ใหม่-ดาวิ ใส่เต็ม ! ในงานเปิดตัว realme 12Pro+ 5G / realme 12+ 5G หนึ่งเดียวในเซกเมนต์ โดนใจสายไลฟ์สไตล์ “BE A PORTRAIT MASTER!”
ใหม่-ดาวิ จัดใหญ่! ในงานเปิดตัว
“realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G”
ชูกล้องเพอริสโคปและโทนภาพซีเนมาติกสุดว้าวครั้งแรก
และหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ โดนใจสายไลฟ์สไตล์กับคอนเซ็ปต์
“BE A PORTRAIT MASTER!”
“กล้องสวยเริ่ด บอดี้ลักชูรี ประสิทธิภาพสูสีเรือธง” แทบจะกลายเป็นคำนิยามของสมาร์ตโฟนระดับกลางประสิทธิภาพสูงอย่าง realme Number Series ไปแล้ว และครั้งนี้ก็เช่นกันกับการเปิดตัว “realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G”” ที่มาพร้อมสโลแกน “Be a Portrait Master” แถมงานนี้ยังได้ แบรนด์แอมบาสเดอร์สุดฮอต “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ มาร่วมจัดใหญ่ในงานเปิดตัว พร้อมทำกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับแฟนคลับ งานนี้สาวใหม่เผยโดนใจ realme 12Pro+ 5G แบบสุด ๆ เพราะทั้งบอดี้ที่สวยพรีเมียมราวกับตัวเรือนของนาฬิกาสวิส และสุดยอดเทคโนโลยีกล้องที่ตอบโจทย์สายถ่ายภาพไลฟ์สไตล์ได้สวยสุดยอดยิ่งกว่าเดิม ถึงขนาดที่ว่าสาวใหม่ยกให้ realme 12Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่โดนใจเธอที่สุดในปีนี้ไปเลย!
“แค่เห็นตัวเครื่องก็ว้าวแล้วค่ะ!” ใหม่ ดาวิกา เผยในงานเปิดตัว “แฟนคลับที่ติดตามใหม่น่าจะทราบดีว่าใหม่เป็นคนที่บ้านาฬิกามาก ๆ โดยเฉพาะนาฬิกาสวิส ทั้งซื้อใส่เองและให้คนพิเศษของใหม่ ยิ่งเห็นดีไซน์โมดุลกล้องที่เหมือนตัวเรือนนาฬิกา แบบนี้คือกรี้ดเลยค่ะ บอกเลยว่า 12Pro+ 5G และ 12+ 5G จะเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องโปรดของใหม่แน่นอน เพราะเข้ากับนาฬิกาที่เราใส่ได้อย่างหรูหรามากจริง ๆ ”
การออกแบบตัวเครื่อง 12Pro+ 5G และ 12+ 5G ครั้งนี้ realme ผนึกกำลังกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยคอลแลบกับแบรนด์นาฬิกาสวิสมากมาย ทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin ทำให้โดดเด่นด้วยดีไซน์กรอบโมดุลกล้องแบบ Golden Fluted Bezel ที่ใช้กระบวนการผลิตเหมือนกับตัวเรือนนาฬิการระดับหรู พร้อมแผงหน้าปัด Sunburst ที่โชว์พื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมชีวิตชีวา หุ้มฝาหลังด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ตกแต่งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet อย่างประณีต
“ตอนนี้ที่หนักใจคือเลือกไม่ถูกค่ะ ระหว่างสี Submarine Blue หรือสี Navigator Beige แต่สี Pioneer Green ก็สวย สงสัยต้องจัดทุกรุ่นแล้วสิคะ”
กล้องเพอริสโคปและโทนสีภาพยนตร์ตอบโจทย์สายไลฟ์สไตล์แบบเต็ม ๆ
realme 12Pro+ 5G และ 12+ 5G ยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอสู่มาตรฐานระดับเรือธงด้วยเลนส์ซูมเพอริสโคปครั้งแรกและหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ (ใน realme 12Pro+ 5G) โดยเป็นเลนส์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเดียวกัน ตอบโจทย์สาย Portrait ที่ต้องการเบลอฉากที่เป็นธรรมชาติและสวยสมจริงราวกับงานภาพยนตร์
นอกจากนี้ realme ยังร่วมมือกับช่างถ่ายภาพยนตร์ระดับออสการ์ Claudio Miranda (เคลาดิโอ มิแรนด้า) ในการสร้างสรรค์ฟิลเตอร์สีชุดพิเศษให้สวยงามตามโทนภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลมาทั้ง 3 เรื่องได้แก่ Journey Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง Life of Pi; Memory Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง The Curious Case of Benjamin Button และ Maverick Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง Top Gun: Maverick
“บอกได้เลยค่ะว่า กล้องของ 2 รุ่นนี้ คือ Portrait Master ตัวจริง เพราะใหม่ทำงานในวงการมานาน จึงได้เห็นการทำงานของช่างถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด ทำให้รู้ว่าโทนสีของฟิลเตอร์ทั้ง 3 แบบคือสวยระดับมืออาชีพจริง ๆ ค่ะ แถมยังมีระยะซูมของเลนส์เพอริสโคปที่เบลอพื้นหลังได้สวยสมจริงและส่งให้ตัวแบบมีความคมชัดสูง ใหม่ลองใช้ดูแล้วชอบมากค่ะ และเชื่อว่าทุกคนจะสนุกกับการถ่ายภาพมากขึ้นแน่นอน แถมยังได้ภาพสวยในโทนสีแบบภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ด เรียกว่าเป็นประสบการณ์การถ่ายภาพที่ให้ฟีลหรูหรามากเลย” “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน่ กล่าว
ดีไซน์สุดลักชูจากการคอลแลบ realme Design Studio x Ollivier Savéo
การออกแบบ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง realme Design Studios ซึ่งผนึกกำลังกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลบกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิสทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin เพื่อผสานศาสตร์แห่งการออกแบบตัวเรือนนาฬิการะดับมาสเตอร์เข้ากับเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวันนี้
โอลิวิเยร์ต้องการให้ 12 Pro+ 5G และ 12+ 5G มอบความสวยงามโดดเด่นเสมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นงามในมือคุณ ผ่านการนำเสนอรายละเอียดงานออกแบบที่ซับซ้อนเหนือกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป โดยได้ดีไซน์กรอบของโมดุลกล้องแบบ Golden Fluted Bezel ที่ผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยใช้เครื่องกลึง CNC (Computer Numerical Control) คุณภาพสูง พร้อมตกแต่งขอบด้วยเส้นโลหะที่เซาะร่องอย่างแม่นยำกว่า 300 เส้น กระบวนการนี้เพื่อสร้างกรอบที่สวยงามดั่งตัวเรือนของนาฬิกาหรูแบบ 360° (ดีไซน์ขอบ Golden Fluted Bezel มีเฉพาะในรุ่น realme 12Pro+ 5G) ในส่วนของแผงหน้าปัดใช้การขัดเงาแบบ Sunburst ที่ขัดเงาแบบวงมากกว่า 500 วง เพื่อสร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ส่งผลให้ส่วนโมดุลกล้องดูเปล่งประกายในทุกองศาการมอง และช่วยขับเน้นจุดเด่นเรื่องกล้องของให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝาหลังถูกหุ้มด้วยหนังวีแกน (Vegan Leather) และเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet ซึ่งเป็นการร้อยเรียงรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อเนื่องกัน เพื่อให้ตะเข็บมีรูปลักษณ์แบบเมทัลลิกที่ซับซ้อนสวยงาม และยิ่งมองลึกก็จะยิ่งเห็นถึงรายละเอียด นอกจากนี้ตัววัสดุหนังวีแกนมอบคุณสมบัติความคงทนต่อการใช้งาน ทั้งทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี โดยเฉพาะการทนต่อความร้อน-หนาวได้ดีอย่างทึ่ง เพราะทนทานต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง -50° ไปจนถึงร้อนสุดขีดที่ถึง 200°C โดยที่ยังไม่เสียหายได้เลยทีเดียว!
realme 12+ 5G
ดื่มด่ำกับโทนสีแห่งความเรียบหรูคัดสรรโดยสตูดิโอนักออกแบบชั้นนำ
นอกจากงานออกแบบโครงสร้างตัวเรือน ยังเปิดตัวโทนสีคลาสสิกรูปแบบใหม่ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมนาฬิการะดับพรีเมียม โดยรุ่น realme 12Pro+ 5G นำเสนอ 2 โทนสี ได้แก่ Submarine Blue สีน้ำเงินเข้มดั่งท้องทะเลลึก สะท้อนความสง่างามอันเงียบสงบโดยฉายความโดดเด่นได้อย่างแยบยล และสี Navigator Beige สื่อถึงความประณีตอันละเมียดละไม กลมกลืนไปกับแนวตะเข็บสีทองได้อย่างสวยงามลงตัว และสำหรับรุ่น realme 12+ 5G นำเสนอโทนสี Pioneer Green สีแห่งความสง่างามและความหรูหราแบบเรียบง่ายซึ่งมักพบในหน้าปัดของนาฬิกาหรู และยังยังแฝงกลิ่นอายของการผจญภัยและแมกไม้สีเขียวได้อย่างอ่อนโยน และสี Navigator Beige เช่นเดียวกับรุ่น Pro+
สัมผัสประสบการณ์สมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบทั้งนวัตกรรมและงานดีไซน์
realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G คือการผสานงานออกแบบระดับโลกเข้ากับเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับแฟล็กชิป พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือกว่าทุกแบรนด์ในระดับราคาเดียวกัน โดยชูไฮไลต์รุ่น realme 12Pro+ 5G ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องซูมเพอริสโคปรุ่นแรกและรุ่นเดียวในเซกเมนต์ และ realme 12+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนเพียงรุ่นเดียวในระดับราคาเดียวกันที่รองรับเทคโนโลยี OIS เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ตโฟนระดับกลางสู่การเป็น Portrait Master อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67W ช่วยให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ 5,000 mAh เต็ม 100% ในเวลาเพียง 48 นาที ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั่วไปได้ยาวนานตลอดวันและประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็วทันใจและปลอดภัยบนมาตรฐานระดับโลก
แฟน ๆ realme ที่สนใจเป็นเจ้าของ สามารถจับจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้
โดยในรุ่น realme 12Pro+ 5G นำเสนอสี Submarine Blue และสี Navigator Beige
สเปกความจุ 12/512GB ในราคา 16,999 บาท
และความจุ 8/256GB ในราคา 13,999 บาท
และรุ่น realme 12+ 5G นำเสนอความจุที่ 8/256GB
มีให้เลือกทั้งสี Pioneer Green และสี Navigator Beige ในราคา 9,999 บาท
เกาะติดข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง
Facebook Instagram Tiktok Twitter: Youtube