ชื่อ : ASUS Zenfone 2 Laser
รหัสรุ่น : ZE550KL
ขนาดตัวเครื่อง : 152.5 x 77.2 x 10.8~3.9 ม.ม.
ขนาดหน้าจอ : 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
น้ำหนัก : 140 กรัม
กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล Auto Focus
กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล Laser Focus + Dual LED Flash
CPU : 64-bit Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core 1.2 GHz
OS : Android 5.1.1
Memory Card : Micro SD สูงสุด 128 GB
RAM : 2 GB
ROM : 16 GB
ซิม : Dual Active SIM
ชิปกราฟิก : Adreno 306
WiFi : 802.11 b/g/n
Bluetooth : V4.0
รองรับ : 3G 850 / 900 / 1900 / 2100 HSDPA 42.2 Mbps
4G LTE 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800) Cat 4 150/50
สี : Ceramic White, Pure black, Glamour red, Hairline design with Sheer gold, Glacier Gray
แบตเตอรี่ : Li-Polymer 3,000 mAh
ราคา : 5,990 บาท
หลังจากห่างหายจากการรีวิวอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปเสียนาน วันนี้ MetalBridges ของเรา ขอนำทุกท่านกลับมาทำความรู้จักสมาร์ทโฟนรุ่นแนะนำกันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นทีของ Zenfone 2 Laser สมาร์ทโฟนสเปคสุดคุ้มจากค่าย ASUS กัน!!
หลายคนคงเคยประสบปัญหากับการที่กล้องสมาร์ทโฟนคู่ใจจับโฟกัสช้าาาา… มากันบ้างแล้วเนอะ กว่าจะได้แต่ละภาพ จังหวะที่อยากได้ก็หลุดลอยไปแล้วซะงั้น แต่การจะหาสมาร์ทโฟนกล้องดีๆ ที่มีเทคโนโลยีรองรับปัญหานี้ก็ดันมีแต่ราคาเกินงบซะด้วยสิ ด้วยเหตุนี้แหละ จึงทำให้ Zenfone 2 Laser ตัวนี้เป็นที่น่าสนใจ ด้วยสเปคเทียบเท่าเครื่องละเป็นหมื่น แต่ราคาจริงอยู่ที่ 4,990-6,990 บาท เท่านั้น
พูดมาขนาดนี้แล้ว เราลองไปทำความรู้จัก Zenfone 2 Laser ในรีวิวฉบับสามัญกับแอดโนกันเลยละกัน!!
จุดเด่นน่าสนใจของ Zenfone 2 Laser
- กล้องหน้าหลัง ความละเอียด 5-13 ล้านพิกเซล พร้อม Laser Focus ทำให้โฟกัสและจับภาพเร็ว 0.03 วิ.!
- หน้าจอกระจก Gorilla Glass 4 กันรอยขีดข่วน แข็งแรง กันกระแทก และการตกกระทบ
- รองรับ 4G LTE ทั้ง 2 ซิม
- มี Easy Mode เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
- สเปคกล้องและซอฟต์แวร์โดยรวมคุ้มค่า เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน
โอเค! ก่อนอื่นเรามาพูดถึงที่มาของ Zenfone เครื่องนี้ก่อนละกัน หลังจากได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในส่วนของสมาร์ทโฟนจากค่าย ASUS ไป เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรวมตัวทั้ง blogger สายไอที และเหล่าแฟนคลับ Zenfone ที่ผ่านการคัดเลือกจาก facebook มาหลายสิบคนไว้อย่างคับคั่ง ภายในงานก็มีการมอบ Zenfone 2 Laser เครื่องทดลองให้แก่เหล่าสาวกและคอรีวิวทั้งหลายได้ทดลองใช้กับจริงๆ กันอีกด้วย
และน้องเลอเซอร์ (ขออนุญาตตั้งชื่อเล่นให้กับ “Zenfone 2 Laser”) เครื่องที่ว่า ภายใต้การดูแดของแอดโน ก็มาอยู่ต่อหน้าทุกท่านตรงนี้แล้ว “แต่น…แตน…แต๊น!!!”
ก็นี่แหละฮะ… โฉมหน้าของน้องเลเซอร์ “Zenfone 2 Laser” ภายในกล่องสีขาวดูสะอาดตา
ทักทายกันครั้งแรกด้วยหน้าจอสีดำ พร้อมความแวววาวบนฐานปุ่มกดเก๋ๆ ด้านล่าง…
โดยสำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มานั้น นอกจากตัวเครื่องแล้ว ก็จะมี… คู่มือ, ใบประกัน, สายชาร์ต Micro USB พร้อมทั้ง เต้าเสียบ (USB Adapter) มาให้…
(สำหรับเครื่องของแอดเป็นเครื่องทดลองจึงไม่ได้ให้หูฟังมาอ่านะ อย่าตกใจไป)
เริ่มต้นกันที่ตัวเครื่องด้านหน้า กับ หน้าจอดำขลับ ขนาด 5.5 นิ้ว ของน้องเลเซอร์กันก่อนเลยละกัน!
โดยนอกจากหน้าจอความละเอียด 1280 x 720 ขนาดตัวเครื่อง 152.5 x 77.2 ม.ม. ที่ความบาง 10.8~3.9 ม.ม. ในน้ำหนัก 140 กรัม และ 3 ปุ่มกดหลักของเครื่อง ซึ่งมีปุ่ม “ย้อนกลับ” อยู่ด้านขวาแล้วนั้น ในส่วนของหน้าจอรุ่นนี้ ก็ถูกผลิตขึ้นจากกระจก Gorilla Glass 4 ที่มีประสิทธิภาพในการกันรอยขีดข่วน การกระแทก และการตกกระทบได้ดี ส่วนหน้าจอด้านบนเอง ก็จะมีกล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งไฟแจ้งเตือนสถานะ และลำโพงขณะสนทนา ประกอบอยู่…
เหนือขึ้นไปนั้น เราก็จะพบกับ ปุ่มล็อค เปิด/ปิดเครื่อง ขนาบข้างด้วยช่องเสียบหัวฟัง 3.5 ม.ม. และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่บริเวณข้างๆ กัน ซึ่งจากการออกแบบให้ ปุ่มเปิด/ปิด อยู่ด้านบนนี้เอง ก็อาจสร้างความไม่ถนัดให้กับใครหลายคนที่เคยใช้ปุ่นด้านข้างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ กันบ้างอ่านะ
มาว่ากันต่อที่ “ด้านหลัง” กับเคสสีขาวนวล ซึ่งมาในดีไซน์โค้งมนกระชับฝ่ามือกันต่อ!
ในส่วนของด้านหลังนั้น นอกจากจะเป็นพิ้นที่ของกล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมทั้ง LED Flash คู่ และช่องเลเซอร์ ซึ่งช่วยให้การโฟกัสจับภาพรวดเร็ว ในเวลาเพียง 0.03 วินาที ด้านล่างใกล้ๆ กันนั้น ก็จะเป็นปุ่มกดเพิ่ม/ลดระดับเสียง ซึ่งสามารถใช้กดแชะภาพ เพิ่มความสะดวกได้เช่นกัน และสุดท้าย ด้านล่างสุดของตัวเครื่องด้านหลังก็จะเป็นส่วนของ “ลำโพง” นั่นเอง
เริ่มต้นการเปิดใช้งาน… Hellooo~ สวัสดี ASUS!!
หลังจากผ่านขั้นตอนการเปิดใช้งานกันไป (ซึ่งเราขอละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันนะ)
ก็มาสู่ช่วงเรียนรู้สมถรรณะกันต่อ ใช้งานจริงจะเป็นไงบ้างนะ?
แรกเริ่มก็ดูความจุเครื่องที่เหลืออยู่ตอนนี้จาก Clean Master แอพที่ติดตั้งมาให้ในตัวก่อนเลยแล้วกัน ก็อย่างภาพล่ะฮะ จาก RAM 2 GB ด้วย Apps เสริมที่ลงมาให้อัตโนมัติตั้งแต่เปิดเครื่อง ก็ใช้ไปกว่า 50% แล้วล่ะ แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะน้องเลเซอร์ของเรามาพร้อม ROM 16 GB อีกทั้งยังรองรับเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุดถึง 128 GB นอกจากนี้ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 Quad Core 1.2 GHz ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมหนักๆนัก จึงสบายใจได้ กับประสิทธิภาพการทำงานที่เพียงพอ แต่หากเป็นคอเกมฉบับฮาร์ดคอร์ก็อาจต้องทำใจกันสักหน่อยอ่านะในกรณีนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อทดสอบกับ “Touch” เกมเต้นออนไลน์สุดฮอตขณะนี้ ก็ไปได้สวยไม่มีปัญหาอะไร…
สำหรับใครที่ใช้ 2 ซิม เพื่อสลับการโทรหรือใช้งานอินเตอร์เน็ตก็วางใจได้ เพราะน้องเลเซอร์เครื่องนี้รองรับ 4G LTE ทั้งสองซิม นะจ๊ะ…
มาพูดเรื่อง “กล้อง” กันต่อบ้าง~
อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า น้องเลเซอร์มาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ประกอบจากเลนส์ 5 ชิ้น มีค่ารับรู้แสงได้กว้างถึง f/2.0 และแฟลชแบบ Real Tone
ซึ่งจุดเด่นเน้นๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ นอกจากโหมดการถ่ายภาพกว่า 18 โหมด พร้อมกับลูกเล่นโหมดแต่งภาพโน่นนี่นั่นแล้ว สำหรับมือโปรถ่ายภาพก็สามารภปรับแต่งการตั้งค่าได้เองด้วย Pro Mode อีกด้วย
สำคัญที่สุดก็ตรง Laser Focus ของกล้องหลังนี่แหละ ที่ทำหน้าที่ยิงเลเซอร์ออกมา (คือไม่ได้จะเห็นเป็นลำๆ หรอกนะ) เพื่อช่วยหาระยะภาพ ให้การจับโฟกัส สำหรับถ่ายรวดเร็วกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป โดยเจ้าเครื่องนี้ก็ใช้เวลาเพียง 0.03 วินาที เท่านั้น! นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวีดีโอได้ในระดับ 1080P อีกด้วยนะเออ~
โหมดการถ่ายภาพมีทั้ง Low light สำหรับช่วงแสงน้อย และ Super Resolution ที่เก็บภาพความละเอียดสูงถึง 52 ล.พิกเซล
โหมดบิวตี้สำหรับนักเซลฟี่ตัวยง มาพร้อมลูกเล่นการแต่งภาพเพิ่มความสวย/หล่ออย่างเพี้ยบ
เข้าสู่การทดสอบประสิทธิภาพ “กล้องหลัง” กันเลยละกัน ภาพที่ได้จะเป็นอย่างไรนะ!?
ทดสอบทั่วไป
ทดสอบหน้าชัด/หลังเบลอ
ทดสอบหน้าเบลอ/หลังชัด
ทดสอบความเร็วการจับภาพ (ไวอย่างกับจับรถตั้งนิ่งๆ)
ทดสอบถ่ายภาพแสงน้อย
ภาพรวมสำหรับการถ่ายภาพแสงน้อย ถือว่าใช้ได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังจัดว่าไม่ดีนักนะ
ปิดท้ายที่ “นังอ้วน” แมวข้างบ้านแอดเองแหละ แหม่… สวยกิ๊งงง~ เลยนะเธอว์!!!
โดยสำหรับในส่วนของ Apps เสริมอื่นๆ ที่ติดตั้งให้มานั้น ก็อัดแน่นครบครันตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ, เครื่องอัดเสียง, ปฏิทิน ,ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข, เครื่องเล่นเพลง, อัลบั้มภาพ และอื่นๆ อีกเยอะแยะ พูดได้ว่ารองรับทุกการใช้งาน สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปได้อย่างเพียงพอไร้กังวลเลยทีเดียว
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว สำหรับ Zenfone 2 Laser ทั้ง 3 รุ่น ทั้งกับขนาด 5.0 นิ้ว (4,990 บาท), 5.5 นิ้ว (5,990 บาท) และ 6.0 นิ้ว (6,990 บาท) จึงจัดได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งในตลาดคลาสเดียวกันที่น่าจับตามอง แม้จะที่มีการแข่งขันกันอย่างสูสีก็ตาม แต่หากใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและต้องการสมาร์ทโฟนที่กล้องสามารถจับภาพฉับไวสักเครื่อง Zenfone ตัวนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกน่าพิจารณา เอาเป็นว่า… แล้วแต่ความชอบและงบประมาณของแต่ละคนเลยแล้วกันนะ
รีวิวฉบับสามัญ โดยแอดโน วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ไว้มีโอกาสจะมารีวิวให้อ่านอีก วันนี้ชิ่งละ บ๊าย!!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : asus.co.th
By : Admin@no (แอดมินโนเอง)
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console