ชื่อญี่ปุ่น :からくり剣豪伝ムサシロード (คาตาคุริ เค็นโก เด็น มุซาชิ โรโดะ!)
ชื่อไทย : “มุซาชิ หุ่นรบซามูไร”
ชื่ออังกฤษ : “Musashi, the Samurai Lord”
ประเภท : ประวัติศาสตร์ ไซไฟ แอคชั่น
จำนวน : 50 ตอน
ผลิตโดย : Studio Pierrot
ฉายครั้งแรก : 3 ตุลาคม พ.ศ. 2537 ถึง 25 กันยายน พ.ศ. 2538
ฉายครั้งแรกในไทย : ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ช่วงเช้า วันจันทร์-พุธ 7.00-7.30
นี่คือ ตำนานของมุซาชิ ที่ถูกนำมาตีความใหม่ในยุคไซไฟแบบผสมความเป็นการ์ตูนอิงประวิติศาสตร์เบาสมอง กับการ์ตูนเก่าดักแก่ที่ชื่อว่า からくり剣豪伝ムサシロード (คาตาคุริ เค็นโก เด็น มุซาชิ โรโดะ!) หรือ “มุซาชิ หุ่นรบซามูไร”
===
“หลังยุค”มหาศึกเซนโกคุ”ของประเทศ “หมู่เกาะจิปัง”…สถานที่หุ่นจักรกล และผู้คนอาศัยร่วมกัน ก็ยังคงมีการต่อสู้ไม่เว้นวัน ที่นั่น มีหุ่นจักรกลยอดนักดาบมากมายที่เข้าร่วมศึกนั้น ผู้ที่ใฝ่ฝันถึงชัยชนะ และเกียรติยศ และนี่คือ เรื่องราวของวีรบุรุษผู้หมายจะเป็นหนึ่งในใต้หล้าในวิถีแห่งดาบ “มุซาชิ” ปรากฎกาย!!”
–บทบรรยายก่อนเข้าเนื้อเรื่องของ”มุซาชิ หุ่นรบซามูไร” –
เรื่องย่อ
พล๊อตหลักๆของการ์ตูนเรื่อง “มุซาชิ หุ่นรบซามูไร” จะพูดถึง “มุซาชิ” หุ่นยนต์หนุ่มที่กล้าหาญ รักความถูกต้อง แต่มีนิสัยชอบสร้างปัญหาให้กับคนในหมุ่บ้านมุซาชิโนะเสมอๆ ด้วยโชคชะตาฟ้ากำหนด ทำให้เขาได้พบกับ “ซาซากิ โคจิโร่” นักดาบหนุ่มอัจฉริยะ และโคจิโร่เป็นฝ่ายเอาชนะได้ ทำให้มุซาชิเจ็บใจ และเห็นถึงความอ่อนแอของตน เขาจึงออกเดินทางจากหมู่บ้านมุซาชิโนะ บ้านเกิด เพื่อฝึกฝนตัวเอง โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นยอดนักดาบอันดับหนึ่งให้ได้ โดยตัวซีรี่ยส์จะฉายรวดเดียว 50 ตอนจบ แต่สามารถแบ่งเป็นเนื้อหาได้ 3 ภาคดังนี้ครับ
–
ภาค งานประลองชิงเจ้ายุทธ
มุซาชิได้ออกเดินทางออกจากหมู่บ้านมุซาชิโนะ เพื่อฝึกฝนตัวเอง จนมาเข้าสู่ตัวเมืองอันสับสนวุ่นวาย ต่างจากชนบทที่จากมา และได้พบกับ “ซึงาอาระ โบคุเด็น” หุ่นยนต์ชายชรายอดนักดาบ จึงได้พยายามตามตื๊อขอเป็นลูกศิษย์ หลังจากการ วิ่งตาม 10,000 กิโลเมตร!! ก็เป็นผลสำเร็จ (ภายใต้การสะกดรอยตามของ ซาซากิ โคจิโร่)
การฝึกอันโหดร้ายของโบคุเด็น ก็ดำเนินต่อไปนานนับเดือน…โดยสิ่งที่ทำให้มุซาชิอดทนได้ ก็เพื่อการเป็นนักดาบอันดับหนึ่ง และการปกป้อง “โอสึรุจัง” สาวน้อยบ้านนาที่เป็นเหมือนสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจของเขาตลอดมานั่นเอง…
และเมื่อการฝึกสำเร็จ เขาก็ออกเดินทางไปยังเมืองหลวง “เอโดโทเปีย” แต่ก่อนหน้า เขาก็ต้องไปขอดาบจากช่างตีดาบโคเทตสึ ที่ไม่เชื่อว่าโบคุเด็นจะมีลูกศิษย์ติงต๊องอย่างมุซาชิ แต่ด้วยความมุ่งมั่นจนละเมอออกมา บวกกับการท่องเคล็ดวิชาดาบของโบคุเด็น ก็ทำให้โคเทตสึมอบดาบคู่ที่ตั้งใจจะให้โบคุเด็นไปให้มุซาชิแทน และมุซาชิก็ใช้ดาบคู่อย่างคล่องแคล่วจนกลายเป้นเพลงดาบ “นิโตริว”
ระหว่างทางก้พบกับ “ยางิว จูเบ” หุ่นยนต์ที่ทำงานให้โชกุนโดยตรง ก็ได้ทาบทางให้มาทำงานเป็นสายปราบปราม “อิงะ ฮันโซ” กับบรรดานินจาเหล่าร้ายที่คิดจะโค่นบัลลังก์โชกุน แต่มุซาชิตั้งใจจะเดินทางไปยังเอโดโทเปียเพื่อเข้าร่วมงานประลองชิงเจ้ายุทธมากกว่า แต่เหมือนว่ามุซาชิจะมาไม่ทันงานประลอง แถมยังถูกจับตาโดยฮันโซที่หมายจะเอาชีวิต เพราะรู้เรื่องแผนการก่อกบฎของฮันโซมากเกินไป (ซึ่งมุซาชิก็รู้จากจูเบ และสายของจูเบเท่านั้น)
ด้วยความช่วยเหลือของ “เซนฮิเมะ” ลูกสาวของ”โชกุนโตกุกาว่า”ที่มุซาชิได้เข้าไปช่วยจากกลุ่มโจรโดยบังเอิญ ก็ทำให้มุซาชิสามารถเข้าไปในงานประลองได้ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้โชกุนไม่พอใจ จึงจะจับตัวมุซาชิไปประหาร แต่จูเบขอชีวิตไว้ และให้ทำการดวลกับตนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
มุซาชิแพ้จูเบเพราะประสปการณ์ที่ด้อยกว่า แต่ก็ทำให้โชกุนโตกุกาว่าพอใจมาก จึงปล่อยตัวไป
ระหว่างที่จิตตกจากการพ่ายแพ้ ทำให้มุซาชิถูกลูกสมุนของฮันโซจับตัวไปขัง และบังคับให้ลงชื่อในใบอนุญาติประหารชีวิตของปลอม เซนฮิเมะที่รู้เรื่องนี้ จึงขอให้โชกุนยุติงานประลองออกไปก่อน และให้ส่งคนไปช่วยมุซาชิ ซึ่งจูเบเองก้ขอร้องโชกุนด้วย เพราะเขาก็มีส่วนที่ทำให้มุซาชิมาถึงงานประลองช้ากว่ากำหนดด้วยเหตุงานราชการลับของเขา จนมุซาชิมาไม่ทัน และเพียงเสี้ยววินาทีชี้เป็นตายในลานประหารของมุซาชิ เพื่อนๆหุ่นยนต์ที่ได้รับคำสั่งจากโชกุนโตกุกาว่า ก็มาช่วยมุซาชิทันเวลา ฮันโซต้องรามือไปก่อน เพราะมีเอกสารลายมือโชกุนยืนยันคำสั่ง ทำให้ฮันโซเจ็บใจมาก เพราะเขาเชื่อว่าวันนึงมุซาชิจะต้องเป็นภัยต่อตัวเองแน่นอน
หลังจบเรื่องราว มุซาชิก็ได้รับตำแหน่ง “ผู้ช่วยองค์รักษ์เจ้าหญิงเซนฮิเมะ” รองจากจูเบ และ โคจิโร่ …
ภาคปราบอสูรโชโฮคุ
หลังจากที่รับตำแหน่งคุ้มกันเจ้าหญิงเซนฮิเมะ มุซาชิ และ โคจิโร่ก็เริ่มออกเดินทางผจญภัย โดยที่จูเบได้กล่าวกับมุซาชิในวันก่อนเดิทางว่า ถ้าระหว่างเดินทางก็ให้ฝึกวิชาดาบสองมือ (นิโตริว) ให้สำเร็จ เพราะนั่นอาจจะเป็นกุญแจในการกำราบเทพพิทักษ์ของกลุ่มนินจาอิงะ “ยามาตะ โนะ โอโรจิ” และ “ซึจิคุโมะ” ที่ทำหน้าที่พิทักษ์สุดยอดศาตรา ดาบ “เทนคูมารุ” (ดาบจ้าวเวหา) และ ดาบ “เทนชิมารุ” (ดาบจ้าวปฐพี) ซึ่งเป็นดาบในตำนานที่มีเรื่องเล่าว่าถ้าครองดาบเล่มนี้ได้จะเป็นสุดยอดนักดาบไร้เทียมทาน และทั้งหมดนี้ ก็เป็นแผนของจูเบ ที่จะให้มุซาชิครอบครองดาบในตำนาน และรับมือกับฮันโซในนาคตนั่นเอง
ดาบ “เทนคูมารุ” (ดาบจ้าวเวหา) ยอดศาตราเล่มแรก ที่มุซาชิค้นพบระหว่างต่อสู้กับ “อสูรซึจิคุโมะ” ที่ออกอาละวาดจนผู้คนในท้องถิ่นพากันหวาดกลัว
ดาบ “เทนชิมารุ” (ดาบจ้าวปฐพี) ยอดศาตราเล่มที่สอง มุซาชิได้มาจากการใช้ดาบเทนคูมารุ สังหารยามาะตะ โนะ โอโรจิ และเมื่อร่างอสูรถูกทำลาย ดาบที่ซ่อนอยู่ก็ออกมา บัดนี้ มุซาชิพร้อมลุยแคว้นโชโฮคุ ออกดูแลประชาชนที่ต้องทนกับระบบอำมาตย์ผู้ชั่วร้ายแล้ว!!
ภาคปราบกบฎตระกูลชิรานุอิ
เจ้าหญิงเซนฮิเมะ กลับเข้าสู่เมืองเอโดโทเปียหลังจากผจญภัยตามหาดาบ “เทนคูมารุ” (ดาบจ้าวเวหา) และ ดาบ “เทนชิมารุ” (ดาบจ้าวปฐพี) และเมื่อกลับเมืองได้ไม่นาน ฮันโซที่คิดว่าตายไปแล้วในการต่อสู้ที่โชโฮคุ ก็กลับมา และยังเริ่มคิดการใหญ่ กับแผนการก่อกบฎต่อรัฐบาลโชกุนโตกุกาว่า ด้วยการร่วมมือกับตระกูลชิรานุอิแห่งเกาะซากุระจิม่า แต่ทว่าที่นั่น มุซาชิก็ได้บกับหญิงที่เป็นแม่แท้ๆของตน ที่ชื่อ “ฮิมิโกะ” และเธอก็เป็นถึงผู้นำตระกูลชิรานุอิตัวจริง ที่ออกมาเร้นกายด้วยเหตุผลทางการเมือง (เธอไม่เห็นด้วยกับการที่ตระกูลชิรานุอิต้องมาเข้าร่วมกับกองกบฎของฮันโซ)
สุดท้าย ฮิมิโกะ ก็จากมุซาชิไปด้วยเหตตุระเบิดที่เกาะซากุระจิม่า ที่มีฮันโซอยู่เบื้องหลัง ส่วนฮันโซหายตัวไป เหลือรอยแค้นให้มุซาชิตามสะสาง!
ภาคปราบกบฎจอมมารไดเทย์
ภาคสุดท้ายของเรื่องราวการผจญภัยของมุซาชิที่ได้เติบโตจากเด็กหนุ่มผู้อ่อนแอ อ่อนต่อโลก เป็นนักดาบที่มีวิชาแก่กล้า และอาศัยที่หมู่บ้านมุซาชิโนะ จนกระทั่ง มุซาชิได้รับข่าว”งานประลองชิงเจ้ายุทธ ครั้งที่ 2″ จึงได้เดินทางกลับมายังเอโดะโทเปีย และในครั้งนี้ยังได้สืบทราบมาว่า “ฮันโซ” จะกลับมาอีกครั้งด้วยแผนการช่วงชิง “ไตรเทวภัณฑ์” (ดาบคุซานางิ / กระจกยาตะ / หยกเขี้ยวยาซาคานิ) อันเป็นสมบัติของพระจักรพรรดิ์ที่มีอำนาจในการต่อกรกับความชั่วร้ายทั้งปวง
และแล้วแผนการช่วงชิงก็สำเร็จ ทำให้มุซาชิและพรรคพวกจึงต้องนำกลับมาให้ได้ ก่อนที่แผนการของ “จอมมารไดเทย์” (ผู้สั่งการให้ฮันโซก่อการกบฎ) ที่อยู่เบื้องหลังเหตุวุ่นวายทั้งหมดจะเคลื่อนไหว
พวกมุซาชิได้ออกเดินทางหาขุมพลังที่จะเอาชนะจอมมาร กับ ฮันโซฉบับอัพเกรด และพวกเขาก็ได้พบกับถ้ำลึกลับที่เก็บซ่อนอารยะธรรมจาก “ชนเผ่าคาระ” ที่เก็บซ่อนพลังของชุดเกราะเก็นโทคุเอาไว้
และเมื่อเทวภัณฑ์ทั้งหมดถูกรวบรวม มุซาชิ และโคจิโร่ ก็ได้ต่อสู้กับจอมมารไดเทย์จนสามารถเอาชนะได้ หลังจากนั้น การดวลตัวต่อตัวระหว่างมุซาชิกับ ฮันโซก็เริ่มขึ้น และปราสาทของพวกฮันโซก็ถล่มลงมา บัดนี้บัญชีแค้นทั้งหมด ถูกสะสางแล้ว
หลังจากจบศึก เหลือเรื่องที่ยังคาใจระหว่างมุซาชิ และ โคจิโร่ ทั้งสองขอท้าดวลประดาบที่ชายหาดของเกาะกันริว (แต่มุซาชิดันตื่นสายจนทำให้โคจิโร่เริ่มหงุดหงิด)
ทั้สองงัดสารพัดวิชามาสู้กันอย่างไม่มีการออมมือ 2วันผ่านไป การดวลยังคงไม่หยุดหย่อน แต่ก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะ
สุดท้ายทั้งคู่เหนื่อยจนง่วง แล้วก็หลับไปเอง (แม้แต่พรรคพวกที่นั่งดู ก็หลับไปด้วย) แต่ทว่าความสงบกลับมาได้ไม่นาน เจ้าหญิงเซนฮิเมะก็มาไหว้วานมุซาชิอีกครั้ง ได้รับข่าวว่ามีลูกน้องของฮันโซที่เล็ดรอด กำลังจะก่อการกบฎ ทำให้ทุกคนออกเดินทางปราบกบฎอีกครั้ง…
อวสาน
—–
“เคล็ดวิชาดาบที่ดีที่สุด คือการไม่ใช้ดาบ ให้ใช้จิตใจเอาชนะ”
——ซึงาอาระ โบคุเด็น——–
—
ตัวละครหลัก
มุซาชิ
ซามูไรหนุ่มติงต๊อง ที่เคยเป็นเด็กเจ้าปัญหาประจำหมู่บ้านมุซาชิโนะ ไม่ปรากฎว่าพ่อแม่เป็นใคร ถึงจะสร้างปัญหาบ่อยๆแต่ที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่รักความถูกต้อง ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่ถูกต้องผ่านไปได้ จึงเป็นที่เอือมระอาคนในหมู่บ้าน มีเพียง “โอซึรุจัง” สาวน้อยที่เติบโตมากับมุซาชิ เป็นคนเดียวที่เข้าใจ และคอยออกตัวปกป้องมุซาชิเสมอๆ จนวันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ “ซาซากิ โคจิโร่” นักดาบหนุ่มอัจฉริยะ ที่ได้มอบความพ่ายแพ้ จนทำให้มุซาชิสำนึกถึงความไร้พลังของตน และได้ตัดสินใจออกเดินทางฝึกตน เพื่อปกป้องโอซึรุจัง จนมาเจอกับเรื่องราวต่างๆมากมาย ที่หล่อหลอมให้เขาเป็นยอดนักสู้ และใช้พลังไปในทางที่ถูกต้องสมปราถนา…
มุซาชิได้รับดาบจาก “โคเทตสึ” ช่างตีดาบที่เก่งที่สุดของยุค แต่ก็เสียหายจากการต่อสู้กับอสูรซึจิคุโมะ แต่ก็ได้สุดยอดศาตราอย่างดาบ “เทนคูมารุ” (ดาบจ้าวเวหา) และ ดาบ “เทนชิมารุ” (ดาบจ้าวปฐพี) ผสานกับวิชาดาบสองมือ (นิโตริว) มาแทนดาบเก่าที่เสียไป จนกลายเป็นนักดาบที่เก่งที่สุด “อีกคน”ในภายหลัง (เพราะตัดสินแพ้ชนะกับโคจิโร่ไม่ได้ เลยได้เป็นมือหนึ่งร่วมไปเลย!)
ส่วนชุดเกราะใหม่ “เกราะเก็นโทคุ” เป็นของที่ได้จากการที่มุซาชิ โคจิโร่ และ จูเบ เข้าไปสำรวจถ้ำลึกลับที่เก็บซ่อนอารยะธรรมจาก “ชนเผ่าคาระ”ชนเผ่าผู้เป็นต้นกำเนิดของจักรกล (คาราคุริ) และได้รับพลังใหม่ไว้ใช้ต่อกรกับฮันโซ ที่ได้เข้าถึงพลังเกราะเก็นโทคุเช่นกัน…
โคจิโร่
นักดาบหนุ่มรูปงาม ถนัดวิชาดาบยาว เป็นคนใจเย็น เงียบขรึม จริงจัง อ่อนโยน และสุภาพ เป็นอีกคนที่เดินทางไปทั่วแผ่นดินเพื่อแสวงหาความหมายของวิถีแห่งดาบ จนมาเจอกับมุซาชิ ลูกศิษย์คนแรก และคนสุดท้ายของปรมาจารย์ดาบ “โบคุเด็น” ทำให้ชีวิตอันอ้างว้างของโคจิโร่ถูกเติมเต็ม และเติมจนล้น เมื่อความเพี้ยนของมุซาชิ เริ่มแพร่ระบาดไปถึงตัวโคจิโร่ด้วย
โคจิโร่ ได้รับ “ดาบโมโนโฮชิซาโอ” (ราวตากผ้า) ที่เกิดจากความมุ่งมั่นในใจ ที่จะปกป้องผู้คน และพวกพ้อง และพลังใหม่ “เกราะเก็นโทคุ” เข้าต่อสู้กับฮันโซ และจอมมารไดเทย์ สุดท้าย มุซาชิดวลกับเขา ด้วยความเหนื่อย จึงเผลอหลับไป เป็นอันยุติการดวล
จูเบ
นักดาบตาเดียว จากราชสำนัก ทำงานขึ้นตรงกับโชกุน เป็นคนเคร่งครัดในกฎ แต่ก็เป็นคนที่เอาใจใส่กับบุคคลรอบข้าง ด้วยเพลงดาบที่แข็งแกร่ง ดุดัน ไร้ช่องโหว่ และมีความรอบรู้ในศาสตร์หลายแขนงจึงทำให้มุซาชิ และเพื่อนๆยอมรับในฝีมือที่มากกว่าการเป็นนักดาบ (คล้ายๆอ.ที่ปรึกษามากกว่า) ภายหลัง ได้รับ”เกราะเก็นโทคุ” และได้ต่อสู้ร่วมกับพวกมุซาชิในการสกัดแผนการกบฏของจูโซ
จูโซ
นินจาผู้รับใช้โชกุนโตกุกาว่า แต่มักใหญ่ใฝ่สูง จนวางแผนก่อกบฎหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็พลาด เพราะจูเบ มาขวางแผนซะทุกครั้ง แถมหลังๆมุซาชิ ยังเป็นตัวแปรที่ขวางทางเพิ่มเข้ามา จึงได้สวามิภักดิ์ต่อ “จอมมารไดเทย์” เพื่อหวังจะยืมมือในการยึดครองประเทศ (แล้วถ้าสบโอกาสก็จะดัดหลังอีกที) สุดท้าย ก็ตายอนาถ โดนปราสาทจอมารทับตายระหว่างการดวลกับมุซาชิ
เซนฮิเมะ
เจ้าหญิงจอมแก่น ลูกสาวของโชกุน โตกุกาว่า ที่ชอบติดตามพวกมุซาชิออกผจญภัยในโลกกว้าง เป็นเด็กผู้หญิงที่มีนิสัยแก่นแก้ว แถมเอาแต่ใจสุดๆ ภายหลังได้ออกเรือนกับเจ้าชายของพระจักรพรรดิ์
โอสึรุ
สาวน้อยบ้านนา ไร้เดียงสา ไม่ทันคน แต่เข้าใจในความดีงามของมุซาชิ แถมยังเป็นที่พักใจให้กับมุซาชิยามท้อถอย ทำให้มุซาชิหลงรักเด็กสาวคนนี้มากๆ ถึงกับยอมทิ้งหมู่บ้านเพื่อฝึกตนให้เข้มแข็ง โดยหวังว่าจะกลับมาปกป้องเธอ อย่างที่เธอเคยปกป้องเขามาตลอด
แม้ว่าตลอดการเดินทาง มุซาชิจะเจอสาวสวยรายล้อม เขาก็ไม่สนใจเลย (มีแอบเคลิ้ม แอบเหล่บ้าง แต่ไม่นอกใจแน่นอน)
———-
ของเล่น
หลักแล้วของเล่นจากการ์ตูนเรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้น “พลาโม” ที่ทำออกมาวางขาย โดยสองแบบที่ขายดีในห้างจัสโก้ สมัยนั้นคือสองตัวนี้เลย มุซาชิ / โคจิโร่
ตุ๊กตุ่นยางทอยเส้น ก็มีขายครับ แต่แอดมินจำไม่ได้ว่าเคยแถมขนมยี่ห้อไหนในไทย (ในภาพเป็นงานญี่ปุ่น)
การ์ดเลเซอร์สำหรับสะสม ก็มีขาย (อารมณ์คล้ายๆ ของเล่นแถมขนมอบกรอบโอเดงย่าสมัยเก่าบ้านเรา)
และในยุคนั้น ก็ต้องมีตลับเกมวางขายด้วยแน่นอน!! เกมเพลย์ก็คล้ายๆเซลด้านี่แหละ
เวอร์ชั่นเกมบอย
เป็นการ์ตูนเก่าอีกเรื่องที่หาดูยากมากก…น่าเสียดายที่เนื้อหาโดยรวมออกจะสนุกเบาสมอง ล่าสุดที่ญี่ปุ่นก็มีเวอร์ชั่น DVD Remaster ออกมาแล้วด้วย ก็ลองๆส่งเสียงให้ทางค่าย LC ใจดี คว้ามาดักแก่เด็กหนวดบ้างก็ไม่เลวนะ…
แอดมิน Ak47
เพลงเปิดสุดคุ้นเคย
โดย ชิม่อน มาซาโตะ เจ้าพ่อเพลงการ์ตูนแปลงร่างอีกคนของวงการ…