Resident Evil 3 Remake : Nemesis Edition [PS4 /PS5 / XboxOne / Xbox Series / PC]

Resident Evil 3 Remake 

ประเภท : Action Survival Horror
เครื่อง : PS4  / XboxOne / PC

วันวางจำหน่าย :3เมษายน 2020

พัฒนาโดย Capcom

 

 

หลุดข้อมูล   Resident Evil 3 Remake เวอร์ชั่นอัพเกรด??

จากแหล่งข่าวลืออย่างเวปไซท์  4chan ที่ระบุว่าตัวเกม Resident Evil 3 รีเมค จะมีการออกตัวเสริม ใส่แมปใหม่ ในชื่อ ‘Nemesis Edition’ ผู้ตั้งกระทู้ได้ระบุว่าตัวเกมจะมี”พื้นที่ใหม่ๆ” ทั้งสถานีตำรวจ หอนาฬิกา และอื่นๆที่่ต่างจากเวอร์ชั่นที่ขายก่อนหน้านี้ รวมไปถึงแก้ฉากเก่าๆให้มีพื้นที่สำรวจที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อการเชื่อมต่อกับเนื้อหาในเกม RE2 รีเมค,  Resident Evil: Village และ Resident Evil 4 รีเมคอีกด้วย 

 

พร้อมด้วยการใส่ศัตรูใหม่  อาวุธใหม่ แก้การปรากฏตัวของ NEMESIS ให้เข้มข้น ไล่ล่าดุเดือด อาวุธอย่างปืนไฟ และ RPG จะนำมายิงใส่ผู้เล่นด้วย และโล๊ะสตริปท์เดิมออกไป แล้วใช้การปรากฏตัวใหม่ (คาดว่ามาแบบสุ่มออก) ปรับปรุงงานภาพขึ้นอีกเล็กน้อยเช่น  Ray-tracing  สำหรับวางขายในคอนโซลรุ่นใหม่ และรองรับ DLSS 2.0 สำหรับ PC  พร้อมโหมดเสริมอย่าง Resistance ก็จะได้รับการปรับปรุงด้วย

 

ข่าวนี้จะจริงมากน้อยแค่ไหน โปรดติดตามให้ดี! 

 

ที่มา  4channel

 

 

 

 

เกมนี้คือ!?

 

 Resident Evil 3 Remake   เป็นเกมแนว Survival Horror ที่เป็นการนำเสนอเรื่องราวของการเอาตัวรอดจากวิกฤติไวรัสที่ทำให้คนเป็นซอมบี้ โดยเกมนี้ถูกนับเป้นภาคที่ 3 ตามไทม์ไลน์ของการวางจำหน่ายในยุคของ PS1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุค 90 โดยตัวเกมใช้ความน่ากลัวของบรรยากาศ ความกดดันจากการถูกตามล่าของศัตรูที่แข็งแกร่ง และสถาณการณ์ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย ทั้งยา กระสุน เส้นทาง จำนวนซอมบี้ที่ต้องคิดเยอะทำเยอะมากกว่าเกมแอคชั่นในตลาดยุคนั้น

 

 แต่เวอร์ชั่น 2020 ที่เป็นภาครีเมคของ Resident Evil 3 ก็ได้ยกเครื่องใหม่งานภาพ และเกมเพลย์ ซึ่งทีมงานได้ใช้วัตถุดิบของการรีเมคภาค 2 ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากเมื่อปี 2019 ซึ่งก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวก่อนหน้าเหตุการณ์ในภาคที่2 ขนานกันไป ทำให้หลายๆอย่างได้รับการสานต่อ และได้ทำให้เห็นมุมมองใหม่ๆของเมืองแรคคูนซิตี้ช่วงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้คนที่ติดเชื้อ การเข้าพื้นที่ของอัมเบรลล่าที่มีสตอรี่มากกว่าเดิม และการตีความดีไซน์ตัวละครให้สมจริงมากขึ้น…

 

 

 

 

REVIEW 8/10 RANK  B

เนื้อเรื่อง 2/3 , เกมเพลย์ 2/3 , งานภาพ 3/3 , ความชอบ 1/1

เราไม่รู้สึกว่ามันคือ Survival Horror แต่เป็นเกมแอคชั่นกระสุนจำกัดเท่านั้น!

 

 

หลังจากที่ภาค 2 รีเมคได้ทำมาตรฐานเอาไว้สูงจัด จนหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งลงสนามแข่งขันแย่งตำแหน่งเกมแห่งปีกันเลย แต่ทว่าในภาคที่ 3 รีเมคนั้น กลับมีบางอย่างที่ทำให้ไปไม่ถึงมาตฐานภาค 2 ที่วางเอาไว้ 

 

 

ในส่วนของเนื้อเรื่อง ทำออกมาได้กระชับ ฉับไว เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ไม่มีตัวเลือกตัดสินใจ ทุกอย่างในเกมนี้ “ล้วนเกิดขึ้นตามสคริปท์ที่วางไว้เป็นอย่างดี” ทั้งจังหวะการมาของ Nemesis ที่ออกไล่ล่า , จังหวะชวนสะดุ้งยังมีให้เห็น ,จังหวะการเปิดตัวศัตรูใหม่ๆ งานดีไซน์สุดชวนแหวะหลายๆตัว รวมไปถึงเหตุการณ์สำคัญๆ ถูกนำมาตีความใหม่ ให้ร่วมสมัย  เล่าได้รวดเร็ว แถมเชื่อมกับ RE2 ในแง่ของไทม์ไลน์ และเข้าใจง่ายมากชนิดที่ว่า “เราแทบไม่ต้องเปิดเอกสารรายทางเพื่อตีความใดๆเลย”  ทำให้เนื้อหาของ RE3 Remake นี้ เป็นเกมที่สั้นมาก ใช้เวลาเพียง 3-4 ชม.ในการจบรอบแรก และสปีดรันรอบ 2 ในเวลาที่ดีขึ้นเรื่อยๆได้ (สถิติของต่างประเทศที่ทำคือ 40 นาที!)

 

แม้ว่าจะขาดสเน่ห์ของ RE3 เดิม แต่เราได้มิติตัวละครที่ลึกขึ้น เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น ก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ครับ

 

 

เกมเพลย์ในภาคนี้ เป็นอะไรที่ห่างไกลกับคำว่า Survival Horror แต่เป็นเกมแอคชั่น ยิ่งถ้าคุณเล่นรอบแรกในโหมด ASSIST (Easy) เป็นเกมแอคชั่นแบบ 100% เลยเพราะกระสุน ข้าวของเหลือใช้เยอะมาก และ แม้ว่าคุณจะถีบตัวเองไปเล่นในระดับที่ยากขึ้น (แอดมินลองเล่นโหมด Hardcore ทันทีหลังจากจบไลฟ์เล่นรอบแรกทางแฟนเพจ) ก็พบว่าตัวเกมยังคงความเป็นแอคชั่น ข้าวของยังมีให้เก็บเยอะอยู่ดี ถึงจะน้อยกว่า Easy อย่างมากก็ตาม

ซึ่งความโหดของเกม จะเทน้ำหนักไปทาง “ดาเมจที่ทำใส่ผู้เล่น” มากกว่า “ทรัพยากรที่จำกัด” และภาคนี้ สิ่งที่ทำให้ความเป็น Survivor หายไปก็คือ “ระบบ Dodge กลิ้งหลบ” (ใน 1 ชุดคอมโบ ตัวละครจิล จะสามารถกลิ้งหลบติดกันได้ 3 ครั้ง) ทำให้การดวกกับซอมบี้ หรือ เนเมซิสเอง ก็สะดวกขึ้น ถ้าผู้เล่นสามารถจับจังหวะ และกด Dodge ได้ถูกจังหวะ จะทำให้หลบ หรือสร้างจังหวะสวนกลับดีๆได้ไม่ยาก ยิ่งในจังหวะบอสไฟท์ เราไม่รู้สึกว่าเล่น RE3 เราว่าเรากำลังเล่น “เกมตระกูลโซล” มากกว่า เอะอะกลิ้งหลบ ยิ่งความยากสูง การหลบอย่างถูกจังหวะ คือช่วยชีวิตมากๆ การทำ “สปีดรัน” (เล่นจบเร็ว) ก็เพิ่มโอกาสในการทำด้วย…

 

 

 ส่วนการมาของตัว “เนเมซิส ( Nemesis / 追跡者 – สึอิเซย์กิฉะ )  นั้น เอาตรงๆ แอดมินชอบงานดีไซน์ การออกแบบ และการตีความนะครับ กลับกันในแง่ของเกมเพลย์หลังจากเล่นจบสองรอบ รู้สึกว่ามันออกมาใช้งานไม่คุ้มค่าตัวเท่าไหร่ (แต่ถ้าเล่นแบบไม่รู้อะไรในรอบแรกคือพีคดีนะ 555+) ในช่วงการเล่น Free Roam หรือการสำรวจฉากในการเล่นปกติ เราเจอมันน้อยมากแต่ถ้าคว่ำมันลงได้ ก็จะได้ไอเทมตอบแทน…

 

ซึ่งต่างกับ ไทแรนท์ ในภาค 2 ที่สร้างความปวดหัว และประสาทเสียได้มากกว่าในเชิงการไล่ล่า กดดันผู้เล่นระหว่างเดินไปยังจุดต่างๆในฉาก  ซึ่งตัวเนเมซิสจะเน้นบทบาทการปรากฎตัวตามสคริปท์มากกว่า  แต่ถึงยังงั้น การปะทะกับมันในช่วงบอสไฟท์ในแต่ละร่าง ก็จัดว่าเต็มอิ่มเต็มอารมณ์ และมีโมเม้นท์มันส์ๆให้ได้เล่นกัน แม้ว่าจะมาแบบเป็นสคริปท์กำหนดตายตัวก็ตาม

 

 

 

ในส่วนปริศนาของเกม เอาจริงๆ ตัวเกมภาคนี้เอาระบบไขปริศนาในด่านออกไปเกือบ 90% เลย เราจะไม่เจอปริศนา มากไปกว่าการหาเพชร3สี / ไขตู้เซฟ ที่อาศัยการอ่านเอกสาร / การสับรางรถไฟ / และการผสมวัคซีนในห้องทดลองท้ายเกม…

 

ซึ่งถ้ามองในมุมที่อิงตามเนื้อเรื่อง ก็ถือว่าสมเหตุผลพอสมควร เพราะในวิกดฤติไวรัสซอมบี้อาละวาดในเมือง แถมเมืองใกล้โดนบึ้มแล้ว คงไม่มีเวลามากพอที่จะมาไขคดีปริศนาภาพวาดปฏิมกรรมรูปปั้นเรียงเพชรปริศนาอะไรมากเหมือนภาคก่อนๆ

 

แต่ถ้ามองในมุมของ “เสน่ห์ในเกม Resident Evil ที่หายไป” ที่มีทั้งความน่ากลัว และไขปริศนาประลองปัญญา เน้นเก็บเอกสารตีความแล้ว…มันเสียจุดยืนตรงนี้ไปจริงๆ แต่ก็ต้องแลกกัน เพื่อให้เนื้อเรื่องมันกระชับนั่นเอง…

 

 

ส่วนงานภาพ และเทคนิคพิเศษต่างๆ ที่เกมนำเสนอ ทำออกมาได้ดีมากๆตามมาตรฐานภาค 2 ที่วางไว้ แสงเงา การไล่เฉด เฟรมเรทไหลลื่น แม้ว่าบน PS4 จะมีจังหวะที่เฟรมร่วงนิดหน่อย ก็ยังรับได้ครับ แค่มองจิลในเกม ก็เพลินแล้ว นางสวยมาก ปังมาก เลอะโคลนยังเซ็กซี่ขยี้ใจได้เลย ไม่ต้องโป๊เปลือย ก็น่ามองแล้ว 

 

 

 

สรุป

 

 

เป็นเกมตระกูล RE ที่เข้าถึงง่าย…

ลด ความน่ากลัวตื่นเต้นสยองขวัญ เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาเหมือนดูหนัง

แฟนเดนตายที่ชื่นชอบความซับซ้อนของปริศนาเข้มๆอาจจะส่ายหน้า…

เพิ่ม ความมันส์ในการสู้กับบอส คอเกมแอคชั่นชอบใจ

บอสไฟท์มีซีนจดจำ

 

 

ใครอยากจะเริ่มเล่นเกมจักรวาลผีชีวะ หรือไม่เคยเล่นมาก่อน 

เกมนี้ก็ถือเป็นเกมที่คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ติดขัดอะไร ส่วนจิล คือดีย์

จนสามารถบอกได้เลยว่า นี่มัน “จิล ซูเปอร์วาเลนไทน์”  ชัดๆ!

 

 

แอดมิน AK47

 

 

 

แก้ปริศนาเส้นทางรถไฟ

 

 

 

รหัสตู้เซฟ /ตู้ล๊อกเกอร์

ร้านยาชั้น 2 ในเมือง - 9ซ้าย , 7 ขวา , 3 ซ้าย (ได้รับ Dot Sight)

 

สถานีตำรวจแรคคูน  West Office– 9 ซ้าย, 15  ขวา  3 ซ้าย (ได้รับ ช่องเก็บของเพิ่ม)

 

ตู้ล๊อกเกอร์ห้องอาบน้ำ สถานีตำรวจแรคคูน – CAP ได้รับ (Flash Grenade)

ตู้ล๊อกเกอร์ชั้น 3 สถานีตำรวจแรคคูน ชั้น 3  – DCM (ได้รับ Assault Rifle Ammo)

 

ตู้เซฟในโรงพยาบาล Nurse’s Station – 9 (หมุนตามเข็มนาฬิกา)  และ 3  (หมุนทวนเข็มนาฬิกา)

(ได้รับ Dual Magazine สำหรับปืนไรเฟิล)

 

 

 

All Charlie doll 

 

 

 

 

 

 

 

จบเกมแล้ว ปลดล๊อกโหมดสะสมแต้ม Point 

 

 เป็นธรรมเนียมของเกม RE ซีรี่ส์ที่มักจะมีอะไรให้ทำหลังจบเกมเสมอ โดยในภาคนี้ จะมีสิ่งที่เรียกว่า  Point Shop  สามารถปลดล๊อกได้เมื่อเล่นจบในความยากระดับไหนก็ได้ เมื่อปลดได้ ก็จะให้เราเอาแต้ม Point ไปแลกซื้อของ เช่นอาวุธใหม่ๆ ปืนไม่จำกัด เสื้อผ้าต่างๆ

 

[Costume] Jill – S.T.A.R.S. Gear ราคา 2000P

[Item] Recovery Coin x2 ราคา 4000P
[Item] Iron Defense Coin x2 ราคา 4000P
[Item] Assault Coin x2 ราคา 4000P
[Item] Crafting Companion ราคา 4000P
[Item] S.T.A.R.S. Field Combat Manual ราคา  6400P
[Item] Lock Pick ราคา  2800P
[Item] Bolt Cutters ราคา 2800P
[Item] Hip Pouch x2 ราคา 4800

[Weapon] HOT DOGGER ราคา 7200P
[Weapon] Samurai Edge ราคา 5600P
[Weapon] RAI-DEN ราคา 12000P
[Weapon] Infinite MUP Handgun ราคา 8000P
[Weapon] Infinite CQBR Assault Rifle ราคา 28400P
[Weapon] Infinite Rocket Launcher ราคา 62400P