OVERHIT [ iOS / ANDROID ]
ประเภท : Turn Based , Strategy , RPG
เครื่อง : iOS / Android
สโตร์ที่สามารถโหลดได้ : Global (เปิดใหม่) , JP
วันเปิดให้บริการ : 30 พฤษภาคม 2562
พัฒนาโดย : NEXON

เกม 3D Turn based ภาพสุดสวย ท่าไม้ตายสุดอลังการ มาเปิดให้บริการแบบ Global แล้วจ้า !  “OVERHIT” จากค่าย Nexon ได้ลงเซิร์ฟ Global เมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดให้บริการเซิร์ฟญี่ปุ่นและ เกาหลีมาสักพักแล้วก่อนหน้านี้ กระแสตอบรับตอนเปิดลงทะเบียนล่วงหน้าก็นับว่าดีเอามากๆ

เกมนี้คือ!?

เกม Overhit มี Gameplay เป็นแนว Turn Based , Strategy ผสมผสานกับ RPG อธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือ ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ตัวละคร(ที่สุ่มได้จาก Gacha) นำมาอัพสเตตัส เลเวล และ สกิล นำมาจัดทีมที่ประกอบขึ้นด้วยตัวละคร 4-5 ตัว เพื่อเข้าตะลุยด่านในโหมดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง , raid boss หรือแม้กระทั่ง PVP ก็มีนะครับ

การเล่นเกมนี้ ก็ช่างสบายเสียจริง ผู้เล่นสามารถกดปุ่ม “Auto” ไปได้อย่างชิวๆ ไม่ต้องโฟกัสกับตัวเกมตลอดเวลา (ในช่วงเนื้อเรื่องที่ระดับความยากยังไม่สูงหนะนะครับ)

Review 8/10
เนื้อเรื่อง 2/3 , เกมเพลย์ 3/3 , งานภาพ 2/3 , ความชอบ 1 /1
เนื้อเรื่องมีให้จุใจ , ลุยด่านบวกมอนสนุก กดสกิลตีเพลินๆ , ทั้งภาพทั้งฉากสวย ตัวละครก็น่าอวยไปหมด

ในส่วนของเนื้อเรื่องก็นับว่าเข้มข้น มีตัวละครหลักเข้ามาผลัดเปลี่ยนไปตามสถานที่ ดินแดน ที่เราไปเยือน โดยตัวละครหลักๆที่เราจะเห็นเป็นประจำก็จะมี Ash และ Sophia ซึ่งเป็น 2 ตัวละคร Starter ของเราที่นับว่าเก่งเอาเรื่องเลย ส่วนตัวผมไม่สามารถอ่านได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่บทที่ 3 ผมก็เริ่มกดข้ามแล้วด้วยความที่ไม่ใช่สายเสพเนื้อเรื่องเท่าไหร่ ใครชอบอ่านเนื้อเรื่องนี่แนะนำเกมนี้เลยครับ cutscene แต่ละทีมีให้อ่านหลายฉากหลายบรรทัด เปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นสุดๆ … หมายถึง เนื้อเรื่องนะครับที่หนักแน่น อย่าคิดอะไรแปลกๆ

ในด้านของเกมเพลย์ก็นับได้ว่า เกือบจะสมบูรณ์แบบ เลยทีเดียว เรื่องความสนุกผมยกนิ้วให้เลย เพลิดเพลินไปกับการใช้สกิลตัวละคร เหล่าตัวละคร SSR จะมี 1 สกิลที่มีอนิเมชั่น 3D ทุกครั้งที่ใช้ ซึ่งเล่นมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้วก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ สวย อลังการ แถมใครสายปั่นเนื้อเรื่องจบไวนี่ก็ต้องบอกว่าหนักหน่อยสำหรับเกมนี้ เบื้องต้นมีเนื้อเรื่อง 15 บท บทละ 10ด่าน และมีระดับความยาก 2 ระดับให้เล่นด้วยกัน ระดับยากนี่แค่ด่านแรกๆบางทีบางครั้งก็มีปาดเหงื่อเลย

แต่มีปัญหาเล็กๆอยู่จุดหนึ่งในด้านเกมเพลย์คือ “A.I.” ที่ช่วยเราเล่นในตอนที่เรากด “AUTO” ปัญหาที่พบประจำเลยเนี่ยคือ มันใช้สกิลฟุ่มเฟือยมาก 555+ บางทีเหลือศัตรูตัวเดียวก็ดันกดสกิลที่เสียเวลาดูอนิเมชั่น ก็น่าโมโหอยู่บางครั้งนะ ฮา

แล้วก็เกือบลืมไปเลย อีกหนึ่งจุดที่อยากชื่นชมในส่วนของเกมเพลย์ก็คือ เวลาที่เราจะเล่นด่านไหนซ้ำๆ เช่น เพื่อฟาร์มด่านอีเวนท์ …. หากเราผ่านด่านนั้นแล้วพร้อมเก็บดาว achievement ครบ 3 ดวง เราสามารถกดปุ่ม ‘Consecutive battle” ซึ่งเป็นการสั่งให้เกมกดเล่นด่านนี้ไปเรื่อยๆ จบด่านเราไม่ต้องมายุ่งกับหน้าจอเพื่อกดเล่นต่อ มันเล่นต่อให้เองไปเลยจนกว่า Stamina (AP) จะหมด หรือจนกว่าคลังจะเต็ม ก็นับว่าสะดวกสบายมากๆ

สำหรับงานภาพ สามารถกดปุ่ม “ประหยัดพลังงาน” ได้ด้วย โดยเกมจะทำการปรับกราฟิก และ frame rate ลดลง ส่วนที่อยากจะติติงทีมงานอยู่พอสมควร ในเรื่องของ 2D Art ผมให้ผ่านฉลุย ออกแบบตัวละครได้ดีมาก อาร์ท 2D จะเป็นแนวญี่ปุ่นๆ ส่วนในด้านโมเดล 3D ในเกมเพลย์เนี่ยจะออกแนวเกาหลีๆ โอเคทั้ง 2D 3D สองด้านนี้ทำผลงานออกมาได้ดี(เกือบ)ทุกตัวละคร แต่สิ่งที่ขัดใจก็คือ การที่อาร์ท 2D กับโมเดล 3D มันดันมีดีเทลไม่ตรงกันเนี่ยแหละ เช่น สีผม สีเสื้อ รูปร่างเค้าหน้า บางตัวละคร 2D อย่างสวยแต่พอกด 3D แล้วก็รู้สึกผิดหวัง

Gameplay

รูปแบบการต่อสู้ของเกม Overhit เป็นแบบ Turn Based ที่ทีมประกอบขึ้นด้วยตัวละครในทีม 5 ตัวด้วยกัน โดยตัวละครจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Tank , Damage และ Support (Healer)

และยังถูกแบ่งออกเป็นอีก 5 ธาตุด้วยกัน ได้แก่ ไฟ ลม น้ำ แสง และ มืด ซึ่งแน่นอนครับว่าในส่วนของธาตุนี่แหละมีส่วนในการจัดทีมชนแต่ละด่าน เราก็ต้องเลือกตัวละครที่มีธาตุชนะทางมอนสเตอร์ในด่านเป็นแน่อยู่แล้ว

หน้าต่างจัดทีม “Team Assembly” โดยเราสามารถเลือกจัดตัวใส่ทีมพร้อมกำหนดตำแหน่งการยืน “Formation” ให้เหมาะสมตามใจชอบ แน่นอนว่า ตัวอึดเลือดเยอะอย่าง Tank ก็ต้องยืนแถวหน้าสุด แถวหลังสุดผมก็จับฮีลยืนตลอด โดยมักจะแทบไม่เคยมีดาเมจมาถึงเลย (ถ้าแถวหน้าไม่ตายหมด) ส่วนแถวกลางต้องบอกว่าจับใส่ได้หลายแบบ อยากใส่ฮีลก็ไม่ผิด ดาเมจก็ได้ ผมมักจะจับตัวดาเมจ ที่ความอึดน้อยๆไว้แถวนี้ ดาเมจบางตัวอัพสูงๆจนเลือดเยอะก็จับยืนหน้าคู่แทงค์ได้เลย

อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการจัดทีมก็คือ “Links”
“Links” เปรียบเสมือนระบบ Duo ตัวละครในทีม โดยเกมจะกำหนดจับคู่ตัวละครเอาไว้ เช่น โซเฟีย-ลูน่า , เรน-เลย์ก้า
ยกตัวอย่างการเกิด Links ตามภาพข้างบน …หากเราจับคู่ Ren และ Leika (2 ตัวขวาสุด) มาลงในทีมเดียวกันได้ ก็จะได้ “สกิลพิเศษ” มาใช้ด้วย โดยสกิล Links ก็มีทั้งแบบโปรยดาเมจมหาศาล และบลัฟสเตตัสครับผม

โหมดต่างๆในเกม

โหมดการเล่นของเกมนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 6 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ Campaign , Terra shift , Dimension Gate , Raid boss , Arena , Exploration มาทำความรู้จักแต่ละโหมดกันเลยครับว่าจะน่าสนใจแค่ไหน

1. CAMPAIGN

(ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook เพจ Overhit )
เรียกกันบ้านๆว่า โหมดเนื้อเรื่อง ใครอยากเสพเนื้อเรื่องก็ต้องบอกว่าจุใจแน่นอน เนื้อเรื่องผมว่าน่าสนใจดีครับ แถมผลตอบแทนก็เรียกได้ว่าเป็น อู่ข้าวอู่น้ำของเหล่าผู้เล่นเริ่มต้นเลยก็ว่าได้

 โดยด่านแต่ละด่านจะมี “Objective” กำหนดเอาไว้ว่าถ้าทำตามเงื่อนไขครบ ก็จะได้เพชรไปเป็นผลตอบแทนเล่นๆไปเพลินๆ ผ่านเนื้อเรื่องไม่กี่บทก็ได้เพชรมากด “เปิดกาชา” ได้ 10โรลหลายชุดเลย

แถมในส่วนของภาพ เวลาเล่าเรื่องนี่ก็เป็นแบบ 3D model ทุกๆฉากทุกตัวละครเลย จุดนี้ผมนั่งเล่นยังรู้สึกเลยว่า เกมทำเกินไปหรือเปล่า เป็นภาพ 2D ทั่วๆไปมาก็ได้นะ แต่ก็ต้องขอยกนิ้วให้ในความทุ่มเทไปเลย ส่วนเรื่อง เสียงพากย์ตัวละครนั้น สำหรับใครที่เป็นแฟนอนิเมะญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าคุณจะได้สัมผัสกับเสียงตัวละครที่คุ้นเคยหลายตัวเลยหละครับ นักพากย์ที่ดึงมาร่วมงานคุณภาพแน่นอนครับ

2. TERRA SHIFT

“แมพฟาร์มของ” เป็นอีกหนึ่งโหมดการเล่นที่สำคัญ ใครเล่นเกม RPG มาต้องทราบถึงความจำเป็นของโหมดนี้อย่างแน่นอน เมื่อตัวละครมากขึ้น อาวุธชุดเกราะดีขึ้น มีจำนวนมากขึ้น แน่นอนว่าของที่ดร็อปตามด่านในเนื้อเรื่องย่อมไม่พอ “Terra Shift” เป็นโหมดที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่
แมพฟาร์มเงิน , แมพฟาร์มของอัพตัวละคร และ แมพฟาร์มของอัพอาวุธ/เครื่องป้องกัน โดยเกมได้จำกัดจำนวนครั้งการเล่นเอาไว้ที่ 2 ครั้ง พอหมดก็ต้องรอเวลาถึงจะเล่นได้อีกนะครับ

3. DIMENSION GATE

ในเกมจะมีไอเทมที่เราสามารถสะสมให้ครบจำนวนเพื่อปลดล็อคตัวละคร SSR ได้ด้วย นับเป็นอีกหนึ่งหนทางสำหรับการครอบครอง SSR ได้โดยไม่ต้องลุ้นกาชา (แต่เหนื่อยหาเหนื่อยเก็บนี่แหละ) โดยไอเทมนี่เรียกว่า “Soul Stone” ซึ่ง SSR 1 ตัวต้องใช้ Soul Stone จำนวน 50 ชิ้นในการแลกครับผม

4. RAID BOSS / UNTAMED SANCTUM

Raid boss เป็นโหมดที่สามารถสร้างห้องเพื่อร่วมมือกับผู้เล่นคนอื่นเข้าไปตบ Boss ที่มีเลือด และ พลังโจมตีที่รุนแรง รางวัลที่จะได้ก็ขึ้นอยู่กับ อัตราการมีส่วนร่วมในการทำดาเมจ กับตัวบอสนั่นแหละครับ

ส่วน Untamed Sanctum ก็เป็นอีกหนึ่งโหมดนี่คลับคล้ายคลับคลากับ Raid Boss อยู่พอสมควร ต่างกันที่โหมดนี้เปิดให้ผู้เล่นอื่นเข้ามาช่วยไม่ได้ บินเดี่ยวเลยครับผม แต่ครั้งแรกที่ลองกดเล่นเกมเหมือนจะปราณีให้ก่อนสำหรับทั้ง Raid แบะ Sanctum ชนะได้ไม่ยาก ตีไม่แรง แต่พอถัดมาได้ลอง Join ห้องคนอื่นจริงๆ
หนักหนาสาหัสสุดๆ บอสตบเท้าทีหายไปครึ่งหลอด

5. ARENA

โหมด Arena เรียกอีกอย่างก็คือ “PVP” ที่จะพาคุณมาปะทะกับผู้เล่นคนอื่นๆ จัดทีมให้พร้อมให้หนา แล้วลงสนามประลองกันได้เลย ! อัตราการ ชนะ แพ้ มากแค่ไหนก็จะเป็นตัวตัดสิน “Ranking” ของตัวเรานั่นเองครับ

6. EXPLORATION

“ไปให้ไกลที่สุด เพื่อของรางวัลนั้นสิ !” โหมด Exploration เป็นอีกหนึ่งโหมดท้าทายผู้เล่น ว่าจะสามารถตีมอน ตะลุยแมพไปได้ไกลที่สุดที่แมพได … ระดับยิ่งยากขึ้น ยิ่งไปได้ไกล ของรางวัลก็ยิ่งดียิ่งน่าสนใจ โดยระดับความยากก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ระดับ จะไประดับที่ยากขึ้นต้องผ่านระดับที่ง่ายที่สุดก่อน ค่อยๆไต่เต้าไปนะครับ

การเสริมแกร่งตัวละคร

ในส่วนนี้ขอกล่าวเพียงคร่าวๆเท่านั้น ระบบการอัพสเตตัสตัวละครในเกมจะแบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่
Fortify – อัพเลเวลตัวละคร โดยย่อยการ์ดตัวละครอื่นๆแลกมาเป็น exp
Grade – ตัวละครเริ่มต้น จะเริ่มที่เกรด D โดยเมื่ออัพเกรดขึ้นไปเรื่อยๆ MAX HP , PHY ATK , DEF , ATK SPD จะเพิ่มขึ้น
Raise Level Cap – เพิ่มขีดจำกัดเวลตันขึ้นทีละ 5 (ตีบวกตัวละคร) โดยใช้การ์ดตัวละครเดียวกัน (การ์ดซ้ำ) 1ใบ ก็นับเป็นการตีบวกหนึ่งครั้ง
Skills – อัพสกิลของตัวละคร
Abilities – อัพสเตตัสพื้นฐานตัวละคร เช่น MAX HP , Crit rate , DEF อะไรเหล่านี้

- บทความโดย NuthSWR