Patlabor แพทเลเบอร์ [เรื่องย่อ / ตัวละคร]

 

หน่วยตำรวจหุ่นยนต์ยอดมือปราบ แพทเลเบอร์

ชื่ออังกฤษ : Patlabor

ชื่อญี่ปุ่น : 機動警察パトレイバー (คิโดเคย์ซัทสึ ปาโตะเลบะ)

ผลิตโดย :    Sunrise

 

จำนวนตอนที่ฉาย : ภาคทีวี 47 ตอน จบ  / OVA 7 ตอน / หนังโรงอีก 2 และ  Next Generation 12 ตอน + ตอนเสริมอีก 2ตอน

 

ออกฉายครั้งแรก :    11 ตุลาคม 1989 – 23 กันยายน 1990

ออกฉายในไทย : ทุกจันทร์-ศุกร์ 13.00 น. ทางช่อง 7  ปี 2535 / วันพุธ-ศุกร์  18.00 ทางช่อง IBC

 

ในช่วงปิดเทอมของยุคนึงสมัยนึง เราจะได้ดูการ์ตูนกันแทบทั้งวัน เพราะเด็กๆอยู่บ้านกันเยอะ ตั้งแต่ช่วง 9 โมงเช้าของช่อง 9 ลากยาวไปยันช่อง7ตอนบ่าย เป็นช่วงเวลาของเด็กๆที่ไม่เป็นอันทำการบ้านปิดเทอมกันเลย และนี่คือหนึ่งในตำนานการ์ตูนที่ไม่ได้ดังมากในบ้านเรา เพราะด้วยเนื้อหามึนๆ งงๆ เรื่อยเปื่อยนั่นเอง (แต่มาดูตอนโตอีกทีนี่ก็รู้สึกว่าดูแล้วไม่ได้สาระอะไรจริงๆ…) กับการ์ตูนแก๊กตลกเบาสมอง ไซไฟหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า “หน่วยตำรวจหุ่นยนต์ยอดมือปราบ แพทเลเบอร์”

 

 

 

 

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ “หน่วยตำรวจหุ่นยนต์ยอดมือปราบ แพทเลเบอร์” เป็นเรื่องราวในโลกอนาคตที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในงานอุตสาหกรรมที่เรียกกันว่า “เลเบอร์” (ที่แปลว่า “แรงงาน”) แต่ทว่าก็มีเหล่าอาชญกรที่เล็งเห็นถึงประสิทธิภาพของเลเบอร์ในการก่ออาชญกรรม ไปจนถึงการก่อการร้าย มีหลายครั้งที่อำนาจของผู้ถือกฎหมาย ไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะต่อต้านอาชญากรรมยุคใหม่ได้

 

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้มอบหมายให้กรมตำรวจจัดตั้งหน่วยงานที่รับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ และ “Patrol Labor” หรือ “Patlabor” (แพทเลเบอร์) ก็ถือกำเนิดขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองงานเท่านั้น แถมสมาชิกในหน่วยก็ไม่ได้มีคนที่เต็มเต็งมาร่วมงานกันซักเท่าไหร่ ตั้งแต่เด็กสาวสุดไฮเปอร์ โอตาคุคลั่งปืน หัวหน้าหน่วยจอมเฉื่อยชา มายำๆรวมกันในหน่วยงาน Second Special Vehicles Division (SV2) หรือ “หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2″ ทีมีอาวุธใหม่ “AV98-Ingram” (อินแกรม) เลเบอร์ที่ใช้ในงานป้องกันและปราบปรามอาชญกรเลเบอร์นั่นเอง

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น ชีวิตของเหล่าข้าราชการตำรวจในเรื่อง ก็จะเล่าไปวันๆ ผู้ชมจะได้เห็นการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามของหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 ไปจนถึงเรื่องราวที่หาสาระไม่ค่อยได้ ทั้งการฝึกผูกเงื่อนด้วยการใช้มือของเลเบอร์ การฝึกวิทยายุทธ์ให้หุ่นยนต์เลเบอร์ จับคนขี้เมาอาละวาด การมุดท่อไปล่าจระเข้เพื่อเอาไข่ไปขาย ไกล่เกลี่ยเรื่องผัวเมียทะเลาะกัน

 

 

 

กว่าจะได้จับคดีใหญ่ๆ ก็ปาเข้าไปหลายตอน ทั้งการสู้กับหุ่นเลเบอร์จากเยอรมัน และการรับมือกับ “Type J9  Griffon”(กริฟฟ่อน) หุ่นยนต์วายร้ายอาชญกรจากฮ่องกง ที่ใช้แปลนการพัฒนาที่เหนือกว่าอินแกรม เพราะเป็นหุ่นที่บินได้ ดำน้ำได้ หรือแม้กระทั่งสัตว์ประหลาดในท้องถิ่น ก็สร้างความปวดหัวให้กับเหล่าตำรวจหน่วยนี้ไม่น้อย…

 

 

 

 

 

 

 

Patlabor Next Generation

ถ้าบอกว่า “อนิเมชั่น แพทเลเบอร์ เป็นการ์ตูนไร้สาระ” ขอแนะนำภาพยนต์ที่ไร้สาระขั้นกว่า กับเรื่องราว 30 ปีต่อมาของหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ2 ที่เหมือนจะหายใจทิ้งไปวันๆ รอวันที่ทางผู้ใหญ่ในกรมตำรวจโล๊ะทิ้ง

 

เรื่องราวของ หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 รุ่นที่ 3  ที่มาอยู่ในยุคเศรฐกิจถดถอย เลเบอร์จึงเป็นสิ่งของที่มีต้นทุนสูง ทั้งงานสร้าง และซ่อมบำรุง  โรงงานอุตสาหกรรมก็แบกค่าใช้จายในการซ่อมเลเบอร์ไม่ไหว จากยุคที่รุ่งเรืองของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ก็กลายเป็นของไร้ค่าไร้ราคาในที่สุด แม้กระทั่ง หน่วยงานราชการอย่างกรมตำรวจ ก็ไม่ได้มีงบมากพอที่จะใช้งานเลเบอร์ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ (บริษัทอะไหล่อินแกรมกว่าครึ่ง ถูกฟ้องล้มละลาย) ทางกรมจึงพยายามลดบุคลากรลงเหลือแค่หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 เท่านั้น (เคยมีหน่วย 1 แต่โดนยุบไปก่อนแล้ว) แต่ด้วยเรื่องของต้นทุนเลเบอร์ที่สูง ทำให้เหล่าอาชญกรเริ่มไม่ใช้งานเลเบอร์เช่นกัน เพราะมันแพง อาชญกรรมด้านเลเบอร์จึงลดลงจนแทบจะไม่มีให้เห็นกันอีกต่อไป…

 

ถึงจะมีเรื่องราวหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่ทีมงานหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 ทั้งฝ่ายปฏิบัติการณ์ และฝ่ายซ่อมบำรุง ก็ต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันแบบเรื่อยๆเปื่อยๆชิวๆต่อไป เพราะไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้นั่นเอง…

 

 

ตัวละคร

 

อิซึมิ โนอา

สาวน้อยไฮเปอร์มาดทอมบอย และเป็นโอตาคุคลั่งเกม อีกทั้งยังเป็นคนที่ชื่นชอบเครื่องจักรเอามากๆถึงกับตั้งชื่อให้อินแกรม01 ว่า “Alphonse“ (อัลฟองเซ่) มีนิสัยห่ามๆลุยๆ แต่ไม่เท่ากับโอตะ มีฝีมือในการบังคับเลเบอร์สูงที่สุดในกลุ่ม มีคู่หูคือ อาซึมะ ที่สั่งการจากรถบังคับการจากด้านล่าง และมักจะทะเลาะกันประจำ ถึงอย่างนั้นหลังจากออกจากหน่วยไป โนอาก็อยู่กินกับอาซึมะ ดูแลรับช่วงกิจการของพ่อต่อไป จนกระทั่งบริษัทล้มละลาย

 

ชิโนฮาร่า อาซึมะ

ลูกชายเจ้าของบริษัท Shinohara Heavy Industries บริษัทที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกเลเบอร์ และประชากรหุ่นเลเบอร์กว่า90% มาจากบริษัทของพ่อเขา แต่มีปากเสียงกัน อาซึมะจึงหนีพ่อมาสอบเข้าโรงเรียนตำรวจ เป็นคนนิสัยดี หัวอ่อน มักจะถูกใช้งานจิปาถะอยู่บ่อยครั้ง ถึงจะเป็นพลขับคู่หูของโนอา แต่ฝีมือการขับเลเบอร์ก็ไม่ได้เป็นรองใคร แค่เจ้าตัวไม่ชอบเท่านั้น เผลอๆจะขับได้ดีกว่าโอตะที่เป็นนักบินอินแกรม02 ด้วยซ้ำ หลังจากออกจากหน่วยไป อาซึมะก็อยู่กินกับโนอา ดูแลรับช่วงกิจการของพ่อต่อไป จนกระทั่งบริษัทล้มละลาย

 

ยามาซากิ ฮิโรมิ

ยักษ์ใหญ่ใจดี ลูกชาวประมงที่ดันเป้นพวกเมาเรือ จึงได้มาสอบเป็นตำรวจ แต่ด้วยความที่เขาตัวใหญ่เกินกว่าห้องบังคับอินแกรม ทำให้เขาต้องมาทำหน้าที่พลขับอยู่ข้างล่างแทน  เขาเป็นคนที่มีพละกำลังสูงมาก ถึงขั้นสามารถร่วมมือกับโอตะในการออกแรงลั่นไกยิงปืนลูกโม่สำหรับเลเบอร์ได้โดยไม่ต้องใช้ตัวเลเบอร์เลย

 

โอตะ อิซาโอะ

จอมโวยวายบ้าพลังที่สุดในกลุ่ม นักบินของอินแกรม02 โอตาคุคลั่งปืน และอาวุธสงครามทุกชนิด ทำให้เขาเหมาะจะเป็นนาวิกโยธินมากกว่าตำรวจ ถึงจะเสียงดังไปบ้าง การขับหุ่นอาจจะห่วยแตก แต่การยิงปืนของเขาอยู่ในระดับสุดยอด (เป็นรองแค่ผู้กองโกโต้เท่านั้น) แต่หลังจากเขาลาออกจาหน่วยไปได้ไม่นานนัก เขาก็ถูกตำรวจจับกุมข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ และจำคุกอยู่พักนึงก่อนได้รับการปล่อยตัว

 

คุมางามิ ทาเคโอะ

ตำรวจสาวที่เคยร่วมงานกับตำรวจฮ่องกง ก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้ทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นเธอได้รับการเสนอตำแหน่งกับตำรวจสากล แต่ดันมาจบลงด้วยการเลือกมาอยู่กับหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2  ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นคนใจเย็น และมีทักษะสูงมาก ทำให้เธอถูกบรรจุเป็นพลสั่งการของโอตะ ที่ขับอินแกรม02 เห็นดุๆแบบนี้ ที่จริงเป้นคนที่กลัวผีเอามากๆด้วยนะ…

 

หัวหน้า ซาซากิ เซย์ทาโร่ 

หัวหน้าซาซากิ เป็นหัวหน้าทีมซ่อมบำรุงของหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2  ตาลุงขี้บ่น แต่งานซ่อมบำรุงเลเบอร์ของเขาคือสุดยอด มักจะขู่ลูกทีม หรือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภาคสนามว่า “ถ้าไม่เอากลับมาในสภาพที่ดีๆ จะจับเอาเลเบอร์ทุกตัวในหน่วยงานลงทะเลให้หมด” หลังจากเกษียณอายุราชการมาได้ 5 ปี ก็เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา

 

รองหัวหน้า ชิบะ ชิเงโอะ

รองหัวหน้าทีมซ่อมบำรุงของหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 เป็นคนที่รักในเครื่องกลไม่แพ้หัวหน้าซาซากิ เขาเรียนรู้ และเคารพหัวหน้าซาซากิมาก หลังจากนั้นหลายสิบปีหลังจากที่หัวหน้าซาซากิลาจากโลกนี้ไป เขาก็มาทำหน้าที่หัวหน้าทีมซ่อมบำรุงต่อจนถึงทุกวันนี้

 

ผู้กองคิอิจิ โกโต้

นายตำรวจหัวหน้า หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 หมวดที่ 2จอมเฉื่อยชา แต่เอาเข้าจริงๆ เขาเป็นคนที่วิเคราะห์ และ อ่านสถาณการณ์ทุกอย่างได้เฉียบขาด อีกทั้งยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมากความสามารถ จนได้รับฉายาว่า “ไอ้มีดโกน โกโต้” เพราะความเฉียบคมในการอ่านสถาณการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมตำรวจ ลงมติให้เขามาคุมทีมงานที่ชนบท ห่างไกลผู้คนอย่างหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2  เพราะความที่โกโต้เป็นคนที่รู้มากนั่นเอง

โกโต้เป้นคนที่มักจะสั่งให้ลูกน้องไปสืบเรื่องราวต่างๆที่ตัวเองรู้อยู่ก่อนแล้ว แต่ตีเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่องซะมากกว่าเป็นประจำ มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีความสุขบนความทุกข์ทรมานของสมาชิกในทีม จะว่าแนวซาดิสม์ก็คงไม่ผิดนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนไร้หัวใจซะทีเดียว เพราะอย่างน้อย เขาก็มีความรู้สึกที่ดีๆให้ “ผู้กองชิโนบุ”แห่งหมวด 1 อยู่ ถึงจะไม่มีการตอบรับความรู้สึกก็ตาม

หลังจากออกจากหน่วยไป ก็กลายเป็นบุคคลหายสาปสูญไปแบบไม่ทราบสาเหตุ

 

ผู้กอง นากุโมะ ชิโนบุ

ผู้กองสาวผู้ใจเย็น เป็นอัจฉริยะในการวางแผนไม่แพ้โกโต้ เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ทันโกโต้ไปซะทุกเรื่อง เป็นคนที่มีความเป้นมืออาชีพสูงมาก และไม่ยอมให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล ถึงเธอจะรู้สึกดีกับโกโต้ แต่ด้วยหน้าที่ จึงต้องรักษาระยะห่างเอาไว้เพื่อไม่ให้ความรู้สึกไขว้เขวเข้ามาทำให้งานเสีย

 

 

อิซึมิโนะ อากิระ

สาวน้อยโอตาคุติดเกม เป้นนักบินของ หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 รุ่นที่3 เป็นคนที่ไฮเปอร์คล้ายๆกับโนอา แต่ก็มีความเป็นเด็กผู้หญิงมากกว่า มีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆว่าอยากจะขับหุ่นยนต์ยักษ์ออกช่วยเหลือผู้คน แต่สุดท้าย ก็มาทำงานแบบเช้าชามเย็นชามอยู่ดี…เห็นยังงี้นี่เซียนเกม Tekken ซะด้วยนะ

 

ชิโอบาระ ยูมะ

หนุ่มโอตาคุคลั่งทหาร บนโต๊ะทำงานมีแต่โมเดลเครื่องบินรบ เรือรบ มากกว่าเอกสาร เป็นตัวละครที่ดูเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดในเรื่อง แต่ด้วยความที่เป็นคนมุมานะกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จึงมักจะกลายเป็นการหาเรื่องใส่ตัวไปโดยปริยาย

 

“เอคาเทริน่า คราเชฟน่า คานคาเอว่า” หรือ “คาซ่า”

สาวสวยทรงสเน่ห์แห่ง หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 รุ่นที่3 อดีตสายลับ KGB ของรัซเซีย ที่ถูกส่งตัวมาดูงานที่ญี่ปุ่น แต่ว่าเวลาผ่านมาหลายปี ก็ไม่มีหมายเรียกตัวกลับประเทศต้นสังกัด ทำให้เธอต้องติดแหง็กอยู่ที่ญี่ปุ่น เป็นคนที่มีบุคลิกลึกลับซับซ้อนที่สุด แต่เวลาไม่พอใจใครก็จะพูดเหน็บแนมเป็นภาษารัสเซียใส่

 

โอทาวาระ อิซามุ

ตาลุงขี้เมา ว่างงานเป็นซดเหล้า นักบินของอินแกรม 02 ของหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 รุ่นที่3 นิสัยก้าวร้าว ชอบโวยวายเสียงดัง นอกจากฝีมือการขับอินแกรมจะห่วยแล้ว ฝีมือการยิงปืนด้วยเลเบอร์ยังห่วยไม่แพ้กัน เรียกว่าแทบไม่มีอะไรดีเลยก็ว่าได้

 

 

ผู้กองเคย์อิจิ โกโตดะ

หัวหน้าหน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 รุ่นที่3 จอมเฉื่อยชา แต่คาดว่าเป็นคนที่มีองค์แน่นพอสมควร เหมือนกับที่ผู้กองโกโต้เคยเป็น ลักษณะ นิสัย ท่าทางคล้ายกันมากจะจนนึกว่าเป็นคนๆเดียวกัน

 

 

 

ของเล่น

ของเล่นจากการ์ตูนเรื่องนี้ส่วนใมหญ่จะออกมาเป็นแอคชั่นฟิเกอร์ (ที่ไม่ได้ผลิตโดยบันได)  และพลาสติกโมเดล (อันนี้บันไดทำ) ก็รวมๆมาให้ได้ดูกัน

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดเต็ม

อันนี้งานจากบริษัทยามาโต้ สเกล 1/24 ที่ตามลำตัว ผ่านการขัดเงาแบบรถตำรวจ แถมที่ไหล่และตามี LED ด้วย ราคาไม่ต้องสืบ

 

 

อันนี้งานบันได ทำออกมาหลายรุ่น แต่ส่วนใหญ่จะถูกจัดให้เป็นกันพลาแบบ MG 1/35  (สูงราวๆ Jegan 1/144 )

 

กริฟฟ่อน เป็นอีกหนึ่งตัวที่บันได และหลายๆเจ้าแข่งกันย้อมออกมาขาย

 

 

———————-

 

 

 

การฝึกการใช้นิ้วในการผูกเงื่อนเชือก กิจกรรมไร้สาระอีกอย่างของหน่วยนี้

 

งานช่วยเหลือ กู้ภัย ไล่คนเมา ผัวเมียทะเลาะกัน งานถนัดของ หน่วยเคลื่อนที่พิเศษ 2 เขาล่ะ

พังทีซ่อมที งบบานปลายทุกทีที่ออกบู๊

 

เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่แป้กสนิทในบ้านเราจริงๆครับ เพราะด้วยเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่จัดๆ ขายสัจธรรมข้าราชการที่ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ไปวันๆ เกินกว่าเด็กๆจะเข้าใจ ยอมรับว่าตอนที่ฉายช่อง7นี่ไม่ชายตาดูเลยนะ เพราะดูแล้วไม่เข้าใจจริงๆ (มาตรัสรู้เอาตอนโตแล้วนี่ละ)

แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากให้หามาดูครับ เป็นหนังก็ได้ ทาง DEX จัดออกมา 6 แผ่นจบ (เหลือหนังโรงอีก 2 ตอนนะ ไม่รู้ออกมารึยัง) จัดเป็นหนังตลกที่มีฟิลลิ่งของความไร้สาระ เหมาะกับการคลายเครียดได้ดีเลยทีเดียว

 

 

 

แอดมิน Ak47

 

เพลงเปิด 

 

เพลงเปิด OVA