รีวิว NiOh 2 ยำใหญ่เกมดังหัวร้อน Darksoul + Onimusha + Rockman + Tokiden [PS4]

 

 

 

 

 

Nioh 2

ประเภท : ACTION / RPG

เครื่อง : PS4

วันวางจำหน่าย :  2020

พัฒนาโดย : Team Ninja  /Koei Tecmo

 

 

หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากเกม “NiOh” เกมแนวซามูไรฝรั่งดาร์คโซลมาแล้ว ทำให้ทีมงาน Koei Tecmo / Team Ninja สานต่อเรื่องราวการต่อสู้ของคนกับปีศาจ กับภาคต่อที่ชื่อว่า NiOh 2 

 

 

 

 

 

 เกมนี้คือ!?

NiOh 2 เป็นผลงานเกมแนว Action – Rpg   โดย  Koei Tecmo / Team Ninja ซึ่งในภาคแรกประสบความสำเร็จพอสมควร ด้วยเนื้อหา งานดีไซน์ และองค์ประกอบหลายๆอย่างที่แม้จะถูกจัดเป็นเกมสไตล์ Dark Soul แต่ก็มีหลายๆอย่างที่แตกต่างจนเป็นเอกลักษณ์ได้  ตัวเกมยังคงเน้นหนักในเรื่องของทักษะของผู้เล่น ทั้งการจดจำท่วงท่า การหาจังหวะสวนกลับด้วยกระบวนท่าอาวุธที่ต่างกันตามแต่ชนิด แต่ภาคนี้ทีมพัฒนาระบุว่าจะสร้างเกมนี้บนพื้นฐานของกลไกที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งสร้างจากองค์ประกอบที่แฟน ๆ ชื่นชอบจากภาคแรก รวมไปถึงการอัพสเตตัส การสะสมเกจ และ Amrita ยังคงอยู่เหมือนเดิม

 

เดิมที Nioh  เป็นชื่อของบทประพันธ์ของ คุโรซาว่า อากิระ นักสร้างหนังซามูไรญี่ปุ่นชื่อดัง แล้วมาดัดแปลงเป็นบทหนัง ก่อนที่จะเอามาทำเกม ซึ่งในภาคแรกก็จัดว่ายากสุดๆอีกเกม (แต่ยังไม่เท่าดาร์คโซล) ตัวเกมมีฟิลลิ่งของ โอนิมูฉะ+ Ninja Gaiden จึงเข้าถึงได้ง่าย สำหรับเหล่าหน้าใหม่หัดหัวร้อน…

 

โดยในภาค 2 นี้จะเล่าถึงประเทศญี่ปุ่นใน ยุคสงครามกลางเมือง หรือ Sengouku Jidai ยุคที่เหล่าหัวเมืองต่างๆทำสงครามกัน อันเป็นเรื่องราวก่อนที่ “วิลเลียม” นักเดินเรือชาวอังกฤษจะเดินทางมายังญี่ปุ่น อันเป็นเรื่องราวของ Nioh ภาคแรก

 

 

 

 

 

 

REVIEW 9/10 RANK A

เนื้อเรื่อง 2/3 , เกมเพลย์ 3/3,  งานภาพ 3/3 , ความชอบ 1/1

มันคือ Darksoul + Onimusha + Rockman + Tokiden + Diablo

 

ในฐานะที่เล่นภาคแรกมาก่อน ติดตามข่าวเกมนี้ตั้งแต่สมัยลือว่าจะลงให้ PS3 โน้นเลย ก็รู้สึกดี ที่ได้เห็นพัฒนาการของเกมนี้ หลังจากที่แฟนๆบางคนได้สังเกตว่า เกมนี้มีฟิลลิ่งแบบเกมดังๆอย่าง Dark Soul แต่มีอาวุธเยอะกว่า และ Option อาวุธเครื่องแต่งกายที่ยาวเป็นหางว่าว พร้อมพกความยากชวนปาจอยทิ้ง ซึ่งเมื่อขึ้นสู่ภาคที่สอง ความยากชวนหัวร้อนยังคงมีอยู่ เผลอๆมากขึ้นด้วย แต่ด้วยความที่ทีมพัฒนาได้ใส่ระบบใหม่ๆลงไป ทำให้เกมนี้สนุก และต่างจากเกมต้นฉบับอย่าง DS ได้แล้ว! 

 

 

สายเสพเนื้อเรื่อง ถ้าคุณอินกับประวัติศาสตร์ยุคสงครามกลางเมืองญี่ปุ่น จะอินมาก เข้าใจง่าย ไม่ได้แฝงปริศนาธรรมเชิงสัญลักษณ์แบบ DS เพราะทีมงานเล่าเรื่องอภินิหาร + ดาร์คแฟนตาซีในเกมนี้แบบจัดเต็มกว่าภาคก่อนๆ เราจะได้เห็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หลายคนที่ออกแบบคาแรคเตอร์ได้แบบ Koei Style คือทรงจะกึ่งๆเรียล กึ่งการ์ตูนๆหน่อย แต่ชัดเจนว่าใครมีลักษณะ นิสัย เป็นแบบไหน และด้วยความที่เป็นเนื้อหาก่อนภาคแรก การใส่ “ตัวละครออริจินอลที่ผู้เล่นสร้างเอง” ก็ดูจะสมเหตุผลเอามากๆเพราะเนื้อเรื่องรองรับ และไม่มีเส้นเรื่องของตัวตนมาขีดเส้นคาแรคเตอร์เหมือนกับที่ “นักเดินเรือฝรั่งวิลเลียม” พระเอกภาคแรกเคยเป็น แต่ก็น่าเสียดายที่บางจุดมี Plot Hole อยู่ และทำให้ตั้งคำถามถึงความสมเหตุผลของเนื้อหาว่า “เออ จะเอาแบบนี้เลยเนอะ” ดูผ่านๆไม่คิดไรมากมันก็เนียนๆได้ สนุกดี ใครที่เล่นภาคแรกแล้ว ควรเล่นภาคนี้เพื่อเป็นเนื้อเรื่องครับ!! 

 

ส่วนเกมเพลย์ คือจุดที่โคตรแข็ง และสนุกมือมากๆ แม้ว่าความยากจะอยู่ในระดับเป็นรอง DS และ BB ถ้าให้เรียงลำดับส่วนตัวเรียงความยากให้  DS3>> BB >> Nioh เกมยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแถบ SP เหมือนเดิม  ถ้าเกิดพลาดบู๊จนแถบKi หมด คือรอความตายได้เลย  ทำให้ออกแอ็คชั่นแต่ละครั้งต้องคิดอย่างรอบคอบที่สุด ยิ่งถ้ารับมือกับพวกAIในเกมนี้คราวละหลายๆตัว มันคือฝันร้ายชัดๆ! แค่ตัวเดียวยังอ่วมเลย 

 

ตายบ่อยๆในเกมนี้ก็เป็นเรื่องปกติแหละ อย่าคิดมาก ปัจจัยการตายในเกมนี้ นอกจากมอนตบ ตกบ่อแล้ว มุมกล้องที่บางครั้งก็มีจุดอับสายตาก็เป็นส่วนหนึ่งที่พาเราไปตาย  รวมไปถึงมุกดักควายสารพัด ทั้งฝูงค้างคาวตามขอบผา ฉากพื้นที่สูง , หลุมพรางของพื้นบ้านที่ด้านล่างเป็นแม่น้ำ , หีบสมบัติหลอกร่างโคลน ของเล่นอะไรที่ชวนหัวร้อนของภาคแรกมี ภาคนี้ยังคงมีเหมือนเดิม เหมือนไม่ได้แก้ไขอะไรเลย555+ 

 

ส่วนบอสในแต่ละด่าน ยังลูกเล่นต่างๆทำออกมาดีกว่าภาคที่แล้ว จับจุดได้ยากขึ้น ว่องไว รุนแรง มีกิมมิคมากขึ้น ยากจนหัวร้อน และล่อลวงให้คนกลับมาสู้กับมันอีกครั้งเพื่อดรอปเอา Soul Core ของมัน  แต่ก็มีจังหวะให้ได้โต้กลับด้วยลูกเล่นใหม่ๆของภาคนี้ ทั้งแปลงร่างเป็นอสูร แบบโอนิมูฉะ / การเรียกใช้งาน Soul Core ใช้พลัง อาวุธของบอส แบบร๊อคแมน / การซัมม่อนบอทเก่งๆมาเป็นตัวล่อ แบบโทคิเดน ล้วนทำให้เกมนี้สนุก มีตัวช่วยในการผ่านด่านมากขึ้น อันนี้ดีต้องชม

 

ส่วนงานภาพ ยังมีความแกว่งๆ และไม่เหมาะมากๆ สำหรับ Movie Mode ที่พยายามลดเฟรมเรทภาพลงเหลือเพียง 25-30 fps ที่จะทำให้ภาพเหมือนดูหนัง ซึ่งบางจังหวะ มันเข้าขั้นอีรุงตุงนังพาเอาดูไม่รู้เรื่อง ถ้าให้แนะนำจริงๆ ควรเปิด Action Mode ภาพจะตีกลับเป็น 60Fps ที่ลื่นไหล และมีรายละเอียดที่ดีสุดๆ ในยามเคลื่อนที่ Motion Blur ที่ไม่ Jerk หรือกระตุกเฟรมจนเกินไป

 

และปัญหาเรื่องความร้อนของเกมตอนเล่น ก็ยังพอมีบ้างในช่วงดวลกับความอลังการ เล่นใหญ่ แต่โดยรวม ภาพยังสวยงามดูดีมากๆ สวยงามน่าขนลุกและขยะแขยงกับโยไคบางตัว แม้มีบางจุดที่หยาบๆไปบ้าง หรือแตกกริดพิกเซลนิดหน่อย ก็ตามสไตล์ Koei แหละ 

 

 

สรุป ในภาค 2 ยังคงเป็นเกมที่ดี รวมมิตรจุดเด่นเกมดัง  “มันคือความท้าทายของเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์”  เน้นฟาร์มของหนักๆ ฟาร์มแต้มสกิลเน้นๆ แล้วค่อยเข้าไปบวกกัน แต่ถ้าใครไว เทคนิคดี บางที Stats ก็ไม่ต้อง แต่เชื่อเถอะ ยังไง ค่า Ki ก็ไม่พอใช้ ก็ต้องไปฟาร์มอยู่ดี…

 

ซึ่งความฟินของเกมแนวนี้ ก็คือ  “เวลาฆ่าบอสได้เป็นครั้งแรกนี่ แทบจะปิดซอยเลี้ยงกันเลย!”

 

 

—————————————————————————————————–

 

Gameplay

เกมเพลย์ของเกมนี้ จะมาแนว “Dark Souls +ONIMUSHA + Diablo + Tokiden” มารวมกัน แต่ในภาคนี้มีสิ่งใหม่ๆที่เสริมเข้ามา ทำให้เกมนี้มีความเป้นตัวเองสูงมากจากการเอาข้อดีของเกมอื่นๆมารวมกันอย่างที่กล่าว

 

 

ค่า Ki หัวใจสำคัญของแอคชั่น !!

ค่า Ki ตัวเกมจะไม่ได้ให้ผู้เล่นได้สแปมปุ่มท่าคอมโบมั่วๆรัวๆก็จบด่าน  ซึ่งหลักๆมี 3 ท่า ได้แก่ Low / Mid และ High โดยแต่ละท่า ก็จะมี “ค่า Ki” มาเป็นหัวใจสำคัญของการออกท่าทางในภาคนี้  โดยมีปัจจัยอย่าง ขนาดอาวุธ ประเภทอาวุธ ท่าร่าง และน้ำหนักชุดเกราะทั้งหมด จะนำมาถูกคิดเป็นค่า Ki ที่ต้องใช้

 

ยกตัวอย่างเช่น

การใส่เกราะเบา ถืออาวุธเบาๆเช่นดาบเล็ก ทอนฟา หอก ใน Stance Low  ก็จะทำให้คล่องตัว ค่า Ki เสียน้อย แต่ดาเมจ และพลังป้องกันจะเบาหวิว เน้นคล่องตัวตอดไปเรื่อยๆ

กลับกัน ถ้ายิ่งใช้อาวุธขนาดใหญ่ เกราะหนัก หนา Def สูงๆ หรือ Stance ที่เน้นการโจมตี ยิ่งใช้ค่า Ki  เยอะ นั่นเอง

 

 

Stance ส่งผลโดยตรงต่อคอมโบ

ยังคงเหมือนกับ Nioh ภาคแรก ในส่วนของท่าร่างต่างๆ หรือ Stance ที่ส่งผลต่อการออกคอมโบ กด R1 และตามด้วยปุ่ม                ตามที่กำหนด

1.Low Stance  - ปุ่ม R1+   

ยกดาบลากพื้นแนวต่ำ เน้นความเร็วในการโจมตี ใช้ค่า Ki น้อย รัวๆมันส์ๆ แต่ก็เบาหวิวเช่นกัน เอาไว้ชนกับพวกโยไคตัวเล็กๆ หรือการดวล 1-1 มากกว่า 

2.Mid Stance - ปุ่ม R1+    

ยกดาบข้างลำตัว ท่าพื้นฐาน ไม่เร็วมาก ไม่แรงมาก คล่องตัว พลิกแพลงหลากหลาย

3.High Stance - ปุ่ม R1+    

ยกดาบขึ้นเหนือหัว เน้นพลังโจมตีสูง สามารถทำลายการ์ดเป้าหมายเพื่อทำ Finish Move ได้ แต่ก็แลกกับค่าKi ที่หมดลงในการโจมตีแค่สองครั้งเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับการอัพ Stat)

 4.เก็บดาบ -ปุ่ม R1+   

เวลาเดิน วิ่ง หรือตัดคอมโบด้วยการเก็บอาวุธแล้วชักออกเพื่อสวนกลับ ซึ่งเป็นคอมโบระดับสูงที่ต้องแม่นยำมากๆ

 

 

ระบบใหม่แปลงร่างอสูร Yokai Shift

ในภาคก่อน เมื่อเกจของ Guardian Spirit  ที่มุมซ้ายบนของจอเต็ม ก็จะเป็นการเรียกสัตว์พิทักษ์มาสิงร่าง แล้วใช้พลังเข้าต่อสู้ สร้างความเสียหายหนักๆช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในภาคนี้ ผู้เล่นคือ “นักรบโยไค” การใช้พลังพิเศษในภาคนี้จะเปลี่ยนเป็น “การแปลงร่างเป็นอสูร” (Yokai Shift) ซึ่งอสูรในเกมนี้ หลักๆจะมี 3 แบบ ได้แก่

 

(เรียงลำดับจากซ้ายไปขวามือผู้อ่าน)

 

Yokai Shift: Brute

ร่างอสูรยักษ์สีแดงผู้ถึกทน ผู้เล่นที่แปลงร่างจะไม่สามารถถูกโจมตีจากศัตรูได้ และในยามปกติที่ยังไม่แปลงร่าง ผู้เล่นสามารถสวนกลับการเตรียมโจมตีของศัตรูได้ (ตัวมันจะมีแสงสีแดง) ให้สวนกลับด้วย ท่าตบ (กด R2 +   ) จะทำให้ศัตรูเกราะแตก และเหนื่อยทันที เป็นช่องทางสวนกลับที่ดีมากๆ

ท่าไม้ตาย Fang Break : ขณะอยู่ในรูปแบบ Brute ให้กด L1 + △ ด้วยเวลาที่เหมาะสมเมื่อศัตรูโจมตี จะเป็นการสวนกลับด้วยพลังทั้งหมดที่มี

 

Yokai Shift: Feral

ร่างมารน้ำเงิน สามารถหลบหลีก ตัดคอมโบในขณะทำการโจมตีเบา หรือตีรัวๆได้ ร่างนี้เน้นความเร็วในการหลบหลีก และทำคอมโบต่อเนื่องมีดสั้น

 

Yokai Shift: Phantom

ร่างอสูรอีกาขาว จะเน้นการโจมตีระยะกลาง-ใกล้ ด้วยอาวุธซัดที่เรียกว่า Blood Moon – Yin ที่ล๊อกเป้าหมายเหมือนมิไซล์นำวิถี และ Blood Moon – Yang การโจมตีระยะประชิด

 

ดาบปักพื้น?

ดาบน้ำเงินบอทผู้ช่วยรับตีนบอส / ดาบแดง บอทนักฆ่ามิตรแท้นักฟาร์ม

จะเห็นก็ต่อเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต (จริงๆออฟไลน์ก็เห็น แต่น้อยมาก)

จุดที่ทำให้ภาคนี้เล่นง่ายในยามที่ปวดหัวปวดใจ ก็คือ การซัมมอนบอทผู้ช่วย ซึ่งจะเป็นการอวตารร่างผู้เล่นคนอื่น ค่าสเตตัส เลเวล ชุดสวมใส่ จะมาทำหน้าที่สร้างดาเมจ ล่อความสนใจ ช่วยกันสร้างจังหวะยำสหบาทา ใส่เหล่าศัตรูทั้งตัวกระจอก ยันบอสสุดโหด โดยให้สังเกต “ดาบสีน้ำเงิน” ที่ปักพื้น ต้องใช้ถ้วย “Ochoko” การอัญเชิญบอทเหล่านี้ (ถ้าเลเวล +-ไม่เกินผู้เล่นประมาณ2-5เลเวล  ใช้ 2 ถ้วย ถ้ามากกว่านั้นใช้ 3 ถ้วย) อ่อ บอทเกมนี้ ถ้าตาย ให้หาใหม่จากดาบสำน้ำเงินที่พื้นนั่นแหละ เรียกไปเหอะ จนกว่าถ้วยOchokoจะหมด

 

นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถวางร่างอวตารตัวเองได้ด้เวยนะ ด้วยการกดใช้ไอเทม Rigtheos Jasper  หรือ หินเขียว วางลงพื้น ก็จะเป็นร่างอวตารผู้เล่นไว้คอยช่วยชาวบ้านได้ด้วย (ส่วน Divine Branch ใช้ออกจากด่านนั้นๆ กรณีเล่นไม่ไหว)

 

แล้วถ้วย Ochoko  มาจากไหน? คำตอบก็คือ “สามารถหาซื้อได้จาก Kodama Barzaar” ด้วย Kodama Rice ได้มาจากการบริจาคไอเทม และสามารถหาได้จากการ “ฆ่าบอทดาบแดง” ที่เป็นซากผู้เล่นที่ตายแถวๆนั้นนั่นละ ยิ่งซากผู้เล่นเลเวลสูง จะมีโอกาสดรอปถ้วย Ochoko มากขึ้น ฟาร์มถ้วย ฟาร์มชุดเกราะก็หาเอาจากพวกนี้แหละ ง่ายดี

 

 

ศาลเจ้า กับลูกเล่นใหม่

เช็คพ้อยท์ “ศาลเจ้า” เป็นได้ทั้งจุดเซพ จุดปรับแต่งค่าสเตตัส การฟื้น HP/Ki และ อัพเกรดตัวละคร ซึ่งสามารถทำได้ที่ศาลเจ้าที่ตั้งตามฉากในเกม หรือ ที่ Starting Point ในแผนที่ใหญ่ โดยแต่ละเมนูที่ศาลเจ้า ก็จะมีดังนี้

 

Level Up

อัพเกรดตัวละคร โดยใช้“อมฤตรา” (Amrita) ที่เก็บได้ภายในฉาก หรือจากการฆ่าโยไคในเกมมาใช้อัพเกรดสเตตัส โดยการ+1 ค่าสเตตัสจะเท่ากับ 1 เลเวลตัวละคร ซึ่งการที่ผู้เล่นจะเล่นสายใดสายหนึ่งหรือชอบอาวุธชนิดไหน ก็ให้อัพสเตตัสตามที่เกมแนะนำ ซึ่งจุดนี้ ก็ยังคงยกระบบของภาคแรกมาใช้

 

คำอธิบายค่า Stattus เพิ่มเติม

LIFE - HP สูงสุด
KI  - แถบความเหนื่อยของตัวละคร ยิ่งมีเยอะยิ่งออกแอคชั่นได้เยอะ ถ้าเหลือ 0 ตัวละครจะเหนื่อยหอบ เป็นเวลา2-3 วินาที ซึ่งก็มากพอที่จะถูกฆ่าตายได้ ดังนั้น ค่านี้ยิ่งเยอะยิ่งดี
ATTACK - พลังโจมตีพื้นฐานของตัวละคร (แบ่งเป็นอาวุธประชิด 2 ชิ้น และอาวุธยิง 2 ชิ้น) 
DEFENSE - พลังป้องกันของตัวละคร

 

EQUIPMENT WEIGHT MAX - ค่าบรรทุกสัมภาระ ส่งผลต่อการสวมใส่เกราะที่มีความหนัก พลังป้องกันสูง และลดการใช้ SP ลงเมื่อใส่เกราะหนักๆ
EQUIPMENT WEIGHT RATE -น้ำหนักปัจจุบันอุปกรณ์ของตัวผู้เล่น หารด้วยน้ำหนักอุปกรณ์รวม ซึ่งค่านี้มีผลต่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวนั่นเอง

 

KI PULSE - อัตราการฟื้นค่า Ki 
SAMURAI SKILL POINTS - แต้ม SAMURAI SKILL POINTS ที่มีอยู่

 

NINJUTSU POWER - พลังโจมตีสายนินจา
NINJUTSU CAPACITY - จำนวนการพกพาอุปกรณ์สายนินจา
NINJA SKILL POINTS - แต้มนินจาที่มี

 

ONMYO MAGIC POWER -พลังโจมตีสายเวทองเมียว
ONMYO MAGIC CAPACITY - จำนวนการพกพาอุปกรณ์สายเวทองเมียว
ONMYO MAGIC SKILL POINTS -แต้มสายเวทองเมียวที่มีอยู่

 

GUARDIAN SPIRIT BOND - เกจ “Guardian Spirit” หรือ ภูติพิทักษ์ ยิ่งค่านี้มาก ก็สามารถรวบรวมอมฤตราได้เร็วขึ้น  และลด Cooldown หลังใช้งาน Guardian Spirit 

VS POISON - ต้านพิษ
VS PARALYSIS - ต้านอาการเหน็บชา
VS YOKAI REALM - ต้านผลกระทบจาก YOKAI REALM (บ่อเงาโยไค -บ่อที่ทำให้ค่าKiฟื้นช้า)

 

Call Back

ในกรณีที่ตายระหว่างฉาก เหล่า “Guardian Spirit” หรือ ภูติพิทักษ์ จะทำการเฝ้าจุดที่เราตายครั้งล่าสุด เราสามารถเรียกภูติกลับมาหาผู้เล่นได้จากศาลเจ้า โดยแลกกับอมฤตราที่เก็บได้ทั้งหมดทิ้งไป

 

 

Make Offering

อันนี้เป็นการนำอาวุธ ชุดเกราะ หรือไอเทมขยะที่ไม่อยากได้ ทำการบริจาค เพื่อแลกเอาค่าอมฤตรา และบางครั้งก็จะได้ไอเทมฟื้นฟู หรือของใช้ที่จำเป็นแถมมาให้ แน่นอนว่า ยิ่งเป็นไอเทมระดับสูง และหายาก ก็สามารถแลกอมฤตราได้เยอะขึ้น

 

 

———-Receive Kodama Blessing

 

เป็นจุดบริจาคเงินเพื่อขอบัฟเสริมจากเหล่าภูติจิ๋ว “โคดามะ” ที่ผู้เล่นต้องคอยสอดส่องหาภูติจิ๋วที่ซ่อนตามฉาก หลังกล่องลัง และจุดที่สังเกตุยาก โดยยิ่งเจอโคดามะเยอะๆ ผลบัฟก็จะดีตามด้วย ส่วนใหญ่เป็นบัฟเพิ่มเงินดรอป ไอเทมดรอป หรือเพิ่มจำนวนอมฤตราที่ได้จากการกำจัดโยไคมากขึ้น และยังส่งผลต่อจำนวนไอเทมที่ขายใน Kodama Barzaar อีกด้วย

 

 

———-Kodama Barzaar 

การบริจาคอาวุธ เครื่องแต่งกายแล้ว นอกจากค่า ค่าอมฤตรา ไอเทมฟื้นฟู แล้ว ยังได้ Kodama Rice ซึ่งถือเป็นสกุลเงิน สำหรับซื้อไอเทมแลกเปลี่ยนระหว่างฉากได้ 

 

 

 

 

Ready Jutsu

เมนูผสมอาวุธลับ จำพวกดาวกระจาย ระเบิด ผ้ายันต์เสริมธาตุต่างๆ ยิ่งมีสกิลสาย Ninjutsu (นินจา) หรือ สาย Onmyo (องเมียว / ผู้ใช้เวทย์)เยอะ ยิ่งสร้างและพกได้เยอะขึ้น เมื่อหมด สามารถกลับมาเติมได้เรื่อยๆ

 

Summon Visitor

อัญเชิญผู้เล่นอื่นเข้ามาร่วมวงผจญภัย ผ่านระบบออนไลน์ PSN+ ได้สูงสุด 2 คน โดยการเชิญผู้เล่น (ที่เป็นคนจริงๆ และออนไลน์ในเวลานั้น) จะต้องใช้ไอเทม “Ochoko Cup” 1 ชิ้น ต่อ 1 คน และถ้าเราตายจะยกเลิกปาร์ตี้ทันที ยกเว้นจะมีไอเทมชุบชีวิตที่หาในเกมมาใช้งาน 

 

Manage Soul Core

ภาคนี้ มีการใช้งานสิ่งที่เรียกว่า Soul Core ซึ่งเป็นไอเทมหายาก ดรอปยาก เพราะเป็นไอเทมที่ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้งานสกิล ท่าไม้ตายของพวกโยไครายทาง หรือ บอส ได้ (เหมือนร๊อคแมนเข้าไปทุกที 555+) แต่ก่อนใช้งาน ผู้เล่นที่เก็บ Soul Core จะต้องนำมันกลับมาที่ศาลเจ้าก่อนใช้งานเพื่อทำการปลดผนึก (ถ้าเล่นๆแล้วตาย Soulcore จะดรอปพร้อมกับค่าอัมฤตรา แ่นอนว่าถ้าเผลอตายซ้ำ Soul Core ที่เก็บได้ก็ขะหายไปด้วย)

ซึ่ง Soul Core ก็จะมีเลเวล มีคุณสมบัติ Option ที่ต่างกัน แม้ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ตัวเดียวกันก็ตาม ซึ่งก็จะส่งผลต่อความแรงของท่าที่ออกด้วย 

 

———- Attune Soul Core 

เป็นการติดตั้ง Soul Core ที่มีลงไปใน Guardian Spirit โดยสามารถติดตั้งได้ 2 ลูก ซึ่ง2 ลูกที่ใส่ไปจะต้องมีค่าพลัง Attunement Cost รวมกันไม่เกินที่กำหนด  โดยลูกแก้ว จะมีค่า Stat เพิ่มความเก่งให้ Guardian Spirit ด้วย

 

———- Soul Fusion

เมื่อมีลูกแก้ว Soul Core ที่ซ้ำกันอยู่ในคลัง ผู้เล่นสามารถนำมันมารวมกันเพื่อเพิ่ม Rank และค่าอ Stats จะดีขึ้นด้วย

 

———-  Resting Rites

เมื่อมีลูกแก้วเหลือ หรือไม่อยากได้ ให้ผู้เล่นทำการ “ปลดปล่อยวิญญาณ” (Resting Rites)  ผู้เล่นจะได้รับสิ่งที่เรียกว่า Soul Fragments เมื่อสะสมเจ้าสิ่งนี้ได้ในระดับหนึ่ง มันก็จะกลายเป็นแต้ม Shiftling Skill Point แต้มสำหรับผังสกิลสายเปลี่ยนร่าง

 

 

ระบบ Skill 

ในภาค 2 นี้จะมีการจัดวางเลย์เอ้าท์ของผังสกิลใหม่ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และซับซ้อนขึ้น (ดูรวมๆแล้วจะเหมือนๆกับผังสกิลของเกม Path of Exile แค่ผสมสกิลโม้ๆไม่ได้เท่านั้นเอง) โดยจะแบ่งออกเป็น

 

 4 สายหลัก (คลาส)

สายซามูไร ได้แต้มอัพสาย จากการใช้อาวุธโจมตีระยะประชิด และ ระยะไกลบ่อยๆ

สาย นินจูสึ (นินจา) ได้แต้มอัพสาย จากการใช้ไอเทมประเภท”อาวุธลับ”บ่อยๆ ระเบิดต่างๆ รวมไปถึงการเคลือบพิษลงอาวุธด้วย 

สายแปลงร่างเป็นอสูร Shiftling ได้แต้มอัพสาย จากการ “ปลดปล่อยวิญญาณ” Soul Core

สายเวทมนตร์ องเมียว Onmyo Magic  ได้แต้มอัพสาย ได้จากการใช้ยันต์ชนิดต่างๆที่เกมมี

 

 

9 ชนิดอาวุธ

ดาบเดี่ยว / ดาบคู่  / ดาบยาว / เคียวโซ่ / เคียวยักษ์ / ขวานยักษ์ / ขวานคู่ / หอก / ทอนฟา เล่นอันไหนบ่อยๆ แต้มมันจะมาให้อัพเองครับ!

แล้วอย่าลืม เรียนท่าใหม่ๆแล้ว เอามาใส่ในช่องคอมโบคีย์ด้วยนะครับ การกดคอมโบเดียวกัน แต่ผลไม่เหมือนกัน ตามสกิลที่เรียนมาตามสาย Stance ด้วย

 

 

และแต่ละสาย จะต้องกลับเข้าไปเช็กหาเควสใหม่ๆใน DOJO (ลานฝึก) ที่หน้าจอตอนเลือกด่าน เพื่อปลดล๊อกผังการอัพด้วย มีแต้มอย่างเดียว อัพไม่ได้นะจ๊ะ

 

 

Blacksmith 

ผู้เล่นสามารถสร้างอาวุธจากวัตถุดิบที่หามาได้ หรือได้มาจากการย่อยข้าวของที่ไม่ต้องการได้ รวมไปถึงการซื้อขาย การลบออฟชั่น การตกแต่งต่างๆ ก็จะเป็นระบบเก่าจากภาคแรกมาใส่เลย ตรงนี้ไม่ได้ปรับปรุงอะไรมาก

 

หลักๆที่ต้องจำคือ “ลำดับความหายากของไอเทม” ไล่จากหาง่าย ไปยากสุด ยิ่งหายาก ออปชั่นยิ่งโหด 

Common > Uncommon > Rare  > Exotic > Divine  

 

 

ค่าสเตตัสอาวุธ

ในเกมนี้นอกจากสเตตัสตัวละครแล้ว ค่าสเตตัสอาวุธ เครื่องป้องกัน ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก การจะสังหารเป้าหมาย ก็ต้องมีอาวุธแรงๆ เกราะหนาๆยืนนานๆได้ก็จริง แต่ก็ควรดูค่าอื่นๆประกอบด้วย หลักๆคือ น้ำหนัก และออปชั่นที่ตรงกับสไตล์การเล่นหรือไม่

LEVEL -เป็นตัวบอกถึงพลังโจมตีโดยพื้นฐาน ยิ่งเลเวลสูง ยิ่งพลังโจมตีสูง

FAMILIARITY - เป็นค่าที่เกิดจากการใช้อาวุธชิ้นนั้นบ่อยๆ เป็นการดึงเอาพลังโจมตี+ออปชั่นใก้สูงถึงขีดจำกัดของอาวุธนั้นๆเมื่อเกจเต็ม  และถ้านำอาวุธที่มีค่านี้เต็มไปทำการ Offering ที่ศาลเจ้า จะได้อมฤตราเพิ่มขึ้นด้้วย

SPECIAL EFFECTS - ออปชั่นแถมมากับตัวอาวุธ ยิ่งอาวุธหายาก ออปชั่นยิ่งยาวเป็นหางว่าว!

ATTACK -เป็นตัวบอกถึงพลังโจมตีทั้งหมดรวมทั้งค่าออปชั่น และ ค่า FAMILIARITY แล้ว

ATTACK MULTIPLIER -พลังโจมตีเฉลี่ยเมื่อรวมกับค่าสเตตัสตัวละครแล้ว

BREAK - ยิ่งค่านี้มาก ยิ่งสามารถโจมตีทะลุการ์ดป้องปันของเป้าหมายได้ง่าย

PARRY -ยิ่งค่านี้มาก ยิ่งสามารถลดการใช้ SP ในการป้องกัน

 

 

วิธีดูค่าสเตตัสเครื่องป้องกัน

LEVEL - เป็นตัวบอกถึงพลังป้องกันโดยพื้นฐาน ยิ่งเลเวลสูง ยิ่งมีพลังป้องกันสูง

DEFENSIVE MULTIPLIER - พลังป้องกันเฉลี่ยเมื่อรวมกับค่าสเตตัสตัวละครแล้ว

TOUGHNESS - ยิ่งค่านี้มาก ยิ่งสามารถลดการใช้ SP ในการป้องกัน

WEIGHT - น้ำหนักของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ส่งผลต่อค่าความคล่องตัว และการเคลื่อนที่

SPECIAL EFFECTS - ออปชั่นแถมมากับตัวอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ยิ่งเกราะหายาก ออปชั่นยิ่งยาวเป็นหางว่าว!

 

VS FIRE - ป้องกันธาตุไฟ และการโจมตีด้วยไฟทุกชนิด และลดระยะเวลาการติดสถานะไฟไหม้

VS LIGHTNING - ป้องกันธาตุสายฟ้า และการโจมตีด้วยสายฟ้าทุกชนิด

VS EARTH - ป้องกันธาตุดิน และการโจมตีด้วยธาตดินทุกชนิด

VS WATER - ป้องกันธาตุน้ำ และการโจมตีด้วยน้ำ (น้ำแข็ง) ทุกชนิด

VS WIND - ป้องกันธาตุลม และการโจมตีด้วยลมทุกชนิด

VS POISON - ป้องกันการติดพิษ และการโจมตีด้วยพิษทุกชนิด

VS PARALYSIS  - ป้องกันอาการเหน็บชา อัมพาต และการโจมตีด้วยอาการนี้ทุกชนิด

VS YOKAI REALM - ต่อต้านผลกระทบจาก YOKAI REALM (บ่อเงาโยไค -บ่อที่ทำให้ค่า SP หรือ Ki ไม่ฟื้น)

 

 

 —-

 

 

 

 

เรื่องย่อ

ในยุคที่บ้านเมืองกลียุค พวกอสูรปีศาจจากโลกหลังความตาย ได้ลงมาวนเวียนในประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น “ไร้นาม” ลูกครึ่งที่เกิดจากโยไค และมนุษย์ ที่ได้กลายมาเป็น  “นักรบโยไค” (โยไคเซนชิ) ซามูไรที่ได้รับการฝึก “ศาสตร์แห่งจอมอสูร” ที่สามารถรวมพลังของเหล่าอสูรมาสิงสถิตย์ร่างของตัวเองเพื่อเพิ่มพลังได้ แม้ว่าตัวเขาจะฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงชาติกำเนิดตัวเองในทุกๆคืนมาเป็นเวลาหลายสิบปี อีกทั้งพลังของเขายังทำให้ชาวบ้านล้วนหวาดกลัว เขาจึงเลือกที่จะเดินทางไปเรื่อยๆ ประหนึ่งซามูไรพเนจรร่อนเร่ไปตามวิถีที่จะปกป้องผู้คนในเงามืด

 

 

ในค่ำคืนหนึ่งของการเดินทางอันเรื่อยเปื่อย นักรบไร้นาม ได้มาอยู่ที่หมู่บ้านจูซังซากุระ แล้วเริ่มลงมือจัดการเหล่าโยไค กับ  โจรป่าในหมู่บ้านที่รังควาญผู้คน และ “ปีศาจม้ายักษ์ เมซึกิ” ก็ได้ทำให้พลังปีศาจในตัวของเขาตื่นขึ้นและควบคุมไม่ได้

 

แต่ที่นั่น “คิโนชิตะ โทกิชิโร่” ก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับใช้พลังของ “ศิลาวิญญาณ” (Spirit Stone) สะกดพลังโยไคเอาไว้ และชักชวนให้เขามาทำงานในฐานะซามูไรผู้ช่วย พร้อมตั้งชื่อเล่นให้นักรบไร้นามพระเอกของเราว่า “ฮิเดะ” หรือ Hiddy ตามตัวอักษรบน “ดาบสั้นสังหารอสูร”ที่เขาพก (มันสลักชื่อด้วยพลังโยไค อ่านว่า ฮิเดโยชิ) 

 

(ซึงหลายสิบปีต่อมา โทกิชิโร่ คนนี้ ก็คือ ฮิเดโยชิ โทโยโทมิ เป็นไดเมียวคนสำคัญของญี่ปุ่น ที่จะรวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นได้ในอนาคต)

 

 

โทกิชิโร่ได้เดินทางร่วมกับฮิเดะ ก็ได้เข้าพบกับ ไซโต้ โดซัง แห่งแคว้นมิโนะ  เขาได้วานให้โทกิชิโรไปสำรวจหมู่บ้านช่างตีดาบแห่งหนึ่งเพื่อตามหาช่างตีดาบที่เก่งที่สุด แต่เขาก็หายตัวไป จึงเหลือแต่ลูกศิษย์สาวที่รอดมาได้

 

ฮิเดะได้สำรวจหมู่บ้านก็ได้พบกับอสูรไฟจอมพลัง “เอเนนระ” ที่กำลังอาละวาดและหมายจะเผาหมู่บ้านช่างตีดาบ หลังจากปราบมันได้ พวกโทกิชิโร่ยังได้พบกับ“นักรบโยไคสาว มุเมียว”ด้วย แต่ว่าดูเหมือนางจะไม่อย่ากเข้าร่วมแก๊งของโทกิชิโร่ จึงขอเดินทางคนเดียว

 

และฮิเดะก็ได้รับภารกิจให้ไปสำรวจถ้ำอสรพิษ จนมาเจอกับ “ศาลเจ้าชิราเฮบิ”  (ศาลเจ้างูขาว) เมื่อเอาชนะโยไค “ยาสึโนะคามิ” แล้วก็พบกับความจริงว่า ไซโต้ โดซัง คือพ่อของเขา! และได้มอบพลังของโยไค “ชิโรฮามิ” (เป็นยาสึโนะคามิที่ถูกสะกดความคลั่ง) ก่อนที่เขาจะสละชีพตัวเองเพื่อให้ฮิเดะ และโทกิชิโร่หนีจากการถูกฝูงอสูรในถ้ำอาละวาด  ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกรังควาญอยู่ดี แต่มุเมียวก็ปรากฏตัวช่วยพวกเขาเอาไว้ได้

 

หลังจากการตายของไซโต้ โดซัง ทำให้โทกิชิโร่นึกขึ้นได้ว่า ตัวของไซโต้โดซัง มีลูกสาวที่ถูกเรียกว่า “โนะฮิเมะ” แต่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว  จึงได้พาฮิเดะไปพบกับ  “โอดะ โนบุนากะ” ชายหนุ่มผู้มีฉายา “คนบ้าแห่งโอวาริ” เพื่อฝากตัวรับใช้โดยอ้างถึงความสัมพันธ์ในฐานะข้าเก่าของไซโต้โดซัง และ เป็นสามีของโนะฮิเมะด้วย (ถ้านับตามศักดิ์แล้ว โนะฮิเมเป็นน้องสาวของพระเอก และตัวพระเอกก็น่าจะนับเป็นพี่เขยของโนบุนากะด้วย) 

 

 

 ในการรบที่ โอเกฮาซามะ โนบุนากะได้ยกดทัพเข้าตีกองทัพของ “อิมากาวะ โยชิโมโตะ” ไดเมียวผู้ทรงอำนาจ โดยทัพของโยชิโมโตะมีทหารกว่า 40,000 คน  ส่วนทัพของโนบุนากะ มีทหารเพียง 5,000 คน  ทำให้เขาคิดว่า ถ้าจะจบสงครามเร็วๆ แบบไม่เสียกำลังพลเยอะๆ ก็บุกเข้าไปลอบฆ่าแม่ทัพซะก็สิ้นเรื่อง วิธีคิดห่ามๆบ้าๆบอๆของโนบุนากะน่าสนใจ แต่ด้วยพลังสายฟ้าของโยไคประจำตัวของอิมากาวะ และฝนที่ตกหนัก ได้ปิดเส้นทางการเคลื่อนพล แถมยุ่งยากกว่าเดิมด้วยฝูงโยไคในหุบเขา ทำให้ฮิเดะได้ตัดสินใจแยกทางไปจัดการกับอิมากาวะด้วยตัวเอง

 

หลังจากเอาชนะได้ เขาก็เอาพลังโยไคประจำตัวของอิมากาวะมาครอง แล้วลงมือสังหารอิมากาวะ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้โนะบุนากะ มีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นเพียงแค่ไดเมียวของแคว้นเล็กแต่สามารถยับยั้งการยึดอำนาจของไดเมียวผู้ทรงอำนาจได้ ทำให้หลายแคว้นต้องตื่นตัว และเตรียมเข้าสู่สงครามอย่างเป็นทางการ…

 

ด้วยเส้นสายพรรคพวกของโทกิชิโร่ ที่สามารถเรียกเอานักรบกัปปะอควาแมน…เอ้ย “โคโรคุ” ในการปราบ “คาไมทาจิ” โยไคที่ก่อกวนการสร้างปราสาทของโนบุนากะ โทกิชิโร่จึงจับมาเป็นพวก ซึ่งหลังเอาชนะทัพอิมางาวะในศึกโอเกฮาซามะมาได้

 

ทัพโอดะก็บุกตีมิโนะด้วยความฮึกเหิม แต่กลับต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูป จึงเป็นเหตุผลให้โทกิชิโร่ต้องดึงตัว “ทาเคนากะ ฮันเบย์” กุนซือของฝ่ายมิโนะมาเป็นพวก และเร่งสร้างปราสาทที่สุโนมาตะ ซึ่งอยู่เบื้องหน้าของปราสาทอินาบะ  ทำให้โนบุนากะสามารถเข้าครอบครองแคว้นมิโนะได้ แล้วจึงเปลี่ยนชื่อปราสาทใหม่เป็น “ปราสาทกิฟุ” และแต่งตั้งให้โทกิชิโร่ และฮิเดะ เป็น “นักรบ นิโอ” ผู้ใช้พลังอสูร เปรียบเสมือนมือขวาของเขาเลยก็ว่าได้

 

แต่เรื่องราวการต่อสู้ของนักรบโยไค ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะนี่เพิ่งเข้าสู่ช่วงต้นของสงคราม ยังมีการทรยศหักหลัง ชิงอำนาจก่อกบฎ ตามหน้าประวัติศาสตร์เป๊ะ! และนำไปสู่เรื่องราวของ Nioh ภาคแรก นั่นเอง เอาเป็นว่า ไม่สปอยล์ละกัน ขอบอกว่า เชื่อมกับภาคแรกและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแบบเนียนๆเลย!

 

(เอาไว้พ้นช่วงวางจำหน่าย เดี๋ยวกลับมาสปอยล์ต่อละกันครับ)

 

 

 

 

 

 

 

 

แอดมิน AK47