Night of the Living Dead (1968)
ประเภท: ภาพยนตร์
แนว: Horror, Thriller
กำกับโดย: George A. Romero
บทภาพยนตร์โดย: George A. Romero, John A. Russo
นำแสดงโดย: Duane Jones, Judith O’Dea, Bill Hinzman
ผลิตโดย: Image Ten
จัดจำหน่ายโดย: Continental Distributing
เข้าฉายวันที่: 1 ตุลาคม 1968
เมื่อเรานึกซอมบี้ (Zombie) แน่นอนว่าภาพจำของพวกมันคือเหล่าซากศพที่ฟื้นคืนชีพจากความตายแล้วออกไล่ล่าพวกมนุษย์นั่นคือเนื้อสดของเหยื่อเพื่อประทังความหิว บ้างก็เคลื่อนไหวเชื่องช้าไม่ก็เร็วว่องไวดุจสัตว์ป่า กลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมป็อบ(Pop Culture) ที่ยังโลดแล่นให้เราได้เห็นตามสื่อต่างๆมากมาย อาทิ วีดีโอเกม, ภาพยนตร์กับทีวีซีรีส์ หรือ นิยาย เป็นต้น
แล้วอะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ซอมบี้กลายเป็นหนึ่งในแนวของภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมจนทุกวันนี้
คำตอบก็คือ การมาของภาพยนตร์เรื่อง Night of The Living Dead ในปี1968 ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับผู้ชมในยุคนั้นแล้วยังสร้างกฎเกณฑ์ต่างๆให้กับหนังซอมบี้รุ่นหลังได้ต่อยอดหรือล้อเลียนมากมาย และนี่คือหนึ่งในผลงานระดับตำนานของ ผู้กำกับที่ชื่อว่า จอร์จ เอ.โรเมโร่ ที่ทำให้เขาได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งหนังซอมบี้ (Father of the Zombie) ผู้พลิกโฉมเหล่าซอมบี้จากยุคเดิมที่มีต้นทางจากความเชื่อ สู่ซอมบี้ที่มีทฤษฎีการเกิดขึ้นให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ ไม่ว่าเกิดจากการการติดเชื้อหรือทดลองทางวิทยาศาสตร์ ที่เป็นต้นแบบหนังซอมบี้ยุคหลังในเวลาต่อมา
วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ความสำเร็จ อุปสรรคต่างและเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากแฟนๆหนังซอมบี้กันครับ…
George A. Romero: The Father of Zombie
ก่อนที่จะไปดูเรื่องราวของหนัง ก็ขอหยิบประวัติของผู้กำกับที่ได้ชื่อว่าบิดาแห่งหนังซอมบี้ที่ออกมาโลดแล่นในโลกบันเทิงจนถึงปัจจุบัน เขาคือ จอร์จ เอ.โรเมโร่ ผู้กำกับหนังที่ฝากฝีมือไว้มากมาย แต่เมื่อพูดถึงผลงานที่เป็นลายเซ็นของเขาก็ต้องเป็นหนังชุด ไตรภาคแห่งความตาย อย่าง Night of the Living Dead (1968), Dawn of the Dead (1978) และ Day of the Dead (1985) นอกจากนี้ก็ยังมีผลงานที่น่าจดจำนอกจากหนังซอมบี้ อาทิ The Crazies (1973), Creepshow (1982), Monkey Shines (1988), The Dark Half (1993) และด้วยชื่อเสียงจากหนังซอมบี้ของเขาทำให้เขาได้รับโอกาสให้มากำกับโฆษณาวีดีโอเกมสุดฮิตอย่าง Resident Evil 2 ของค่าย CAPCOM ในปี 1998
บั้นปลายชีวิตของโรเมโร่ เขาย้ายมาอยู่ที่ประเทศแคนาดาก่อนจะจากไปด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นับเป็นการสูญเสียตำนานวงการภาพยนตร์ครั้งสำคัญ เพราะเขาคือผู้ที่ทำให้ซอมบี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างโดยเฉพาะหนังซอมบี้ของเขกลายเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจที่ทำให้เหล่าผู้สร้างหนังรุ่นใหม่สานต่อเรื่อยๆตราบจนทุกวันนี้ …
เรื่องย่อ
วันหนึ่งสองพี่น้องนามว่า จอนนี่ และ บาร์บาร่า เดินทางไปยังสุสานนอกเมืองเพื่อมาเคารพหลุมศพแม่ แต่ทันใดนั้นก็มีชายลึกลับเข้ามาโจมตีจอนนี่ซึ่งอีกฝ่ายพยายามกัดฟันสู้ แต่ก็พลาดท่าถูกชายคนนั้นทำร้ายจนเสียชีวิตต่อหน้าบาร์บาร่าซึ่งเธอก็พบว่าคนที่ทำร้ายเธอ เหมือนซากศพเดินได้ก่อนจะหันมาโจมตีบาร์บาร่า แต่อีกฝ่ายก็พยายามหลบหนีด้วยรถโชคร้ายที่กุญแจอยู่กับพี่ชาย เธอจึงใช้สัญชาตญาณวิ่งหนีสุดชีวิตก่อนจะพบบ้านหลังหนึ่งและซ่อนตัวรอความช่วยเหลือ
หลังจากที่บาร์บาร่ามาหลบซ่อนที่บ้านแห่งนี้ เธอก็ได้เจอกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ อาทิ เบน คนขับรถผิวสีที่มีความเป็นผู้นำ , ทอม และ จูดี้ คู่รัก และ แฮร์รี่กับเฮเลนคูเปอร์ คู่สามีภรรยาที่กำลังหาทางช่วยลูกสาว ทั้ง7คนจึงต้องหาทางร่วมมือกันเพื่อหาทางเอาชีวิตรอดในวันที่ซอมบี้ครองเมืองและออกไล่ล่าคนเป็น ซึ่งตอนนี้พวกมันได้โอบล้อมรอบบ้านไว้หมดแล้ว แต่บรรยากาศในกลุ่มก็เกิดความขัดแย้งระหว่างเบนและแฮร์รี่ที่ต้องมาทะเลาะเลือกว่าจะหลบซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินหรือจะหนีฝ่าฝูงซอมบี้ออกไปให้ได้
**เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ**
เมื่อบรรยากาศความขัดแย้งยังร้อนระอุ ในที่สุดสองคู่รักอย่างทอมกับจูดี้และเบน จึงตัดสินใจฝ่าวงล้อมใช้รถที่จอดตรงหน้าวิ่งไปยังปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อจะเติมน้ำมันแล้วขับมารับทุกคนที่เหลือ แต่เนื่องจากพวกซอมบี้มีจำนวนมาก แต่แล้วสองคู่รักก็พลาดท่าจนรถที่ทั้งคู่ขับระเบิด ส่วนเบนก็วิ่งหนีกลับมาตั้งหลัก แต่ก็สายไปแล้วเพราะว่าตอนนี้ฝูงซอมบี้ก็ได้บุกมาถึงบ้าน บาร์บาร่า ที่เห็น จอนนี่ที่กลายเป็นซอมบี้ แต่ด้วยแรงและจำนวนซอมบี้ทำให้เธอถูกลากไปฆ่าอย่างน่าสยดสยอง ส่วนเฮเลน คูเปอร์ ที่วิ่งกลับมาพบว่าลูกสาวได้เป็นซอมบี้ไปแล้วก่อนจะถูกฆ่า เช่นเดียวกับแฮร์รี่ ซึ่งกลายเป็นเบนที่เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเหตุการณ์นรกเดินดินครั้งนี้
วันรุ่งเช้าเหล่ากำลังทหาร ตำรวจและชาวบ้านอาสา ก็ได้ทำการเคลียร์พื้นที่จัดการซอมบี้ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเข้ามายังบ้านที่เบนหลบซ่อนอยู่ชั้นใต้ดิน เมื่อกลับมายังข้างบน นายอำเภอที่นำทีมเข้ามาก็เผลอลั่นกระสุนใส่เบนจนเสียชีวิต (เข้าใจผิดคิดว่าเบนเป็นซอมบี้) ก่อนที่พวกเขาจะทำการเคลียร์พื้นที่และทำการเผาศพทั้งหมด
“พวกมันตายแล้ว ไม่เหลือชิ้นดี!”
ภาพประกอบ: Hardman Eastman Studios Photo
จุดเริ่มต้นของ Night of the Living Dead เกิดขึ้นเมื่อ จอห์น รุสโซ่ ชวนเพื่อนอีกสองคนอย่าง จอร์จ โรเมโร่ และ รูดี้ ริชชี่ มาทำหนังกัน ซึ่งเวลานั้นพวกเขาทำงานอยู่ที่บริษัทโฆษณา The Latent Image ที่เมืองพิตส์เบิร์ก ซึ่งเกิดขึ้นขณะทานมื้อเที่ยง เพราะช่วงเวลานั้นโรงหนังแบบไดร์ฟอิน (โรงหนังที่คนสามารถขับรถเข้ามาชม) ได้รับความนิยมมาก ประกอบกับพวกเขาอยากก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ทำให้ทั้งสองคนตอบรับคำชวนของริชชี่ทันที ก่อนจะไปคิดพล็อตเรื่องขึ้นมา
พวกเขาคิดตั้งแต่หนังสัตว์ประหลาดบุกโลกที่ฮิตในตอนนั้น แต่คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่โดนใจพวกเขา เมื่อพวกเขาได้มาพูดคุยอีกครั้ง โรเมโร่ก็ได้นำเรื่องสั้นความยาว 40 หน้าในชื่อ Anubis มาให้เพื่อนๆได้อ่าน เรื่องสั้นของเขาพูดถึงปีศาจสายพันธุ์ใหม่ ว่าด้วยคนตายฟื้นคืนมาไล่ฆ่าคนเป็น ซึ่งโรเมโร่นำไอเดียมาต่อยอดจากเรื่อง I am Legend ของ ริชาร์ด แมทธีสัน ที่เล่าถึงตัวเอกต้องเผชิญกับฝูงแวมไพร์ แต่โรเมโร่ดัดแปลงจากแวมไพร์เป็นซอมบี้นั่นเอง เมื่อทุกคนได้อ่านเรื่องราวก็ตัดสินใจว่าจะใช้เรื่องสั้นของเขามาทำเป็นหนังก่อนจะรวบรวมเพื่อนฝูงที่ทำงานที่บริษัทเดียวกันจนก่อตั้งบริษัทในชื่อ Image Ten ตามจำนวนหุ้นส่วน 10 คน แต่ก็ยังมีอุปสรรคมากมายที่พวกเขาต้องเจอในวันถ่ายทำ
เบื้องหน้าเบื้องหลัง
หลังจากก่อตั้งบริษัทเพื่อทำหนังแล้ว แต่พวกเขาต้องเจอปัญหาต่างๆและข้อจำกัดโดยเฉพาะทุนที่เริ่มต้นจากการลงขันของหุ้นส่วน 10 คน ก่อนจะถ่ายฉากเปิดเรื่องเพื่อเอาไว้ฉายให้กับนายทุนเพื่อระดมทุน ซึ่งท้ายสุดพวกเขาก็มีทุนตั้งต้นอยู่ที่ 114,000 เหรียญ และสถานที่ถ่ายทำก็ถ่ายทำในพิตส์เบิร์กแทบทั้งเรื่อง ในเมือง เอแวนส์ ซิตี้ ทั้งฉากสุสานและบ้านที่ได้รับคำแนะนำจากเด็กฝึกงานที่บริษัทว่า มีบ้านไร่หลังใหญ่ที่กำลังจะถูกทิ้งพอดี พวกเขาจึงขอเช่าจากเจ้าของบ้านเพื่อถ่ายหนังโดยเฉพาะ ส่วนฉากห้องใต้ดินพวกเขาถ่ายทำที่ห้องใต้ดินของบริษัท Latent Image
ด้วยข้อจำกัดเรื่องทุนทำให้ทีมงานต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย พวกเขาเลือกต้งแต่เสื้อผ้าเข้าฉากที่ซื้อจากร้านมือสองหรือหยิบยืมจากญาติหรือเพื่อนฝูง งานเมคอัพกับเอฟเฟ็คก็ทำแบบบ้านๆโดยเฉพาะเลือดที่ใช้ซอสช็อคโกแลต ส่วนพวกเนื้อและเครื่องในที่จะเอามาให้ซอมบี้เขมือบก็ได้รับการสนับสนุนจากนายทุนที่ทำงานร้านขายเนื้อส่งมาให้ใช้ฟรีๆ กล้องที่ถ่ายทำโรเมโณ่เลือกที่จะถ่ายทำแบบภาพขาวดำที่นอกจากประหยัดงบแล้ว มันช่วยสร้างบรรยากาศแบเดียวกับหนังสยองขวัญในอดีตรวมถึงไม่ต้องมาพะวงเรื่องงาน เมคอัพกับเอฟเฟ็ค
ในส่วนของนักแสดงนั้นพวกเขาเลือกจะใช้นักแสดงที่เป็นคนรู้จักหรือเพื่อนฝูงมาแสดง เริ่มจากบท บาร์บาร่า นางเอกของเรื่องที่ได้นักแสดงสาววัย23ปีเวลานั้นอย่าง จูดิธ โอ’ดี ที่กำลังตามหาฝันในโลกมายา ส่วนทางด้านบทพระเอกนามว่า เบน ตอนแรกบทนี้เขียนมาเพื่อให้ รูดี้ ริชชี่ หนึ่งในสามต้นคิดของหนังมารับบท แต่เมื่อทีมงานได้เจอกับนักศึกษาหนุ่มผิวสี ดีกรีปริญญาเอก นามว่า ดเวน โจนส์ ที่กลับมาเยี่ยมครอบครัว และโรเมโร่เห็นหน่วยก้านจึงให้เขามาทดสอบบท ก่อนจะคว้าบทพระเอกได้ในที่สุด แล้วเขาเป็นพระเอกผิวสีคนแรกๆของวงการภาพยนตร์อีกด้วย ทางด้านบทสามีภรรยาคูเปอร์ ก็ได้หนึ่งในหุ้นส่วนบริษัท Image Ten อย่าง คาร์ล ฮาร์ดแมน และ มาริลีน อีสต์แมน ซึ่งคนหลังยังรับหน้าที่งานเมคอัพ อีกตำแหน่งด้วย
ขณะที่บทคู่รักอย่างทอมกับจูดี้นั้น ฝ่ายชายได้ คีธ เวยน์ นักดนตรีหนุ่มจากวง Ronnie and the Jesters ส่วนฝ่ายหญิงคือ จูดิธ ริดลีย์ นอกจากนี้มีทีมงานบางคนก็ต้องมาเข้าฉากด้วย หนึ่งในนั้นคือ บิล ไฮนซ์แมน ในบทซอมบี้ที่สุสานตอนต้นเรื่องกลายเป็นภาพจำของหนังมาจนทุกวันนี้
ขณะที่เหล่านักแสดงตัวประกอบ ก็ได้ชาวบ้านหรือนักแสดงสมัครเล่นที่สนใจมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ เล่นเป็นผีบ้าง ไม่ก็กองกำลังติดอาวุธสลับกันไป ซึ่งนอกจากจะได้ค่าแรงแล้วยังได้ทานอาหารฟรีอีกด้วย ว่ากันว่ามีนักข่าวท้องถิ่นของเมืองมาร่วมแสดงเป็นนักข่าวเพื่อทำให้เหตุการณ์ในหนังดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
Welcome to a night of total terror!
Night of the Living Dead ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 30 วัน (บางวันถ่ายทำตลอด 24 ชม.) ใช้เวลาถ่ายช่วงสุดสัปดาห์เป็นหลัก หลังปิดกล้องใช้เวลาที่เหลือทำการตัดต่อออกให้ออกมาเป็นหนัง ก่อนจะหิ้วฟิล์มไปเสนอตามค่ายหนัง ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิเสธเพราะว่าเป็นหนังขาวดำ บ้างก็เสนอให้เปลี่ยนฉากจบก็มี ในที่สุดบริษัท Continental Distributing ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Water Reade Organization ซึ่งจัดจำหน่ายหนังอิสระสนใจหนังเรื่องนี้มากก่อนจะรับหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายและขอให้ใส่ฉากนองเลือดเพิ่มเข้าไปอีก แล้วหนังก็ได้เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ ที่รงภาพยนตร์ Fulton ในเมืองพิตส์เบิร์ก วันที่ 1 ตุลาคม 1968 ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นตัวหนังก็ได้ฉายในโรงหนังไดร์ฟอินในเมืองพิตส์เบิร์ก 14 แห่งก่อนจะได้ไปฉายตามรัฐต่างๆ แต่ว่าเมื่อได้มาฉายรอบปฐมทัศน์ที่นิวยอร์คก็ได้รับเสียงวิจารณ์ไปในเชิงลบว่า เนื้อหาไม่มีแก่นสาร อุดมไปด้วยความรุนแรง ขนาดมีเด็กมาดูถึงกับร้องให้วิ่งหนีออกจากโรง ทำให้หนังถูกฉายในโปรแกรมรอบมิดไนท์และโรงหนังชั้นสองจนสองสามปีให้หลัง เหล่านักวิจารณ์และนิตยสารภาพยนตร์กลับเห็นอะไรบางอย่างจนต้องกลับมาประเมินคุณค่าใหม่ พอนำหนังกลับมาฉายใหม่อีกครั้งคราวนี้สร้างกระแสในวงกว้างแถมเก็บรายได้มากกว่าตอนที่ฉายครั้งแรก รวมทั้งสิ้น 30ล้านดอลล่าร์ในเวลานั้น แล้วมันทำให้จอร์จ โรเมโร่ ได้หนังชุดซอมบี้สร้างชื่อให้กับเขาในเวลาต่อมา ตัวหนังได้รับการเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยของห้องสมุดสภาครองเกส กลายเป็นหนังคัลท์ระดับตำนานที่ทำให้ซอมบี้ยุคใหม่อกมาโลดแล่นจนถึงปัจจุบัน
สานต่อความสำเร็จและสิ่งสืบเนื่อง
จากความสำเร็จของ Night of the Living Dead โรเมโร่ก็ได้สานต่อเรื่องราวของเหล่าซอมบี้ ซึ่งจุดเด่นของซอมบี้ในแบบฉบับโรเมโร่นั้นต้องการจะให้เป็นภาพสะท้อนสังคมในช่วงเวลาต่างๆ ตลอด 10-20ปี ตัวโรเมโร่ก็หันไปทำหนังแนวอื่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนในปี 1978 โรเมโร่กลับมาทำหนังซอมบี้ในรอบ 10ปี อย่าง Dawn of The Dead (1978) ที่หลายคนต่างยกให้เป็นหนังซอมบี้ของโรเมโร่ที่ดีที่สุดตลอดกาล และปิดตำนานชั่วคราวใน Days of the Dead (1985) ที่ต้องมาแข่งกับหนังซอมบี้ของเพื่อนรัก จอห์น รุซโซ่ อย่าง The Return of the Living Dead
หลังจากนั้นเขาก็หันไปทำหนังสยองขวัญแนวอื่นๆ
รวมถึงกำกับโฆษณาวีดีโอเกม Resident Evil 2 ในปี1998
จนปี2004 ได้มีการรีเมคหนังเรื่อง Dawn of The Dead ขึ้นมาใหม่ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ รวมถึงกระแสซอมบี้เริ่มจะบูมในยุคนี้มากขึ้นทาง Universal Studio จึงมอบโอกาสให้เขาได้ทำหนังซอมบี้ที่อยากทำจริงๆในรอบ 20ปีกับ Land of the Dead (2005) แต่ก็ยังคงรูปแบบซอมบี้เคลื่อนไหวช้า ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆที่ติดเทอร์โบและโหดเหี้ยมกว่าเดิม หลังจากนั้นก็กลับไปทำหนังซอมบี้ทุนต่ำแบบที่ตัวเองถนัดอีกสองเรื่องซึ่งเป็นการเล่าจุดเริ่มต้นของ Night ตั้งแต่ Diary of The Dead (2007) แล้วจบที่ Survival of the Dead (2009)
ในโลกของเกมนั้นก็ได้มีการนำออกมาในรูปแบบของบอร์ดเกม รวมถึงเกมทางโทรศัพท์ซึ่ง Into the Dead 2 ก็ได้โปรโมตให้ผู้เล่นได้เล่นกับเรื่องราวของเบนก่อนที่เขาจะได้เจอกับบาร์บาร่าในเวลาต่อมา
ทุกวันนี้ Night of the Living Dead กลายเป็นหนังซอมบี้สุดคลัท์ระดับตำนาน ที่อย่างถูกพูดถึงผ่านสื่อต่างๆตามที่เล่าไป นอกจากนี้ก็ยังมีการนำมาดัดแปลงเป็นละครเวทีหลากหลายรูปแบบทั้งเล่าตรงตามต้นฉบับหรือบิดเนื้อหาเป็นแนวตลกขบขัน รวมถึงอย่างถูกกล่าวถึงในหนังและเพลงอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังถูกดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูนโดยจะเล่าเหตุการณ์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยของเนื้อหาในหนัง บางภาคก็เป็นเนื้อหาเดี่ยวๆไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักก็มี
ลืมตราลิขสิทธิ์เพียงครั้งเดียว จนต้องรีเมคเพื่อยืนยัน
สิ่งหนึ่งนอกจาก Night of the Living Dead จะกลายเป็นหนังที่ถูกกล่าวขานทุกวันนี้ แล้ว ยังเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์เพราะหนังเรื่องนี้กลายเป็นสมบัติสาธารณะที่จะสามารถนำไปทำซ้ำดัดแปลงได้โดยไม่ตองขอ ซึ่งสาเหตุมาจากตอนที่ทางตัวแทนจำหน่ายหนังลืมใส่ตราประทับลิขสิทธิ์ในฟิล์มชุดใหม่!! (ของเดิมใช้ชื่อเรื่องว่า Night of the Flesh Eater) ทำให้โรเมโร่และผองเพื่อนไม่เคยได้กำไรหลังจากนั้นอีกเลยอยู่หลายปี แถมบางตัวแทนจำหน่ายดันทำออกมาเป็นหนังสีวางจำหน่ายอยู่หลายครั้งหรือนำไปดัดแปลงเป็นเนื้อหาใหม่ ช่วงนั้นเหล่าทีมสร้างก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง แต่โรเมโร่และรุซโซ่ก็ต้องขึ้นศาลเพื่อตกลงสิทธิ์ในการสร้างภาคต่อ ซึ่งรุสโซ่ได้สิทธิ์สร้างหนังสกุล The Living Dead ส่วนโรเมโร่ได้สิทธิ์หนังสกุล Dead
ในที่สุดกลุ่มสหายเก่า Image Ten บางส่วน รวมถึง รุสโซ่ และ โรเมโร่ ก็ได้โอกาสในการรีเมคหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลว่า มันจะช่วยยืนยันลิขสิทธิ์ในต้นฉบับและได้ ทอม ซาวินี่ มือเมคอัพที่เคยร่วมงานใน Dawn of the Dead ในปี1978 นั่งแท่นเก้าอี้กำกับ และยังมีการแก้เนื้อหาใหม่หนึ่งในนั้นคือ บาบาร์ร่า (แพทรีเซีย ทอลล์แมน) จะเป็นสาวแกร่งจับปืนยิงซอมบี้ ซึ่งหนังเข้าฉายเดือนตุลาคม 1990 ก่อนจะทำรายได้เท่าทุน อย่างน้อยก็ได้ยืนยันความเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ สำหรับชื่อไทยของ Night of the Living Dead ฉบับนี้มีชื่อว่า ซากดิบ ไม่ต้องคุมกำเนิด
ในปี 1998 จอหน์ รุสโซ่ เป็นตัวตั้งตัวตีรวมกลุ่มกับสมาชิก Image Ten ออกจำหน่ายดีวีดีเฉลิมฉลองครบรอบ 30ปี กับทาง Anchor Bay Entertainment ที่ความพิเศษของมันคือได้มีการถ่ายทำเพิ่มฉากต่างๆที่ไม้ได้ใส่ไว้ในครั้งแรกให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ หนึ่งในนั้นคือที่มาของซอมบี้เฝ้าสุสาน และบาทหลวงที่เป็นคนแรกที่รอดจากเหตุการณ์นรกเดินดินครั้งนี้ แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นที่พอใจของแฟนคลับเพราะว่าเนื้อหามันโดดจากของเดิมไปมาก
ในปี 2021 Night of the Living Dead ก็ถูกดัดแปลงเป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น ในชื่อ Night Animated of the Dead โดยทาง Warner Brothers กลับได้ผลตอบรับแย่ยิ่งกว่าตอนทำดีวีดีครบรอบ 30ปี แต่อย่างน้อยแฟนรุ่นใหม่ก็ได้มีโอกาสสัมผัสหนังซอมบี้ระดับตำนานในรูปแบบแอนิเมชั่น
10 เกร็ดน่าสนใจจากหลุมของหนัง Night of the Living Dead
1.) พล็อตแรกๆไม่ใช่หนังซอมบี้
ก่อนที่จะเป็นหนังซอมบี้ระดับตำนาน บทร่างแรกนั้นจะออกแนวหนังตลกสยองขวัญ เกี่ยวกับเด็กชายที่เลี้ยงสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า The Mess หน้าตาเหมือนก้อนสปาเกตตี้ ชอบกินเศษกระป๋อง ก่อนจะเปลี่ยนพล็อตไปในแนวดาร์ค เมื่อตัวเอกทะเลาะพี่ชายจนหนีออกจากบ้านแล้วพบโลงแก้งขนาดยักษ์ที่เอาไว้บรรจุศพมนุษย์ แล้วพวกเขาก็จะเปิดเรื่องที่สุสาน ก่อนที่โรเมโร่จะนำเรื่องสั้น 40 หน้า จนเป็นที่มาของ Night of the Living Dead
2.) โรเมโร่ได้พูดคุยกับผู้เขียน I am Legend
ตอนที่หนังฉายออกไปแล้ว และมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ทำให้ได้มีโอกาสเจอกับ ริชาร์ด แมทธีสัน ผูเขียนเรื่อง I am Legend ซึ่ง
โรเมโร่นำไอเดียนี้ไปใช้แต่เปลี่ยนเป็นฝู.ซอมบี้แทนที่ฝูงแวมไพร์ เมื่อโรเมโร่ได้สารภาพไปว่าบางส่วนได้หยิบไอเดียนี้ไปใช้ทางแมทธีสันก็หัวเราะและบอกกับเขาว่า “ถ้านายไม่ได้รวย ก็ไม่ต้องกังวลหรอก”
3.) ว่าด้วยเรื่องของ ซอมบี้ในสุสาน
ถ้าพูดถึงภาพจำของหนังเรื่องนี้ก็ต้องเป็นซอมบี้ ที่สุสานที่โจมตีจอห์นนี่ และบาร์บาร่า ผู้ที่สวมบทมีชื่อว่า บิล ไฮนซ์แมน ตากล้องของหนังที่ตอนแรกฉากสุสานจะให้ จอห์น รุสโซ่ ที่แต่งหน้ารอไว้แล้วมาเล่น แต่พอเห็นหน่วยก้านพี่บิลก็เลยให้เขามาเล่นฉากนี้แทนจนเป็นภาพจำของหนัง แถมในเวลาต่อมาแกก็ต่อยอดตัวละครตัวนี้ในหนัง Flesh Eaters (1988)
4.) ว่าด้วยเรื่องบทของเบน
ในบทร่างแรกของหนัง เบนจะเป็นตัวละครผิวขาวที่หยาบคาย เห็นแก่ตัว เพราะเขียนมาเพื่อให้ รูดี้ ริชชี่ เล่นแต่เมื่อโรเมโร่และทีมงานได้พบกับ เดวยน์ โจนส์ นักศึกษาปริญญาเอกมหาวิทยาลัย NYU ที่กลับมาเยี่ยมครอบครัวก่อนจะได้มาทดสอบหน้ากล้องซึ่งทุกคนประทับใจเพราะด้วยความที่เขาเรียนสูงเขาสามารถพัฒนาบทสนทนาเพื่อสะท้อนตัวตนของเบนในแบบคนผิวสี แล้วกลายเป็นพระเอกิผิวสีคนแรกของวงการบันเทิงในเวลาต่อมา
5.) กฎซอมบี้ในหนังวันนี้ มีที่มาจากการถกประเด็นช่วงพักกอง
เมื่อเอ่ยกฎในหนังซอมบี้ อาทิ ถูกกัดก็ติดเชื้อ, เจอซอมบี้ต้องยิงหัวหรือทำลายสมอง ฯลฯ กฎต่างๆเหล่านี้มันเกิดขึ้นในช่วงพักกองเมื่อเหล่านักแสดงและทีมสร้างตั้งโต๊ะถกประเด็นเป็นเช่นนี้ในช่วงระหว่างถ่ายทำ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาถกเถียงกันในวันนั้นได้สร้างกฎเกณฑ์ต่างๆให้กับหนังซอมบี้รุ่นหลังในเวลาต่อมา
6.) เหตุผลที่ไม่ยอมเปลี่ยนตอนจบแบบ Happy Ending
ในช่วงที่หนังกำลังหาตัวแทนจัดจำหน่าย ก็มีทั้งปฏิเสธหรือขอเงื่อนไขเพื่อเติมว่า อยากให้เปลี่ยนตอนจบเป็นรอดชีวิตสองสามคน แต่โรเมโร่ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า ถ้าสร้างความโกลาหลแล้วกลับมาฟื้นฟูใหม่ มันจะเสียเวลาไปก่อความโกลาหลและจะเกิดแบบนี้ซ้ำๆในหนังสอยงขวัญที่ผ่านมา เขาจึงยืนกรานที่จะไม่เปลี่ยนตอนจบเราจึงได้เห็นพระเอกถูกยิงเพราะความเข้าใจผิดจนทุกวันนี้
7.) โรเมโร่แอบไปรับเชิญไม่เป็นทางการ
ในฉากที่ทุกคนกำลังดูข่าวเพื่อหาทางเอาตัวรอดนั้น เราจะเห็น จอร์จ โรเมโร่มารับเชิญเป็นนักข่าวที่กำลังสัมภาษณ์นายพลถึงเหตุการณ์ซอมบี้บุกเมือง ซึ่งในตอนที่ทำ Dawn of the Dead ในปี1978 เขาก็ยังมาปรากฎตัวรับเชิญในบทพนักงานสถานีโทรทัศน์ที่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่นั่นเอง
8.) มีการวางตัวบทบาร์บาร่าไว้แล้ว
ในช่วงที่กำลังเฟ้นหานักแสดงอยู่นั้น โรเมโร่อยากให้นักแสดงอย่าง เบ็ตตี้ เอเบอร์ลิน จากรายการเด็กชื่อดังในยุคนั้นอย่าง Mister Roger’s neighborhood ของพิธีกรขวัญใจเด็กๆอย่าง เฟรด โรเจอร์มารับบทนางเอกของเรื่อง ซึ่งโรเมโร่เคยไปช่วยกำกับงานให้รายการนี้หลายครั้ง แต่ท้ายสุดเธอก็ไม่ได้เล่น ทำให้บทนี้ตกเป็นของ จูดิธ โอ’ดี ในเวลาต่อมานั่นเอง
9.) ต้องใส่ถุงมือตลอดทั้งเรื่อง
รัสเซลล์ สไตรเนอร์ โปรดิวเซอร์ที่ทำงานเบื้องหลังให้กับหนังเรื่องนี้ ก็มีบทกับเขา ซึ่งรับบทเป็นจอห์นี่ พี่ชายของบาร์บาร่าซึ่งเขาจะต้องใส่ถุงมือตลอดทั้งเรื่องเพื่อให้คนจำได้ และมันได้ผล เมื่อฉากซอมบี้บุกบ้าน เขาก็กลับมาในร่างซอมบี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมเลยทีเดียว
10.) ทอม ซาวินี่ เกือบจะได้มาทำงานเมคอัพให้หนังเรื่องนี้
ทอม ซาวินี่ นักแสดงและมือเมคอัพระดับตำนานของวงการ ถือเป็นมือขวาคู่ใจที่ทำงานร่วมกับโรเมโร่อยู่หลายเรื่อง ซึ่งเขาเกือบจะได้ร่วมงานใน Night of the Living Dead แต่ว่าเขาติดภารภารกิจถูกเกณฑ์ทหารไปรบที่เวียดนาม ทำให้เมื่อโรเมโร่ได้มากำกับหนังเรื่อง Dawn of The Dead ในปี1978 เขาก็นำประสบการณ์มาปรับใช้กับการเมคอัพซอมบี้ในหนัง แถมตัวเขาก็ได้ไปแจมในบทหัวหน้าแก็งค์มอเตอร์ไซค์ที่ขโมยซีนในหนังเป็นอย่างยิ่ง
และนี่คือเรื่องราวของหนังซอมบี้ในตำนานอย่าง Night of the Living Dead ที่นำมาฝากในวันนี้ครับ หากข้อมูลตกหล่นต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
- https://www.image-ten.com/
- https://www.imdb.com/title/tt0063350/trivia/?ref_=tt_trv_trv
- https://en.wikipedia.org/wiki/Night_of_the_Living_Dead
- https://thaipublica.org/2014/02/birth-of-the-living-dead/
-นิตยสาร Filmmax ฉบับที่72 มิถุนายน 2556
-Film Virus 4 ฉบับสางสำแดง
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console