พนอ

วันที่เข้าฉาย: 16 มกราคม 2025
หมวดหมู่: Horror

ผู้กำกับ: พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว

แสดงนำ : เฌอปราง อารีย์กุล / รัตนวดี วงศ์ทอง / ชลิตา ส่วนเสน่ห์ / จักริน กังวานเกียรติชัย

หากคุณยังจำกับความโหดของพิธีกรรมสุดวิปลาศของ “ครูพนอ” จากภาพยนตร์เขย่าขวัญในตำนานอย่าง “ลองของ”…แม้ว่าบทบาทของตัวละครนี้จะจบไปแล้ว แต่ตอนนี้ เรื่องราวของ “พนอ” กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบของ “ภาคต้นกำเนิด” ที่จะทำให้เรารู้จักสาวพลังคุณไสยคนนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น กับภาพยนตร์ “พนอ”

หนังเล่าเรื่องราวของ ‘พนอ’ เด็กหญิงที่เกิดมาในวันที่มีคนในหมู่บ้านทำพิธีปล่อยของ ทุกคนรังเกียจกล่าวหาว่าเธอเป็นตัวเสนียดจัญไร ใครอยู่ใกล้มักจะมีอันเป็นไปจากการถูกคุณไสยเล่นงาน  แต่ความเป็นจริงแล้ว พนอ เกิดมาพร้อมกับความสามารถในการถอนของ ช่วยเหลือคนได้ด้วยการดูดเอาคุณไสย เก็บไว้กับตัวได้ แต่ก็แลกกับความเจ็บปวดแสนสาหัส

18 ปีต่อมา พนอได้เติบโตอย่างหมองหม่น ถึงอย่างนั้น พนอก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แต่วันหนึ่ง เพื่อนสนิทของเธอ ถูกใครบางคนทำของใส่จนตาย และนั่นทำให้เธอต้องค้นหาว่า ใครคือคนร้าย แต่ยิ่งนานวันเข้า เธอก็ยิ่งรู้ถึงความดำมืดของชาติกำเนิดของเธอ และหมู่บ้านที่เธออยู่ ก็มีบางอย่างปิดบังอยู่ รวมไปถึง แม่แท้ๆของเธอเองก็ด้วย 

และนั่น คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวนองเลือดครั้งใหญ่ ที่จะต้องติดตามต่อในโรงภาพยนตร์ กับปฐมบทแห่งเรื่องราวไสยศาสตร์เสียวสยองที่ทุกคนจะต้องจดจำชื่อของเธอไปจนวันตาย!

REVIEW

สยองสะใจ เล่นสเกลใหญ่ มีหลายปม ประเด็นให้ตาม แม้ว่าจะไม่เคลียร์บ้าง แต่โดยรวมคือความบันเทิงเลือดสาด เล่นถึงเนื้อถึงหนัง ยันลำไส้กันเลย!

เป็นภาพยนตร์ที่เปิดปีมาด้วยความรู้สึกที่เดินออกจากโรง แล้วก็พาลคิดว่า “นี่ละ ว่าที่หนังร้อยล้านเรื่องแรกของปี 2025″ ด้วยสูตรสำเร็จที่คนไทยชื่นชอบ อย่าง ความน่ากลัวตื่นเต้น ความโหด และ มีพล๊อตที่ลึก แต่จับต้องได้ มีมุมให้คิดตาม ทำให้ พนอ มีความสนุก น่าติดตาม และทำให้ผู้ชมอยากรู้ว่า “แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไป” แม้ว่าเรื่องราวระหว่างทาง จะเต็มไปด้วยความหม่นหมอง ปนความเสียวไส้ กับงานพร๊อพต่างๆที่เมื่อนำมารวมกับ CG ในยุคนี้ ก็ทำให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นไปอีก…แม้ว่าบางจุด CG จะลอยๆหลอกๆไปบ้าง แต่เข้าใจได้ว่าระยะการโฟกัสของผู้ชม ถูกเทไปที่เนื้อเรื่องมากกว่า พอมีอะไรที่ไม่เนียบนแว้บๆ ก็พอจะทำใจปล่อยไปได้  และ ไม่มีสัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตใดได้รับบาดเจ็บระหว่างถ่ายทำ (คำโปรยก่อนเข้าภาพยนตร์เต็มเรื่อง)

ในขณะที่เส้นเรื่อง มีความซับซ้อน ซ่อนปม บนความโหดของเหล่าคนใช้ไสยศาสตร์ ที่หักกันไปมา มีการแก้ทาง การต่อต้านถอนของ ทำออกมาได้สนุก ราวกับรับชมอนิเมะเรื่องนึง ที่มีเงื่อนไข มีวิชาแปลกๆ บนความเชื่อของไทยผสมเพื่อนบ้าน และ บางจุดก็พาข้ามเซิฟเวอร์ศาสนา ไปเลยก็มี

แต่ถึงอย่างนั้น บนความสนุก ก็มีจุดโหว่ ที่มองได้ทั้งสองมุมคือ ภาพรวมสนุกก็โอเคแล้วอย่าคิดมาก กับคนที่ซีเรียสถึงความสมเหตุผล ที่ พนอ ได้สร้างเหตุการณ์ใหญ่โตระดับในเรื่อง แต่กฎหมายไม่สามารถทำอะไรเธอได้จริงๆหรือ? จุดนี้ อยากให้ไปนั่งดูก่อน แล้วค่อยคิดตามว่า จะปล่อยผ่านได้ รับได้ โอเคแล้ว หรือรู้สึก “อิหยังหวะ” กับการปล่อยจางในประเด็นดังกล่าว ทั้งๆที่มีตัวละครตำรวจในเรื่องแท้ๆ…อันนี้แล้วแต่ท่านที่รับชมครับ

ส่วนพลังการแสดงของเหล่านักแสดงในเรื่อง แน่นอนว่า เดอะแบกของเรื่อง คือตัว “พนอ” ที่รับบทโดย “เฌอปราง” อดีตไอดอลภาพลักษณ์ใสๆน่ารักๆ มาเป็นพนอในเรื่องที่ฉีกภาพดังกล่าวทิ้งได้หมดจด สามารถพูดได้เลยว่า นี่คือเรื่องที่แสดงดีที่สุดเท่าที่ดูมาแล้ว ดูแล้วทำให้เราอินตามได้ สงสาร หลงไหลบ้าคลั่ง สาดอารมณ์ด้านพอจะน่ารัก ด้สนหม่นหมอง ไปจนถึงด้านมืดมนสุดขั้ว สับสวิทช์ได้ยังกะไบโพล่าร์ ถือว่าไม่ธรรมดา

เธอคือ พนอ วัยรุ่นที่ไม่ได้รับความรักจากผู้คนมากเท่าไหร่ แต่พอจะมีคนที่ดีกับเธอ ก็มีอันต้องเจอเรื่องร้ายๆ ทำให้สีหน้า แววตา เป็นคนอมทุกข์ตลอดเวลา พูดจาก็ไม่ค่อยเต็มเสียง มีทีท่าที่อิดโรยเหมือนเด็กขาดสารอาหาร ตัวดำๆ หน้าพังๆ (ต่างจากเวอร์ชั่นคุณมะหมี่ ที่มีความเซ็กซี่ น่ามองแบบสาววัยทำงาน)

แต่เมื่อเธอได้ทำการ Awake แล้ว ร่างนางพญาในผมทรงวินเทจของพนอ ก็สวยคลาสสิค ดูน่ามอง น่าหลงไหล ปนน่าสงสาร และเอาใจช่วยให้เธอหลุดจากวงโคจรชีวิตบัดซบนี้ซักวัน แม้เราจะรู้ปลายทางอยู่แล้วว่า ยังไงซักวันก็ต้องไปเข้าลูปของ “ลองของ 1-2″ อยู่ดี แต่เราก็ลุ้นว่า “เผื่อคนเขียนบท จะใจดีกับพนอบ้าง“

ในขณะที่ คุณ แจ๊คกี้ ดูไปทางพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นไปเลย บทมีความเบียวในตัว สไตล์พระเอกการ์ตูนตาหวานปากเสียใจดี และยังมีนักแสดงท่านอื่นๆ ที่มาทำหน้าที่เติมให้โลกของ “พนอ” มีมิติ และขับเคลื่อนให้ตัวละครพนอ มีความคิดที่จะเป็น “ปีศาจ” …จะเพื่อเพื่อนที่จากไป เพื่อเอาสะใจ เพื่อเติมเต็มความหมายในการมีชีวิต นี่คือสิ่งรอบตัวที่หล่อหลอมให้พนอ มีความสับสนอลหม่านในจิตพอสมควร และเราเริ่มเดาอะไรไม่ได้แล้ว เครดีตของนักแสดงทุกคนในเรื่อง คือทำถึงจริงๆ และมันส่งผลให้ซีนปั้นต่างๆในช่วงท้ายของเรื่อง ถูกออกแบบมาให้“สมกับเป็นเป็นไฟนอลแบทเทิลจริงๆ” มันเดือดดาล มั่วซั่ว บีบหัวใจ สะเปะสะปะอีรุ่ยฉุยแฉก ชนิด “ปล่อยจอยดูไม่ต้องหาเหตุผลอะไรแล้ว” กันไปเลย

สรุป ถ้าใครที่ชอบความโหด เสียวนิ้วเท้า เสียวหนังหัว ลูกกะตา ผิวหนัง กองเลือด  และความคิดที่โคตรผิดเพี้ยนไปกับทฤษฎีสมคบคิดระดับภูธร พร้อมกับความน่าติดตามในเส้นเรื่องที่แข็งแรง แม้จะมีหลุม มีรูโหว่ที่ต้อง “เอ๊ะ” บ้าง

แต่ภาพรวมคือทำมาสนองความบันเทิงจิตสายซาดิสม์ ที่ “พนอ” ทำให้เราคิดถึงภาพยนตร์ต้นฉบับอย่าง “ลองของ”

และ ออกจากโรงแล้ว เชื่อว่ามีคนแวะซื้อ “ห่อหมก” ซักกระทงทานเป็นมื้อเย็นแน่นอน…

พนอ เข้าฉายจริง 16 มกราคม 2025

ปล. เรื่องนี้ไม่เหมากับคนกลัวตุ๊กแก

 #พนอ
#PANOR #FiveStarMovies #หนังใหม่ #CherprangAreegul #พนอสุด