Mega Man Network Transmission หรือ Rockman.EXE Transmission (ロッッマンエグゼラランスミッション) เป็นวิดีโอเกมภาคแยกที่พัฒนาโดย Arika และจัดจำหน่ายโดย Capcom ที่ลงให้กับเครื่องคอนโซล Nintendo GameCube ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.2003
ซึ่งเกมภาค Transmission นั้น ทางผู้พัฒนาได้เลือกที่จะนำเสนอเกมออกมาในรูปแบบของการเดินหน้ายิงเหมือนเกมร็อคแมนที่เราคุ้นเคยกันดี และใช้ภาพที่เป็นกราฟฟิค3D เข้ามาเพื่อให้ดูทันสมัย(ในยุคนั้น) โดยจะยังคงความเป็นเกมRPG กับลูกเล่นเฉพาะตัวตามแบบฉบับของซีรี่ย์ EXE เอาไว้ได้อีกด้วย

Gameplay

ระบบแผนที่
ในโลกความเป็นจริง(ในเกม) ผู้เล่นจะได้ควบคุมตัวละครหลักอย่าง เน็ตโตะ เช่นเดิม แต่จะเปลี่ยนจากการเดินสำรวจพื้นที่ เป็นการเลือกพื้นที่ในการส่งร็อคไปทำภารกิจด้วยหน้าเมนูแทน เช่น เปิดแผนที่ เลือกไปที่ร้านค้า พ่อค้าและเมนูซื้อของก็จะโผล่ขึ้นมา เป็นต้น

ส่วนในโลก Network จะเปลี่ยนเป็นการเดินแบบซ้ายไปขวา แบบเดียวกับเกมของ Rockman ต้นฉบับ โดยการ Jack-In นั้นก็จะเป็นการส่ง ตัวของ ร็อค ไปในด่านต่างๆนั่นเอง

ระบบการต่อสู้
ภายในด่าน แม้จะเป็นการเดินหน้ายิง แต่ตัวเกมยังได้ใส่การสำรวจพื้นที่ในแต่ละด่านเข้ามา เพื่อให้ผู้เล่นได้ออกค้นหาไอเทมต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ ทั้งรหัสผ่านที่ต้องใช้ผ่านสิ่งกีดขวาง หรือไอเทมอื่นๆในการนำมาใช้สนับสนุนหรือพัฒนาตัวละครให้ผ่านอุปสรรคต่างๆได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ระบบ “Battle Chips” อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์ EXE ก็ยังคงมีอยู่ โดยจะสามารถนำ Chip ประเภทต่างๆมาใช้งานในสถานการณ์อันหลากหลาย ซึ่งจะมี “Custom Bar” (แถบด้านบนหน้าจอ) ที่จะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนเต็มโดยอัตโนมัติเหมือนกับภาคก่อน

เมื่อแถบเต็มแล้ว ผู้เล่นก็จะสามารถกดใช้งานเพื่อ “สุ่ม Chipขึ้นมา 10 ประเภท” จาก Chipที่เรามี(ระบบเด็คแบบภาคแรก) แล้วให้เราเลือกChip สูงสุด5ประเภทใส่ลงใน “โฟลเดอร์ด้านนอก” (แถบไอเทมที่ใช้ได้ระหว่างการเล่น มุมซ้ายล่างของจอ) ซึ่งเราสามารถถือชิปแต่ละประเภทได้สูงสุดครั้งละ 20 ชิ้น และจะสามารถเก็บเพิ่มได้เรื่อยๆจากศัตรู หรือซื้อได้จากร้านค้าก่อนเข้าด่าน นอกจากนี้ Battle Chip บางชนิดก็ยังสามารถนำมาผสมกันให้แรงขึ้น หรือเกิด เป็น Combo ได้เหมือนระบบในภาคแรกอีกด้วย

โดยภายในเกมภาคนี้ก็จะมีระบบการอัพสเตตัสต่างๆให้กับร็อคไว้เช่นกัน

Story

หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกสิ้นสุดลงไม่นาน ก็ได้มีข่าวการแพร่ระบาดของ “ไวรัส ซีโร่” (Virus Zero) ไวรัสอันตรายชนิดใหม่ที่ระบาดในกลุ่มของเหล่า NetNavi โดยจะทำให้ระบบการทำงานของผู้ติดเชื้อเกิดอาการขัดข้อง

ซึ่งหลังการแพร่ระบาดของไวรัสไม่นาน เน็ตโตะก็ได้รับ E-Mail จาก เมล (Mayl Sakurai) ว่าRoll (Net Naviของเธอ) ยังไม่กลับจากธุระล่าสุดของเธอเลย เน็ตโตะและร็อคจึงช่วยกันออกตามหาเธอในโลกของ Network จนค้นพบว่าเส้นทางที่ Roll ใช้นั้นตอนนี้มันถูกบล็อก เอาไว้ด้วยเปลวเพลิงของ Fireman

หลังการเอาชนะ Fireman และช่วยเหลือ Roll ได้สำเร็จ Mr.Match ผู้เป็นเจ้าของ Fireman กลับปัดความรับผิดชอบจากความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเขาให้เหตุผลว่า Fireman นั้นเกิดอาการคลุ้มคลั่งและหลุดการควบคุมหลังจากได้รับการติดตั้ง “วัคซีน” สำหรับป้องกัน ไวรัสซีโร่

พ่อของเน็ตโตะที่เข้ามาช่วยประเมินสถานการณ์ได้อธิบายว่าการกระทำของ Fireman นั้นเกิดจากการได้รับ “วัคซีนปลอม” เนื่องจากยังไม่มีการสร้างวัคซีนสำหรับรักษาไวรัสซีโร่ ที่ใช้ได้จริงขึ้นมา

ทำให้เน็ตโตะและร็อค ต้องออกค้นหาว่าใครเป็นผู้ที่ “จัดจำหน่ายวัคซีนปลอม” นี้ขึ้น จนทั้งคู่ได้รู้ว่าผู้ขายก็คือNetNavi ที่ชื่อ StarMan และเมื่อโดนจับได้ว่าขายวัคซีนปลอม StarMan ก็รีบหลบหนีไปทันที

ซึ่งการไล่ตามตัวของเขานั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยการโทรมาของ เดกซ์ (Dekao Oyama) ว่าตอนนี้ GutsMan ได้เกิดอาละวาด จากการใช้วัคซีนปลอม ทั้งสองจึงตัดสินใจรีบกลับไปช่วยหยุดยั้งการอาละวาดของ GutsMan โดยเร็วที่สุดก่อน

หลังจากนั้นตลอดทั้งวัน เน็ตและร็อคก็ได้ออกช่วยเหลือเหล่าเพื่อนๆของพวกเขาทั้ง NeedleMan, IceMan, BrightMan และ QuickMan ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนปลอมพวกนั้นด้วยเช่นกัน

เช้าวันถัดมา ทั้งสองได้เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ไวรัสซีโร่ แม้ว่าตัวของอิจูอิน (Eugene Chaud) จะบอกให้พวกเขาอยู่ห่างจากเรื่องนี้ก็ตาม แต่เพราะเน็ตโตะต้องการหาทางรักษาเพื่อนๆของพวกเขาให้เร็วที่สุด (คือพวกของเน็ตโตะปราบเพื่อนๆที่อาละวาดได้แล้ว แต่ยังไม่ได้รักษา แค่โดนขังเอาไว้ใน PET ของตัวเองเท่านั้น)

เน็ตโตะและร็อคจึงได้ค้นหาเบาะแสโดยไม่สนคำเตือนดังกล่าว จนได้ปะทะเข้ากับ ColorMan และ ElecMan ซึ่งจากเหตุการณ์นั้น ทำให้ตัวของร็อคได้รับเชื้อไวรัสซีโร่เข้าไปด้วยเช่นกัน แต่โชคยังดีที่พ่อของเน็ตนั้นยังพอสามารถยื้อเวลาอาการของร็อคไว้ได้ อีกทั้งเขายังได้พบว่า ไวรัสซีโร่นั้นเป็นผลงานของ Dr.Willy ที่สร้างขึ้นมาในสถานที่ของ Cyberworld ที่ถูกเรียกว่า Zero Account ซึ่งมันเป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างขององค์กร WWW ไปแล้วด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้สถานที่นั้นก็เป็นเป้าหมายต่อไปของพวกเขา

เมื่อเดินทางมาถึง ทั้งสองได้เอาชนะศัตรูอย่าง SwordMan, GravityMan และ StarMan ลงและได้ช่วย ProtoMan ที่ติดเชื้อระหว่างการเดินทาง รวมไปถึงยังได้พบไฟล์แหล่งข้อมูลลึกลับอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่พ่อของเน็ตโตะ ได้ศึกษาข้อมูลในนั้น เขาก็สามารถหาทางรักษาไวรัสซีโร่ได้สำเร็จ

หลังจากได้รับการรักษา พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับ Zero ซึ่งเป็น NetNavi ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัส โดย Zero ได้เปิดเผยให้เน็ตโตะและร็อคได้รู้ว่า ตัวเขานั้นเป็นไวรัสที่มีชีวิต ซึ่งที่ทำการแพร่กระจายไวรัสออกไปก็เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ จนในที่สุดก็ได้นำข้อมูลพวกนั้นมาพัฒนาตัวเองขึ้นเป็น NetNavi แต่ถึงแม้ทั้งสองจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว Zero นั้นไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่ทำไปด้วยสัญชาตญานการเอาตัวรอด แต่ProtoMan ก็ยังยืนกรานที่จะให้กำจัด Zeroทิ้งอยู่ดี

ทว่าในระหว่างที่กำลังตัดสินใจจะลงมือ พ่อของเน็ตโตะที่ได้ยินเรื่องราวก็ได้ติดต่อมาว่า เขาสามารถใช้ไฟล์ต้นแบบที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้ ในการปิดผนึกการแพร่ระบาดไวรัสจากตัวของZeroได้ นั่นจึงทำให้ตัวของ Zero สามารถที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการได้แล้ว แต่โชคไม่ดีที่ “ศาสตราจารย์” (Professor) อดีตสมาชิกของ WWW ซึ่งเป็นผู้บงการตัวจริงในครั้งนี้ก็ได้เปิดเผยตัวออกมา ซึ่งได้ถูกเฉลยว่า เขาได้ทำการฟื้นโครงการ ไวรัสซีโร่ที่ Dr.Willy เคยยกเลิกไปในอดีต เพื่อที่จะนำมาใช้ “สร้างผลกำไรจากการขายวัคซีนปลอม” หลังปล่อยไวรัสให้ระบาดออกไป โดยมี StarMan ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นผู้จัดการการขายนั้น(ซึ่งจริงๆวัคซีนปลอมก็คือตัวเชื้อไวรัสซีโร่) โดยเขาก็ได้นำเงินเหล่านั้นไปฟื้นโครงการ Life Virus ที่ถูกขัดขวางไปก่อนหน้านี้ เพื่อจะได้ก่อสงครามที่ Dr.Willy ต้องการขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่โลกกำลังตื่นตระหนก ตัวของเน็ตโตะนั้นได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของ Life Virus จนตัวเขาเกิดความประหม่าขึ้น แต่เมื่อได้คุยกับตัวของร็อคและ เดกซ์ ที่ติดต่อเข้ามา ก็ทำให้เขามีกำลังใจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ Undernet สถานที่ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของ Life Virus มากที่สุด

แต่ระหว่างการเคลื่อนย้ายไปที่นั่น พวกเขาได้ถูกกับดัก Auto-Jump Trap ส่งไปที่ SciLab(กระทรวงวิทย์) แทน ทำให้ได้รู้ว่าการจะไปยังที่ซ่อนนั้น พวกเขาจำเป็นต้องใช้ Aunthcode เพื่อฝ่ากับดักนี้ไป ทั้งสองจึงได้ค้นหาข้อมูลที่จำเป็นใน WWW Metroline และบริเวณที่ถูกเรียกว่า Legendary WWW area โดยสถานที่เหล่านั้นได้รับการปกป้องจาก ShadowMan และ PharohMan ตามลำดับ จนในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จและสามารถมุ่งหน้าไปยัง Undernet จนได้(ในส่วนนี้จะสามารถต่อสู้กับ ProtoMan ที่เป็น Boss ตัวเลือกได้ด้วย)

หลังการต่อสู้กับ Firewall และ ร่างปลอมของเหล่า NetNavi (รวมบอสที่เคยสู้ก่อนหน้านี้) ในขณะที่ไล่ตามตัวของศาสตราจารย์ Life Virus ก็ได้ส่งฝูงVirus Scuttlest จำนวนมากเข้ามาถ่วงเวลาร็อค แต่ก็ได้เหล่าเพื่อนๆของเขาที่ตามมาสมทบช่วยต้านพวกมันเอาไว้ให้

ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ร็อคและเน็ตโตะจะสามารถโค่น Life Virus ที่ครั้งนี้มันสามารถแปลงร่างได้ถึง 2ขั้นลงได้อีกครั้ง แต่ในขณะที่ศาสตราจารย์กำลังจะหลบหนีไป Zeroก็ใช้ไวรัสในตัวของเขาเจาะระบบป้องกันและระบุตำแหน่งของศาสตราจารย์ จนเจ้าหน้าที่ Network สามารถจับกุมตัวเขาได้ทันเวลาในที่สุด

หลังเหตุการณ์ในภาคนี้จบลง ตัวของ Zero ที่ได้กลายเป็น NetNavi แล้วนั้น ก็ได้เลือกที่จะออกเดินทางสำรวจไปในโลก Network ตามวิถีของตนเอง…..

——————

นอกจากนี้ ภายในภาคนี้ก็ยังมี “Bass” (ฟอร์เต้) ตัวละครสำคัญของแฟรนไชส์ ที่จะมาปรากฏเป็น บอสลับให้สู้ได้ด้วยเช่นกัน (แต่ตามเนื้อเรื่อง ร็อคที่สู้อย่างเต็มที่กลับทำได้แค่สร้างความเสียหายเล็กน้อยให้กับฟอร์เต้เท่านั้น โดยในครั้งนี้ ฟอร์เต้ ได้เลือกที่จะไว้ชีวิตร็อค จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาเห็นว่าเหมาะสมกว่านี้ ก่อนจะหายตัวไป)

บทความโดย WolfTales