REVIEW : Resident Evil VILLAGE [PS5 / PS4 / Xbox X / Xbox ONE / PC ]

 Resident Evil VILLAGE  

ประเภท : FPS / Survival

เครื่อง : PS5 / PS4  / Xbox X  / Xbox ONE / PC 

วันวางจำหน่าย : 7 พ.ค.2021

รองรับภาษาไทย 

 

 

เกมนี้คือ!? 

Resident Evil VILLAGE  จะเป็นเกมผีชีวะ Resident Evil ภาคที่7 “ตอนเสริม” 

เป็นเกมแอคชั่นสยองขวัญมุมมองบุคคลที่ 1 เหมือนเดิม  และใช้ RE Engine  เช่นเดิม!

 

 

เรื่องราวจะอยู่ในไทม์ไลน์หลักของเรื่อง 3 ปี หลังจากเหตุการณ์ครอบครัวเบเกอร์สุดเพี้ยน และการกระจายไวรัส E-Series Evelene  “อีธาน วินเธอร์” และภรรยา “มีอา วินเธอร์” ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในหมู่บ้านแสนไกล ห่างจากฝันร้ายที่ผ่านมาของพวกเขา และเมื่อพวกเขากำลังสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน อยู่ๆ คริส เรดฟิลด์ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา และคราวนี้เขาไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรเหมือนเมื่อครั้งลุยบ้านเบเกอร์ แต่มาในฐานะศัตรูอย่างไม่ทราบสาเหตุ!

 

ชีวิตที่พังยับเยินไม่เป็นดั่งฝันของเขา ได้หลบหนีการตามรังควาญของมหาเทพเรดฟิลด์ จนไปถึงการตามหาลูกสาวที่ถูกพาตัวไปจนถึงหมู่บ้านที่มีหิมะปกคลุมซึ่งอยู่ห่างไกล เพื่อค้นหาคำตอบหลังจากที่เขาทราบว่า ทั้งหมด มันเริ่มขึ้นจากที่นี่ และมีอาเองก็อาจจะกุมความลับบางอย่างเอาไว้

 

 

ที่นั่น…อีธานได้พบกับศัตรูใหม่ “มนุษย์หมาป่า” ที่อาจจะเกิดจากไวรัสบางอย่างมารวมร่างกับคน…เรื่องราวจะจบยังไง ทำไมคริสต้องตามล่าอีธาน ติดตามได้ในเกม Resident Evil VILLAGE

 

 

GAMEPLAY

 การเล่นในภาคนี้ ยังคงเป็น FPS เช่นเคย เพราะทางทีมพัฒนาให้เหตุผลว่าจะมอบประสปการณ์ความตื่นเต้นได้ดีที่สุด สิ่งที่มีมาในภาคนี้ นอกจากปริศนาที่ท้าทาย เหล่าศัตรูที่แปลกประหลาดจากภาคก่อนๆแล้ว ยังคงมีความเป็น RE4 เข้ามาด้วย ในส่วนของระบบซื้อขายไอเทม อัพเกรดอาวุธ การหาตังค์ การจัดเรียงช่องไอเทมต่างๆ ล้วนถอดมาจากภาค4ที่เราๆคุ้นเคยกัน 

 

ตัวเกมจะนำเสนอความน่ากลัวในรูปแบบเคยใช้กับ RE4 มาก่อน นั่นก็คือ เปลี่ยนจากบ้าน สถานที่แคบ หรือห้องลับต่างๆ มาเป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความกดดัน และชวนให้ระแวง เพราะเราจะไม่รู้เลยว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ผู้เล่นจะได้สำรวจตัวอาคาร นอกจากบ้านคนเล็กๆแล้ว ยังมีปราสาทขนาดใหญ่ และการทดลองประหลาดที่ผสานกับความเชื่อตามแบบยุโรปลงไปด้วย

 

ช่องเก็บของแบบ RE4

สามารถอัพเกรดได้ ด้วยการซื้อกล่องเก็บของกับดยุค พ่อค้าที่ขายของในเกม ซึ่งในการเล่นรอบแรกอาจจะซื้อแค่สองครั้งก็เพียงพอแล้ว ไว้เล่นรอบสองค่อยซื้ออัพเกรดกระเป๋าสุดท้ายก็ได้ครับ

 

ระบบซื้อขายไอเทม อัพเกรดอาวุธ เราจะเจอพ่อค้าตุ้ยนุ้ยคนนี้ตลอดการเดินทาง

 ดยุค พ่อค้าที่เป็นมิตรกับผู้ที่จ่ายตังค์ และเขาก็มองว่า อีธาน คือลูกค้าชั้นดี เขามักจะมีอะไรใหม่ๆมาเสนอขายในราคาแพงลิบ แต่ก็ใช้งานได้จริง

 

 

มีข้อควรระวังก็คือ ของที่ดยุคขาย “มีจำนวนจำกัด” เช่น กระสุน ยาต่างๆ ซึ่งจะหมดแผงขายได้ ต้องรอไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ปราสาท ดันเจี้ยน หรือสถานที่ใหม่ๆ และดยุค จะเติมสต๊อคสินค้าไว้ขายให้ใหม่นั่นเอง มีตังค์ใช่ว่าจะซื้อแหลกราญแบบไม่จำกัด โชว์รวยไม่ได้นะ แม้ว่าหลังๆ เกมจะดรอปตังค์มาเยอะแต่ไหน คุณก็ไม่สามารถซื้อของได้เพราะหมดสต๊อคแล้วนั่นเอง ดังนั้น บริหารการซื้อของ เผื่อไปลุยบอสด้วยล่ะ

 

 

นอกจากขายของแล้ว ดยุคยังเป็นพ่อครัวมือฉกาจ ที่สามารถทำอาหารเพิ่มสเตตัสถาวรให้อีธานได้ด้วย แต่อีธานจำเป็นต้องออกไปล่าวัตถุดิบเอาเอง ดังนั้นในเกมนี้ เราจะต้องไล่ยิงหม ไก่ ปลา ในฉากด้วย เพื่อเอาเนื้อมาทำอาหารเสริมนั่นเอง

 

การ์ดอย่าตก!!

การกดการ์ดป้องกัน คือสิ่งจำเป็นมากๆในภาคนี้ ผู้เล่นสามารถสวนกลับในช่วงชุลมุนได้ด้วยเทคนิคดังกล่าวและถ้าได้บัฟอาหารเสริมมา การกดการ์ดป้องกัน จะช่วยลดดาเมจอย่างมาก แม้แต่กับการโดนบอสฟาดหนักๆ ก็ไม่สะเทือนเลย ถ้าใช้ถูกจังหวะ

 

ตาต้องไว! 

เพราะไอเทมซ่อนในฉากค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น เพชร อัญมนีทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงการไขปริศนาชนิดที่ว่า “ต้องสังเกตุ + ตีความคำใบ้” การเก็บเอกสารต่างๆในเกม หรือการมองป้ายต่างๆ จะช่วยให้เราผ่านปริศนา หรือได้รับไอเทมที่จพเป็นในการไปยังจุดต่อไปได้

 

การดวลบอสสุดตึงมือ

ในเกมจะมีสเกลแผนที่ค่อนข้างใหญ่ และซับซ้อน พร้อมกับฝูงมนุษย์หมาป่า และอาวุธชีวภาพหลากชนิด รวมไปถึงบอสที่มีลูกเล่นชวนปวดประสาท งานนี้ต้องบริหารจัดการกระสุนให้ดี ว่าจะคราฟท์ของอะไรดี 

 

 

 

 

REVIEW  9/10 RANK A

***รีวิวนี้เล่นบน PS4***

เนื้อเรื่อง 3/3

เกมเพลย์ 3/3

งานภาพ 2/3

ความชอบ 1/1

Resident Evil ไม่จำเป็นต้องยิงซอมบี้เสมอไป ภาคนี้ฉีกภาพเดิมๆได้สำเร็จ และขยายจินตนาการของ “อาวุธชีวภาพ”ไปไกลมาก

***ใครไม่ถนัด FPS หรือมีอาการ Motion Sickness  ผ่านเกมนี้ไปได้เลย ขนาดแอดมินแข็งๆ FPS ยังต้องขอพักทุกๆ ชม.เลย***

 

 

ด้วยความที่เป็นติ่งของ RE มาแทบทุกภาค เห็นวิวัฒนาการของเกมยิงผีเกมนี้มาตลอด ก็รู้สึกคาดหวังทุกภาคที่ออกมาว่าจะเชื่อมโยง “แก่น” ของเรื่องราวอันแสนวุ่นวายนี้อย่างไร และในภาคนี้ก็เช่นกัน ทันทีที่เห็นตัวอย่างออกมาในวันเปิดตัว รู้สึกว่า มาไกล และตีความ “อาวุธชีวภาพ” มาได้ขนาดนี้เลยหรือ 

 

เนื้อเรื่องในเกม จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละคร อีธาน แบบ FPS เช่นเดิม โดยในภาคนี้ทีมงานสามารถ ดึงอารมณ์ร่วมให้ผู้เล่นเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์สุด WTF ได้ดีมากๆ ในเกมมีการไต่ระดับการเล่าเรื่อง การสอดแทรกกิมมิคเรื่องราวต่างๆได้อย่างแนบเนียน น่าสนใจ ตอนแรกกะว่ารีวิวนี้จะออกช้าซัก 2-3 วันหลังเกมวางขาย เพราะคิดว่า “ว่างๆค่อยเล่น” แต่ทันทีที่ทาง CAPCOM ส่งเกมนี้มาให้รีวิว ก็ปรากฎว่า แอดมินต้องเล่นลากยาวจนจบเพราะความอยากรู้เรื่องราวต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ทำไมคริสถึงต้องทำอย่างนั้น? หมู่บ้านนี้มันมีอะไรซ่อน? และเรื่องราวอันแสนซับซ้อนวุ่นวาย ที่ถูกปูมาตั้งแต่ภาค 7 ก็ได้สานต่อ และคลายปมทั้งหมด พร้อมส่งไม้ต่อของแฟรนไชส์นี้ให้ทีมพัฒนา ทำไปในทิศทางใหม่ๆได้

 

ในภาคนี้ จะบอกว่า “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกม มีเหตุผลรองรับ” เสมอ… แม้จะมีอะไรบ้าๆบอๆใส่มาในภาคนี้จนต้องอุทานว่า “เ-ี่ยไรวะเนี่ย” ก็ตาม และยังลากยาว เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกับ RE ภาคก่อนๆได้ แม้ว่าจะดูฝืนๆ ยัดเยียดเพื่อให้เข้ามามี “เค้าโครง” ของREภาคก่อนๆ แต่ยังอยู่ในจุดที่ยอมรับได้ ซึ่งอย่างที่บอกครับ การเล่นเกมนี้ ต้องไล่เก็บเอกสารให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะเอามาต่อเรื่องราวได้ โชคดี ที่เกมนี้แปลไทยมาแล้ว ทำให้เข้าใจเรื่องราวได้มากขึ้น (ถึงบางประโยคจะแปลผิดความหมาย เพราะเป็นคำแสลง หรือผิดบริบทด้านภาษาไทยไปบ้าง ก็ยังทำให้ภาพรวมของเกมแปลไทย ยังอยู่ในระดับที่ดีแล้ว)

 

ซึ่งถ้าให้เล่าเนื้อเรื่องแบบสปอยล์ คงเล่าได้ไม่กี่หน้ากระดาษ เพราะเนื้อหาค่อนข้างสั้น หากนำมาเทียบกับจำนวนชั่วโมงเล่นจริงๆ  (ในเกม บันทึกว่า 8 ชม. จบ แต่คัตซีนรวมๆกันนี่เล่นไปเกือบๆ 12 ชม ลากยาวในเวลาจริง) ใครอยากอ่านสปอยล์ แอดมินเอาไว้ท้ายๆบทความเลย เลื่อนดูเอาเองละกัน ซ่อนไว้ยาวๆละ 555

 

 

 ในส่วนของเกมเพลย์ นั้น เรียกว่า เป็นการรวมมิตรเอาทั้งความน่ากลัว ตื่นเต้น กดดัน และ แอคชั่นมันส์ๆเข้าไว้ด้วยกัน   (ช่วงท้ายนี่มันส์จัดยังกะคนละเกม 555) อีธาน ยังคงยิงปืนห่วยเหมือนเดิม แต่ของแบบนี้ แก้ได้ด้วยการ “ระบบอัพเกรดปืน” ผ่านระบบซื้อขายอาวุธ และ “ระบบอาหารเสริม” เรียกว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆอย่างนึงในเกมนี้เลยก็ว่าได้

 

หากให้เทียบแล้ว อีธาน “ต้นเกม” กับ อีธาน “ท้ายเกม” จะเก่งขึ้นอย่างชัดเจน หากคุณอัพเกรดทั้งร่างกาย และอาวุธ ตัวเกมทำมาสมเหตุผลพอควร เพราะถ้าอีธานเก่งต้นเกม ตัวละครก็จะไม่มีการพัฒนา และทำให้ความลึกในการเล่นหายไป

 

 

ภาพรวมของเกมเพลย์ ยังคงรักษาบาลานซ์ความน่ากลัว อึดอัด กดดัน และ แอคชั่นไว้ในระดับที่ ไม่น่ากลัวจนเกินไป ไม่บู๊บ้าพลังสาดแหลกจนเกินไป ในช่วงต้น – กลางๆเนื้อเรื่อง ถือว่าทำได้ดีมากๆ

 

และ เริ่มเก็บทรงไม่อยู่ในด้าน Level Design ที่หลุดๆมาในช่วงกลาง – จบเกม ที่ทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อกับการวิ่งขึ้นลงคราฟท์ไอเทม แก้ปริศนา ใน “ด่านสุดท้ายก่อนศึกตัดสิน”  และยิ่งเล่น เราจะเห็นความซับซ้อนของฉาก ที่ทวีความชวนปวดหัว ก่อน ไปกองกันตรงท้ายๆเกม ที่จัดเต็ม ลากยาวจนน่าเบื่อ และเป็นพาร์ทที่เสียเวลามากที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้  แต่ถ้าคุณผ่านจุดนั้นมาได้ ความบันเทิงระดับ Call of Duty จะมีมาเสิร์ฟคุณถึงที่เลย และ ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนคลับ คริส เรดฟิลด์ บอกเลยว่า สมการรอคอยครับ!!

 

 

การดวลกับเหล่าศัตรูในเกม หลายคนบ่นว่า “นี่ไม่ใช่ RE แล้ว ไม่มีซอมบี้เลย” ถ้าว่ากันตามตรง เกมนี้ ยังคงอยู่ในจักรวาล RE ที่ยังต้องต่อสู้กับ “ไวรัส” และ “B.O.W” (อาวุธชีวภาพ) อยู่ เพียงแต่ไวรัสที่ทำให้คนเป็นซอมบี้นั้นมันดันกลายเป็นภาพจำไปแล้ว ซึ่งการต่อสู้กับซอมบี้โง่ๆในเกมภาคก่อนๆ จะไม่ได้ทำให้คุณพีคมากไปกว่าการยัดจำนวนเข้าว่า และการวิ่งหลบพวกมันไปยังฉากต่อๆไป

 

แต่ใน ReVill ได้ยกระดับการต่อสู้กับ B.O.W. ไปอีกขั้น ด้วยการที่เป็น มนุษย์หมาป่า (ในเกมเรียก ไลแคน) พวกมันมีจำนวนมาก ว่องไว รู้จักหลบหลีก และ ใช้อาวุธเป็น! ทั้งอาวุธประชิด และการยิงธนูที่แม่นเหมือนจับวาง ทำให้การต่อสู้กับพวกมัน ต้องใช้ฝีมือ และการคิดก่อนลั่นไก เพราะในเกม กระสุนหาไม่ยากหรอก ในฉากที่ต้องดวลกับพวกลูกเบ๊ แต่จะไปหายากเอาตอนสู้กับบอสนี่แหละ ดังนั้น คิดก่อนยิง เก็บไว้ใช้กับบอสประจำด่าน จะดีที่สุด

 

แต่เกมก็ล่อลวงให้ผู้เล่นต้องฆ่าพวกเบ๊รายทาง เพราะ “พวกมันดรอปเงิน และวัตถุดิบทำไอเทม” นี่แหละ เอาเป็นว่า “แล้วแต่คนเล่นละกัน” อยากยิงฟาร์มของ ก็ถือเป็นการลงทุนที่เสี่ยงอยู่นะ

 

 

ตัวเกมได้เอาแนวทางการแก้ปริศนาที่ให้ความรู้สึกถึงเกม RE ยุคก่อนๆมาใช้ได้คุ้มค่า บางปริศนาจัดว่ายาก และท้าทายความคิดพอควร บางฉากการดวลกับบอสก็ไม่ได้ยิงปืนใส่ซักนัดก็มีให้เห็นมาแล้ว เพราะมีช่วงเน้นการแก้ปริศนาเข้มๆแรงๆ และการ Hide and Seek เล่นซ่อนหา วิ่งหาทางออก ก็ยังมี (และทำให้พาร์ทนั้นกลายเป็นเกมสยองขวัญเต็มขั้นเลย สู้ไม่ได้ หนีอย่างเดียว ยังกะ Outlast) 

 

แต่ทั้งหมด ยังไม่หนักหนาเท่าการ วิ่งไอเทมจากที่ๆห่างไกล มาแก้ไขในจุดที่ผ่านมาแล้ว ในบางช่วง ตัวเกมจะมีจุดที่ไม่สามารถเข้าถึง หรือแก้ปริศนาได้หากไม่มีไอเทม ตัวเกมจะพาเราไปหา “คีย์ไอเทม” และต้องย้อนกลับไปกลับมา ระหว่าง หมู่บ้าน -ปราสาท -ฉากบอส- หมู่บ้าน วนไปเพื่อเอาของที่ได้จากฉากนั้นๆมาแก้ปริศนากันไปๆมาๆ ถามว่า “ไม่แก้ได้มั้ย?” … ตอบเลยว่า “ได้” แต่คุณก็พลาดไอเทมอัพเกรด เงิน หรือเบาะแสที่ทำให้เนื้อเรื่องมันถูกขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

ในส่วนงานภาพ ตัวเกมเป็น FPS เต็มขั้น ฉากต่างๆในเกม จะไม่อึดอัดคับแคบเหมือน RE7 อีกต่อไป แต่ตัวเกมจะเล่นกับบรรยากาศ เสียง ที่โฉบไปมาให้คุณระแวงเล่นๆแทน แม้งานภาพจะใช้ RE Engine แต่ตัวเกมก็ยังมีอาการโหลดวัตถุในฉากไม่ทัน และมีอาการเฟรมเรทร่วงใน PS4Pro แม้จะเปิดเพียง 1080p 60fps ที่เป็นค่าเซตติ้งเน้นเฟรมเรทก็ตาม  และยิ่งถ้าคุณเปิด 4k 30fps นี่จะเห็นชัดเจนเลยบน PS4  เกมนี้เอาจริงๆ ถ้าไม่มีปัญหาใดๆเลย คงต้องไปเล่นใน PS5 หรือ PC ละครับ  ซึ่งจุดนี้เราคงไม่เอามาเป็นเกณฑ์ตัดสิน เอามาเล่าสู่กันฟังมากกว่า 

 

เนี่ย มุมกล้องอะไร ดูไม่รู้เรื่องเลย 555 ใกล้เกินไปก็ใช้ว่าจะดีนะ

 

ส่วนที่ทำให้ต้องบ่นจริงจัง คือเรื่องของบั๊กต่างๆ ทั้งวัตถุจมฉาก ,ตัวละครศัตรูค้างบนพื้น ,การไล่ล่าแล้วโดนอัดมุม จนไม่สามารถแสดงผลตรงหน้าได้ เหมือนตัวเราจมไปในฉาก สิ่งเหล่านี้ มีมาไม่บ่อย แต่มันก็จะเกิดขึ้นหลายๆครั้งกับการดวลบอส หรือศัตรูในที่แคบ เช่น โถงทางเดิน หรือภายในโครงสร้างอาคาร ที่มีความซับซ้อนของวัตถุ มีหลายครั้งที่โดนอัดติดมุมแล้วฉีกหลบซ้ายขวาไม่ได้ เหมือนโพลีก้อนมันจมกันไปแล้ว (555+) แต่มันก็ปัญหายิบย่อยประปรายครับ  เพราะภาพรวม งานภาพในเกม จัดว่าสวยงาม อลังการสมการรอคอยอยู่ดี…

 

 

แน่นอนว่าหลายคนที่มีอาการ Motion Sickness  ปล่อยผ่านไปได้เลย แต่ถึงอย่างนั้น ใครที่รู้ตัวว่ามีอาการ แต่อยากเล่น ตัวเกมมี Option ตัวเลือกในการเปิดโหมดเป็นแบบ 60fps ที่ทำให้ภาพลื่นขึ้น สมูธขึ้น และปิดพวก Motion Blur ก็สามารถช่วยคุณได้ 

 

 

 

โดยรวม ตัวเกม เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นอีกหนึ่งภาคที่ใครได้เล่นแล้วจะต้องชอบแน่นอน ด้วยบท และองค์ประกอบหลายๆอย่าง ที่แม้ว่าจะขาดๆเกินๆไปบ้าง แต่มันก็ทำหน้าที่เกมได้ครบทุกมิติแล้ว 

งานนี้ ถ้า Capcom จะเล่าเรื่องต่อจากภาคนี้ หรือก้าวสู่ยุคใหม่ของจักรวาล RE  นี่ต้องคิดหนักเลยล่ะ

 

เพราะภาคนี้ วางโครงสร้างใหม่ๆทิ้งไว้ให้ค่อนข้างเยอะ อยู่ที่ว่า จะสานต่อหรือปล่อยจาง ไปหากินกับการรีเมคภาคเก่าเท่านั้น..

 

 

แอดมิน Ak47

 

WARNING!!

 

 เล่นยังไม่จบ ยังไม่ซื้อ อยากลุ้น อยากเล่นเอง ก็กดปิดบทความเราไปได้เลย

 

แต่ถ้าใครที่ไม่คิดซื้อ หรืออยากรู้เนื้อเรื่อง แต่ขี้เกียจเล่น เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลยครับ!!

 

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 —

 

 

 

สปอยล์ เนื้อเรื่อง

 

หลังจากที่อีธาน และ มีอา ได้ออกมาจาบ้านเบเกอร์ในภาค 7 สองผัวเมียบ้านวินเธอร์ ก็ออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบในชุมชนอันห่างไกลแถวๆยุโรป โดยทั้งคู่ มีลูกสาวที่ชื่อ “โรส” และใช้ชีวิตภายใต้การจับตามองของ Blue Umbrella ที่มี คริส เรดฟิลด์ เป็นหัวหน้าทีม 

 

วันหนึ่ง พวกของคริสได้บุกเข้ามาที่บ้าน และฆ่ามีอา ต่อหน้าอีธาน และยังชิงตัวโรสไป ด้วยความดื้อด้าน และโกรธจัด ทำให้อีธานขัดขืน ต่อสู้ แต่ก็ถูกทุบจนสลบ และพาตัวมากับทีมของคริส แต่ว่าระหว่างการควบคุมตัว รถขบวนคุ้มกันก็เกิดอุบัติเหตุกลางป่า อีธานที่ได้สติ ก็พบว่า ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น

 

อีธานเดินมาตามทาง ลัดเลาะชายป่าจนรุ่งเช้า ก็พบกับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยซากศพ ที่นั่นเขาได้พบกับเหล่า ไลแคน มนุษย์หมาป่าคลั่งอาละวาดกินคน และยังได้พบว่า “โรส” ลูกสาวของเขา ถูก “คุณแม่มิแรนด้า” นักบุญประจำท้องถิ่นหมายตาไว้เพื่อพิธีกรรมบางอย่าง

 

อีธานได้พบกับ ไอเซนเบิร์ก และถูกจับตัวมายังต่อหน้า มิแรนด้า และ ผู้คุมกฎหมู่บ้านทั้ง 4 คน ที่รับใช้มิแรนด้า ได้แก่ “หญิงร่างยักษ์ เดมิเทรสกู” , “นักเชิดหุ่น เบเนเวียนโต้” , “มนุษย์อัปลักษณ์ มอโรว” และ “มนุษย์พลังแม่เหล็ก ไอเซนเบิร์ก” โดยไอเซนเบิร์กได้เสนอว่าขอเล่นสนุกกับอีธานก่อน ทำให้อีธานได้เอาตัวรอดจากการจับตัวในครั้งนั้น

 

และเขาก็หนีมาที่ปราสาทเดมิเทรสกู และได้พบเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับโรสที่นั้น ในระหว่างการหาทางหนีออกจากปราสาท เขาได้พบกับมีดอาบยาพิษประหลาดที่ว่ากันว่าสะสมพิษในอดีตเมื่อหลายร้อยปี (จุดนี้คาดว่าเป็นพิษจากดอกไม้ชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำ T-Virus ของอัมเบรลล่า) ในตอนที่อีธานจนมุมจากการตามล่าของเดมิเทรสกู และกำลังจะตาย เขาจึงเอามีดนั้นแทงลงไป และทำให้เกิดปฏิกริยาบางอย่างที่ทำให้เดมิเทรสกูต้องเผยร่างจริงอันน่าอัปลักษณ์ ทั้งสองสู้กัน และอีธานเป็นฝ่ายชนะ 

 

หลังจากนั้นเขาได้พบกับโหลแก้วสีเหลือง คาดว่าเป็นของที่เดมิเทรสกูต้องเก็บเอาไว้ และจะมีค่ามีราคา แต่เมื่ออีธานเอาไปให้ “ดยุค” พ่อค้าเร่ปริศนาที่ขายของในหมู่บ้านนี้ได้ดู ก็บอกว่า “นั่นคือชิ้นส่วนของโรส” ตอนนี้ ลูกสาวของอีธานถูกแยกชิ้นส่วนดองในขวดโหล 4 ใบ และอีธานได้มาแล้ว 1 ใบ นั่นทำให้อีธานโกรธมากทีทารกน้อยถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม แต่ยุคบอกว่า ด้วยพลังที่มีติดตัวของโรส ถ้าเก็บชิ้นส่วนครบ ทารกน้อยก็จะกลับมา…อีธานที่สับสน จนไม่อยากเชื่อ แต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามที่ดยุกบอก โดยโหลแก้วที่บรรจุร่างของโรสได้กระจายไปให้ผู้คุมกฎหมู่บ้านทั้ง 4 คนดูแล โดยตอนนี้ อีธานได้ฆ่าเดมิเทรสกูได้แล้ว ทำให้เหลืออีก 3 ชิ้นที่ต้องหามาประกอบร่าง…

 

 

หลังจากที่ได้หลบหนีมาจาก “บ้านพักตุ๊กตาผีของเบเนเวียนโต้” ออกมาได้ และ กำจัด “มนุษย์อัปลักษณ์ มอโรว” ที่หนองน้ำของหมู่บ้านได้สำเร็จตอนนี้ อีธานมีชิ้นส่วนของโรส 3 ชิ้นแล้ว และ อีธานได้รับการท้าทายจากไอเซนเบิร์กให้มาที่โรงงานเครื่องจักรท้ายหมู่บ้าน และเขาจะเล่าเรื่องราวให้ฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

 

อีธานไปที่โรงงานของไอเซนเบิร์ก ที่นั่นเขาได้พบกับความจริงที่ว่า ไอเซนเบิร์กเองก็ไม่พอใจที่มิแรนด้าทำการทดลองเอาเชื้อรา “เมกะไมซีต” ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับ E-Series แพร่กระจายทั้งหมู่บ้านจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต และทำให้เขาต้องกลายเป็นลูกน้องของมิแรนด้าแบบจำใจ ซึ่งในโรงงานนี้ เขาได้ผลิต “กองทัพมนุษย์จักรกล” (ไซเบอร์พังก์เรอะ??) นับพันๆตัว รอการปฎิวัติโค่นอำนาจมิแรนด้า ที่นั่นอีธานจะต้องเจอกับ มนุษย์ดัดแปลงหลากหลายเวอร์ชั่น แต่ก็เอาตัวรอดมาได้

 

แต่ทว่าจังหวะที่เขากำลังจะหนี ก็ถูกไอเซนเบอร์ก ซัดตกลงไปชั้นล่างสุดของโรงงานเป็นครั้งที่สอง…แต่คราวนี้ เขาได้พบกับ “คริส เรดฟิลด์” และคริสได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีธานได้ฟัง…

มีอาที่คริสฆ่าตายในตอนต้นเรื่อง เป็น “มิแรนด้า ปลอมตัวมา เพื่อชิงตัวโรสลูกสาวของอีธาน”  เพราะโรส มีพลังที่มิแรนด้าต้องการชุบชีวิตลูกสาวของเธอที่ตายไปเมื่อร้อยปีที่แล้ว คริสที่สังเกตุการณ์มาตลอด จึงได้สั่งบุกบ้านอีธาน และฆ่ามีอาตัวปลอม โดยคริสตั้งใจที่จะไม่บอกแต่แรก เพราะไม่อยากให้อีธานมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายนี้

 

แต่ทุกอย่างผิดแผน ทำให้คริสจำใจให้อีธานเข้าร่วมแผนการกำจัดมิแรนด้า โดยคริสได้มอบรถถังสารพัดประโยชน์ให้อีธาน เพื่อใช้ขึ้นไปยังชั้นบนพื้นดิน…และเมื่ออีธานขับรถถังออกมาได้ ก็พบกับไอเซนเบิร์กที่กลายร่างเป็นหุ่นยนต์เต็มขั้น ทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือดราวกับหนังทรานส์ฟอร์เมอร์ส (?) และจบลงด้วยชัยชนะของอีธาน 

 

ในตอนนั้นเอง  อีธานได้พบกับ “มิแรนด้า” ผู้อยู่เบื้องหลังไวรัสในหมู่บ้านนี้ เธอก็ได้ต่อสู้กับอีธาน และจบลงด้วยการที่เธอควักหัวใจของอีธานออกมา อีธานเสียชีวิตคาที่…และพีธีกรรมรวมร่างของโรส กำลังจะเริ่มขึ้น

 

อีกฝั่ง คริส เรดฟิลด์ ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องราวการต่อสู้กับไวรัสสายพันธ์ุเชื้อรานี้ ก็ได้แต่ถอนหายใจ และพาพรรคพวกเข้ามายังพื้นที่หมู่บ้าน พร้อมอาวุธจัดเต็ม (อันนี้ยังกะเกม Call of Duty) พร้อมการเข้าพื้นที่ของหน่วย BSAA ที่มีเป้าหมายบางอย่าง  คริสได้เดินทางไปจนถึงรอยแยกชั้นใต้ดิน ฝังระเบิดไว้ที่แกนกลางของต้นตอไวรัสขนาดใหญ่สำเร็จ แต่คริสขอเลือกที่จะไปกำจัดมิแรนด้าก่อนลั่นระเบิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำสอง

 

คริสได้เดินทางมาถึงจุดเชื่อมทางเดินของคฤหาสน์ ปลายทาง คริสได้พบเอกสารความเชื่อมโยง เมื่อความจริง มิแรนด้า คืออาจารย์ที่เคยสอนวิชาชีวะเคมีให้กับ ลอร์ด ออสเวล สเปนเซอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทอัมเบรลลา! และมิแรนด้า ยังได้ทำการทดลองหาร่างภาชนะให้กับปรสิต “คาดู” ที่แตกสายมาจาก E-Series อีกทั้งยังแบ่งตัวอย่าง E-Series ให้กับบริษัท Tensu และเอาไปสร้าง เอเวอลีน (เด็กในภาค7) ที่ เป็นตัวทดลองทีผิดพลาดกลับมา

 

หลังจากเก็บเอกสารบางส่วน คริสพบกับ “มีอาตัวจริง” ที่ถูกมิแรนด้าจับตัวมาทดลองก่อนสวมรอยเป็นเธอ…

 

คริส ได้แจ้งข่าวการตายของอีธาน แก่มีอา…แน่นอนว่าเธอต่อว่าคริสอย่างรุนแรง ที่ลากเอาอีธานกลับมาสู่โลกของการต่อสู้กับ BOW เธอลั่นว่าจะไม่ให้อภัยคริส ซึ่งเขาก็ไม่ปฎิเสธอะไร นอกจากว่า ต้องรีบออกไปจากห้องขังนี้ แล้วค่อยว่ากัน…มีอาได้เล่าความจริงบางอย่างให้คริสฟัง…

 

 

อีกฟากหนึ่ง อีธานที่ถูกควักหัวใจออกมานั้น … ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งแบบงงๆ เขาได้พบกับ เอเวอลีน ในจิตใต้สำนึก

 

เอเวอลีนได้เฉลยเรื่องราวทั้งหมดว่า อีธานได้ถูก “แจ๊ค เบเกอร์” ฆ่าตายไปนานแล้ว และที่เขามีชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะบาดเจ็บหนักแค่ไหน โดนตัดแขนขา ก็กลับมาต่อใหม่ได้ เพราะพลังของเชื้อ E-Series ที่แฝงตัวในเลือดในทุกอณูของร่างอีธาน และเรื่องนี้ มีอาเองก็รู้ดีที่สุดเช่นกัน…ทำให้ลูกของทั้งสองอย่างโรส คือลูกครึ่งมนุษย์ไวรัส และเป็นผู้สืบทอดพลังของไวรัส “E-Series ตัวสมบูรณ์แบบ” อีกด้วย เพราะจะมีทั้งความเป็นมนุษย์ และ ไวรัสในตัวนั่นเอง (แบบที่ เจค มุลเลอร์ ลูกชายเวสเกอร์เคยเป็น)

 

ในที่สุด อีธานได้ตื่นขึ้นมาบนรถเกวียนของดยุค ที่ได้ให้การช่วยเหลือในฐานะลูกค้าชั้นดีเยี่ยม เป็นบริการหลังการขาย (ดูแลดีจริงๆ) และก่อนลงจากรถเกวียน ดยุคได้ย้ำว่า นี่คือจุดที่อีธานจะหันหลังกลับไปไม่ได้แล้ว…แต่อีธานก็ขอยอมแลกทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตลูกสาว…

 

การต่อสู้กับมิแรนด้าในครั้งสุดท้ายนั้น แม้ว่าอีธานจะชนะ แต่ว่าเชื้อไวรัสเมกะไมซีต ยังคงลุกลามต่อไป และขยายสเกลความใหญ่โตของมัน

 

 

คริสที่เข้ามาช่วยอีธาน และลูกก็มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมจะรับตัวกลับบ้าน แต่อีธาน ที่ร่างกายกำลังจะค่อยๆสลายไปนั้น ขอเลือกที่จะอยู่ เป็นคนลั่นชนวนระเบิดที่คริสได้วางไว้ก่อนหน้า

 

คริส ได้รับตัวโรส พร้อมเสื้อโค้ตของอีธาน กลับมายังเครื่องบินเตรียมการหลบหนี มีอาที่ถามหาอีธานกับคริสมาตลอด ก็ได้เห็นแสงระเบิด พุ่งมาจากทางใจกลางหมู่บ้าน …

อีธานลั่นชนวนระเบิด เพื่อทำลายทุกสิ่งที่พังพินาศในเมืองนี้ เป็นการปิดฉากไวรัสสายพันธุ์ E และ เมกะไมซีต โดยสมบูรณ์แบบ

 

แต่ว่า หน่วยงานที่เข้ามาแทรกแซงภารกิจของคริส คือ BSAA ต้นสังกัดเก่าของเขา และยังพบว่า ทหาร BSAA ที่ส่งมาลงพื้นที่ในภารกิจนี้ เป็นมนุษย์ทดลอง B.O.W.ตัวใหม่! คริสจึงตัดสินใจเดินทางไปยัง BSAA สาขายุโรป เพื่อถามหาความจริงในกรณีหมู่บ้านนี้…

 

อวสาน…

 

 

End Credit 

ในช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุ โรส ลูกสาวของอีธาน ได้เติบโตเป็นเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาน่ารัก และเธอมักจะมาเยี่ยมหลุมศพพ่อของเธอเสมอ แต่เธอก็ถูกคนของคริส ตามตัวไปฝึกพิเศษต่อ (มีความเป็นไปได้ว่า โรสในตอนนี้ อาจเป็นสมาชิกหน่วยงาน Blue Umbrella ของคริสเรียบร้อยแล้ว และเธอยังซ่อนพลังเหนือมนุษย์ของ E-Series เอาไว้อีกด้วย)