[รีวิว] เฮย์เซย์ไรเดอร์ VS โชวะไรเดอร์ อภิมหาศึกมาสค์ไรเดอร์ feat.ซุปเปอร์เซ็นไต

 

เฮย์เซย์ไรเดอร์ VS โชวะไรเดอร์ อภิมหาศึกมาสค์ไรเดอร์ feat.ซุปเปอร์เซ็นไต

( 成ライダー対昭和ライダー仮面ライダー大戦 feat.スーパー戦隊)

แนว : Action / Hero / Tokusatsu

กำกับ : Shibasaki Takayuki

เขียนบทโดย : Soji Yonemura

แสดงนำโดย : Fujioka Hiroshi /Sano Gaku / Masahiro Inoue / Handa Kento / Yumi Shida

วันที่เข้าฉาย : 30 ตุลาคม 2014

ความยาว : 99นาที

 

 

Masked Rider , Kamen Raider หรือ ไอ้มดแดง จะเรียกอะไรก็ตามที แต่ความหมายจริงๆ ก็คือ “นักซิ่งสวมหน้ากาก ผู้ผดุงความยุติธรรม” ผู้ต่อสู้กับความชั่วร้ายอย่างเดียวดาย เสียสละ กล้าหาญ และอดทน ซึ่งตำนานนี้ ก็มีมา40กว่าปีแล้ว…

 

 

 

ไกมุ ไรเดอร์คนล่าสุด ออพชั่นอาวุธเพียบ vs V1 ไรเดอร์คนแรกสุด จอมพลังระดับถล่มภูเขาด้วยมือเปล่า งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป!!

 

และวันนี้ เหล่าไรเดอร์จากยุค’70 และ ยุคปัจจุบัน ต้องมาห้ำหั่นกันเองด้วยเหตุผล และความเชื่อที่ต่างกัน…แถมยังลากเอาเหล่า”ขบวนการ5สี”เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแบบงงๆ ใน “เฮย์เซย์ไรเดอร์ VS โชวะไรเดอร์ อภิมหาศึกมาสค์ไรเดอร์ feat.ซุปเปอร์เซ็นไต”

 

 

 

เรื่องย่อ

 

คาสุราบะ โคตะ (ซาโนะ กาคุ)  และ ทาดะสึคาสะ ไม (ชิดะ ยูมิ) ได้พบกับรอยแยกประหลาด (แคร๊ก) ที่พาพวกเขาร่วงลงไปใน”โลกอีกมิติหนึ่ง” ที่นั่น

 

โคตะและไม ได้พบกับเด็กผู้ชายที่ชื่อ”ชู” ที่มีความสามารถในการ “พลิกมิติ” ได้หลบหนีจากองค์กรชั่วร้าย “บาดัน” หวังจะใช้เขาเป็นเครื่องมือในการ”พลิกมิติคนตายให้มาบนโลกมนุษย์”

 

(“บาดัน” เป็นองค์กรที่ “สืบทอดเจตนารมย์ของช๊อกเกอร์” เช่นเดียวกับองค์กรวายร้ายอื่นๆในโชวะไรเดอร์)

 

 

  

ระหว่างที่หลบหนี โคตะก็ได้พบกับ “ฮอนโก ทาเคชิ” (ฟุจิโอกะ ฮิโรชิ) หรือ “มาสก์ไรเดอร์ V1″ ที่ออกมาขัดขวางพวกบาดัน พร้อมกับประกาศตนเป็นศัตรูกับพวกโคตะ และไรเดอร์รุ่นใหม่ทั้งหมด

 

โคตะ และ ไมที่หนีออกมาได้ กำลังหาทางรับมือกับเรื่องนี้ แต่ทว่า “คาโดยะ สึคาสะ” (มาซาฮิโระ อิโนะอุเอะ) หรือ “มาสก์ไรเดอร์ ดีเคด” ก็เสนอว่า “ให้รวบรวมเหล่าเฮย์เซย์ไรเดอร์ทั้งหมดให้ได้” (เฮย์เซย์ คือไรเดอร์หลังปี2000ลงมา ได้แก่ คูก้า-ไกมุ)

 

 

 

   

สึคาสะ (ไรเดอร์ดีเคท / เสื้อชมพู) ไรเดอร์จอมเผือกตัวซวยประจำจักรวาลไรเดอร์ ที่ไปที่ไหน มีเรื่องได้ตลอด

 

พวกเขาจึงออกเดินทางตามหาเหล่าเฮย์เซย์ไรเดอร์ (ที่บางคนก็ไม่อยากมาด้วยเหตุผลส่วนตัว) อีกทั้งยังถูกเหล่า “โชวะไรเดอร์”ขัดขวาง และท้าสู้เป็นระยะๆ (โชวะไรเดอร์ คือไรเดอร์ยุคเก่า นับจาก V1-BlackRX และรวมไปถึงพวกไรเดอร์วิดิโอม้วนอย่าง ชิน / ZO /J ด้วย)

 

 

 

มาสก์ไรเดอร์ฟิฟทีน ไรเดอร์ตาลุงวายร้ายสุดโกงประจำเรื่อง ผู้ครอบครองพลังของไรเดอร์ยุคเฮย์เซย์ไว้ในมือทั้งหมด…

 

อะไรที่ทำให้โชวะไรเดอร์จงเกลียดจงชัง ตามล่าตามล้างเหล่าไรเดอร์รุ่นใหม่ๆ และแผนการของพวกบาดันจะสำเร็จหรือไม่ อันนี้ต้องไปดูในโรงแล้วล่ะครับ…

 

 

 

Review

 

หนังไรเดอร์เรื่องแรกของผมในรอบ 10 ปีที่ไปดูในโรงภาพยนต์ครับ (นับจาก “คาเมนไรเดอร์ ไฟซ์ : สงครามมนุษย์กลายพันธุ์”)  และพอมีโอกาสได้ชมไรเดอร์หนังโรงที่ออกแผ่น ก็รู้สึกว่า “หนังโรง มันก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากขายของเล่นไปวันๆแบบทีวีซีรี่ยส์เลยนี่หว่า” นั่นทำให้ผมอคติกับหนังโรงไรเดอร์มาตลอดหลังจากภาคที่กล่าวไป…

 

รวมพลไรเดอร์บอยแบนด์ (และอดีตไรเดอร์สุดหล่ออย่าง “ไฟซ์” ที่ปัจจุบัน “หัวเถิกไปเยอะ” ฮ่าๆๆ)

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องกลับไปดูไรเดอร์หนังโรงภาคนี้ มีสองประเด็นคือ

 

1. ผมอยากดู”รอยต่อ”ของคาเมนไรเดอร์ไกมุ ช่วงราวๆตอนที่30ที่มี”คาเมนไรเดอร์V1″ออกมาในตอนนั้น และทิ้งปมไว้ว่า”จะไม่ยอมรับพวกโคตะเป็นไรเดอร์” มันคืออะไร? ทำไมต้องเป็นแบบนั้น?? และผมก็ได้คำตอบแล้ว (ไม่สปอยดีกว่า55+)

 

2. นักแสดงไรเดอร์คนเก่าๆที่กลับมารับบทเดิม เอาที่ชัดสุดๆก็ “ฟุจิโอกะ ฮิโรชิ” หรือมาสก์ไรเดอร์ V1 ที่มาเล่นเป็น ฮอนโก ทาเคชิ ในวัย”ไม้ใกล้ฝั่ง” แต่เชื่อเถอะครับ ตอนที่ป๋าแกออกมาครั้งแรกในเรื่อง”ผมงี้ร้องไห้ออกมาเลย”  ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นป๋าแกทำท่า”Switch On” (แปลงร่าง) แบบเต็มๆตา ในโรงหนัง มันเป็นความรู้สึกที่ “เอ่อล้น” ออกมาโดยไม่รู้ตัว…

 

รวมไปถึงนักแสดงที่เคยรับบทเดิมอย่าง ไรเดอร์ X / ZX ที่ก็”แก่หง่อม ลงพุง”ไม่แพ้กัน (แต่เท่+โคตรเก๋าเกมชะมัด ให้ตายเถอะ)

 

หรือจะยุคเฮย์เซย์ที่มีมาอย่าง “ฮันดะ เคนโตะ” ที่รับบท “อินุอิ ทาคุมิ” หรือ “มาสก์ไรเดอร์ไฟซ์” ก็ยังคงความหล่อ เท่ อย่างที่ผมเคยเห็นเมื่อสิบปีก่อนเช่นกัน

 

 

 

 

อุตส่าห์ปิดเหม่งแล้ว…ลมดันพัดซะเสียทรงเลย หมดกัน อดีตพระเอกของผม…

 

ตัวหนัง นำเสนอ”ประเด็นของครอบครัว”ได้น่าสนใจ มีอะไรให้คิด และติดตามมากพอสมควร ไม่ใช้พล๊อต กลวงๆอย่างปีก่อนๆ ที่เอะอะซัดกันเพื่อขาย”ของเล่นตัวพิเศษ”(ภาคนี้ก็ยังมีนะแต่”เนียน”กว่าภาคก่อนหน้าครับ)  ตุ้บตั๊บไปๆมาๆ แล้วก็ “โทษดีเคดในตอนจบ” ซะงั้น~…

 

 

 

 

 

 

ฮอนโก ทาเคชิ หรือ V1 และเหล่าลุงๆจากยุคโชวะ ที่ออกมาทีไร ผมงี้ขนลุกทุกครั้ง เพราะสัมผัสได้ถึงความเก๋าเกม และ ประสปการณ์ของการฝ่าฟันเรื่องร้ายๆ บนความโดดเดี่ยวจากอดีต ในฐานะไรเดอร์ได้เป็นอย่างดี…

 

ตัวหนังจัดว่า “มีการลำดับเรื่องที่ดีมากๆ” ดูปุ๊ปแล้วเข้าใจเลย ไม่ซับซ้อน แต่ซ่อนปมต่างๆอย่างแนบเนียน…

(ผมสังเกตุจากอาการเด็กๆในโรง และที่นั่งข้างๆผม ได้ชมแล้วเข้าใจในเนื้อหา กับสิ่งที่นำเสนอ)

 

แต่ต้องตำหนิซักหน่อย ในเรื่องของ “คิวบู๊” ในเรื่อง บางช๊อต ที่ทำออกมาเหมือน “ไม่รู้มือกัน” เพราะบางช๊อตที่ว่า มันทั้งช้า และดูออกเลยว่า”เตี๊ยม”กันอย่างชัดเจน (ผิดกับทีวีซีรี่ยส์ล่าสุดอย่าง ไกมุ ที่ซัดกันนัวและเนียนกว่าละนะ) หรืออาจเป็นเพราะว่า “ทีมงานสตั๊นในเรื่องใช้เยอะมาก” บางคนก็ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เลยไม่รู้มือกันล่ะมั้ง (อันนี้มโนเอานะ)

 

 

 

 

ว่ากันตามจริงเลยนะ “พวกเซนไต5สี จะมาหรือไม่มาก็ได้” เพราะไม่มีผลกับเนื้อเรื่องอะไรเล้ย…แต่ตัวสีชมพูน่ารักมากกกกกก!!

 

อีกจุดที่หงุดหงิดมาก คือการใส่ “ซุปเปอร์เซนไต”ลงไปในหนัง มาก็มาแบบขอไปที มาแบบชนิดที่ว่า “จะมาทำไม”(วะ) หลักๆคงโปรโมทหนังตัวเอง และ มาขายของเล่นแบบ”ผีจับยัด”ได้น่าเกลียดพอสมควร (เอาละ ให้อภัยได้ เพราะ “คางุระ”(ทคคิวโกโกะ-สีชมพู โมเอะมากกกก) หยวนๆกันไป) แถมการมาของเหล่าขบวนการก็มา “เบรกอารมณ์ของหนัง”ให้มันสะดุดซะยังงั้น(ตาม Theme ของขบวนการรถด่วน “ทคคิวเจอร์” ที่เป็นหนังตลกเบาสมอง และมารวมกับความรั่วของ “เดนโอ” เลยกลายเป็นการ “ขโมยซีน” อย่างร้ายกาจมากๆ)

 

นอกนั้นก็ทำออกมาได้มาตรฐานหนังไรเดอร์แหละครับ!!

 

 

 

คะแนน 9/10 Rank A สำหรับแฟนๆหนังไรเดอร์ตัวจริง!

และ 7/10 Rank C สำหรับบุคคลทั่วไป…

 

ข้อดี : ฉากต่อสู้สนุก / เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย / ตัวละครมีมิติ และเหตุผลของการกระทำ / เอฟเฟกต์ต่างๆ มาตรฐานหนังไรเดอร์ / ไรเดอร์มาครบทุกตัว แล้ว”เฉลี่ยความเก่ง” ชนิดที่ไม่ยอมกัน (ออพชั่นเยอะ ก็แพ้รุ่นเก๋าได้) / ข้อคิดสอนเด็กๆเพียบ คำคมเท่ๆจากปากของไรเดอร์ที่จัดเต็ม และเอาไปใช้ได้จริง / ได้เห็นนักแสดงรุ่นเก๋าๆกลับมาแปลงร่างโชว์ในบทเดิม ก็นับว่าตายตาหลับแล้วสำหรับแฟนๆหนังไรเดอร์…

 

ข้อเสีย : การเดินเรื่องบางจุดยังไม่ค่อยสมเหตุผลไปนิด / เนื้อเรื่องเดาทางง่ายมาก เมื่อผ่านไปครึ่งเรื่องแล้ว / การต่อสู้ของเหล่าไรเดอร์ยังไม่เนียนในหลายๆจุด / บทสรุปของเรื่องที่ออกจะกั๊กๆ และน้ำเน่าไปนิด อีกทั้งยังเป็นฉากจบที่มีถึง”สองแบบ” โดยที่ฉายในไทย จะเป็นจบแบบเฮย์เซย์  (ส่วนจบแบบโชวะ คงไปลงแผ่นBlurayแน่ๆ) / การมาของเหล่าเซนไต ที่มาแล้วทำให้หนังน่ารำคาญแทนความสนุกซะงั้น…/เสียงพากย์บางตัวกลับให้ความรู้สึกว่า “มันไม่ใช่เลย”

 

 

 

  

ตอนที่ผมไปดูเรื่องนี้ เห็นพ่อแม่พาเด็กๆมาเต็มโรงหนัง (ย้ำว่าเต็มจนแน่น)  มีเสียงตะโกนของเด็กๆในโรงทุกครั้งที่ไรเดอร์ตัวโปรดของพวกเขาออกมา ทั้งวิซาร์ด ดับเบิ้ล โฟร์เซ่ คิบะ ดีเคท เดนโอ ฯลฯ

 

ส่วนคนรุ่นพ่อ รุ่นลุง ที่มาดู ก็ฮือฮา ที่นักแสดงเก่าๆในยุคของพวกเขากลับมารับบทเดิม และคุยกันระหว่างหนังฉาย99นาที จนจบ End Credit ก็ยังไม่มีใครออกจากโรง…แต่เชื่อมั้ยว่า “ผมไม่รำคาญเลยนะ” กลับมีความสุขด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้ผมรู้ว่า

 

“ไรเดอร์ ยังเป็นฮีโร่ของเด็กๆทุกยุคทุกสมัยอย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง…ตลอดกาล…”

 

By Admin Ak Fourtyseven