monday (2008) / Mei-chan no Shitsuji (2009) / Ryomaden (2010) และผลงานภาพยนต์เรื่อง Beck (2010)
หน้าละอ่อนแบบนี้ ถูกในแม่ยกสาวน้อย สาวใหญ่ กันเลยทีเดียว…
ในปี 2011 ทาเครุยังได้รางวัล Elan d’Or Award ในสาขานักแสดงหน้าใหม่ และหลังจากนั้น เขาก็ยังได้รับบท และงานโชว์อีเว้นท์ต่างๆ รวมไปถึงละครเวทีเรื่อง Romeo and Juliet (2012) ก่อนที่จะมารับบท “ฮิมุระ เคนชิน” ซามูไรจรจัด ที่เป็นถึงอดีตมือสังหารในคณะปฏิวัติญี่ปุ่น เป็นบทที่เจ้าตัวบอกไว้ว่า เป็น “บทสุดท้าทายในชีวิตการแสดง” กับ Rurouni Kenshin (2012) ที่ทำให้ทาเครุ ต้องไปเรียนวิชาการฟันดาบจริงๆ และฉากแอคชั่นในหนังเคนชิน ทาเครุเป็นผู้แสดงเองทั้งหมด โดยไม่ใช้แสตนอินเลยแม้แต่ฉากเดียว!!
และนี่คือบทสัมภาษณ์ “เปิดใจ ซาโต้ ทาเครุ” ที่พูดถึงหนังเรื่องนี้ แอดมินเลยเอามาฝากกันครับ Click
ช่วยเล่าถึงความรู้สึกโดยรวมตอนที่ถ่ายทำ “รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง” ทั้งสองภาคหน่อยครับ!?
ซาโต้ : มันยอดเยี่ยมมากๆครับ ผมคิดว่าตอนถ่ายทำนั้น เราอยู่ในสภาพแวดล้อม และอากาศที่ดี ซึ่งไม่ได้มีบ่อยๆนัก สำหรักการถ่ายทำหนังซํกเรื่องนึง ซึ่งมีไม่บ่อยนัก
สภาพแวดล้อมที่คุณซาโต้ว่ามา มันเป็นยังไงเหรอครับ?
ซาโต้ : คือจะว่าไงล่ะ ทีมสร้างภาพยนต์ได้สร้างฉากสุดอลังการตามแบบภาพร่างที่ได้นั่งวาดกันนานนับเดือน รวมไปถึงเสื้อผ้าที่ออกแบบมาได้สมจริง แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของ “ซามูไรพเนจร” ของ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ด้วยครับ ซึ่งนั่นเป้นการเตรียมงานที่หนักมาก และรัดกุมสุดๆเลยล่ะครับ เพราะงบในการสร้างภาพยนต์ในญี่ปุ่นนั้น ถูกจำกัดแบบเป๊ะๆ และไม่สามารถ “งอก” ออกจากที่กำหนดได้เลย ทีมสร้างจึงต้องทำทุกอย่างให้งานออกมาดีที่สุด แต่คุณโอโทโมะ (ผู้กำกับ) กลับบอกว่า “อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ” ในสถาณการณ์อย่างนั้นน่ะ คุณโอโทโมะกลับปล่อยให้นักแสดง ทีมงาน ไปหาวิธีรับมือเฉพาะหน้า ที่ทำแล้วเข้ากับสถาณการณ์ ซึ่งมันทำให้ความกดดันลดลงไปเยอะเลยล่ะครับ(ยิ้ม)
แล้วตอนที่คุณแสดงเป็น “ฮิมุระ เคนชิน” ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ครับ?
ซาโต้ : เหมือนกับภาคก่อนนั่นละครับ คือผมต้องบอกตัวเองเสมอว่า “ฉันคือ ฮิมุระ เคนชิน นะ” และ “ฉันต้องทำให้สมกับที่เป็นอดีตมือสังหารผู้ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง” และที่เหลือ ก็ปล่อยให้สถาณการณ์พาไปครับ ซึ่งบางทีผมก็ “ด้นสด”ลงไปในบทด้วย ขอโทษนะครับ คุณโอโทโมะ (หัวเราะ)
ในมุมมองของคุณซาโต้ อะไรคือไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ครับ!?
ซาโต้ : ตอบยากนะครับเนี่ย ส่วนตัวแล้ว การเล่นหนังเรื่องนี้ เหมือนผมกำลังอยู่ใน “คอร์สลดน้ำหนัก” เลยละครับ(หัวเราะ) เพราะมีฉากที่ใช้พลังเยอะมาก ทั้งการวิ่ง กระโดด แอคชั่นที่หนักกว่าภาคแรก และแทบจะไม่มีการสั่งคัท ทุกอย่างเป็นแบบการถ่ายทำยาวๆในการออกบู๊ในแต่ละรอบ และพอสั่งคัทปุ๊ป ตัวผมก็เป็นเหมือน “เยลลี่”เลย ทรุดฮวบเพราะหมดแรงจริงๆ (หัวเราะ) และถือว่า เป็นการเล่นหนังแอคชั่นที่ผมกล้าบอกเลยว่า ผมทุ่มเทสุดชีวิตจริงๆครับ (ยิ้ม)
“ฉากวิ่งสุดแรงเกิดของ เคนชิน และ ดาบสวรรค์โซจิโร่ ที่ทำเอาสองนักแสดง หอบรับประทานกันเลยทีเดียว”
ฉากแอคชั่นคือส่วนที่ดีที่สุดสินะ??
ซาโต้ : ตัวของเคนชินเอง ก็มีบทพูดที่คมๆหลายคำที่ออกมาจากปากของเขา ตามสไตล์คนที่ผ่านโลกมาเยอะ ใครที่อ่านการ์ตูนมาก่อนจะทราบดีครับ ผมชอบมุมมองหลายๆอย่างของเขา ประมาณว่าต่อให้เขาเจอกับศัตรู หรือมิตรสหายของเขา คำพูดต่างๆที่เคนชินมอบให้จะเต็มไปด้วยความสุภาพ ถ่อมตน นำมาก่อนเสมอ แต่แข็งกร้าวดุดันเมื่อจำเป็นต้องปกป้อง”สิ่งสำคัญในชีวิต” ของเขาครับ…ดังนั้น บทสนทนาเอง ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันครับ
ระหว่างตอนเป็น “มือพิฆาติบัตโตไซ” กับตอนเป็น “ฮิมุระ เคนชิน” คนพเนจร คุณซาโต้แยกบุคลิกของสองคนนี้ได้ยังไง? มันเป็นบทที่ยากมากๆเลยนะ!
ซาโต้ : วันนี้เจอแต่คำถามยากๆนะครับ (ยิ้ม) มันก็เป็นการแสดงที่รับมือได้ยากมากเหมือนกันครับ ในหนังภาคแรก มันค่อนข้างง่ายนะ เพราะผมพยายามแสดงออกด้วยคำว่า “เอ๋!?” (คำว่า Oro?ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งนั่นจะเป็นเคนชิน คนจรผู้อ่อนโยนครับ
ส่วนตอนที่เคนชินต้องเอาจริงนั้น สถาณการณ์ต่างๆ ก็มีส่วนช่วยให้เขาต้องเอาจริงเหมือนกัน แต่ในภาคนี้มีหลายต่อหลายครั้ง ที่แม้แต่ผมเอง ก็ยังไม่เข้าใจความคิดของเคนชินในตอนที่ต้องเป็นมือพิฆาติบัตโตไซเลย เพราะความคิด บุคลิกของเคนชินนั้นเป็นคนที่ผ่านอะไรมามากมาย ทั้งความเศร้า ความสูญเสียที่ถาโถมใส่เขา จากเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน ทำให้ตัวเคนชินนั้นมีสเน่ห์เพราะความซับซ้อนในแบบของเขานั่นเอง…
ถึงในจอ จะเป็นศัตรูกัน แต่นอกจอ สองคนนี้ สนิทกันมาก…เอ้าแม่ยก ฟินไป!!
ในภาค “โตเกียวทะเลเพลิง” เคนชินต้องเจอกับ “โจ นักล่าดาบ” ตัวร้ายจากกลุ่ม จุปปงคาตานะ (สิบดาบมรณะ)ที่เอาดาบสลับคมเล่มใหม่มามอบให้ หลังจากที่พ่ายแพ้ต่อดาบสวรรค์โซจิโร่ เคนชินเองก็ลังเลที่จะใช้มัน และในมือคุณสั่นเพราะกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมว่าเป็นการแสดงที่เจ๋งมากๆเลยนะ!
ซาโต้ : ขอบคุณและยินดีมากๆครับ มันเป็นซีนที่อุดมไปด้วยบทสนทนามากมาย และเต็มไปด้วยสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากๆครับ ในซีนนั้น ถึงแม้ว่าเคนชินจะได้รับดาบสลับคมเล่มใหม่มา แต่ความตั้งใจที่จะปกป้องสิ่งสำคัญของเขา ยังคงแน่วแน่ และไม่ได้ถูกทำลายไป ผมได้คุยกับคุณโอโทโมะหลายๆครั้งเพื่อให้ซีนนี้ออกมาดีที่สุด ในซีนนั้น ผมกำลังคิดว่า จะทำยังไงให้คนดูรู้ว่า “ตอนนี้เคนชินได้กลับไปเป็นมือสังหารอีกครั้งแล้วนะ” ผมจึงทำให้ตัวละครนี้ แสดงความเศร้าผ่านทางแววตา สีหน้าที่จริงจังขึ้น ด้วย “เพลงดาบล่องนภา” ที่เป็นสุดยอดเพลงดาบสังหาร แต่ดาบที่เคนชินใช้ยังคงเป็นดาบสลับคม ที่ไม่อาจเอาชีวิตใครได้ มันเป็นความขัดแย้งและสับสนในตัวเองอยู่พอสมควร
“โจ นักล่าดาบ” หนึ่งในสีสันของเรื่องนี้ ที่ขาดไม่ได้!!
เพียงเสี้ยววินาทีที่เคนชินลืมตัวตนที่รักสงบ และหันกลับเข้าไปสู่การเป็นมือสังหาร แต่ก็ต้องกลับไปคิดถึงตอนที่คาโอรุได้เสี่ยงชีวิตเพื่อไม่ให้เขากลับไปเป็นแบบนั้น ซึ่งทำให้เขาลังเลมากๆ ที่จะปกป้องคนนับล้าน ด้วยการเป็นมือสังหาร เพื่อจบเรื่องราวนี้ แลกกับรอยยิ้มคนสำคัญของเขา ที่อาจจะไม่มีวันได้เห็นอีกเลย นับว่าเป็นความกดดันมากๆ ซึ่งถ้าคุณชอบซีนนี้จริงๆ ผมก็มีความสุขมากๆเลยล่ะครับ
รู้มั้ย? ว่าฉากที่ “เคนชินกอดท่านคาโอรุเพื่อกล่าวคำลา” จนเคนชินต้องกลับไปสู่วิถีของมือสังหารเพื่อสะสางเรื่องของชิชิโอ แฟนๆที่ได้ชมเทรลเลอร์นี้พากันน้ำตาตก ปนอิจฉาคุณเอมิเลยล่ะ
ซาโต้ : งั้นผมจะไปกอดแฟนๆทุกคนเลยดีมั้ยนะ (หัวเราะ) คืองี้ครับ ในสคริปต์ทั้งหมดที่เขียนมานั้น ได้กำหนดว่า มันเป็นฉากแสดงให้เห็นว่าเขาเสียใจแค่ไหน ที่ต้องกลับไปสังหารคน (ชิชิโอ) อีกครั้ง เป็นซีนที่ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ เพราะทีมช่างภาพ ผู้กำกับ และทีมงานได้ทำให้ซีนนี้เป็นซีนที่ประทับใจคนดู ถึงแม้ว่าจะเป้นซีนที่เศร้า และดราม่ามากๆก็ตาม
ซีนนี้ ทำเอาแม่ยก “ละลาย” พอๆกับความอิจฉาท่านคาโอรุในเวลาเดียวกัน
ไหนๆก็มาคุยแล้ว เลยอยากจะถามซักนิดครับ ส่วนตัวแล้วคุณซาโต้ชอบท่าไม้ตายไหนของเคนชินมากที่สุดครับ?
ซาโต้ : “เพลงดาบล่องนภา นาคาอสุนีบาตทะยานฟ้า” ครับ
ท่าไม้ตายสุดยอดเลยนะน่ะ!?
ซาโต้ : ครับ(ยิ้ม) เพราะเป็นท่าที่ในหนังสือ หรือ อนิเมทำออกมาไม่เคลียร์ครับ พอมาเป้นหนังที่คนแสดงจริงๆ จึงต้องมีการออกแบบใหม่ โดยไม่เสียความเป็นเพลงดาบล่องนภา เป็นโจทย์ที่ยากมากๆครับ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ยังไง ก็อย่าลองฝึกด้วยตัวเองที่บ้านนะครับ…
เอมิ ทาเคอิ / ซาโต้ ทาเครุ / ฟุจิวาระ ทัตสึยะ สามนักแสดงนำในเรื่อง กับหนังรอบพิเศษในญี่ปุ่น
สุดท้าย มีอะไรอยากบอกแฟนๆหนังเรื่องนี้มั้ย!?
ซาโต้ : ถ้าคุณเป็นแฟนการ์ตูน “ซามูไรพเนจร” และงานของ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ก็ไม่ควรพลาดครับ ตัวผม คุณเอมิ คุณฟุจิวาระ ทีมงานทุกคนล้วนตั้งใจอยากให้หนังออกมาสนุก สมจริงที่สุด ขอฝากด้วยนะครับ!
เยี่ยมชมเวปไซท์หลักของพระเอกคนนี้ได้ที่ http://www.satohtakeru.com/
ขนาดอ.วาสึกิ ผู้วาดการ์ตูนเรื่องนี้ ยังออกปากชม แล้วเราๆท่านๆจะไม่ไปดูเชียวหรือ??
และหลังจากที่แอดมินไปดูมาแล้ว ขอสรุปว่า
ตัวหนังความยาวสองชั่วโมงนิดๆ ทำให้ตอนแรกคิดเลยว่า หนังมาแนวเอื่อยๆแบบภาคแรกแน่ๆ แต่ทันทีที่เข้าไปในโรง ตัวหนังมีจุดนำเสนอที่ทำให้คนดูไม่รู้สึกเบื่อ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิทให้ “ทีมพากย์พันธมิตร” ที่หลายๆคนพากันไม่ปลื้มเพราะ “ชอบพากย์นอกเรื่อง” แต่สำหรับแอดมินแล้ว เป็นการทำให้หนังยาวๆ ดูไม่น่าเบื่อนะ เพราะบทที่นอกเรื่อง หรือเล่นมุกจริงๆมักจะเป็นบทสนทนาที่ไม่สำคัญ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้หนังดูเลอะเทอะเท่าไหร่ แถมยังแสดงความเกรี้ยวกราดแบบเกรียนๆของ “ซาโนะ” ออกมาได้สนุก ฮา และน่าถีบมากๆครับ
ตัวหนัง มีเสกลที่ใหญ่กว่าภาคแรกอย่างมาก สังเกตุจากฉาก และ สถานที่ รวมไปถึง พร๊อพที่ใช้ ดูเยอะ และ รกหูรกตามากขึ้นสำหรับบางฉาก แต่กลับทำให้ภาพสวยตามแบบหนังภาคแรกครับ
อีกส่วนที่ต้องออกปากชมคือ “มุมกล้อง” ที่ใส่ลงไปในฉากแอคชั่น ที่เดิมที แอคชั่นของนักแสดง ก็ว่ารวดเร็วมากๆแล้ว พอบวกกับมุมกล้องที่หามุมสวยๆถ่ายทอดฉากแอคชั่นดวลดาบที่ตื่นเต้น เร้าใจมากๆ และในภาคนี้ ก็มีเยอะซะด้วย เรียกได้ว่า ตลอด2ชม. ผู้ชมจะสนุกไปกับการดวลดาบ และความโกลาหลในเรื่องได้แบบชัดๆ ไม่เวียนหัวเท่าหนังฮอลลีวู้ดบางเรื่อง ที่เอารถและหุ่นยนต์มาเข้าฉาก แต่ดูไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร (ฮ่าๆ)
ข้อเสียของเรื่องนี้ มีอยู่นิดนึง อย่างว่า “ไม่มีงานศิลปะชิ้นใดไร้ตำหนิ” ตัวหนังซามูไรคนจรในภาคนี้ มีปัญหาเรื่องการเขียนบทพอสมควร จุดไหนควรเล่า เพื่อขยายความกลับไม่ทำ จุดไหนควรกระชับให้เรื่องไปต่อ กลับขยายความให้เสียเวลาซะงั้นไป ถึงนั่นจะบอกว่า “เป็นการเคารพต้นฉบับ” ก็ตาม แต่น่าจะมีวิธินำเสนอที่กระชับ และได้ใจความกว่าที่เป็น แต่ถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนแล้ว เคนชินบนจอเงิน ถือว่าเล่าเรื่องได้เร็วมาก
อีกจุดที่ต้องติ คือ ความน่าเกรงขามของความเป็น “บอสใหญ่”ของชิชิโอ กลับดูธรรมดามากๆ พอๆกับ “จุปปงคาตานะ” ที่เปิดตัวได้จืดจาง และยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร…สรุปคือ บทของแต่ละตัวละครที่ทำออกมาได้ “กระจายไม่เท่ากัน” มันทำให้เรารู้สึกงงๆว่า “เฮ้ย เอ็งหายไปไหนตั้งเกือบชม.กว่าจะเข้าฉากมาได้” ตัวละครหลายๆตัวที่ควรจะเด่น กลับดูธรรมดามากๆในภาคนี้ และ “ความเฉลียวฉลาดของตัวละครบางตัว” ที่ทึ่ม โง่ จนไม่เหลือเค้าโครงความเท่ของต้นฉบับ แถมบทบาทที่ได้รับในภาคนี้ จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ซะงั้นไป…
ซึ่งจุดที่ติมาทั้งหมดนี้ แอดมินหว้งไว้ว่า จะถูกทำออกมาเคลียร์ ในภาคที่สาม ที่เป็นภาคจบของเรื่องนี้…พูดง่ายๆ “ทีมงานกั๊กไว้ ปล่อยของกันในภาค3″นั่นเองครับ!!
Movie Rank A 9/10
ข้อดี : หนังภาพสวย / เพลงประกอบเพราะ / ฉากแอคชั่นสนุกเร้าใจ / เดินเรื่องไม่น่าเบื่อ / พันธมิตร พากย์ช่วยเบรคความยืดยาว น่าเบื่อของหนังได้ดีมากๆ / ซาโนะ เกรียนโคตรๆ ในภาคนี้
ข้อเสีย : บทคัวละครกระจายไม่เท่ากัน / ตัวร้ายดูเหมือนร้ายแบบกลวงๆ / เดินเรื่องแปลกๆ ส่วนที่ควรพูดถึงเยอะๆ กลับตัด ส่วนไหนควรตัด กลับยืดยาวซะงั้น / จุปปงคาตานะ บทจืดจางมาก / ทุกอย่างในเรื่อง เหมือนแทงกั๊กไว้ ไปปล่อยของกันในภาค 3 / พันธมิตรพากย์ ช่วยเบรคความจริงจังของหนัง จนกลายเป็นหนังตลกไปในหลายๆช่วง
เป็นหนังแอคชั่นซามูไร ที่ดูสนุก ได้ทุกเพศทุกวัย เหมาะแก่การพาคนในครอบครัวไปชมเป็นอย่างยิ่งครับ!!
By Admin Ak Fourtyseven
Trailer
การฝึกวิชาดาบของซาโต้ ทาเครุ เพื่อรับบทเคนชิน
เบื้องหลัง
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console