HUAWEI MatePad 11 [สเปค / ราคา / รีวิว / เล่นเกมดีไหม?]

แท็บเลตสเปคแรงทีไม่ได้มีดีแค่ใช้ทำงาน แต่สายเล่นเกมก็สุดจัดไม่แพ้ใคร!!

 

สเปคของ  HUAWEI MatePad 11 อย่างเป็นทางการ

หน้าจอ : IPS HUAWEI FullView Display ขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด WQXGA – 120Hz ขอบเขตสี DCI-P3 100%
ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 865
ชิปประมวลผลภาพกราฟิก : Adreno 650
RAM : 6GB
ROM : 128GB
รองรับ microSD card สูงสุด : 1TB
กล้องหลัง : 13MP f/1.8
กล้องหน้า : 8MP Selfie Camera
ลำโพง : 4 ตัว (Quad-Speaker) ปรับแต่งโดย harman kardon พร้อมระบบเสียง HUAWEI Histen 7.0
ไมโครโฟน : 4 ตัว ออกแบบมาสำหรับ Video Call
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6+ (2.4/ 5GHz), Bluetooth 5.1 รองรับ BLE, SBC, AAC และ LDAC HD Audio
พอร์ตเชื่อมต่อ :Type-C, USB 3.0
ระบบนำทาง : GPS / GLONASS / BeiDou / GALILEO / QZSS
เซ็นเซอร์ : Ambient light sensor, Compass, Gravity sensor, Gyroscope, Hall sensor
ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 2.0
แบตเตอรี่ความจุ : 7250mAh
รองรับชาร์จเร็ว : 22.5W SuperCharge
ขนาดบอดี้ : 165.3 x 253.8 x 7.25 มิลลิเมตร
น้ำหนักประมาณ : 485 กรัม (รวมแบตเตอรี่)

มีให้เลือก 2 สี : Matte Grey, Isle Blue

ราคา 15,990 บาท (สี Isle Blue)

ราคาพร้อม HUAWEI M-Pencil 19,990 บาท (ขายเฉพาะสี Matte Grey)

 

 

 

หลังจากที่แอดมินได้ใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าแทปเลตสเปคแรงจากทาง HUAWEI มาได้ราวๆ 1 เดือน เราจะมาดูกันว่า ใช้งานจริง ในแบบ Metalbridges ที่เน้นความบันเทิงเป็นสายหลักนั้น จะเป็นยังไง คุ้มไหมถ้าจะซื้อ 

 

 

รูปทรง

ต้องบอกว่าเป็นแทปเลตไซส์มาตรฐาน ที่สามารถให้งานภาพสีสันสวยคม จนคิดว่าเขาใส่จอ OLED มาให้ แต่ในสเปคทางการระบุว่าเป็นจอ IPS มาให้ ซึ่งก็ถือว่า “สุดจัด” ของ IPS จริงๆ ด้วยความที่สีสันสวยคม แม้จะไม่บาดตาฉ่ำเข้มสะใจ เมื่อเทียบกับจอ 11 นิ้วแบรนด์อื่นๆในตลาด แต่ก็แลกกับระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ไม่เมื่อยล้าสายตา จากเทคโนโลยีที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ในมาตรฐานของ TÜV Rheinland Certified 

 

และด้วยพลังจาก IPS HUAWEI FullView ขอบเขตสี (Color Gamut) 100% มาตรฐาน DCI-P3 ก็ทำให้การแต่งรูป ดูหนัง ดูซีรีส์ ถ่ายทอดค่าสีที่ใกล้เคียงกับไฟล์มาสเตอร์ต้นฉบับที่ทางผู้ผลิตสื่อถ่ายทอดออกมาด้วย ในราคาที่ไม่ถึงสองหมื่น พร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทที่ 120Hz ทำให้เกิดความลื่นไหลอย่างมากในการใช้งาน ซึ่งนั่นจะส่งผลไปยังการใช้งานแอพ การปัดซ้ายขวาบนล่าง การใช้ดินสอ M-Pencil  และ “การเล่นเกม” (ที่เราจะกล่าวถึงในหัวข้อการเล่นเกมต่อไป)

 

รูปทรง ความหนาเพียง 7.25 มิลลิเมตร ถือว่าบางมากจนต้องหาเคสมาใส่ (ส่วนตัวเป็นคนมือใหญ่ และขอบจับวัตถุที่ดูมีมวลเยอะๆครับ 55+อันนี้แล้วแต่คนครับว่าชอบบางๆหรือหนาๆ)

 

โดยตัวเครื่องรูปทรงมาตามมาตรฐานแทปเลตทั่วไปไซส์ 11 นิ้ว  ที่หน้าเครื่องมีกล้องหน้า 8 ล้าน ติดมาให้ โดยจะวางในตำแหน่งแนวนอนของจอด้านบน

 

ส่วนด้านหลังจะมีกล้อง 13 ล้านติดมาให้ ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานถ่ายรูปสนุกๆ หรือถ่ายการบ้าน โครงงานส่งครูในกรณีเรียนออนไลน์  หรือแม้แต่การถ่ายรูปลงโซเชียลก็ตาม

 

ในขณะที่ด้านข้าง จะประกอบไปด้วย พอร์ท USB Type C รองรับ Fast Charge 22.5W และการเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ ที่ทาง HUAWEI ได้ผลิตออกมา ทั้งจอคอม โทรศัพท์มือถือ (แถมยังเปิดโหมดถ่ายพลังงานให้อุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่อผ่านสายได้) กล่าวคือ HUAWEI MatePad 11 สามารถใช้งานแบบ Ecosystem กับผลิตภัณฑ์อื่นๆของแบรนด์ได้เลยด้วยเชื่อมือถือ โน้ตบุค จอคอม (น่าเสียดายที่ไม่ได้เทสท์กับระบบโทรศัพท์ของทาง HUAWEI) 

 

 

ส่วนด้านซ้ายมือผู้อ่าน (เมื่อวางเครื่องในแนวนอน) จะเป็นปุ่ม Power พร้อมกับลำโพง รอบเครื่อง ในระบบเสียงปรับจูนโดย harman/kardon ซึ่งจุดนี้ประทับใจมากๆ (เดี๋ยวไว้จะกล่าวถึงในหัวข้อระบบเสียง)

 

 

 

โยกมาดูทางด้านบนของตัวเครื่อง จะมีปุ่มเปิด ปิด ช่องใส่ SD Card (ในเครื่องมีความจุติดมาให้แล้ว 128GB) และไมค์ 3 ตัว ที่ทำมาเพื่อรองรับการตัดเสียงรบกวน พร้อมรับสัญญาณจากแหล่งเสียงได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ใช้เรียนออนไลน์ก็เข้าท่า ใช้ประชุมสัมนาก็เวิร์ค! หรือจะเล่นเกมเปิดไมค์ประชุมทีมเตรียมเข้าบวกในเกมแนวยิง หรือ MOBA ก็ยอดเยี่ยม อันนี้คอนเฟิร์ม

 

 

 

 

 

สเปคเครื่อง OS ฟังก์ชั่น และการใช้งานจริง

ดุเดือดไปกับ ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 แบบ  8-core (1 x  Cortex-A77@2.84 GHz + 3 x Cortex-A77@2.42 GHz + 4 x Cortex-A55@1.8 GHz)  และจับคู่กับชิปแสดงผลงานภาพ GPU Adreno 650

 

ซึ่งนี่คือ “สเปคเล่นเกมฟอร์มยักษ์” เกินกว่าจะเอามาใช้งานรายวันไปแล้ว  การันตีได้เลยว่า ขนาดเกมสเปคโหด “เปิดสุดยังชิวๆ” ไม่มีความร้อนมากวนใจเลยด้วย

 

ดังนั้น ต่อให้คุณไม่ใช่คนเล่นเกม ก็จะต้องประทับใจกับความเร็ว ความลื่นไหล ซึ่งเกิดจาก ชิป CPU + ชิปงานภาพ + จอ 120Hrz นั่นเอง

 

 

 

นอกจาก Hardware ที่จัดตัวแรงมาให้เแล้ว ยังมีระบบ OS ที่เป็นของเฉพาะตัวอย่าง  HarmonyOS 2.0  ที่มีการแบ่งโซนการใช้งานใน Dock ด้านล่าง ที่แสดงผลการใช้งานแอปที่ผู้ใช้หยิบมาใช้บ่อยๆ 

 

แม้ว่าจะรันด้วย Android แต่ก็มีการครอบทับ UI พร้อมกับการแก้ระบบบางส่วน และจุดเปลี่ยนสำคัญที่เพิ่มความปลอดภัยให้ระับบ Android นั่นก็คือ “การใช้งาน HUAWEI App Gallery” ที่เป็นสโตร์เฉพาะตัวของทางแบรนด์ ทำให้เครื่อง อยู่ในสถานะ “ระบบกึ่งปิด” เน้นการใช้งานภายในแอปที่รองรับโดยทาง HUAWEI

 

แน่นอนว่า ในตอนนี้อาจจะยังมีแอปไม่ตรงใจอยู่บ้าง แต่ถ้าแอปธนาคาร แอปเกม หรือแอปทั่วๆไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็ยังมีให้ครบ เช่น Facebook / Twitter / IG / ไลน์ 

 

ในขณะที่สายเกม อาจจะรู้สึกว่าแอปเกมที่ดังๆหลายๆเกมไม่มีในสโตร์ของทางแบรนด์ เหล่าเกมเมอร์สามารถหาทางออกได้ด้วยการ โหลดเกมจาก TAPTAP หรือ Qoo App และ APK Pure มาแทนได้ แต่บางเกมจะเติมเงินไม่ได้นะ บอกไว้ก่อนเลย!

 

ส่วนฟังก์ชั่นที่เจ๋งของเจ้าแทปเลตตัวนี้ สายทำงานจะชอบมากๆ เพราะสามารถเปิดแอปและ แสดงผลขึ้นจอทีเดียวได้พร้อมกันสูงสุด 3 หน้าจอ (หน้าจอหลัก 1 และ 2ข้างเป็นจอเล็ก) หรือต่อให้คุณเป็นสายเล่นเกมที่อยากจะจดงาน หรืออะไรบางอย่าง เช่นจอแรก เปิดหน้าจอการประชุมแล้วแอบเล่นเกมเป็นจอสอง ก็สามารถดึงเอาปากกามาจดโน้ตได้ในจอที่สาม เป็นต้น

 

แต่ถ้าจะให้คุ้มค่าสำหรับการทำงาน คุณอาจจะต้องจัดเคสคีย์บอร์ด HUAWEI SMART MAGNATIC KEYBOARD มาด้วย และความเจ๋งจบจัดของเจ้าคีย์บอร์ดตัวนี้ คือสามารถใช้ในการเล่นเกมได้ด้วย ใช้คำสั่ง WASD เดินหน้าถอยหลังซ้ายขวาได้ และใช้ร่วมกับเม้าส์ไร้สายบางรุ่นได้ เท่านี้ก็สามารถเล่น FREEFIRE เกมเดินหน้ายิงใน Android ได้แล้วอย่างง่ายดาย!

 

โดยคีย์บอร์ดที่ขายในไทยของจริง จะเป็นตัวที่มีแป้นพิมพ์ไทย – Eng ซึ่งจะต่างกับของแอดมินที่รีวิวนั่นเอง  อ่อ สามารถปรับองศาหน้าจอได้ 2 รูปแบบตามความถนัด และการมองเห็นด้วยนะ

 

และในส่วนของไอเทมเสริมอย่าง HUAWEI M-PENCIL (2nd generation) อันนี้ถูกใจสายวาดเขียนแน่นอน เพราะได้รับการออกแบบให้จับถนัดมือมากขึ้น และมีค่าความแม่นยำต่อแรงกดมากถึง 4,096 ระดับ (ในทางเทคนิค) ซึ่งจากที่ลอง ก็สามารถใช้วาดรูปได้เต็มที่ (แม้จะมีอาการหน่วงๆบ้างเมื่อเทียบกับเม้าส์ปากกาที่แอดมินใช้วาดรูปประจำ เพราะยังมีค่าความหน่วง 2ms นั่นเอง) หรือจะใช้จดโน้ต เขียนลายเซ็นได้ไม่ต่างจากดินสอปากกาจริงๆ และยังชาร์จพลังงานได้ด้วยการ แปะติดกับตัว HUAWEI MatePad 11 

 

ส่วนการวาดรูปจริงจัง แนะนำแอป Autodesk Sketchbook ครับ 

 

 

 

 

  

 

 

คุณภาพของกล้อง

โดยรวมแล้วยังทำได้ตามมาตรฐานของกล้องที่มากับแทปเลต ที่แม้จะไม่เน้นฟังก์ชั่นถ่ายรูปสวย อัด AI แก้ภาพแต่งสีปรับองศาหน้าเนียนเหมือนสมาร์ทโฟนในตลาด แต่ก็สามารถใช้งานได้เพียงพอต่อการอัพลงโซเชียลแล้ว อีกทั้งกล้องหลังยังถ่ายวิดิโอ 4k ได้ แต่ทุกโหมดจะรองรับเพียง 30FPS เท่านั้น และยังเหมือนเป็นการนำเอา 1080p มาขยายสเกลและลด Noise ออก เพื่อทำเป็นวิดิโอคุณภาพสูงด้วยซอฟท์แวร์มากกว่า 

 

ตัวอย่างจากกล้องหลัง

(ไซส์จริงคือ 1040 x 780)

 

 

 

 

ระบบเสียง

 

ด้วยลำโพงรอบเครื่อง ในระบบเสียงปรับจูนโดย harman/kardon ทำให้การฟังเพลงเพลินขึ้น ระดับเสียงมีมิติมากขึ้น เสียงไม่แบน ไม่อื้อ โดยรวมเสียงค่อนข้างเคลียร์ ใส และมีระยะมีมิติพอสมควร และยิ่งถ้าเล่นด้วยแอป Poweramp และใช้ไฟล์ Hi-Res แล้ว จะรู้สึกเลยว่า มันต่างกับการเปิดในสตรีมมิ่งหลายๆตัวในตลาดแน่นอน น่าเสียดายที่เรื่องการฟังเพลงนั้น คุณควรลองฟังที่หน้าร้าน หรือศูนย์บริการของทางแบรนด์ครับ ไปลองฟังดู แล้วจะรู้ว่า มันต่างกับลำโพงทั่วไปจริงๆ เล่นเกมมันส์มาก!

 

 

 

 

 

การเล่นเกม

ไฮไลท์เด็ดของเหล่าเกมเมอร์รอคอย ว่าเจ้าแทปเลตนี้สามารถเล่นเกมได้ดีแค่ไหน? เราคงไม่ต้องกางสเปคอะไรยาวเหยียดให้มันอ่านยากๆ เอาเป็นว่า ขอสรุปแบบรวบรัดตัดความได้เลยว่า “นี่คือแทปเลตที่สามารถรันกราฟิกโหดๆหนักๆ ที่ 60Fps ลื่นๆเนียนได้ทุกเกมมือถือแอนดรอยด์บนโลกในเวลานี้”

 

 

 

จะ GENSHIN IMPACT ที่ว่ากินสเปคสุดโหด HUAWEI MatePad 11 เอาอยู่

 

POKEMON Unite บน HUAWEI MatePad 11 เปิดสุดทุกฟังก์ชั่น รันที่ 60 Fps เปิดสุดทุกกราฟิก บวกมันส์ ลั่นสกิลไว

 

FREEFIRE เกมนี้มีในสโตร์ของ HUAWEI เกมนี้ ก็เปิดสุด ภาพสวย เฟรมเรทไหลๆเนียนๆได้โดยไม่ต้องพึ่งประตู หน้าต่างเลย!!

 

ROCKMAN X DIVE แม้จะเป็นเกมเดินข้าง แต่เมื่อเปิดกราฟิกสุด “เส้นขอบตัวละคร” ก็คมชัด อนิเมชั่นเคลื่อนไหวไหลลื่นละมุนตา

 

 

ด้วยหน้าจอ 120hrz ทำให้ความแม่นยำในการทัชจอ การลาก หรือการจับวัตถุที่ไหลด้วยความเร็วสูง ก็ไม่หวั่น จัดไปกับ BANG DREAM ทัชไวทุกโน้ตสัมผัส!

 

 

 

 

สรุป

เป็นแท็บเล็ตที่จัดเต็มด้านความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง หรือจะนำไปใช้เรียนออนไลน์ หรือใช้ทำงานก็ลงตัว และโดยเฉพาะการเล่นเกม เหล่าสตรีมเมอร์ นักแคสเกมต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะว่าตัวแทปเล มีการอัดเกมเพลย์หน้าจอแบบไม่มีเสียงรอบข้าง ภาพสวยคมชัด เสียงในเกมครบถ้วน ใครอยากได้มือถือไว้พากย์เกม แคสเกม จัดตัวนี้ได้เลย

 

อีกทั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,250 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานพอต่อความบันเทิงทั้งวันด้วย

 

และถ้าเอาประสิทธิภาพเต็มที่ก็ควรมีไอเทมเสริมอย่าง เคสคีย์บอร์ด  HUAWEI SMART MAGNATIC KEYBOARD และปากกา HUAWEI M-PENCIL (2nd generation) ที่ทาง HUAWEI ได้ผลิตออกมาใช้งานคู่กัน

 

แต่อาจจะต้องปรับตัวให้เข้ากับลูกเล่น ฟังก์ชั่น และการที่มีสโตร์เป็นของตัวเองเล็กน้อย อีกทั้งการใช้งานนอกสถานที่ อาจจะต้องให้โทรศัพท์ของคุณปล่อยสัญญาณ Wi-Fi เพราะเป็นเครื่องที่ไม่ได้รองรับ เครือข่ายโทรศัพท์ หรือใช้ซิมมือถือ 5G นั่นเอง

 

 

 

 

HUAWEI MatePad 11 สี Isle Blue ราคา 15,990 บาท รับไปเลยของสมนาคุณ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard พร้อมสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 1 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน และ FilmoraGo HD VIP 3 เดือน รวมมูลค่าของสมนาคุณ 6,173 บาท

 

 

 

HUAWEI MatePad 11 สี Matte Grey ที่มาพร้อม HUAWEI M-Pencil (2nd generation) ในกล่อง ราคา 19,990 บาท รับไปเลยของสมนาคุณมูลค่ารวม 9,172 บาท ได้แก่ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI Freelace Pro และสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 1 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน และ FilmoraGo HD VIP 3 เดือน

 

สัมผัส ความฉับไว ลื่นไหล ไร้รอยต่อของ HUAWEI MatePad 11 ได้ที่  

HW store https://bit.ly/3FpGxBZ 

Shopee : https://bit.ly/3zSJNS1 

 

#HUAWEIMatePadCarnival

#GoodDealWithHUAWEI
#HUAWEITH

 

 

 

–แอดมิน AK47–