รีวิว NieR Replicant ver.1.22474487139…เกมดี ที่ไม่ควรได้คะแนนเต็มสิบ! [PS4/PC /XboxOne]

รีวิว REVIEW 

NieR Replicant ver.1.22474487139…

ประเภท : RPG
เครื่อง :  PS4 / PC / XboxOne
วันวางจำหน่าย :  23 เมษายน 2021
พัฒนาโดย :  Toylogic / Square Enix

 ตัวอย่างเกมเพลย์ล่าสุด 

ในตัวอย่างนี้จะนำเสนอรูปลักษณ์ใหม่ของระบบการต่อสู้ที่ปรับปรุงให้ดุเดือดขึ้น เน้นแอคชั่นมากขึ้น ในขณะที่เมคานิคเกมเพลย์หลายอย่างของเกมดั้งเดิมจะเข้ามา แต่ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะลื่นไหลกว่า 

 

 

 

หากคุณอยากได้เกม RPG เนื้อเรื่องเข้มข้นยิ่งกว่าน้ำราดหน้าตอนเดือดๆ…ถ้าคุณอยากได้เกมRPGที่มีปริศนาซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดล้ำ…และถ้าคุณอยากได้เกม RPG ที่มีฉากจบมากมายมหาศาล และสามารถเปิดจักรวาลไปยังเกมอื่นๆนับสิบภาคที่แตกแขนงเป็น Side Stories ได้…นี่คือเกมที่รวมเอาทุกอย่างที่ว่ามา ใส่ในเกม RPG สุดคัลท์ผู้มาก่อนกาล กับการฉลองครบรอบ 10 ปี ของการวางจำหน่ายภาคแรก

 

และนี่คือเกมที่มีชื่อว่า  NieR Replicant ver.1.22474487139…

 

 

 

 

เกมนี้คือ!?

NieR Replicant ver.1.22474487139… เป็นผลงานเกม RPG จากทาง Toylogic และจัดจำหน่ายโดย Square Enix ที่หยิบเอาเกม Nier ที่เคยออกวางจำหน่ายในระบบ PS3 / Xbox360 มาปรับปรุงใหม่ทั้งในส่วนของงานภาพ และเนื้อหาที่เดิมซับซ้อน งงงวย ให้ทวีความเข้มเข้าไปอีก  เพราะของเดิมที่ลงให้คอนโซลยุคนั้น งานภาพจัดว่าย่ำแย่สุดๆ เพราะโดนตัดงบทำเกม โดยคุณ ยูซึเกะ ไซโต (Yusuke Saito) ผู้อำนวยการสร้างเกมกล่าวว่า “มันจะไม่ใช่ทั้งเกมภาครีเมคและรีมาสเตอร์” ของเกมดังกล่าว ให้เรียกว่า “ตัวอัพเกรด” น่าจะเหมาะกว่า

 

ด้วยความอินดี้ของทีมทำเกมในสมัยนั้น เดิมเกม NieR นั้นจะแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ Nier Gestalt (ภาคภาษาอังกฤษขายทั่วโลก) พระเอกชื่อ เนียร์ เป็นตาลุงแก่กล้ามโตสุดถึก เป็นพ่อของเด็กสาวโยนาห์ และ  Nier Replicant (ภาคภาษาญี่ปุ่น) ก็จะได้เล่นเป็นพระเอกที่ชื่อ เนียร์ เหมือนกัน แต่จะเป็น หนุ่มหล่อหน้าใสสไตล์ J-Rock เป็นพี่ชายของเด็กสาวโยนาห์ ซึ่งทั้งสองตัวละครนี้ คือคนๆเดียวกัน

 

(นับคนละจักรวาล ทำไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน 55+)

 

 สปอยล์เบาๆ ครอบอ่านเอาเองเลย

NieR Replicant เป็นภาคเริ่มของ NieR: Automata  ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางของชายหนุ่มเพื่อช่วยเหลือน้องสาว (หรือลูกสาว ในเกม Nier Gestalt ) จากโรคร้าย โดยมีฉากหลังเป็นโลกที่ผ่านเหตุการณ์หายนะ เรื่องราวจะโฟกัสไปที่เรื่องของการแยกวิญญาณออกจากร่างต้นด้วยกระบวนการ Gestaltize มีการสร้างร่างกายเนื้อที่เหมือนเป็นภาชนะบรรจุวิญญาณรอวันมนุษย์กลับมาใช้ชีวิตที่เรียกว่า Replicant  แต่พวกมันก็เริ่มมีชีวิต มีจิตใจเป็นของตัวเอง จนเกิดการต่อต้าน และ เล่าไปจนถึงจุดที่ต่อสู้กันจนมนุษยชาติสูญสิ้นเผ่าพันธุ์อย่างถาวร ไม่มีวิญญาณมนุษย์ หรือร่างภาชนะบนโลกอีกเลย และโลกก็เข้าสู่ยุคหุ่นแอนดรอยเต็มตัว ใน  NieR: Automata 

 

 

(แต่ถ้าเอาจุดเริ่มต้นที่แท้จริง แบบชนิดนับจากศูนย์เลย ก็ต้องเป็นเกม Drakengard ภาคแรก ฉากจบ E ที่มีผู้กล้าข้ามมิติ ขี่มังกรสู้รูปปั้นนางฟ้า แล้วโดนจรวดเครื่องบินขับไล่ยิงตาย ส่วนบอสนางฟ้าที่ตายก็กลายเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ คร่าชีวิตคนบนโลกเกือบสูญพันธุ์ จนต้องหาทางรับมือด้วยการแยกวิญญาณมนุษย์ออกจากร่าง แล้วลากยาวมาใน NieR Replicant และหลายพันปี ใน NieR: Automata อย่างที่เล่าไปแล้วนั่นเอง) 

 

 

 

 

 

 ————————————————–

 

รีวิว 8/10 Rank B

 

เนื้อเรื่อง 3 /  เกมเพลย์ 2 / งานภาพ 2 / ความชอบ 1

 

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เราอยากให้คุณลองเล่น แม้ว่าบางสิ่งจะตกยุคไปบ้าง

 

 

ในความรู้สึกแรกที่ข่าวเกมนี้ถูกเผยแพร่ แอดมินรู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆที่เคยเล่นเกมตระกูล Neir ในสมัย PS3 ซึ่งตอนนั้นสารภาพว่า มึน งง กับสิ่งที่ตัวเกมนำเสนออยู่พอสมควร ทั้งบรรยากาศ ทั้งเพลง ทั้งเกมเพลย์ที่ยืดยาด แต่ก็ทนเล่นจนจบมาได้ (มารู้ทีหลังว่า ตัวเกม ไม่สมบูรณ์ 100% แล้วมาวางขาย)

 

ซึ่งคราวนี้ ในปี 2021 เป็นเวอร์ชั่น “อัพเกรด” จากระบบ PS3 พอสมควร ด้วยเกมเพลย์ที่ไวขึ้นจนเป็นเกมแอคชั่นมันส์ๆเกมนึงที่มีส่วนประกอบของความเป็น RPG เข้ามา แต่อย่างที่บอกครับ เกมนี้คือ “การอัพเกรด” ไม่ใช่ “การรีเมคสร้างใหม่” จึงมีบางจุดที่รู้สึกว่า มันล้าสมัย และน่าเบื่อในบางช่วง แต่อย่่างที่บอกในตอนหัวเรื่องครับ มันคือ “เกมหนึ่งที่เราแนะนำให้คุณเล่น” เพราะเกมนี้ เนื้อเรื่องซับซ้อน เข้มข้น น่าติดตาม และ “ไม่สวยงามอย่างที่คิด” 

 

เรื่องราวในเกม NieR Replicant เอาแบบไม่สปอยล์เลย ก็คือ  เรื่องราวเริ่มต้นในปี 2058 โลกหลังจากเหตุการณ์ Drakengard ภาคแรก ฉากจบ E โลกเข้าสู่สภาวะโรคระบาดที่จะคอยกัดกินร่างกายมนุษย์ และ จิตวิญญาณ

 

วิญญาณมนุษย์บางส่วนกลายเป็นปีศาจรูปร่างพิลึก บางส่วนก็ได้ทำการปิดผนึกตัวเองไว้ใน “หนังสือ Grimore”  เรื่องราวจะเล่าผ่าน “เนียร์”  เด็กหนุ่มที่ต้องเอาชีวิตรอดในเมืองที่หนาวเหน็บไปกับ “โยนาห์” น้องสาวของเขา ในช่วงนาทีชีวิตที่ถูกโจมตี เขาได้ทำสัญญากับหนังสือ Grimore จนเอาชนะได้ แต่น้องสาวของเขา ก็ดันทำสัญญากับ หนังสือGrimoreอีกเล่มหวังจะช่วยลดภาระให้พี่ชาย แต่ด้วยร่างกายอ่อนแอ ทำให้เธอกำลังถูกกัดกิน  เนียร์ตะโกนสุดเสียงร่ำร้องหาความช่วยเหลือราวกับคนบ้า…และเวลาก็ผ่านไป 

 

 

1,000 ปีต่อมา โลกเริ่มฟื้นฟู ธรรมชาติเริ่มกลับมา ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง “ผู้เล่น” รับบทนักสารพัดรับจ้าง ที่ต้องทำงานหาเงิน เพื่อช่วยรักษา “โยนาห์” ที่ป่วยเป็น โรค Black Scrawl  (เดี๋ยวตัวเกมจะเฉลยว่า ทำไมตัวละครถึงชื่อซ้ำ เราจะไม่สปอยล์กันตอนนี้) ทั้งสองใช้ชีวิตเรียบง่าย ภายใต้การดูแลของ “โปโปร่า” ผู้เป็นเหมือนปราชญ์ เจ้าเมืองผู้ดูแลหอสมุด แต่วันหนึ่งโยนาห์ได้อ่านหนังสือที่ห้องสมุดของโปโปร่า และคิดว่า ที่วิหารร้างท้ายเมือง น่าจะมีสิ่งที่พอจะแบ่งเบาพี่ชายเธอไม่ต้องเสี่ยงทำงานหนัก

 

 

ด้วยความเป็นห่วง ผู้เล่นจึงได้ตามหาโยนาห์ในวิหาร ที่นั่นเขาได้พบกับ  “หนังสือ Grimore Weiss” หนังสือพูดได้ที่ถูกผนึกโดยจักรกลคุ้มกันวิหาร มันมีพลังงานลึกลับที่สามารถเรียกได้ว่า “เวทมนตร์” อันแข็งแกร่ง โดยเจ้าหนังสือนี่บอกว่า อาจจะมีวิธีรักษาน้องสาวของเขาได้ แต่เจ้าตัวก็จำอะไรไม่ค่อยได้เหมือนกัน

 

และนั่น คือก้าวแรกของการเดินทางที่นำไปสู่เรื่องราวที่เข้มข้น หดหู่ สิ้นหวัง สะเทือนใจของเกมนี้…(ไว้เดี๋ยวจะทำสปอยล์เนื้อหาแยกไว้ทีหลัง เพราะเคยเล่นเกมนี้จบมาสมัย PS3 และเนื้อเรื่องยังคงเดิม) 

 

ซึ่งถ้าว่ากันตามจริง แอดมินค่อนข้างชอบเรื่องราวของภาค Replicant  มากๆ มันมีแง่มุมของความท้าทายด้านความรู้สึกถูก-ผิด เหตุผลต่างๆที่ทำให้เราคิดว่า สิ่งที่เราทำนั้น มันถูกต้องสำหรับใครกันแน่? ตัวละครหลายๆตัวมีเรื่องราว มีจุดที่ทำให้รู้สึกน่าจดจำมากๆ จึงได้คะแนนเต็มในพาร์ทของเนื้อเรื่องนั่นเอง

 

แต่ในส่วนเกมเพลย์ ตัวเกมจะถือว่าทำได้ดีกว่าภาคต้นฉบับที่แสนน่าเบื่อ “ประมาณนึง” มาเป็นเกมแอคชั่นสแปมปุ่มเมามันส์ยังกะเล่น DMC มีการดวลบอสที่มันส์ ตึงมือ ตัวผู้เล่นก็มีลูกเล่นเวทย์แบบต่างๆจากหนังสือ Grimore แต่ก็ชะล่าใจไม่ได้ ผู้เล่นต้องกะจังหวะหาทางหลบหลีกให้ดีๆเช่นกัน เพราะตัวผู้เล่นค่อนข้างบางมากๆ โดนดาเมจชุดสองชุดได้โหลดเซฟใหม่แน่ๆ ยิ่งดวลบอสหลังๆ ยังกะเล่นเกมยานยิงยุคเก่า พวกเล่นปล่อยกระสุนรอบฉากแบบ Bullet Hell ใส่ผู้เล่นกันเลย

 

อ่อ เกมนี้มีออโต้เซฟเฉพาะโหลดเข้าฉากใหม่หรือเปลี่ยนแผนที่เท่านั้นนะครับ และไอเทมที่เก็บได้ในรอบที่แล้ว จะหายไป  ถ้าให้ดี เพื่อความชัวร์ควรเซฟที่ “ตู้จดหมาย” ในช่วงที่ไอเทมครบ หรือสภาพพร้อมที่สุดจะดีกว่า 

 

จุดที่น่าเบื่อหน่ายของเกมนี้ ก็มีอยู่บ้าง เช่นระดับความยากของเกมที่เราเล่น Normal  แล้วรู้สึกว่า มันง่ายเกินไป (ระดับความยากสูงสุด Hard ของเกมนี้ บางทีอาจเทียบ Normal ในปัจจุบันพอไหว) รวมไปถึงการวิ่งเข้าออกเมือง รับเควสท์ ส่งเควสท์ ที่แม้จะมีรางวัลเจ๋งๆมาล่อตาล่อใจ ชวนให้ทำซ้ำๆ แต่ตัวเกมขาดสิ่งที่เรียกว่า “ความหลากหลาย” เราจะเจอเควสท์ประเภทเดียวกันซ้ำๆ แค่เปลี่ยนเป้าหมายและเงินรางวัลเท่านั้น

 

รวมไปถึง “ระบบการพัฒนาตัวละครที่ไม่ได้แสดงผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน” อาวุธต่างๆมีให้เก็บเยอะแยะมากมาย แต่ใช้งานจริงได้เพียง 3 สล๊อต โดยอาวุธทั้ง 33 แบบ ต่างที่ดาเมจ และสเตตัสบางอย่างที่เป็นตัวเลข เช่นพลังเวทย์ Option เสริม และน้ำหนัก เท่านั้น ผู้เล่นเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นมาซักเท่าไหร่ แถมท่าคอมโบของอาวุธแต่ละแบบแทบไม่มีความต่างเลย ใครที่คิดว่ามันจะเป็นเกม RPG ที่มีระบบเชิงลึก และมีรูปแบบ “ความต่าง” ของเลเวล สเตตัส และข้าวของสวมใส่ แบบเกมยุคปัจจุบันที่ชัดเจน ยิ่งเล่นยิ่งเก่ง  เราขอแสดงความเสียใจด้วย มันยังไม่ลึกขนาดนั้น

 

ส่วนงานภาพ ในทางเทคนิคแล้ว บางจังหวะก็มีเฟรมเรทร่วงให้เห็น ทั้งๆที่ไม่ใช้จังหวะบวกชุลมุน แต่เป็นฉากวิ่งในทุ่งกว้างๆ  บางจังหวะก็ลื่นไหลเว่อวังมาก ปรับตัวไม่ถูกเมือนกัน 55+ (เล่นบน PS4 Pro) แต่ถามว่าดีกว่าเวอร์ชั่นเก่ามั้ย ตอบเลยว่า “ไม่มาก” แต่ดีเทลชัดเจนขึ้น ตัวละคร CG มีรายละเอียดมากขึ้น

 

ตัวเกมไม่ได้เป็น Openworld จัดๆ แต่จะเป็นการทำแผนที่ขนาดกลางๆ และมีจุดเปลี่ยนฉากต่อๆกันไป เข้าฉากใหม่ก็โหลดทีนึง เป็นปกติของเกม RPG ยุคก่อนๆ

 

แต่ถ้าพูดถึงเพลงประกอบ บอกเลยว่าสายฟังเพลง OST คุณจะต้องชอบ เพราะเพลงทุกเพลง ถูกออกแบบมาให้เข้ากับธีมเกมในจังหวะนั้นๆ บางทีก็ลึกลับ น่าขนลุก บ้างก็อ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ฟังแล้วมันขับอารมณ์ของสิ่งที่ตัวเกมจะนำเสนอในขณะนั้น ถือว่าทำได้ดีมากๆในแง่งานศิลป์ 

 

 

 

สารภาพว่าเป็นเกมที่ชอบมากๆเกมหนึ่ง ที่ “ไม่ควรได้คะแนนเต็มสิบ”

จุดขายที่แข็งแรงโคตรๆคือเนื้อเรื่อง และจุดเสียที่ชัดเจนก็คือเกมเพลย์ที่เก่า เชย มีความขาดๆเกินๆ หลอนๆ ของทีมงานใส่ไปเยอะมาก

เมื่อเทียบกับเกมในตลาดยุคนี้ที่มีความลงตัวกว่า

 

แต่…ยังคงยืนยันครับ ว่า “มันเป็นเกมที่คุณควรเล่น” ถ้าเป็นสายเสพงานศิลป์ เนื้อเรื่อง

และองค์ประกอบต่างๆ เกมนี้ทำมาดี…

 

แต่ถ้าเล่นเอามันส์ เก่ง เท่ เทพ เชิญไปเกมอื่นเลยครับ เกมนี้ไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ 555+

 

 ————————————————–

 

 

 

สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนซื้อมาเล่น 

-เกมนี้ ไม่เหมาะกับคนที่อ่อนไหว หรือ ไม่ชอบความหดหู่ กดดัน บรรยากาศเคว้งๆเหงาๆ หรือเงื่อนไขซับซ้อนเพื่อหาบทสรุปเรื่องราวในเกม 

 

-เกมนี้ มีความเป็นแอคชั่น กึ่ง RPG  และงานภาพอาจจะไม่หวือหวาเหมือนเกมในยุคปัจจุบันเกมอื่นๆ เพราะเกมนี้ เจตนาคือทำเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของทีมงานที่เมื่อครั้งอดีตไม่สามารถดึงศักยภาพ กับ ไอเดียเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาใช้ได้ พวกเขาจึงมาทุ่มเอาไอเดียในเวลานั้นมาใส่ องค์ประกอบอาจจะดูตกยุคไปนิดนึง 

 

- Nier ดั้งเดิมได้รับการพัฒนาโดยทีมงาน Cavia ไม่ใช่ PlatinumGames (แม้ว่าทั้งคู่จะกำกับโดย Yoko Taro ก็ตาม) แต่แฟน ๆ ของ Automata ควรคาดหวังการเล่นเกมที่คล้ายกันจาก Replicant นั่นเป็นเพราะผู้พัฒนา Toylogic ได้ปรับแต่งการต่อสู้ของ Replicant เพื่อให้เข้าใกล้สไตล์ของ Automata มากขึ้น

- Nier Replicant นำเสนอโลกที่ดูดี สบายตากว่า Automata แต่ ในบางครั้งเกมจะเปลี่ยนมุมมองให้คล้ายกับการเล่นเกม 2 มิติลุยข้างด้วย

 

-คุณไม่ต้องเล่นภาค Automata มาก่อนก็ได้ เพราะภาคนี้เล่าเรื่องราวที่เกิดก่อนหน้านั้นหลายร้อยปี แต่ก็มีตัวละครที่มีการใช้ซ้ำบางส่วน และมีตัวตนใน Replicant สู่ Automata อยู่ด้วย  อย่างที่บอก ถ้าให้ดี แฟนๆหน้าใหม่ ก็ควรเริ่มต้นด้วย Replicant ภาคนี้ ซึ่งจะทำให้เรื่องราวของ Automata มีผลกระทบมากขึ้น ส่วนแฟนเก่าที่เคยเล่น Automata  ก็น่าจะเก็ทอะไรหลายๆอย่างในโลกของทั้งสองเกมนี้เช่นกัน

 

- เช่นเดียวกับ Nier: Automata ตัวเกมจะใช้เวลาเล่นมากกว่า 1 ครั้งเพื่อดู “ฉากจบ”ทั้งหมด  ซึ่ง Replicant มีเพียงสี่ตัวเลือกฉากจบเท่านั้น แต่อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยในเงื่อนไขที่ต่างกัน

 

- ควรเซฟเกมให้บ่อย เพราะเกมนี้มีความยากเอาเรื่อง ไม่ใช่เกมสายชิวที่จะเซฟเกมตอนไหนก็ได้ ควรเซฟในจุดที่เราพร้อมที่สุด ของครบ เพื่อว่าตาย จะได้โหลดใหม่

 

-ควรเริ่มสะสมอาวุธทันที เท่าที่ทำได้ เพราะหนึ่งในเงื่อนไขใการปลดล็อกฉากจบบางตัว จะมีเงื่อนไข “สะสมอาวุธทั้งหมดในเกม” ด้วย

 

-ควรทำไซด์เควสท์ให้มากๆเข้าไว้ เพราะบางทีของรางวัลดีกว่าเควสท์เนื้อเรื่อง พวกอาวุธใหม่ และยังทำให้ฉากจบใกล้เคียงกับ Good End ด้วย

 

-ข้ามๆตัวละคร NPC ไปบ้าง ไม่ต้องไปอ่านบทสนทนามันทุกตัวหรอก 

-ตัวเกมจะมี ดันเจี้ยนเสริม “15 Nightmares” ที่เพิ่มเข้ามาใน NieR Replicant ver.1.22474487139 …  พร้อม DLC เนื้อหาดาวน์โหลดฟรี  “4 YoRHa”  และตอนเพิ่มเติม “Mermaid Princess” เติมเต็มเนื้อเรื่อง ซึ่งเราจะไม่สปอยล์กันในเวลานี้

 

 

 เกมวางขาย 23 เมษายน 2021

 

แอดมิน AK47

 

 

Tags: NieR Replicant, PlatinumGames, Review, Square-Enix, Toylogic