เป็นเวลา 15 ปีที่หนังชุดผีชีวะ หรือ Resident Evil หนังที่สร้างจากวีดีโอเกมสุดฮิตจากค่าย Capcom ซึ่งจากภาคแรกที่ใช้ทุนสร้างเพียง 33 ล้านเหรียญ ก่อนที่จะกวาดรายได้ถึง 102 ล้านเหรียญ สร้างต่อถึงภาคสุดท้ายอีก 5 ภาค รวมรายได้ทั้งสิ้น 1 พันล้านเหรียญ จนกลายเป็นหนังชุดที่ดัดแปลงจากวีดีโกมที่ประสบความสำเร็จและทำรายได้สูงสุดเรื่องหนึ่งของโลก
แม้วันนี้จะปิดฉากลงไปแล้วในปี 2017 แต่หนังชุดนี้ก็สร้างความทรงจำอันมากมายจากแฟนเกมและแฟนหนัง ซึ่งหนังชุดนี้สามารถนำองค์ประกอบมารวม จนทำให้คนดูสองฝ่ายสนุกสนานไปกับเรื่องราวที่เข้มข้น จนออกทะเล ไม่แพ้วีดีโอเกมเลยทีเดียว
วันนี้เราจะพาแฟนๆไปรำลึกความหลังผ่านหนังชุดนี้ พร้อมเกร็ดเล็กๆน่าสนใจมาฝากเช่นเคย ซึ่งถ้าขาดตกบกพร่องตรงจุดไหน ก็สามารถเพิ่มเติมได้ครับผม
ขอต้อนรับสู่ Resident Evil
(ทำเสียงเลียนแบบวีดีโอเกม ฮ่าๆ)
จุดเริ่มต้นของหนังผีชีวะในโลกภาพยนตร์ อย่างที่ทราบกันดีว่ามันคือหนังที่ดัดแปลงจากวีดีโอเกมส์สุดฮิตของเครื่อง เพลย์สเตชั่น อย่าง Resident Evil หรือ Biohazard ซึ่งเกมวางจำหน่ายในปี 1996 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังเป็นการปลุกซอมบี้ให้กลับมาโลดแล่นในโลกบันเทิงอีกครั้ง
แล้วในช่วงประมาณปี 1998 ราชาหนังซอมบี้อย่าง จอร์จ โรเมโร่ ก็ได้รับการทาบทามจาก Capcom ให้มากำกับโฆษณาเกม Resident Evil 2 ด้วยงบเท่ากับหนัง DAWN OF THE DEAD ที่เคยกำกับ
หลังจากที่โฆษณาออกฉายทาง Capcom และ Sony ประทับใจในงานของเขามากๆ โดยเฉพาะ ชินจิ มิคามิ โปรดิวเซอร์ที่เป็นแฟนหนังโรเมโร่ตัวยง หลังจากนั้นบริษัทภาพยนตร์อย่าง Constantin Film ก็ซื้อสิทธิ์วีดีโอเกมชุดนี้ เตรียมสร้างเป็นหนังโดยตอนแรก คนที่เขียนบทคือ อลัน บี.แม็คเอนรอยด์ แต่บทของเขาไม่ผ่าน จึงทำให้โรเมโร่ได้มารับช่วงต่อ ส่วนหนึ่งทาง Sony และ Capcom ขอร้องให้มา
โรเมโร่ ตอบรับข้อเสนอนี้อีกครั้ง และ เป็นโอกาสทองที่เขาจะได้ปลุกซอมบี้ให้กลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง มีบันทึกเล่าว่าร่างบทของโรเมโร่นั้น จะวางตัว คริส เร็ดฟิลด์ เป็นพระเอก ส่วนหนึ่งตอนเขียนบทเขาลงทุนเล่นเกมนี้กับลูกชาย แล้วให้ผู้ช่วยตั้งกล้องบันทึกบนจอขณะที่เล่น ทำให้บทของเขาจึงเป็นมุมมองของคริส แล้วเขาวางแผนจะถ่ายทำสองเวอร์ชั่น เพราะบางประเทศอาจรับไม่ได้กับความรุนแรง
แต่น่าเสียดายเมื่อบทถูกส่งไปเพื่อพิจารณาปรากฏว่า กลับไม่ชอบบทที่โรเมโร่เขียน ท้ายที่สุดด้วยปัญหาบางประการ ทำให้เขาต้องออกจากโปรเจกต์ไปในที่สุด
ในที่สุดโปรเจกต์นี้ก็เดินต่อเมื่อได้ผู้กำกับมากประสบการณ์นามว่า พอล ดับเบิ้ลยู เอส แอนเดอร์สัน เข้ามาเขียนบทและโปรดิวเซอร์ ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่างานชิ้นนี้จะอยู่กับเขาจนเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญในชีวิตการทำงานของเขาเลยทีเดียว
เมื่อเขาได้รับโอกาสเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ โดยหยิบตัวละครกับองค์ประกอบในเกมมาปรับใช้ แล้วเขายังลงทุนดูหนังซอมบี้ทุกเรื่อง เพื่อลองนำแนวคิดมาใช้ในหนังเรื่องนี้นี่เอง
นี่เป็นเกร็ดเล็กที่ๆมาที่ไปของหนังชุดนี้ครับ ได้เวลาเข้าสู่เรื่องราวต่อจากนี้ที่แท้จริงได้เลยครับ….
Resident Evil: ผีชีวะ
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในเมือง แร็คคูน ซิตี้ ซึ่งใต้ดินของเมืองที่สถานที่เรียกว่า The Hive หรือรวงผึ้ง เป็นสถานที่ระดับลับสุดยอดเพื่อทดลองอาวุธชีวภาพ โดยเจ้าของคือ บริษัท อัมเบรล่า คอร์ป โดยฉากหน้าเป็นองค์กรใหญ่ที่มีอิธิพลกับเมืองแร็คคูน 9 ใน10 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งเทคโนโลยี, เวชภัณฑ์, สุขภาพ แต่เบื้องหลังที่แท้จริงนั้น พวกเขามีธุรกิจและงานหลักๆคือ เทคโนโลยีกองทัพ, พันธุวิศวกรรม และ พัฒนาทดลองอาวุธชีวภาพ แต่แล้วก็เกิดเหตุมีใครคนหนึ่งได้ขโมยตัวอย่าง T-Virus จนทำให้เชื้อเกิดรั่วไหลไปทั่วศูนย์วิจัย ซึ่งทำให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ Red Queen เริ่มทำงานโดยปิดระบบทุกส่วน ซึ่งทำให้คนที่ทำงานในศูนย์วิจัยเสียชีวิตหมด
อลิซ ที่ตื่นมาศูนย์เสียความทรงจำ กลับจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก่อนที่ เจอ แมตต์ ตำรวจหนุ่ม และ หน่วยคอมมานโด เข้ามาคุมตัวทั้งสอง แล้วได้เจอชายที่เสียความทรงจำบนรถไฟเพื่อมุ่งไปยังศูนย์วิจัยนั่นเอง เธอมารู้ที่หลังว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อ เจมส์ หนึ่งในทีมคอมมานโด เล่าให้ฟังว่า ทั้งเขา, อลิซ และ ชายที่สูญเสียความทรงจำ มีนายจ้างคนเดียวกันคือ อัมเบรล่า ซึ่งอลิซ คือหนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งมีหน้าที่เฝ้าทางเข้านั่นเอง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องให้เธอเป็นคนนำทางเพื่อหยุดยั้งไวรัสระบาดในศูนย์วิจัยโดยมีเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
หลังจากที่เข้ามาในศูนย์วิจัยได้ แต่ทว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ก็เริ่มสำแดงเดช ด้วยเลเซอร์ที่ทางเข้าสู่ห้องควบคุม Red Queen ซึ่งท้ายสุดสมาชิกคอมมานโดโดนตัดราวกับเนื้อวัววากิวเป็นชิ้นๆ จนเหลืออลิซและหนึ่งในลูกทีมที่จะช่วยกันเปิดระบบส่วนที่เหลือ แต่ทว่า Red Queen ก็ปรากฏตัวพร้อมเตือนว่าให้ออกไปจากที่นี่ เพราะไม่ปลอดภัย แต่หนึ่งในคอมมานโดคิดว่ามันกำลังปั่นหัวพวกเขาอยู่ ก่อนจะตัดสินใจเปิดจริงๆ ผลคือระบบบางส่วนกลับมาทำงานปกติ ซึ่งหารู้ไม่ว่าพวกเขากำลังจะเข้าใกล้ความอันตรายระดับสอง
หลังจากนั้นพวกเขาต้องเจอฝูงซอมบี้ และ หมาซอมบี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน อลิซ รู้ความจริงภายหลังจากแมตต์ เมื่อเธอนึกถึงหญิงสาวที่เคยคุยเพื่อหาทางเข้าศูนย์วิจัย ซึ่งเธอคือน้องสาวของแมตต์นั่งเอง เหตุผลที่เขาส่งน้องสาวเพื่อต้องการข้อมูลเปิดโปงความจริงในสิ่งที่อัมเบรล่ากระทำนั่นเอง เมื่อเหลือเพียง 4 คน แต่พวกเขาไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ เพราะระบบมันได้ทำงานแล้ว รวมถึงไม่มีทางที่จะให้ใครออกไปจากที่นี่ได้ เพื่อความปลอดภัยก่อนจะพูดถึง T-Virus รวมถึงวิธีจะดับพวกซอมบี้ก็คือทำลายส่วนสมอง (ยิงหัวตามสูตรในท้องเรื่องนั่นเอง)
ในที่สุดความจริงก็ปรากฏว่าชายที่สูญเสียความทรงจำ เขาคือ สเปนจ์ ปาร์ค เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายทั้งหมดในครั้งนี้นี่เอง
หลังจาก อลิซ , แมตต์ และ คนอื่นๆ หลบหนีด้วยทางรถไฟ แต่ทว่าพวกเขาก็ต้องเจออาวุธชีวภาพสุดโหดอย่าง Licker ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งกำจัด สเปนจ์ไปสดๆร้อนๆ ซึ่งท้ายสุด อลิซ และ แมตต์ กลายเป็นสองคนที่รอด หลังจากสังหารเจ้ากรงเล็บยาวได้ในที่สุด แต่ทว่า ทั้งสองก็ถูกคนของ อัมเบรล่า จับไปทดลองอีกรอบ ซึ่งอลิซตื่นมาก็พบว่าตัวอยู่ในสภาพไม่ต่างจากภาคแรก
เธอพยายามหนีจนออกมาได้ ก่อนจะพบว่า แร็คคูน ซิตี้ กลายเป็นดินแดนแห่งความตายไปเสียแล้ว ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหยิบปืนเพื่อตามล้างพวกอัมเบรล่าต่อไป….
Resident Evil Apocalypse: ผีชีวะ2 ฝ่าวิกฤตไวรัสสยองโลก
เหตุการณ์ดำเนินต่อจากภาคที่แล้ว หลังจากที่ อลิซ ฟื้นมาอีกรอบกลับพบว่าตัวเองอยู่ในศูนย์ของอัมเบรล่า ในเมืองแร็คคูน ซิตี้ ซึ่งเมื่อเธออกจากตึกก็พบว่า เมืองกลับกลายเป็นนรกบนดินท่ามกลางฝูงซอมบี้รอบเมือง ตอนนี้เธอตัดสินใจที่จะสืบเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอรวมถึงแผนการร้ายขององค์กรอัมเบรล่า
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ทางองค์กรได้ส่งหน่วยพิเศษเข้าไปตรวจสอบความเสียหายที่ The Hive ซึ่งปรากฎว่าขาดการติดต่อ นั่นหมายถึงเชื้อ T-Virus เริ่มระบาดก่อนจะเข้าสู่บนดินเป็นที่แน่นอน ทำให้องค์กรเริ่มมีการปิดเส้นทางเข้าออกของแร็คคูน ซิตี้ รวมถึงส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้เมืองแร็คคูนกลายเป็นดินแดนแห่งความตายไปแล้ว
ในภาคนี้แฟนเกมได้เฮเสียที เพราะได้มีการดึงตัวละครจากเกม ซึ่งมีทั้ง จิล วาเลนไทน์ อดีตสมาชิกหน่วยสตาร์ที่ถูกคาดโทษ จึงกลับมาสะสางเรื่องราวที่สถานีตำรวจ ก่อนจะไปสมทบกับพรรคพวกที่บริเวณเขตกักกัน เพื่อเตรียมตัวหนีออกจากเมือง และ คาร์ลอส โอลิเวล่า ทหารหน่วยรบพิเศษของอัมเบรล่า ที่ถูกส่งเข้ามาควบสถานการณ์วิกฤตร้ายแรงในครั้งนี้
หลังจากที่อลิซโหลดของพร้อมลุยแล้ว จู่ๆเธอก็รู้สึกปวดไปทั้งตัว ซึ่งเป็นผลจากที่เธอถูกฉีดไวรัสเข้าไป ซึ่งปรากฏว่าเธอไม่ได้เป็นเหมือนพวกมัน แต่กลับทำให้เธอกลายเป็นสุดยอดมนุษย์ (แบบเดียวกับ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ในฉบับเกม) ทำให้อลิซ ได้เจอกับ จิล และผู้รอดชีวิต ซึ่งขณะกำลังหาทางออกนั้นก็มีโทรศัพท์จากชายลึกลับ ก่อนจะเผยชื่อ ดร.ชาร์ล แอชฟอร์ด โดยเขาจะช่วยพวกอลิซให้หนีออกไปจากเมืองนี้ได้ แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยน นั่นคือตามหาลูกสาวของเขาให้เจอ ซึ่งเธอหลบซ่อนอยู่ที่โรงเรียนนั่นเอง
อีกฟากของอัมเบรล่า เพื่อต้องการกวาดหลักฐานให้ไม่เหลือ จึงตัดสินใจงัดไพ่เด็ดด้วยการส่งอาวุชีวภาพเครื่องจักรสังหารนาม Nemisis แล้วทำการกวาดล้างหน่วยสตาร์ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว ก่อนจะตามล่าอลิซและพรรคพวกต่อไป
หลังจากที่ อลิซ, จิล, คาร์ลอส และผู้รอดชีวิตสามารถพาลูกสาวของ ดร.แอชฟอร์ด มาถึงจุดหลบหนีแต่ทว่าพวกอัมเบรล่ารู้ตัวซะก่อนจนนำไปสู่ฉากสู้ระหว่าง อลิซ กับ Nemisis ซึ่งท้ายสุดอลิซสามารถเอาชนะไปด้พร้อมรู้ความจริงว่าเจ้าจักรกลสังหาร คือ แมตต์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากภาคแรกนั่นเอง จนท้ายสุดจักรกลที่ได้ความทรงจำกลับมา จึงช่วยกำจัดก่อนจะทำให้พวกอลิซสามารถหลบหนีจากแร็คคูนได้สำเร็จ
ทว่าด้วยแรงขีปนาวุธที่รุนแรงทำให้เฮลิคอปเตอร์ได้รับแรงกระแทกจนตกไปทีใดที่หนึ่ง ซึ่งในเวลาต่อมา อลิซ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังถูกทดลอง ซึ่งเป็นที่มาของ Project Alice ในเวลาต่อมา ซึ่งเธอสามารถหลบหนี ก่อนที่คาร์ลอสและพรรคพวกที่ปลอมตัวเป็นคนของอัมเบรล่าจะมารับตัวไปในที่สุด…
Resident Evil: Extinction: ผีชีวะ 3 สงครามสูญพันธุ์ไวรัส (2007)
เป็นเวลา 2 ปีหลังจากเหตุการณ์ไวรัสระบาดในเมืองแร็คคูน ซิตี้ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะลามไปทั่วทั้งโลก ทำให้ตอนนี้เหมือนเป็นป่าช้าไปทั้งใบ สำหรับ อลิซ ที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นอันตรายให้กับคนอื่นเธอตัดสินใจแยกทางแล้วออกเดินทางตามล่าพวกอัมเบรล่าเพียงลำพัง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกทีมของตัวเองต้องโดนลูกหลงจากบริษัทอัมเบรล่านั่นเอง
ขณะที่ทางฝั่งอัมเบรล่า ก็มีการประชุมหารือกับวิกฤตครั้งนี้ ซึ่งมี อัลเบิร์ต เวสเกอร์ เป็นประธานบริหารและนำการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่ ดร.ไอแซ็ค จะเข้ามาร่วมประชุมพร้อมอัพเดทโครงการ Project Alice ซึ่งคือสิ่งที่ภาคที่แล้วได้ทิ้งไว้ มันคือโปรเจคที่จะสามารถหยุด T-Virus ได้ โดย ดร.ไอแซ็ค ได้อธิบายว่าได้ทดลองโดยนำตัวอย่างเลือดของ อลิซ ที่มีแอนตี้บอดี้ สกัดออกมาเป็นเซรุ่ม และยังสามารถควบคุมไวรัสได้อีกด้วย แต่เนื่องจากไม่สามารถหาอลิซตัวจริง จึงต้องใช้ ยีนส์ แล้วสร้างร่างโคลนเป็นจำนวนมากแล้วฉีดเลือดเพื่อทดสอบซึ่งท้ายสุดจบลงที่ต้องทำลาย เพราะไม่มีตัวไหนจะเทียบเท่าได้เท่ากับอลิซตัวจริงนั่นเอง
เวสเกอร์ได้ฟังแล้วและบอกว่างานนี้ถือเป็นเรื่องด่วน และให้เงื่อนไขในเวลา 1 อาทิตย์ มิเช่นนั้นจะให้คนอื่นมารับช่วงต่อไป
อีกฝั่งหนึ่งมีกลุ่มคาราวานที่กำลังเดินทางเพื่อตามหาข้าวของและหาผู้ชีวิตรอด ซึ่งสมาชิกมี คาร์ลอส โอริเวร่า, แอลเจ และ แคลร์ เร็ดฟิลด์ ซึ่งพวกเขากำลังหาเส้นทางไปยังที่ๆปลอดไวรัส ซึ่งอลิซ ก็ได้เจอกลุ่มคาราวานพร้อมช่วยให้พ้นจากฝูงอีกาที่จะเอาชีวิตพวกเขา หลังจากนั้นอลิซก็ได้ร่วมไปกับกลุ่มนี้ในที่สุด
ในตอนที่ช่วยกลุ่มคาราวานจากฝูงอีกา อลิซ เริ่มรู้สึกถึงพลังที่มากขึ้นนับตั้งแต่โดนจับทดลอง ที่สำคัญมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง และรุนแรงมหาศาลเป็นว่าเล่น
ดร.ไอแซ็ค เริ่มพัฒนาขีดความสามารถของไวรัสมากขึ้น จนสามารถเชื่อฟังคำสั่ง และยังสามารถใช้เครื่องมือต่างๆได้ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะมันกลับอาละวาดและทำร้ายเจ้าหน้าที่ไปสองคน ซึ่งตอนนี้เขาสนใจแต่งานตัวเองมากกว่าองค์กรเสียอีก
อลิซและพรรคพวกได้ให้ดูสมุดสีแดง ว่าด้วยที่มั่นปลอดภัยนั่นคือ อลาสก้า ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นสถานที่สุดท้ายที่เชื้อโรคไปไม่ถึง แต่แคลร์กับคัดค้านเพราะว่าไม่มีหลักประกันว่าจะรอดไปถึงที่หมายหรือไม่ แต่คาร์ลอส
กลับคิดว่านี่เป็นความหวังเดียวที่จะต้องไปให้ได้ แคลร์ จึงประชุมก่อนที่ทุกคนเลือกจะไปอลาสก้า แต่ก็บอกอลิซว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันใช่จริงๆ
ดร.ไอแซ็ค ทำทุกวิถีทางจึงส่งฝูงซอมบี้เข้าไปโจมตีกลุ่มคาราวาน แต่ด้วยพลังของอลิซทำให้รอดมาได้สะบักสะบอม แต่ไม่วายเขากลับถูกซอมบี้กัดก่อนจะถอยไปตั้งหลัก แล้วฉีดไวรัสที่มีเข้าไปในตัวจนกลายเป็นอาวุธชีวภาพ
ส่วนอลิซ และพวกตัดสินใจไปถล่มศูนย์วิจัย ซึ่งทำให้ คาร์ลอส ยอมพลีชีพด้วยการขับรถบรรทุกน้ำมันพังเข้ามาก่อนจะระเบิดเพื่อเปิดทางให้แคลร์นำผู้รอดชีวิตไปยังอาลาสก้าก่อน ส่วนตัวเองก็ลงไปตามล่า ดร.ไอแซ็ค ต่อซึ่งบัดนี้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดอาวุธชีวภาพที่ทรงพลัง ซึ่งเกิดการสู้กันก่อนที่ท้ายที่สุด ร่างโคลนของอลิซ เปิดระบบเลเซอร์ตัดแบบในภาคแรกสังหารได้สำเร็จ
ในเวลาต่อมา อัลเบิร์ต เวสเกอร์ตัดสินใจโอนงานทั้งหมดจากศูนย์ที่อเมริกามายังสาขาญี่ปุ่น ซึ่งอลิซก็ส่งข้อความทักทาย ก่อนจะพบว่ามีร่างโคลนตัวเองเป็นจำนวนมาก
Resident Evil: Afterlife: ผีชีวะ4 สงครามแตกพันธุ์ไวรัส
เกิดเหตุกองกำลังร่างโคลนของอลิซ ได้เข้าบุกโจมตีศูนย์วิจัยอัมเบรล่าที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้หน่วยรบของศูนย์วิจัยพยายามจะสกัดขัดขวางทุกวิถีทาง โดย อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ที่ตอนนี้ขึ้นมาควบคุมทุกอย่างในอัมเบรล่าคอยสั่งการ ก่อนที่จะหลบหนีแล้วทำการระเบิดศูนย์วิจัยและญี่ปุ่นหายไปจากโลกในที่สุด
แต่ขณะที่บินหนีอยู่นั้น อลิซตัวจริงที่ซ่อนตัวก่อนหน้านี้ ใช้ปืนจี้ แต่เวสเกอร์ตัดสินใจใช้เซรุ่มล้างพลังของอลิซจนหมดสิ้น แต่ยังไม่ทันได้กำจัดเธอ เครื่องบินก็ตกเสียก่อน ซึ่งอลิซรอดกลับมาได้อย่างหวุดหวิด
อลิซ ออกเดินทางไปยังอลาสก้าตามแผนเดิม เพื่อหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆตามบันทึกในภาคที่แล้ว ซึ่งเธอหยุดลงที่สุสานเครื่องบิน ซึ่งได้พบเฮลิคอปเตอร์ที่พวกผู้รอดชีวิตหลบนี้ไปครั้งก่อน ทำให้อลิซเชื่อว่าน่าจะมีใครซักคนอยู่ที่นี่ ซึ่งทำให้เธอได้พบ แคลร์ เร็ดฟิลด์ ซึ่งจู่ๆก็บุกโจมตีใส่เธอ ก่อนจะพบว่าเธอถูกบังคับด้วยเครื่องควบคุมที่ฝั่งอยู่ที่หน้าอกเธอก่อนที่อลิซจะดึงออก แต่เมื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ได้คำตอบเพราะแคลร์สูญเสียความทรงจำชั่วคราว ก่อนในวันถัดมาทั้งคู่ออกเดินทางหาผู้รอดชีวิตต่อไป
ขณะที่กำลังเดินทาง อลิซ พบเหล่าผู้รอดชีวิตใน ลอส แองเจลลิส จึงแวะลงจอด ซึ่งที่นี่พวกเขาได้พบเหล่าผู้รอดชีวิต ลูเทอร์, เบนเน็ต, คริสตัล, กิมยอง, ออติส แล้วรวมถึง คริส เร็ดฟิลด์ พี่ชายของแคลร์ที่ถูกจับตัวอยู่ที่นี่ และ อลิซ ได้พบความจริงเกี่ยวกับสถานที่ชื่อ อาร์เคเดีย จากเหล่าผู้รอดชีวิตและแคลร์ว่า มันไม่ใช่เมืองในอลาสก้า แต่มันคือชื่อเรือบรรทุกสินค้าที่ยังคงจอดและพวกเขาเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้หลายคนก็ฝากความหวังว่าอลิซจะพาไปยังที่นั่นให้ได้
ในที่สุดพวกเขาวางแผนที่จะไปยังเรือบรรทุกสินค้าอาร์เคเดีย โดย คริสเสนอว่าให้ใช้รถหุ้มเกราะแล้วค่อยหาเรือมุ่งไปยังเรือที่ว่า แต่ทว่าฝูงซอมบี้ได้บุกเข้ามาแถมมีสัตว์ประหลาดตัวใหม่อย่างปีศาจค้อนยักษ์ ที่กะจะเอาชีวิตพวกเขา ก่อนจะสิ้นท่าหลังเจออลิซและแคลร์สาดกระสุนจนสิ้นชีพ แต่ก็เสียผู้รอดชีวิตไปหลายคนส่วนลูเธอร์ไม่ทราบว่าหายไปไหน ขณะที่ เบนเน็ต กลับเอาตัวรอดไปยังอาร์เคเดียก่อนหน้านี้
หลังจากเหลือแค่สามคน อลิซ และ พี่น้องเรดฟิลด์ ก็เดินทางมายังจุดหมายดังกล่าวแต่เมื่อมาถึงพวกเขากลับพบว่าที่นี่ไม่ใช่ที่หลบภัย แต่มันคือกับดักที่ เวสเกอร์ ล่อพวกเขาออกมาได้สำเร็จ ซึ่งทั้งนี้เพราะเวสเกอร์ต้องการตัวอย่างเลือดจากอลิซนั่นเอง ซึ่งถ้าได้มาก็จะสามารถสร้างไวรัสที่สามารถควบคุมได้มากกว่าเดิม แต่ก็เกิดการต่อสู้กัน ซึ่งเวสเกอร์ที่ฉีดไวรัสจนกลายเป็นคนเหนือมนุษย์ ก่อนที่ จิล จะสยบเวสเกอร์ แม้จะฟื้นได้ก็ไม่วายถูกพี่น้องเร็ดฟิลด์แจกกระสุนไม่อั้น
หลังจากที่ช่วยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆบนเรือ ทว่าเวสเกอร์ยังไม่ตาย ก่อนจะพยายามหลบหนีแล้วเตรียมระเบิดเรือ ซึ่งปรากฏเขาพบว่าระเบิดอยู่ในเครื่องบินที่เขาบังคับก่อนจะระเบิดไปพร้อมกับเขาอีกรอบหนึ่ง
หลังจากที่ทั้งสามช่วยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆได้ดูเหมือนเหตุการณ์คงจะจบลงแล้ว แต่ทว่ามีฝูงเฮลิคอปเตอร์จากอัมเบรล่าได้ล้อมรอบเรือ ซึ่งคนที่บัญชาการครั้งนี้คือ จิล วาเลนไทน์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แร็คคูณ ซิตี้ ที่ตอนนี้เธอถูกล้างสมองแล้วกลายเป็นคนของอัมเบรล่า
Resident Evil: Retribution: ผีชีวะ5 สงครามไวรัสล้างนรก
หลังจากเกิดเหตุที่อัมเบรล่าส่งกองทัพภายใต้การนำของ จิล วาเลนไทน์ ทำให้เรืออาร์เคเดียล่ม แต่ก็สามารถจับตัว อลิซ มาได้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะสามารถหลบหนีจนมาถึงตึกศูนย์วิจัยอีกครั้ง แล้วทำให้เธอได้เจอกับ เอด้า หว่อง นักฆ่าที่เคยทำงานให้กับ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ซึ่งเจ้าตัวก็ปรากฎผ่านจอ ซึ่งยังไม่ตาย แล้วยังขอสงบศึกชั่วคราว เพราะตอนนี้ไวรัสแทบจะกลายเป็นดินแดนแห่งความตาย ความหวังที่จะหยุดเรื่องราวครั้งนี้คือ อลิซ นั่นเอง
แล้วความจริงที่รู้อีกก็คือเธอไม่ได้อยู่ที่โตเกียว แต่มันคือหนึ่งในฉากจำลองที่อัมเบรล่าสร้างขึ้น เพื่อทดสอบอาวุธชีวภาพ ซึ่งตั้งอยู่ที่รัสเซีย นั่นเพราะบางอย่างไม่สามารถทดสอบในพื้นที่จริงๆ (แล้วทีไวรัสละครับ ฮ่าๆ) ซึ่งสถานจำลองนี้ก็มาจากเม็ดเงินที่ขายอาวุธชีวภาพ แต่เนื่องจากทั้งสองคนติดอยู่ในใต้ดิน ซึ่งเวสเกอร์ได้เตรียมทีมช่วยเหลือไปให้เรียบร้อย ซึ่งสมาชิกมี ลูเธอร์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากภาคที่แล้ว, แบร์รี่ เบอตั้น และ ลีออน เอส เคเนดี้ (ลีออนจีนแดง ฮ่าๆ) ซึ่งพวกเขากำลังเดินทางเพื่อมาช่วยทั้งสองคนนั่นเอง
เวสเกอร์ได้บอกรายละเอียดเส้นทางหนีเพื่อไปเจอกับกลุ่มของเวสเกอร์ แต่ทว่าก็ถูกรบกวนโดยระบบ Red Queen แล้วกลุ่มของ จิล ก็กำลังตามล่าพวกเธอทั้งสอง เกมไล่จับในศูนย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ทั้งสองกลุ่มต้องเจอกับดักและอาวุธชีวภาพที่เตรียมเพื่อกำจัดพวกเขาโดยเฉพาะ
อลิซ และ เอด้า หลังจากหนีส่วนของนิวยอร์ก ก็ได้มาเจอที่โซนหมู่บ้านซึ่งเธอได้พบกับ เบ็กกี้ เด็กสาวร่างโคลนที่ถูกตั้งโปรแกรมว่าอลิซคือแม่ของเธอ แต่ยังไม่ทันจะหนี ก็พบว่า จิล และกองทัพอัมเบรล่าได้ล้อมหน้าบ้านไปแล้ว ซึ่งสมาชิกในกองทัพต่างก็เป็นร่างโคลน ที่อลิซ รู้จักเช่น คาร์ลอส, เรน และ หัวหน้าทีมคอมมานโดจากภาคแรก แต่เอด้าตัเสินใจเปิดฉากยิงใส่ทันทีจนเกิดสงครามย่อมๆ ก่อนจะมอบข้อมูลและอุปกรณ์ให้ อลิซ ไปสมทบกับพรรคพวกที่เหลือในโซนกรุงมอสโคว โดยเอด้าจะทำการซื้อเวลาไว้ให้
หลังจากพาเบ็คกี้ไปถึงสถานีรถไฟ ก็ได้เจอร่าบโคลนของ “เรน” อีกร่างหนึ่ง ก่อนจะซิ่งรถไปเจอสมาชิกที่เหลือแต่ทว่ายังไม่ทันทักทายก็ต้องหนี Licker หนึ่งในวุธชีวภาพขาประจำของซีรีส์เกมชุดนี้ ที่ภาคนี้ดุดันกว่าเดิม รวมถึงซอมบี้ทหารรัสเซียที่ยังตามล่าไม่สิ้นสุด
เมื่ออลิซกลับมารับเบ็กกี้และ เรน ร่างโคลนอีกร่าง จึงตัดสินใจเดินทางไปยังทางเดินตรงโซนเรือดำน้ำเพื่อกลับไปยังลิฟต์ที่จะขึ้นสู่ชั้นบน แต่ทว่า Red Queen สั่งปิดระบบทุกอย่าง ก่อนที่พวกเขาจะเจอ Licker อีกหน ที่งานนี้ แบร์รี่ โดนสะบะสะบอม ส่วน เรน ในร่างโคลน เสียชีวิต
แต่ความซวยมาเยือนอีกหนเมื่อ จิล และกองกำลังของอัมเบรล่าที่มีร่างโคน ก็ตามไล่ล่ามาถึงที่นี่ ซึ่งลูเธอร์และแบร์รี่ ถ่วงเวลาเพื่อให้ จิล ไปช่วย เบ็กกี้ที่ถูก Licker ลักพาตัวไป หลังจากอลิซช่วยเบ็กกี้มาได้ ก็มาถึงห้องหนึ่งซึ่งพบร่างโคลนของเธอจำนวนมาก ก่อนที่ Licker จะตามมาราวีไม่เลิกคราวนี้เธอใช้ระเบิด หลบหนีส่วนทางด้าน ลูเธอร์ กับ ลีออน ก็ระเบิดศูนย์วิจัยจนทำให้ทั้ง 5 คน รอดชีวิตมาได้ในที่สุด
ทว่ายังไม่ทันหนีพ้น ก็ถูกเรือดำน้ำขัดขวางก่อนจะพบว่า จิล และ เรน ในร่างโคลนของอัมเบรล่า ได้จับกุม เอด้า หว่องเป็นตัวประกัน แล้ว เรน ตัดสินใจฉีดไวรัส Las Plagas เพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง ก่อนจะเปิดศึกตัดสิน ซึ่งอลิซสามารถดึงเครื่องควบคุมจากจิลได้สำเร็จ แล้วเมื่อจิลได้สติจึงโยนปืนให้ อลิซ ยิงตรงพื้นน้ำแข็งส่งร่างโคลน เรน ไปเป็นอาหารให้พวกซอมบี้ในที่สุด
หลังจากกลับมายังฐานทัพที่สหรัฐฯ เวสเกอร์จึงตัดสินใจฉีด T-virus กลับไปยังร่างของอลิซอีกครั้งหนึ่ง และได้บอกเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะอะไร ถึงยอมสงบศึกชั่วคราว เพราะว่าเธอคือความหวังของมนุษยชาติที่จะหยุดเรื่องราววิปโยคในครั้งนี้
และมันคือ “จุดเริ่มต้นของบทอวสาน”
Resident Evil : Final Chapter อวสานผีชีวะ
นี่คือภาคอวสานแล้วยังเป็นการปิดฉาก 15 ปีสุดระทึกของหนังชุดนี้
เรื่องราวได้ขยายความเพิ่มเติมจาก 5 ภาคที่ผ่านมาเกี่ยวกับอัมเบรล่า ซึ่งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ได้เปลี่ยนประวัติใหม่โดยเล่าว่า ผู้ก่อตั้งบริษัทอัมเบรล่าคือ ศาสตราจารย์ เจมส์ มาร์คัส ซึ่งมีลูกสาวชื่อว่า อลิเซีย เธอเป็นโรคชราที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก ซึ่งยังไม่มีทางรักษา ด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูกสาว จึงใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา ก่อนจะสร้าง T-Virus ที่เหมือนเป็นสิ่งที่จะซ่อมร่างกายให้กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งอลิเซีย คือ คนแรกที่ได้รับเชื้อนี้ ซึ่งทำให้ มาร์คัส ได้นำไปใช้ประโยชน์มหาศาล นอกจากนี้ยังเก็บข้อมูลในตัวลูกสาวรวมถึงบันทึกรายละเอียดต่างๆ ที่กลายเป็นที่มาของ Red Queen ในภายหลัง
การค้นพบ T-Virus สร้างคุณประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ทว่าผลข้างเคียงกลับโทษร้ายแรงหลังมีข่าวพบซอมบี้ตัวแรก ที่ทำร้ายคนในรถกระเช้า ข่าวนี้ทำให้บริษัทสั่นคลอนอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในหุ้นส่วนอย่าง ดร.ไอแซค (วายร้ายในภาคที่ 3) อยากให้ปิดข่าวแล้ววิจัยต่อไป แต่มาร์คัสต้องการจะยุติในสิ่งที่ตัวเองสร้าง ต่อให้เสียเม็ดเงินไปมากแค่ไหน แต่ท้ายสุด ดร.ไอแซค และ เวสเกอร์ ก็ฆ่ามาร์คัส ก่อนที่เขาจะขึ้นเป็นประธานบริษัทอย่างเต็มตัว
หลังขึ้นเป็นใหญ่ในบริษัทอัมเบรล่า ดร.ไอแซค จึงได้นำข้อมูลของมาร์คัสเกี่ยวกับลูกสาว มาสร้างเป็ระบบปัญญาประดิษฐ์ประสิทธิภาพสูงที่ชื่อ Red Queen เพื่อที่จะสามารถกอบโกยผลประโยชน์ได้มากขึ้น
กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว ซึ่งตอนนี้วอร์ชิงตัน ดีซี ไกลเป็นดินแดนเถื่อน หลังสงครามระหว่างสัตว์ประหลาดอาวุธชีวภาพ และ มนุษยชาติ อลิซ ซึ่งกลายเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่จะหยุดเรื่องราวในครั้งนี้
หลังจากที่หนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ก็เจอห้องใต้ดิน ซึ่ง Red Queen ปรากฏตัวขึ้น โดยบอกว่าตอนนี้ยังมีมนุษย์เหลือ 4,472 คน และจะมีชีวิตเหลืออีก 48 ชั่วโมง ซึ่งการจะทำให้มนุษย์มีลมหายใจต่อได้นั้น คำตอบคือ แอนตี้ไวรัส ที่สามารถล้าง T-Virus ซึ่งสถานที่จะไปเอามาให้ได้ก็ไม่ใช่ที่ไหน แต่มันคือ The Hive ศูนย์วิจัยใต้เมืองแร็คคูน ซิตี้ สถานที่เกิดเรื่องราวทั้งหมดนั่นเอง
นี่คือโอกาสที่ทั้งสองจะได้แก้ไขในสิ่งที่ผิด ก่อนที่ อลิซ จะเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นของฝันร้ายพร้อมเวลาที่เริ่มนับถอยหลัง
แต่เดินทางเพียงปากทางเท่านั้นก็ถูกอุบายของอัมเบรล่า ก่อนจะตื่นว่าเธอถูกจับพร้อมคนอื่นๆ แต่ไม่ตกใจเมื่ออลิซ ได้เจอกับ ดร.ไอแซ็ค ซึ่งเธอได้สังหารไปแล้ว แต่เขาเฉลยว่าที่เธอฆ่านั่นมันร่างโคลนของเขานั่นเอง ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องปล่อยตัวลงจากรถ ล่อให้พวกซอมบี้มา ซึ่งดธอสามารถเอาตัวรอดมาได้ ก่อนจะสู้กับ ดร.ไอแซ็ค จนเขาเสียแขนไปข้างหนึ่งทำให้ อลิซหนีไปยังเมืองแร็คคูน ซิตี้ ได้สำเร็จ
เมื่อเดินทางมาถึงตัวเมือง อลิซก็ได้เจอกลุ่มผู้รอดชีวิต ซึ่งมี แคลร์ เรดฟิลด์ อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งบางคนไม่เห็นด้วยที่เธอจะเข้ามา ซึ่งขณะเดียวกันอลิซก็ส่งข่าวเตือนว่าพวกดร.ไอแซ็ค พร้อมกองกำลังซอมบี้กำลังจะมาที่นี่ จึงต้องเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ในที่สุดกองกำลังซอมบี้ของ ดร.ไอแซ็ค ก็มาถึงงานนี้อลิซและพรรคพวกต่างก็พยายามปกป้องฐานสุดชีวิต แต่ด้วยกองกำลังที่มากของฝูงซอมบี้ ก็ตัดสินใจสละฐานพร้อมกับจัดการฝูงซอมบี้ด้วยเพลิง ก่อนที่ อลิซ จะพาทุกคนไปยังศูนย์วิจัย The Hive
เมื่อเข้ามาสู่ The Hive อลิซ และพวกก็ต้องเจออุปสรรคมากมายทั้งอาวุธชีวภาพ, กับดักในศูนย์วิจัย ก่อนที่อลิซจะได้เจอ ดร.ไอแซค ตัวจริง (รอบที่เท่าไรก็ไม่ทราบ ฮ่าๆ) ซึ่งอลิซก็ได้ทราบจาก The Red Queen คือ บันทึกการประชุมครั้งก่อนที่ไวรัสระบาด ซึ่ง ดร.ไอแซ็ค ได้ประกาศว่ามันคือวิธีจะสร้างโลกใหม่ นั่นเอง
ซึ่งเขามีแอนตี้ไวรัสอยู่ในมือ ซึ่งก็ถือโอกาสว่าถ้าอลิซเล่นลูกตุกติก โอกาสมนุษยชาติรอดจะเป็นศูนย์ทันที แต่ที่ร้ายกว่านั้น ด็อค หนึ่งในผู้รอดชีวิตก็เป็นหนอนบ่อนไส้ ก่นที่แคลร์ จะรู้ความจริงพร้อมเวสเกอร์ที่จ่อปืน
แม้ว่าอลิซจะวางแผนกำจัดแต่โชคร้าย ที่ดร.ไอแซ็คอ่านเกมออกเพราะว่า เขามีความสามารถในการวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้านั่นเอง ก่อนที่ อลิเซีย ลูกสาวและเจ้าของร่วมจะออกมา ก่อนที่จะเปิดโอกาส ออกคำสั่ง The Red Queen กำจัดเวสเกอร์ทันที ส่วน อลิซ ก็ให้แคลร์จัดการ ด็อค ก่อนที่อลิเซียจะบอก อลิซว่า ต้องจัดการก่อนที่ มนุษย์จะสูญสิ้น จึงรีบไปตามล่า ดร.ไอแซ็ค ต่อไป
หลังจากการไล่ล่าแสนยาวนาน ท้ายสุด ดร.ไอแซ็ค ก็ถูกร่างโคลนสังหาร หลังจากนั้นก็ถูกฝูงซอมบี้ฆ่าตาย ปิดฉากความชั่วร้ายที่เขาฝันไว้ในที่สุด พร้อมกับระเบิดศูนย์วิจัยจนหมดสิ้น ขณะที่ อลิซ ที่ได้แอนตี้ไวรัส จึงโยนทิ้งลงพื้น เป็นอันหยุดการแพร่กระจายไวรัสไปในที่สุด
หลังเหตุการณ์จบลง The Red Queen ได้มอบความทรงจำจาก อลิเซีย ก่อนที่เธอจะออกเดินทาง เพราะถึงทุกอย่างจะจบลงแล้ว แต่กว่าแอนตี้ไวรัสจะไปถึงทุกมุมโลก คงต้องใช้เวลาอีกมาก นั่นหมายถึงภารกิจของเธอยังไม่จบ หลังจากนี้เธอยังคงที่จะจัดการในสิ่งที่เหลือต่อไป
————————-
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของหนังชุด Resident Evil ซึ่งแม้จะเป็นหนังที่ดัดแปลงจากเกมดัง ซึ่งเมื่อทำเป็นหนังก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ไม่ว่าจะแฟนหนังและแฟนเกม เอาเป็นว่า รอดูตัวรีบู้ตละกัน!
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
- Film Virus#4 ฉบับสางสำแดง หน้า 502-503
- Filmmax ฉบับ มิถุนายน 2556
- https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=ido-bee
- http://www.majorcineplex.com/news/story-of-resident-evi
- https://www.sanook.com/movie/65613/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Resident_Evil_(film_series)