หลายๆคนที่เกิด และเติบโตมากับการ์ตูนยุค 90 จะต้องเคยได้ยินชื่อของ ขบวนการ 5 สีที่ชื่อ Power Ranger อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยเนื้อหาที่อาจะไม่ค่อเข้าถึงคนดูในบ้านเรามากนัก ด้วยสภาพสังคม วัฒนธรรมต่างๆ เราอาจจะคุ้นชินกับของญี่ปุ่นที่เป็นต้นฉบับอย่าง “ขบวนการนักรบไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์” มากกว่า..
เรื่องกำแพงวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์กับสื่อบันเทิงจากเอเชียสู่อเมริกา หรืออเมริกามายังเอเชีย มีปัญหาตั้งแต่ช่วงยุค 80 แล้ว แต่ความพยายามด้านความร่วมมือของสองประเทศนี้ก็ยังคงมีมาตลอด ตั้งแต่การที่ทางบริษัทมาร์เวล ได้นำ “สไปเดอร์แมน” ให้ทางญี่ปุ่นไปดัดแปลงเป็น “สไปเดอร์แมนญี่ปุ่น” มีหุ่นยนต์ยักษ์ รถเก๋งสุดเท่ และอะไรหลายๆอย่างที่ต่างจากต้นฉบับ หรือแม้กระทั้ง “ขบวนการ แบทเทิ่ลฟีเวอร์ เจ” และ “ขบวนการซัลวัลคัน” ก็ได้ทางบริษัทมาร์เวลเป็นผู้ดูแลในส่วนของเบื้องหลัง จน“ขบวนการ แบทเทิ่ลฟีเวอร์ เจ” สามารถนับเข้าเป็นหนึ่งในจักรวาลของซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลได้ (จักรวาล Earth-79203)
ในช่วงนั้น ก็มีความพยายามที่จะส่งหนังแนวๆนี้ไปตีตลาดอเมริกาหลายต่อหลายครั้ง จนถูกตีกลับ และแม้ว่าการนำ “ขบวนการไดน่าแมน” เข้าไปฉายยังอเมริกาได้สำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ฝรั่งเก็ทมุก เรื่องราว หรือ Gimmick ที่เป็นของฝั่งเอเชียได้เลยในส่วนของหนังขบวนการแปลงร่าง…
จนกระทั่งช่วงยุค 90 บริษัท ซาบัน เอนเตอร์เทนเม้นท์ ก็ได้ขอท้าทายกำแพงวัฒนธรรม และลงทุนในความเสี่ยงต่อความล้มเหลวอีกเจ้า ด้วยการขอซื้อลิขสิทธิ์ของ “ขบวนการนักรบไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์” ไปรีเมคใหม่เกือบทั้งหมด โดยใช้นักแสดงในช่วงก่อนแปลงร่างทั้งหมดเป็นนักแสดงชาวอเมริกัน เล่าเรื่องราวใหม่ให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นอยู่ วัฒนธรรมของชาวอเมริกัน ตัดสลับฟุตเทจต่างๆที่เป็นฉากต่อสู้จากต้นฉบับของขบวนการจูเรนเจอร์
และแล้วในปี 1993 เป็นปีที่ “ขบวนการ Power Rangers” ได้ออกอากาศที่ประเทศอเมริกาเป็นซีซั่นแรก และผลตอบรับกลับดีเกินคาด เด็กๆติดกันงอมแงม ด้วยมุกตลกสไตล์ฝรั่ง นักแสดงที่เป็นชาวอเมริกันหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวเอเชีย คนผิวสี นักแสดงหนุ่มหล่อ สาวสวยในเรื่อง ก็เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องราวในสไตล์ละครกึ่งๆซิทคอมจบเป็นตอนๆไป
และด้วยการที่เรื่องราวจบเป็นตอนๆนี้เอง ที่ทำให้เหล่าเคเบิลท้องถิ่นที่กระจายไปทั่วอเมริกาสามารถหยิบเอาตอนไหนมาฉายทางทีวีก็ได้ ไม่มีเรื่องของความต่อเนื่องทางเนื้อหาเป็นอุปสรรคอีกด้วย
หลังจากซีซั่นแรกได้ออกฉาย ก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากแฟนๆอย่างล้นหลาม จนทำให้ทาง SABAN (อีตาลุงใส่สูทในรูป คือ”อาฮิม ซาบัน”เจ้าของบริษัท) ต้องทำละครซีรี่ยส์ชุด Power Ranger ออกมาทุกปีจนถึงปี 2002
และหลังจากนั้น ลิขสิทธิ์การสร้างของ Power Ranger ได้อยู่ในมือของ Walt Disney และได้ผลิตละครชุด Power Ranger ออกทางช่อง ABC Kids, Toon Disney และ Jetix ออกอากาศทั่วโลก (ที่ติดจานดาวเทียมละนะ) ซึ่งได้มีการเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำ ไปอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ทั้งหมด จนกระทั่งปี 2012 ลิขสิทธิ์ก็กลับมาอยู่ที่ FOX และ “ฮาอิม ซาบัน” อีกครั้ง จนถึงทุกวันนี้
เรียกว่า “ขบวนการ Power Rangers” เป็นหนึ่งในละครซีรี่ส์ที่อยู่คู่กับเด็กๆชาวอเมริกันมาตลอด 20 กว่าปี จวบจนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้!!
และเมื่อซีรี่ส์ออกฉายมาอย่างยาวนาน มีช่วงเปลี่ยนผ่านทีมสร้างมาสองสามครั้ง มีเรื่องราวให้เล่าขานมากมายทั้งในและนอกจอ…และในบทความนี้ ก็คือ
“10 เรื่องที่น่า (จะไม่มีใคร) รู้ของ Power Rangers”
————-
10.”เรนเจอร์หญิงคนแรก ที่ไม่ใส่กระโปรง !?“
“ทรินี่ ควาน” (Trini Kwan) ที่รับบทโดยสาวลูกครึ่งอเมริกัน เวียดนาม “ฉ่วย ทรัง” (Thuy Trang) โดยบทของเธอจะเป็น “นักรบเรนเจอร์สาวสีเหลือง” หรือ “Yellow Ranger” ฺซึ่งถูกนับเป็นเรนเจอร์คนแรกของสายเพาเวอร์เรนเจอร์ที่ไม่มีกระโปรง เพราะ “ฟุตเทจของขบวนการจูเรนเจอร์ ตัวสีเหลืองคือผู้ชาย” แลดูไม่เข้าชุดกับเรนเจอร์หญิงคนอื่นๆในเรื่องเลย…
และจะมีตอน Bloom of Doom ที่มีซีนที่สีชมพู และสีเหลืองสู้กับ Commander Crayfish สัตว์ประหลาดเหล่าร้ายคู่กันในเรื่อง (เป็นการแสดงถึง Girl Power เอาใจเด็กสาวๆบ้าง) แน่นอนว่า ในต้นฉบับอย่างจูเรนเจอร์ สองสีนี้มีฟุตเทจที่สู้ร่วมกันน้อยมาก ทางบริษัทซาบัน จึงขอให้ทางโตเอะถ่ายทำซีนนี้เพิ่มที่ญี่ปุ่นและส่งกลับมายังอเมริกาเพื่อใช้งาน (เดี๋ยวจะกล่าวถึงในลำดับต่อๆไป)
9.”บิลลี่”ตัวละครที่ออกมาติดต่อกันตลอด 155 ตอน !?“
“บิลลี่ แครนสตั้น” (Billy Cranston) ที่แสดงโดย นักแสดงหนุ่มหน้าตาเนิร์ดๆ “เดวิด ยอสท์” (David Yost) และ หุ่นยนต์ Alpha 5 ถูกนับเป้นตัวละครที่มาเข้าฉากบ่อยที่สุด โดยนับจากซีซั่นแรก Mighty Morphin Power Ranger ลากยาวไปยันซีซั่นที่ 3 ที่มีชื่อว่า Power Rangers Zeo นับได้ 155 ตอน พอดี ถึงบทบาทของเขาไม่เด่น แต่ขยันเข้ากล้องมาอย่างต่อเนื่องได้ ถือว่านักแสดงนี่ต้องอึดเอาเรื่องเลย
8.”ทอมมี่” เป็นตัวละครที่ออกมาบ่อยครั้งที่สุด !?“
ในขณะที่บิลลี่ ออกมาต่อเนื่อง 155 ตอนไม่มีหยุดหาย แต่ “ทอมมี่ โอลิเวอร์” (Tommy Oliver) ที่รับบทโดยนักแสดงหนุ่มผมยาวสุดเซอร์(ในยุคนั้น) “เจสัน เดวิด แฟรงค์” (Jason David Frank) ที่แม้ว่าจะไม่ค่อยได้มาบ่อยนัก กลับได้รับความนิยมสุดๆ แถมขโมยซีนเท่ๆจนสามารถมาแทนที่พระเอกได้ ซึ่งถ้าเรานับรวมกันจริงๆแล้ว พี่แกมีจำนวนตอนออกเยอะที่สุดถึง 217 ตอน (นับทุกซีซั่นที่มีพี่แกออกมา) ด้วยกัน
7.”ปรากฎการณ์ “หุ่นยนต์เมกะซอร์ด”ขาดตลาด !?”
ในช่วงที่ซีรี่ส์ออกฉาย ก็เกิดปรากฎการณ์หนึ่งขึ้น เมื่อของเล่นที่เป็น Signature อย่าง “เมกะซอร์ด” (Megazord) หุ่นยนต์รูปสัตว์ต่างๆที่สามารถรวมร่างเป็นหุ่นยนต์สุดเท่ แน่นอนว่ามันเด่นมากขนาดเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องซะขนาดนี้แล้ว มีหรือจะไม่ขาดตลาด สินค้าเมกะซอร์ดกลายเป็นสุดยอดของเล่นที่เด็กๆใผ่ฝัน และอยากได้มากที่สุด จึงทำให้มันหายากมากๆในคืนวันคริสต์มาส ทุกร้านของเล่นทั้งสโตร์ใหญ่ เล็ก ล้วนหมดเกลี้ยงร้าน ขายดียังกะเททิ้ง
และเรื่องราวในครั้งนั้น ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง “คนเหล็กคุณพ่อต้นแบบ” (JINGLE ALL THE WAY) ที่เล่าเรื่องของคุณพ่อคนหนึ่งที่ออกตามหาของเล่นให้ลูกชายสุดรักในคืนวันคริสมาสต์ปี 1996 ที่เขาต้องแก่งแย่งของเล่นสุดฮิต “เทอร์โบแมน” จนเกิดเรื่องราววุ่นวายระดับสเกลที่ชวนตกตะลึง เป็นหนังสนุกๆของ “อาร์โนลด์ ชวาซเนกเกอร์” หรือ “คนเหล็ก” ที่คอหนังรู้จักกันดีนั่นเอง….
6.”Power Ranger ถูกแบนในประเทศนิวซีแลนด์จนถึงปี 2011 !?”
ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ได้มีการฉายเพาเวอร์เรนเจอร์ในช่วงปี 1994 แต่ทว่ามีการร้องเรียนจากสมาคมผู้ปกครอง ว่าในขบวนการ Power Rangers มีฉากที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ทั้งการทำร้ายร่างกาย เตะต่อย รวมไปถึงการฆ่ากันของเหล่าพระเอกและสัตว์ประหลาด จึงมองว่าหนังชุดนี้มีการส่งเสริมความรุนแรง
เหล่าพ่อแม่จึงรวมตัวกันเพื่อคัดค้านการฉายเรื่องนี้ และพวกเขาก็ทำสำเร็จ Power Rangers ถูกแบนในประเทศนิวซีแลนด์ยาวยันปี 2011 แต่ที่น่าตลกก็คือ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นฉากหลังบางส่วนในการถ่ายทำของ “Power Ranger”ในภาคยุคปี 2000 ซะอย่างนั้น
5. “ซีนถ่ายทำไม่พอ จึงต้องขอซีนถ่ายทำ+สัตว์ประหลาดตัวใหม่จากต้นฉบับ !?”
แฟนๆซีรี่ส์นี้จะเรียกกันขำๆว่า ZYU1.5 และ ZYU2.0 ด้วยความที่ซีรี่ส์ Power Rangers ดังถล่มทลาย 40 ตอนต่อเนื่องคงไม่หนำใจชาวอเมริกันนัก แถมฟุตเทจของขบวนการจูเรนเจอร์ที่ทางโตเอะมีมาให้นั้นไม่เพียงพอนั่นเอง จึงได้มีการสร้างฟุตเทจสำหรับตอนใหม่ๆให้ถึง 25 ตอนในญี่ปุ่น ก่อนส่งกลับไปยังอเมริกาเพื่อตัดต่อใหม่
นอกจากจำนวนตอนจะขยายลากยาวแล้ว ยังมีสัตว์ประหลาดตัวใหม่ๆที่ทางโตเอะทำให้เฉพาะแบบ Exclusive ทั้งหมด 20 ตัวด้วยกัน โดยจะเป็นตัวที่ไม่มีในจูเรนเจอร์อักด้วย อีกทั้งยังมีการปรับปรุงดีไซน์ของอาวุธต่างๆ รวมไปถึง“เมกะซอร์ด” ด้วยการยำรวมไอเทมข้ามขบวนการ ทั้งของจูเรนเจอร์+ไดเรนเจอร์ +คาคุเรนเจอร์ จนออกมามั่วซั่วเละเทะ แต่โดนใจเด็กๆสมัยนั้นมาก ก่อนที่ความมั่วจะจบลงที่การมาของ Power Ranger Turbo
และในปัจจุบัน ก็ยังคงมีการงอกไอเทมประหลาดๆออกมาเรื่อยๆ สวยมั่ง เห่ยมั่งคละๆกันไป ทั้งชุดเกราะ อาวุธ หุ่นยนต์ แน่นอนว่าทั้งหมด ทำมาเพื่อขายของเล่นนั่นเอง!!
4. “ครอสโอเวอร์ – แจมได้หมด ถ้าสดชื่น!?”
อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องราวขำขันของซีรี่ส์ Power Rangers ก็คือการข้ามเรื่องมาเจอกัน ด้วยอำนาจของบ.ซาบัน ที่ตอนนั้นได้มีการซื้อลิขสิทธิ์ของ“คาเมนไรเดอร์ Black RX” มาโมดิฟายตามรอย Power Rangers แต่เหมือนเรตติ้งจะยังทรงๆอยู่ จึงได้ตัดสินใจถ่ายทำตอนพิเศษ “A Friend in Need Parts 1-3″ ที่มีไรเดอร์ RX มารวมกับ Power Rangers
ตัว Power Rangers นั้นไม่เท่าไหร่ แต่คาเมนไรเดอร์นี่เข็นไม่ขึ้น และแป้กสนิทในเวลาต่อมา ต่อมา วีรกรรมของซีรี่ส์ Power Rangers ที่ได้รับการครอสโอเวอร์อีกครั้งใน Power Rangers - In Space คราวนี้มีแขกรับเชิญระดับตำนานอย่าง “ขบวนการมุดดิน นินจาเต่า” มาร่วมวงปราบเหล่าร้ายด้วยเช่นกัน
3. “ทอมมี่” นักรบตัวแถมจอมขโมยซีน เลเวลอัพจนกลายเป็นพระเอกที่รับบทเป็นเรนเจอร์มากสีที่สุด!?”
นับว่าเป็นนักรบในขบวนการ 5 สีที่ “ใช้ชุดเปลืองมากคนหนึ่ง” เลยก็ว่าได้ (5 ชุด) สาเหตุที่เฮียทอมมี่แกได้รับความนิยมสูงกว่าเพื่อน ก็เพราะด้วยบทบาทที่เท่ โดนใจผู้ชม ออกมาทีสีแดงกลายเป็นตัวประกอบฉากไปเลย ใครๆก็อยากใส่เกราะเท่ๆแบบกรีนเรนเจอร์ หรือ ไวท์เรนเจอร์ ทำให้ตัวตนของทอมมี่ดูมีภาษีในฐานะตัว “เรียกเรตติ้ง” เพราะออกมาที เรตติ้งดีตลอด!!
-เปิดตัวด้วยบทสุดเท่อย่าง Green Ranger ในช่วงซีซั่นแรก
-อัพเกรดเป็นเกราะเสือขาว ในช่วงกลางๆซีซั่นสอง White Ranger + White Ninja Ranger /
-รับบทเด่นสุดด้วยการเป็น Red Ranger ในขบวนการ Power Ranger Zeo
-ลากยาวจากซีซั่นก่อนหน้า มารับบท Red Ranger อีกครั้ง ยังช่วงครึ่งซีซั่นแรกของ Power Ranger Turbo พี่แกถึงยุติบทบาท
-กลับมาอีกครั้งในรอบ 10 ปี กับบทบาทเดิมเพิ่มเติมคือเปลี่ยนสี แปลงร่างเป็น Black Dino Ranger ในขบวนการ Power Ranger Dino Thunder
ปัจจุบัน แม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 20 กว่าปี แต่เฮียแกก็ยังคงรักแฟรนไชส์แจ้งเกิดของแกอยู่ จนปัจจุบันนี้เฮียแกก็กลายเป็นนักแสดง และนักชกมวยสังเวียน MMA แกก็ยังใช้ชื่อสมญานามว่า “เดอะกรีน เรนเจอร์” อยู่บ่อยครั้ง แถมหุ่นล่ำเป็นถังเบียร์เลย!!
2. “เคยมีคนไทย เล่นเป็นสมาชิก Power Rangers ด้วยนะ!?”
“ไมเคิล จตุรัณฑ์บุตร” (Michael Chaturantabut -ไมค์ แชด) นักแสดงหนุ่มใหญ่ลูกครึ่ง ไทย-อเมริกัน ชาวจังหวัดระยอง ที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ผสม และการเป็นสตั๊นท์แมน ที่ได้รับบทเป็น “Chad Lee / Blue Ranger” หรือนักสู้สีน้ำเงิน จากขบวนการ Power Rangers – Lightspeed Rescue (ขบวนการ โกโกไฟว์ เวอร์ชั่นฝรั่ง)
ก่อนหน้าที่จะมารับบทแสดงในเรื่องดังกล่าวแล้ว พี่แกก็เคยมีผลงานเป็นสตั๊ท์แมนให้ในหนังเรื่อง “Mortal Kombat” (1994) มาก่อน อีกทั้งยังมีผลงานมาอย่างต่อเนื่องในส่วนของเบื้องหลังจนถึงปัจจุบัน และล่าสุด เขาก็เป็นเทรนเนอร์ฝึกร่างกายให้กับ “เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์” (Taylor Lautner) นักแสดงที่โด่งดังจากบท “เจคอบ” มนุษย์หมาป่าหนุ่ม ใน แวมไพร์ทไวไลท์ อีกด้วย
1.”ทุกเชื้อชาติเป็นเพื่อนกันได้เสมอ!”
ใจความสำคัญของ Power Rangers คือเรื่องราวของทีมเวิร์ค มิตรภาพ และการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดของบรรยากาศในเรื่องก็คือ “การร่วมมือโดยไม่เกี่ยงว่าคุณจะมีเชื้อชาติอะไร ผิวสีอะไร” ซึ่งชาวอเมริกันเองก็มีปัญหาเรื่องเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติกันบ้าง แต่ถ้าจะให้ดี ควรไม่มีเลยจะดีกว่า
ซึ่งหนังซีรี่ส์ชุดนี้ ก็เหมือนจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ปลูกฝังค่านิยมของความเป็น Unity ให้กับเด็กๆ และผู้ที่ได้รับชม จะสังเกตุได้ว่า ในเรื่องนี้แทบจะทุกภาคทุกตอน จะต้องมีสมาชิกเป็น คนผิวสี คนเอเชีย คนขาว หรือเผ่าพันธุ์ใดๆก็สุดแท้แต่จะแคสติ้งนักแสดงมาได้ มารวมตัวกัน ซึ่งสมาชิกทุกคนล้วนที่ต่างที่มา นิสัยใจคอ เชื้อชาติ แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่มีข้อแม้ใดๆ
มันเหมือนจะเป็น Gimmick ที่เล็กน้อยมาก แต่เชื่อเถอะว่า ปัญหาของโลกเรานี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติ และถ้าผู้ใหญ่อย่างเราๆจะปลูกฝังแนวคิดดีๆต่อสังคมโลกให้เด็กที่เหมือนผ้าขาว หรือผู้ใหญ่บางคนได้ฉุกคิดได้ เรื่องราวของความขัดแย้งต่างๆอาจจะเบาบางลงก็เป็นได้…
—————–
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องที่แอดมินหยิบนำมาเล่าให้ฟังครับ หากตกหล่นประเด็นไหนไป เสนอแนะมาได้ที่ช่องคอมเม้นท์ด้านล่างได้เลยครับ!
แอดมิน Ak47
เรื่องราวที่คุณอาจจะสนใจ
Power Ranger The Movie ฉบับปี 2017
Power Ranger The Movie ฉบับปี 1995
“10 อันดับสาวเซนไตที่เซ็กซี่ที่สุด”
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console