โรฮังกับความลับของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์

Director : Kazutaka Watanabe
Writers : Hirohiko Araki / Yasuko Kobayashi

กำหนดฉายไทย 28 กันยายน 2023

จากการปรากฎตัวใน โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ  สู่หนังเดี่ยวของตัวเอง นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ความดัง และเป็นที่นิยมของตัวละคร คิชิเบะ โรฮัง

พร้อมผนึกกำลังจาก ผู้กำกับและเขียนบทโดยทีมงานเดิมจากฉบับทีวีซีรีส์

การเดินทางครั้งใหม่ของ “โรฮัง” ได้เริ่มต้นอีกครั้งแล้ว

Rohan au Louvre (岸辺露伴 ルーヴルへ行くคิชิเบะ โรฮัง ลูฟวร์  เอ อิคุ) “โรฮังกับความลับของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์” เป็นการ์ตูนเรื่องสั้น ที่วาดโดยอ.ฮิโรฮิโกะ อารากิ  และดัดแปลงเป็น Live Action เข้าฉายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2023 ภาพยนตร์เรื่องนี้ขายตั๋วได้ 221,000 ใบในสามวันแรก และทำรายได้ 315 ล้านเยน (ประมาณ 2.26 ล้านเหรียญสหรัฐ) 

คิชิเบะ โรฮัง นักวาดการ์ตูนที่มีความสามารถพิเศษ ครั้งหนึ่งในสมัยที่เขาเพิ่งมีผลงานตีพิมพ์ลงนิตยสาร เขาเคยได้ยินตำนานเรื่องภาพวาดอาถรรพ์จากผู้หญิงที่เขาแอบชอบในตอนนั้น มันไม่ใช่เพียงแค่ภาพที่มี “สีดำ” ที่มืดที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพเขียนต้องคำสาป ผู้ที่ได้ชมมัน ล้วนมีอันเป็นไป

ภาพวาดที่ว่า มีอายุถึง 250 ปีต้องสาปโดยใช้หมึกสีดำที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก มันทำจากยางต้นไม้อายุ 1,000 ปีที่จิตรกรชาวญี่ปุ่น ได้โค่นลงมาโดยไม่ได้รับอนุมัติจากทางการ และจิตรกรคนนั้น ก็เก็บความโกรธแค้นไปลงที่ภาพวาด

เวลาผ่านไป 250 ปี ภาพวาดอาถรรพ์ ก็เหลือรอดจากการถูกทำลายโดยภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เรื่องนี้ ศิลปินอย่างโรฮังเอง ก็เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็หลงลืมไป

แต่หลายสิบปีต่อมา เมื่อไปเยือนปารีส เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่  เขาก็ใช้โอกาสนี้ลองค้นหาภาพวาดนั้น เขาไม่รู้ว่าคำสาปของมันมีพลังรุนแรงเพียงใด แต่โรฮังรู้แค่ว่าภาพวาดนี้จะถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เขาจึงไปเยือนเพื่อเติมเต็มความปรารถนานี้

น่าแปลกที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ก็ไม่รู้ว่าภาพวาดสีดำมีอยู่จริง และตำแหน่งที่เก็บในฐานข้อมูลคือโกดัง Z-13 ซึ่งเป็นโกดังใต้ดินที่ควรจะว่างเปล่าที่นั่น โรฮังต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อันน่าสยดสยองที่เกิดจากภาพวาดสีดำ

ทาคาฮาชิ อิซเซย์ กลับมารับบท คิชิเบะ โรฮัง  

อิโตโยะ มาริเอะ กลับมารับบท อิสุมิ เคียวกะ บรรณาธิการของโรฮัง

นากาโอะ เคนโตะ  รับบทเป็นโรฮังวัยเด็ก

REVIEW

จากการ์ตูนโจโจ้ที่เน้นแอคชั่น+ไฮแฟชั่น สู่การตีความให้ออกมาเป็นแนวสืบสวน เขย่าขวัญได้ในสไตล์ของ คิชิเบะ โรฮัง 

เอาจริงๆ จากที่ดูตั้งแต่นาทีแรก จนถึงนาทีสุดท้าย ถือว่าเป็นหนังที่เน้นหนักไปที่ความละเมียดในการเล่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไปอย่างช้าๆ คล้ายๆกับการ์ตูนโจโจ้ยุคหลังๆ ที่ไม่ค่อยเน้นบู๊อะไรมากมาย เน้นการเล่าทีละปม แก้ทีละเรื่อง

แต่หนังเลือกที่จะไม่เล่าอะไรให้คนที่ไม่เคยดูโจโจ้ หรือรู้จักตัว คิชิเบะ โรฮัง ได้เข้าใจถึงความสามารถ นิสัยใจคอมากนัก เอาไปให้คนดูสังเกตเอาเองว่า ตัวละครนี้ ทำไมถึงคิดอะไรแบบนั้น หรือทำไมถึงทำอย่างนั้น ทำไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร…คนที่ไม่อ่านโจโจ้มาดู ก็งงนิดหน่อย ยังดีต้นเรื่องมีการแนะนำพลัง ความสามารถเล็กๆน้อยๆพอจับทางได้บ้าง

การมอบภาพสวยๆของโลเคชั่นหลักอย่าง ฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น คือดีงามมากๆ อันนี้ชมทีมงานว่า เข้าใจเลือกโลเคชั่นดีนะ และผู้ทำหน้าที่ DP ของเรื่อง ที่กำหนดซีนภาพให้ออกมาสวยงามเหมือนภาพถ่าย

ในหลายๆซีน ที่ ทาคาฮาชิ อิซเซย์  แสดงเป็น คิชิเบะ โรฮัง คือถ่ายทำออกมาเท่มาก ดูมีความ Noir  ลึกลับ และเดาอะไรไม่ได้  และดูไม่เบียวจนตลก ซึ่งจากการ์ตูน สู่การเป็นคนจริงๆที่จับต้องได้ ไม่ได้แอ็คพร่ำเพรื่อ ดูแล้ว Cringe แบบหนังจากการ์ตูนหลายๆเรื่องชอบทำกัน

น่าเสียดายที่ พลังสแตนด์ อันเป็นจุดเด่นหลักของการ์ตูนชุด โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ออกมาน้อยไปนิด อาจเป็นเพราะพลังของ “เฮฟเว่นส์ ดอร์” ไม่ได้เอื้อในการต่อสู้ แบบสแตนของ โจสุเกะ หรือตัวอื่นๆ

ดังนั้น พลังของเฮฟเว่นส์ ดอร์ ที่โรฮังใช้ในเรื่องนี้ จะเป็นเหมือน “กุญแจ” ไขความลับของผู้คนเสียมากกว่า แล้วใช้พลังความปะติดปะต่อเนื้อเรื่อง แบบไอเดียนักเขียนการ์ตูนของโรฮังลงไป เลยทำให้หนังเรื่องนี้ กลายเป็นหนังแนวสืบสวน สอบสวน พ่วงความอาถรรพ์ในสไตล์ญี่ปุ่นไปเลย ซึ่งส่วนตัวมองว่า มาถูกทางแล้ว และจักรวาลคิชิเบะ โรฮัง คงมีช่องให้ทำมาหากินได้อีกเยอะ หากยึดแนวทางนี้ต่อไป และตัวนักแสดงไม่เบื่อไปซะก่อน 

สรุป เป็นหนังที่คุณต้องใส่ใจในการรับชมอย่างมาก ไม่ใช่หนังดูเอาสนุกบันเทิง หรือความแฟนตาซีแบบการ์ตูนจ๋าๆแบบที่โจโจ้เคยทำไว้…แต่เป็นหนังสืบสวนที่ค่อนข้างติสท์เรื่องนึง ถ้ามีเวลา ก็ลองไปหาทำกันได้ 

#JAM #DEX #KISHIBEROHAN #JOJOSBizarreAdventure
#TakahashIissei #Heavensdoor #RohanAuLouvreTH