P- BANDAI HGUC 1/144  [MISSING LINK] AMX-018[HADES] TODESRITTER 

Series :  Mobile Suit Gundam Side Story: Missing Link

Manufacturer : Bandai

วัสดุ PS/ABS/PP

Price :  3,300  เยน (1xxx บาท ราคายังไม่รวมภาษี ค่าส่ง ค่าวางหน้าร้าน และกำไรของแต่ละร้าน)

สั่งจองได้แล้ววันนี้ ขายจริง ธันวาคม

https://p-bandai.jp/item/item-1000148541/

Mobile Suit Gundam Side Story: Missing Link เป็นเกมที่เล่าเรื่องราวอีกมุมของการสู้รบในศักราช Universal Century ที่ลง PlayStation 3   เป็นเรื่องราว ภาคแยก ที่เชื่อมโยงกับสงครามในอนิเม Gundam ยุค UC มีหลายเรื่องราวให้ได้ติดตามหลายแง่มุม ทั้งฝั่งสหพันธ์ และซีออน เราจะได้เห็นโมบิลสูทหน้าตาแปลกๆ เทคโนโลยีลับ หรือสงครามที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง หรือตกหล่นไปในไทม์ไลน์หลัก ก็จะมีมาให้ติดตามในเกมนี้

AMX-018［HADES］ Todesritter

หลังจากที่หน่วยพิเศษ Marchosias ถูกหยุดยั้งได้สำเร็จด้วยความพยายามอย่างมาก ทำให้ RX-80PR Pale Rider โมบิลสูทในช่วงปลายสงครามหนึ่งปี ถูกส่งไปยัง Axis และได้รับการปรับแต่งอย่างหนักโดยใช้อุปกรณ์จากโมบิลสูทอื่น ๆ ในเครือของ Axis จนกลาย เป็น AMX-018 [HADES] Todesritter  และมันได้ปรากฎตัวอีกครั้งในสนามรบในปี UC 0090 ภายใต้ธงของ Neo Zeon ที่นำโดย ชาร์ อัสนาเบิล 

นักบินของ Todesritter คือ Chloe Croce นิวไทป์เทียม (Cyber Newtype) ซึ่งเป็นนักบินของ Pale Rider ดั้งเดิม เนื่องจากการทดลองที่ผ่านมาจากสถาบันวิจัยนิวไทป์ของสหพันธ์ที่ตั้งในออกัสต้า ที่เคยทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากความบกพร่องทางสติปัญญา และการสูญเสียความทรงจำ ก็ได้ย้ายข้างจากสหพันธ์ มาเป็นทหารNeo Zeon 

AMX-018[HADES] Todesritter  เป็นโมบิลสูทประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในกองทัพนีโอซีอ้อน (Neo Zeon) ในช่วงปี U.C.0090  โดยเป็นโมบิลสูทที่เอาซากของ RX-80PR Pale Rider มาประกอบใหม่ด้วยโครงสร้างภายในแบบ  Movable Frame  (แบบเดียวกับซาซาบี้ นิวกันดั้ม หรือพวกหุ่นสายนีโอซีอ้อน) พร้อมอัดเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ ที่อัพเกรดมากกว่าช่วงสงครามหนึ่งปี ทำให้เจ้าTodesritter มีความสามารถเทียบเคียงได้กับโมบิลสูทที่ใช้ในสงคราม Neo Zeon ครั้งแรกและครั้งที่สองในเวลานั้น ส่วนแพ็กหลังจะมี เวอร์เนียหกตัว สำหรับขับเคลื่อน และเพิ่มในส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดย่อม นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งถังเชื่อเพลิงขับเคลื่อนได้อีกสองถังเพื่อยืดระยะเวลาการทำงาน นอกจากนี้ยังติดตั้งไฮเปอร์บีมเซเบอร์ขนาดใหญ่คู่หนึ่งซึ่งจะใช้โดย Sub-Arms ที่ติดตั้งไว้ที่ไหล่แทน (เป็นบีมเซเบอร์ลักษณะเดียวกันกับที่ใช้ใน ZZ) นอกจากนี้ยังมีตัวสลักยึดขนาดใหญ่ด้านหลังคู่หนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขับดันและเป็นชั้นวางอาวุธสำหรับติดตั้ง INCOMs และ Tri-Blades

H.A.D.E.S.

HYPER ANIMOSITY DETECT ESTIMATE SYSTEM สร้างขึ้นจากฐานข้อมูลและตัวอย่างของ EXAM System เมื่อเปิดใช้งาน H.A.D.E.S.  ระบบOSคอมพิวเตอร์ทั้งหมดจะทำการบังคับปิดการใช้งานตัวคววบคุมลิมิตเตอร์ของโมบิลสูท เพื่อดึงประสิทธิภาพของเครื่องออกมาเต็มที่ 100% และยังเร่งการประมวลผลข้อมูลที่ดีที่สุดจากคอมพิวเตอร์ ส่งไปยังนักบินโดยตรง ทำให้บังคับโมบิลศุทได้แม่นยำ มีปฎิกริยาตอบสนองที่ฉับไวมากขึ้น  แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ แต่ระบบก็ยังพยายามอ่านความคิดของนักบินศัตรูล่วงหน้าผ่านการตรวจจับด้วยไซโคมิว Psycommu  โดยสภาพการเปิดใช้งาน HADES จะทำให้ช่องระบายอากาศของโมบิลสูทร้อนจัดจนกลายเป็นไอควันสีแดง เนื่องจากมีการระบายก๊าซออกไปอย่างมาก และเช่นเดียวกับระบบ EXAM เซ็นเซอร์ของโมบิลสูทก็จะเรืองแสงเป็นสีแดงด้วย

ในส่วนระบบ H.A.D.E.S. ของ Todesritter  จะเก็บไว้ในกล่องดำภายในส่วนหัวของโมบิลสูท ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครแตะต้อง ด้วยระบบ OS ที่ล้ำเกินกว่าทำความเข้าใจ ทำให้ระบบซอฟท์แวร์ ชุดคำสั่งต่างๆของมันถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพเดิม จะเพิ่มเติมก็คือการใส่เสาอากาศเร่งสัญญาณเท่านั้น 

Sub-Arm
แขนกลที่แสนจะเรียบง่ายหนึ่งคู่ มันถูกติดตั้งอยู่ที่ไหล่ของโมบิลสูท ซึ่งจะกางออกเมื่ออยู่ในสภาพที่ใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว แขนกลของTodesritter ถูกออกแบบมาเพื่ใช้งานไฮเปอร์บีมเซเบอร์ในการต่อสู้ ด้วยอาวุธที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ Todesritter สามารถปรับใช้และโจมตีด้วยบีมเซเบอร์ทั้งสี่ได้พร้อมกัน

Vulcan Gun

เนื่องจากยูนิต HADES ติดตั้งอยู่ที่ส่วนหัวจึงต้องติดตั้ง ปืนกลวัลแคนสองด้านของส่วนหัว อาวุธเบาเหล่านี้ใช้ในการสกัดกั้นขีปนาวุธทำลายรถหุ้มเกราะเบา มากกว่าการทำลายโมบิลสูท

Machine Cannon

 อาวุธยิงกระสุนหนักนี้ตั้งอยู่ที่หน้าอก ใช้ลำกล้องที่ใหญ่กว่ามาตรฐาน ทำให้อาวุธมีความสามารถในการเจาะทะลุได้สูงกว่า วัลคันที่หัว เหมาะสำหรับสร้างความเสียหายให้กับโมบิลสูท

Beam Saber/Beam Gun

บีมเซเบอร์เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กของโมบิลสูท เมื่อเปิดใช้งาน จะเป็นการใช้พลังงานจากตัวเก็บประจุแบบชาร์จไฟ โดยจะปล่อยอนุภาค Minovsky พลังงานสูงออกมาเพื่อสร้าง I-field รูปทรงใบมีด (ผ่านการจัดการสนามแม่เหล็กไฟฟ้าควบแน่น) จากนั้นเคลือบ I-field นี้ด้วยพลาสมาที่ร้อนเพื่อเพิ่มการตัดเฉือนที่มีประสิทธิภาพ Todesritter มีบีมเซเบอร์งสองเล่ม เก็บไว้ที่ปลายแขน ส่วนบีมกัน เป็นปืนแสงแบบมาตรฐานที่มีมาให้ 2 ชุด

Hyper Beam Saber

บีมเซเบอร์รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน ZZ โดยมันจะเป็นบีมเซเบอร์ที่อัพเกรดจากบีมเซเบอร์ทั่วไป มันทรงพลังกว่า มีด้ามจับที่ใหญ่กว่า ปล่อยใบมีดที่ใหญ่กว่า  โดย Todesritter มีไฮเปอร์บีมเซเบอร์สองอัน เก็บไว้ในแพ็กหลังของโมบิลสูท แต่ต้องใช้ Sub Arms ในการจับถือเพราะขนาดที่ใหญ่ของมันนั่นเอง

INCOM

อาวุธระยะไกลที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับระบบจำลองไซโคมิว ที่เห็นใน AMX-014 Döven Wolf แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ควบคุมผ่านระบบ H.A.D.E.S. ของ Todesritter  โดยจะมาเป็นอุปกรณ์รูปแผ่นดิสก์ ซึ่งจะติดอาวุธ และควบคุมผ่านสายเคเบิล ทุกครั้งที่ INCOM เปลี่ยนทิศทางการบินมันจะใช้รีเลย์ขนาดเล็ก INCOM แต่ละตัวติดตั้ง “ปืนบีมกัน” ที่มีกำลังไฟ 4.5 เมกะวัตต์ เนื่องจากข้อจำกัดของความยาวสายไฟ จึงไม่สามารถจ่ายพลังงานได้เพียงพอที่จะทำให้สามารถใช้ปืนลำแสงได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากถึงจำนวนนัดที่กำหนดแล้วจะต้องเรียก INCOM กลับมาเพื่อให้สามารถชาร์จปืนลำแสงได้

นอกจากนี้ INCOM ของ Todesritter แต่ละตัวมี Tri-Blade ที่ เป็นอาวุธขว้างปาที่เดิมใช้โดย AMX-009 Dreissen มีใบมีดหมุนความเร็วสูงสามใบและสามารถเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายได้โดยใช้เวอร์เนียเดี่ยวที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่าง การติดตั้ง Tri-Blade บน INCOM ช่วยให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นผ่านการใช้ลวดการเปลี่ยนวิถีด้วยรีเลย์ และการโจมตีแบบผสมผสานด้วย Beam Gun ของ INCOM ทำให้รับมือได้ยากพอๆกับฟันเนลเลยก็ว่าได้

Hyper  Buster

เดิมใช้โดยAMX-008 Ga-Zowmn โดย Hyper Buster  เป็นอาวุธปืนลำแสงพลังสูงมีกำลังไฟ 4.1 เมกะวัตต์และใช้พลังงานจาก E-pack จากแพ็กหลัง

โล่
Todesritter เป็นอุปกรณ์ที่มีโล่ที่ถูกนำมาใช้โดย AMX-107 Bawoo มีอาวุธปืนอนุภาคขนาดใหญ่ 5 กระบอกอยู่ตรงกลาง

สั่งจองได้แล้ววันนี้ ขายจริง ธันวาคม ใครชอบก็จัดไป!!

แอดมินAK47