5 เรื่องชวนมึนของหนัง Transformers : The Last Knight
ในหนังสงครามจักรกลถล่มจักรวาลเรื่องดังที่สร้างต่อออกมามากถึง 5 ภาค ในรอบ 10ปี ถึงแม้คำวิจารณ์จะออกมาไม่ดีนักในภาคหลังๆ แต่ตัวหนังกลับทำเงินได้มากมายมหาศาล และถูกอกถูกใจแฟนหนังและสร้างความสุข ความสนุกให้แก่ทั่วทั้งโลก
แต่ขึ้นชื่อว่า ทรานสฟอร์เมอร์ส แล้ว ความรั่วของหนัง ก็ยังมีให้เห็นบ้างในแทบจะทุกภาค ในบทความนี้จะขอเสนอ “5 เรื่องชวนมึนของหนัง Transformers : The Last Knight” ที่ทำเอาคนดูคาใจหลังหนังจบ และในบทความนี้มีสปอลย์ขั้นรุนแรง ฉะนั้น ใครยังไม่ได้ดู ปิดไปก่อนเลยเน้อ…
1.เมกะทรอน หรือ กัลวาทรอน ตกลงเอายังไงกันแน่!?
หากท่านที่เป็นแฟนหนังทรานสฟอร์เมอร์สมาตั้งแต่ภาคแรก และไล่ดูมาทุกภาค เราจะเห็นวิวัฒนาการร่างของเมกะทรอนที่แทบจะไม่ซ้ำกันเลยซักภาค ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เฟนๆเข้าใจและยอมรับได้
แต่ในหนังภาคที่ 4 เมกะทรอนที่คืนชีพจากเทคโนโลยีขององค์กร Kinetic Solutions Incorporated หรือ KSI เมืองจีน และถูกเรียกว่า “กัลวาทรอน” และในเรื่องก็มีการพูดถึงชื่อนี้บ่อยๆ และนับ “กัลวาทรอน” เป็นชื่อของวายร้ายที่กลับมาในภาค4
แต่เมื่อขึ้นภาคที่ 5 แล้ว ชื่อของกัลวาทรอน กลับถูกลืม และลบล้างออกไปจากตัวหนัง แถมสุดยอดวายร้าย 5 บาทตัวนี้ก็กลับไปใช้ชื่อเดิมว่า “เมกะทรอน” ก็สร้างความสงสัยเล็กๆแก่ผู้ชมจากภาคที่แล้วว่าทำไมถึงเป็นเมกะทรอนเหมือนเดิม
อันนี้น่าจะพออธิบายได้ครับ เพราะชื่อ “กัลวาทรอน” เป็นชื่อที่มนุษย์เป็นคนเรียกขานกันเองในภาค 4 (เจ้าตัวเองก็แอบเคลิ้มๆเรียกตัวเองว่ากัลวาทรอนเหมือนกัน) แน่นอนว่าหากมองจากลักษณะนิสัยเดิมของเมกะทรอน ที่ดูหมิ่นดูแคลนมนุษย์อย่างมาก ถ้าการใช้ชื่อกัลวาทรอนที่มนุษย์ตั้งให้เจ้าตัวก็คงไม่ค่อยปลื้มชื่อนี้ (คงคิดว่าเหมือนตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกตั้งชื่อโดยมนุษย์) ถึงแม้ในภาคนี้จะได้ร่างใหม่อัพเกรดเป็นยานเอเลี่ยนทรงประหลาดๆ อินดี้เกินเข้าถึง พี่แกก็ยังคงใช้ชื่อ “เมกะทรอน” เหมือนเดิม
ส่วนรูปร่างที่อัพเกรดต่างไปจากภาค 4 จากการคาดเดาของแอดมิน ก็คือคงไปมีดีลลับๆกับควินเทซซ่า สังเกตุจากหน้าของเมกะทรอนที่มีรอยแดง แบบเดียวกับออพติมัส จึงสามารถสันนิฐานได้ว่า คงถูกควินเทซซ่าอัพเกรดมานั่นเอง…
2.อัศวินโบราณชาวไซเบอร์ตรอนที่ฝังตัวกระจายกันทั่วโลก กลับมาพบกันได้ยังไง?
ในท้องเรื่องภาคที่ 5 จะมีการกล่าวถึงอัศวินโบราณชาวไซเบอร์ตรอน ผู้เป็นสหายร่วมรบของกษัตริย์อาเธอร์ ในหนังถูกระบุว่ามีทั้งหมด 12 ตัว และมีบทบาทเด่นๆ 4 ตัว (Dragonicus / Skullitron / Stormreign / Steelbane) ที่มีความสามารถรวมร่างเป็น “Dragonstrom” หุ่นยนต์มังกร 3 หัวได้
แต่หลังจากจบยุคสงครามกับชนเผ่าแซกซอน และพ่อมดเมอร์ลินได้จากโลกนี้ไป เหล่าทรานสฟอร์เมอร์ทั้งหมด ก็หายตัวเร้นกาย จนแผ่นดินทวีปแพนเจียเก่าเริ่มแยกตัวจนเป็นแผนที่โลกในปัจจุบัน จนเหมือนกับพวกทรานสฟอร์เมอร์ ได้กระจายไปตามที่ต่างๆของโลก พร้อมกับ “นอของยูนิครอน” มหันตภัยร้ายที่กลืนกินจักรวาลอีกด้วย
และในฉากห้องทำงานของอดีตเจ้าหน้าที่ซิมม่อนแห่งหน่วย Sector 7 ก็ได้มีการมาร์คจุดร่องรอยของเหล่าทรานสฟอร์เมอร์ที่กระจายกันไปถึง 12 จุดด้วยกัน รวมไปถึงนอของยูนิครอนเอาไว้อย่างชัดเจน ว่าอยู่กัน “คนละซีกโลก” ในเวลานี้…
แต่ในหนังช่วงท้าย กลับกลายเป็นว่า “เหล่าอัศวินทรานสฟอร์เมอร์โบราณ กลับมาติดแหง็กในยานแม่ไซเบอร์ตรอนที่อยู่ก้นทะเลลึก” โดยทำหน้าที่เฝ้าไม้เท้าของพ่อมดเมอร์ลิน จนมาโดนออพติมัส ที่กลายร่างเป็น “เนเมซิส ไพร์ม” กระซวกเล่นไปบางตัวซะอย่างงั้น ซึ่งไม่ได้มีการปูเรื่องราว หรือขยายในจุดนี้ซักนิดเดียว อยู่ๆมารวมพลกันในยานดื้อๆเลย
และถ้านับจริงๆ อัศวินโบราณชาวไซเบอร์ตรอน หลังจากโดนออพติมัสกระซวกไส้ ก็เหลือกันแค่ไม่กี่ตัว แถมยังคงความสามารถในการรวมร่างเป็นมังกร 3 หัวไว้เหมือนเดิมด้วย
3.อัศวินโบราณชาวไซเบอร์ตรอนที่นำเครื่องรางแห่งไออาคอนติดตัว จน “เคด เยเกอร์”มาพบ แท้จริงมาจากไหน?
“เคด เยเกอร์” ถือเป็นพระเอกของเรื่องที่มีบทบาทสำคัญมากๆ เรียกได้ว่าเราจะเจอหน้าของ “มาร์ค วอลเบิร์ก” นักแสดงผู้รับบทนี้บ่อยกว่าพวกออโต้บอทด้วยซ้ำ โดยภาคนี้ เขาคือผู้ค้นพบ “เครื่องรางแห่งไออาคอน”จาก “อัศวินทรานสฟอร์เมอร์สคนหนึ่ง” (ที่ในหนังไม่ระบุว่ามาจากยุคไหน แต่มานอนตากแห้งเป็นหุ่นยนต์ใกล้ตายผลพวงในสงครามจากภาค3 แถวๆชิคาโก้ได้ยังไง?)
แถม “เครื่องรางแห่งไออาคอน” นี้ ที่จริงก็คือ “ดาบศักดิ์สิทธิ์เอ็กซ์คาลิเบอร์” ด้วย แต่ก็อย่างที่บอก “ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของเจ้าเครื่องรางดังกล่าว หรือ หุ่นอัศวินใกล้ตายว่ามาได้ยังไง” ก็เลยเป็นช่องว่าง ชวนงงให้กับผู้ที่ได้ชมนั่นเอง
***อันนี้จากการคาดเดาของแอดมินล้วนๆนะครับ อัศวินทรานสฟอร์เมอร์คนนี้ น่าจะเป็น “1 ใน 12 อัศวิน” ที่ได้ขับยานกลับไปบนไซเบอร์ตรอน เพื่อไปเอา “เครื่องรางแห่งไออาคอน” กลับมาเพื่อจะตามหาคนที่เหมาะสมจะเป็น “อัศวินรุ่นสุดท้าย” โดยเจ้าเครื่องรางนี้ก็เป็น “โลหะทรานสฟอร์เมี่ยม” ที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ ให้เข้ากับผู้ที่ถูกเลือก แต่ดันมาโดนยิงตกซะก่อน จะด้วยเหตุการณ์ในภาค 3 หรือจะหน่วย TRF ก็ตาม แล้วตอนนั้น อีตาเยเกอร์ก็โผล่มาพอดี จึงได้รับ “ดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์” ไปครอบครองในฐานะอัศวินรุ่นสุดท้ายไปแบบงงๆ***
ซึ่งถ้านับกันตามต้นฉบับการ์ตูน “ไออาคอน” (Iacon) คือชื่อเมืองๆหนึ่งของดาวไซเบอร์ตรอนที่เกิดการสู้รบกัน แถมยังมีการปูบทด้วยว่า มันคือเครื่องรางที่เป็นสัญญาณสุดท้ายก่อนโลกจะสลาย และ “ไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว” อีกด้วย งานนี้รอภาคต่อๆไปมาเฉลยเอาละกันว่ามีกี่ชิ้น มีอะไรบ้าง
4.การแปลชื่อสำหรับฉบับเสียงพากย์ไทยชวนมึน?
ในส่วนของคนที่ดูเสียงซาวนด์แทรคในโรงภาพยนตร์แล้ว อาจจะไม่ค่อยได้รับผลตรงนี้เท่าไหร่นัก แต่กับท่านที่ได้ชมเสียงไทยนี่จะค่อนข้างงงๆกับเสียงพากย์ และบทที่ถูกแปลไปบ้าง ซึ่งจุดนี้มันก็มีรั่วๆมาตั้งแต่ภาค 3 แล้ว ตัวอย่างชัดๆเลยก็ซีนที่ “เซนติเนล ไพร์ม” ลงมือสังหาร “ไอออนไฮด์” หนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง กับบทพูดสุดมึนเช่น…
ไอออนไฮด์ : “ท่านทำอะไรลงไปเนี่ย”
เซนตินัล : “ข้ามาเพื่อปลดประจำการจากเจ้าหน้าที่”
งงเด้ๆ…จริงๆควรจะเป็น “ข้ามาเพื่อปลดประจำการเจ้าจากหน้าที่” มากกว่า ซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องของภาคที่ 3 ผ่านไปแล้ว แต่นึกกี่ทีก็ยังมึนอยู่
ในส่วนของภาค 5 ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ไม่ได้มีการแปลบทที่เลวร้ายระดับนั้น แต่มีเรื่องของการเรียกขานชื่อในเสียงไทยที่ขัดแย้งกับต้นฉบับอยู่มากเช่น
“เครื่องรางแห่งไออาคอน” เพี้ยนเป็น “เครื่องรางแห่งลาคอน” (คาดว่าต้นฉบับเขียน Iacon ซึ่งตัว “I ใหญ่” ก็สามารถมองเป็น “ตัว L เล็ก” ได้เช่นกัน)
“บัมเบิ้ลบี” เพี้ยนเป็น “บั๊บเบิ้ลบี” (เป็นฟองน้ำไปแล้ว)
“ยูนิครอน” เพี้ยนเป็น “ยูนิคอร์น” (อันนี้แฟนทรานสฟอร์เมอร์สในไทยเคืองมาก จากมหาวิกฤษกลืนกินดวงดาวเป็นม้าโพนี่น่ารักกันเลย)
“เมกะทรอน” เพี้ยนเป็น “เมกะตรอน” (เพี้ยนมาตั้งแต่ภาคแรก)
“ผู้พันเลนน๊อกซ์” เพี้ยนเป็น “ผู้พันเลนนิกซ์” (อันนี้เพี้ยนมาตั้งแต่ภาค 1 แล้ว ชื่อ Lennox อ่านกันอีท่าไหนไม่รู้เป็นเลนนิกซ์)
“ออพติมัส ไพรม์” เพี้ยนเป็น “ออพติมัส พราหมณ์” (อันนี้หนักสุด ลากเสียงคำว่า”ไพร์ม”ที่หมายถึงผู้นำ กลายเป็น “ผู้ถือศีลศาสนาพราหมณ์” กันเลย)
แน่นอนว่าแฟนบอยทรานสฟอร์เมอร์ตั้งแต่ฉบับการ์ตูน หรือสายเก็บของเล่นของสะสมถึงกับพากันเซ็งเล็กน้อย
5.มุก “มาร์ธ่า” และเสียงพูด “บัมเบิ้ลบี”มาได้ไง?
นี่คือความหายนะของบทที่ทำให้ Batman Vs Superman ดูดีขึ้นมาเลย เมื่อ “ออพติมัส ไพร์ม” ได้เดินทางไปยังดาวไซเบอร์ตรอน และได้พบกับผู้สร้าง “ควินเทซซ่า” (ในอนิเมจะเรียกว่า “ควินเทชชั่น” ซึ่งเป็นชื่อดาวของผู้สร้างด้วย)
โดยควินเทซซ่า ต้องการไม้เท้าที่ถูกขโมยไปโดยเหล่าอัศวินโบราณชาวไซเบอร์ตรอนกลับคืนมา และได้ทำการล้างสมองออพติมัสด้วยการตบหน้าเบาๆ 1 ฉาด ก็กลายเป็น “เนเมซิสไพร์ม” และได้สติคืนมา ในฐานะ “ออพติมัส ไพร์ม” แบบงงๆ กับเสียงพูดของบัมเบิ้ลบี!? ง่ายๆยังงี้เลย
ถ้ามองอีกมุมนึง นี่คือการพูดด้วยเสียงจริงๆของบัมเบิ้ลบีครั้งแรกในรอบ 10 ปีเลยเชียวนะ (นับจากหนังภาคแรกที่ออกฉายในปี 2007 ที่ระบุว่าบัมเบิ้ลบีพูดม่ได้ จึงต้องใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ในการจูนหาคลื่นจากหลายๆสถานีมาเป็นเสียงพูดแทน)
แต่ต้องไม่ลืมว่า ช่วงต้นของหนัง บัมเบิ้ลบีได้ทำการถอดกล่องเสียงเก่าที่พังออกมาแล้วใส่ของใหม่ที่เป็นเสียงผู้หญิงลงไป และเจ้าตัวก็โมโหที่เอาของห่วยมาให้ใช้ จึงกระชากออกเอง นั่นหมายความว่า “ในตัวของบัมเบิ้ลบี ไม่มีกล่องเสียง” แต่พูดด้วยเสียงจริงได้ยังไง??
ข้อพิเศษ แถมให้สำหรับสาวกบัมเบิ้ลบี
-ความสามารถพิเศษในการประกอบร่างของบัมเบิ้ลบี มาจากไหน?
ในหนังไม่มีเฉลย แต่เคด เยเกอร์ บอกกับเจ้าหน้าที่ TRF ว่า “ผลของการลองดี” …คือ แล้วพี่“ลองดี”กับอะไรหว่า??
-ถ้าบอกว่าบัมเบิ้ลบีเคยปรากฎตัวในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในฐานะผู้ถล่มค่ายนาซีมาแล้ว ทำไมบัมเบิ้ลบีถึงจำอะไรไม่ได้?
หรืออาจจะเป็นความเลอะเลือน เข้าใจผิดของท่านเซอร์ เอ็ดมันน์ เบอร์ตัน (แสดงโดยดารารุ่นใหญ่ แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์) อันนี้ต้องรอ “หนังภาคแยกของบัมเบิ้ลบี” ที่กำลังจะมีกำหนดฉายในปี 2018 นี้ครับ!
——-
ก็ผ่านไปแล้วกับ “5 เรื่องชวนมึนของหนัง Transformers : The Last Knight” จริงๆยังมีอีกเยอะ แต่ก็เป็นจุดยิบย่อยมากกว่าจะเอามากล่าวถึง ซึ่งก็เป็นจุดสามารถยอมรับได้ ที่จริงแล้ว ปัจจัยหลักๆของความผิดพลาดในตัวภาพยนตร์หลายๆเรื่อง (ไม่เฉพาะทรานสฟอร์เมอร์สอย่างเดียวนะ) ก็คือการที่หนังไม่สามารถคุมโทนเรื่อง หรือเส้นเรื่องที่ชัดเจน บวกกับการใส่ตัวแปร ใส่ประเด็นให้กับหนังที่แยกแตกย่อยมากมายจนต้องมานั่งหาคำตอบกันเอาเอง เพราะหนังไม่สามารถตอบได้ในระยะเวลาที่จำกัดครับ
หากเพื่อนๆที่อ่านจบแล้ว มีข้อสงสัย เสนอแนะ ก็ลองทิ้งคำถามไว้ท้ายบทความ หรือที่หน้าแฟนเพจได้เลยนะครับ แต่ถ้าอ่านแล้วชอบก็แชร์กันไปเยอะๆนะครับ
แอดมิน Ak47
+
+
+
+
อ่านรีวิวหนังได้ในลิ้งค์
Transformers: The Last Knight อัศวินรุ่นสุดท้าย [เรื่องย่อ/รีวิว]
-
[รีวิว] Fuuto PI: The Portrait of Masked Rider Skull ยอดนักสืบแห่งฟูโตะ ภาพสลักแห่งมาสค์ไรเดอร์สกัล
เรื่องราวความสัมพันธ์จาก มาสค์ไรเดอร์สกัล สู่ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิล
-
รายชื่อเกมออกใหม่ประจำเดือน [PS4 / PS5/ PC / Xbox SeriesX / XboxOne / Switch]
ข่าวเกมส์ออกใหม่ 2023 อัพเดทเกมส์มันส์ๆเกมไหนโดนใจ ไปอ่านกันได้
-
เกม MMORPG Dekaron Online Thai จะเปิด CBT วันที่ 29 ตุลาคมนี้
ตำนาน MMORPG เกม Dekaron Online Thai โดย Ubifun Studio ผู้พัฒนาเกมชื่อดังจากเกาหลีใต้จะเปิด CBT ในวันนี้และเปิดให้ทดสอบตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 13:00 น. ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 10:00 น. ในการทดสอบครั้งนี้จะเปิดเนื้อหาเต็มรูปแบบกว่า 250 เลเวลให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ขณะเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นทุกคน ในการเข้าร่วมการทดสอบ CBT ครั้งนี้จะไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่ลงทะเบียนสร้างบัญชีในช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเล่น ก็สามารถเข้าทดสอบเกมได้แล้ว Dekaron เป็นเกม MMORPG คลาสสิกที่มีการต่อสู้ที่ตื่นเต้นและภาพที่เร้าใจ มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้เล่นชาวไทยเป็นอย่างมาก ในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับระบบ PK ที่มีความอิสระสูงในพื้นที่ DK ที่เต็มไปด้วยอันตรายและเตรียมพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ที่สนุกเร้าใจ นอกจากนี้ยังมีอาวุธและชุดเกราะสุดเท่ห์ อาชีพที่หลากหลาย และระบบการต่อสู้ PVP ขนาดใหญ่ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เล่น CBT ครั้งนี้จะเปิดด้วยวิธี Delete file test […]