ชื่อญี่ปุ่น : 六三四の剣 (มุซาชิ โนะ เคน)
ชื่อไทย : มุซาชิ เจ้าหนูเคนโด้ / ข้าชื่อมุซาชิ
ชื่ออังกฤษ : Sword of Musashi
จำนวน : 72ตอน
ผลิตโดย : Eiken
ฉายครั้งแรก : 18 เมษายน 1985 – 26 กันยายน 1986
ฉายในไทย : เมษายน 2533-2534 ในรายการช่อง 9 การ์ตูน และรีรันซ้ำช่วงปิดเทอม11 โมง จันทร์-ศุกร์
“เคนโด้เป็นศิลปะแห่งการใช้ดาบของชนชาติญี่ปุ่น อันมีความหมายว่า “วิถีแห่งดาบ” โดยมีแนวคิดทางปรัชญาของพระพุทธศาสนาและลัทธิชินโตอีกทั้งยังมีรากฐานทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นผสมผสานเข้าไปอย่างลงตัวอีกด้วย
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเคนโด้มากคือการกำเนิดเกิดขึ้นพร้อมๆกับซามูไร โดยในสมัยเฮอันเคียว( 794 – 1185 ) จวบจนกระทั่งในสมัยเอโดะ( 1603 – 1868 )วิชาดาบเคนโด้มีรูปแบบที่เป็นเอกเทศมากขึ้น โดยมีการแต่งกายและอุปกรณ์เกิดขึ้นเป็นระบบและเป็นมาตรฐานมากกว่าแต่ก่อน และใช้กันอย่างกว้างขวางในระบบนั้น
มีหลักฐานแน่นอนว่าเคนโด้ได้ใช้เป็นหนึ่งในหลายๆวิชา เพื่อทำการสอบเข้ารับราชการแก่ผู้ที่จะมาเป็นซามูไร โดยรูปแบบการแต่งกายและอุปกรณ์ยังคงใช้กันมาจนถึงปัจจุบันแม้รายละเอียดและวัสดุบางอย่างอาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
ในปี 1952 เคนโด้ได้บรรจุเป็นหลักสูตรในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยกันอย่างกว้างขวาง และมีการดัดแปลงแก้ไขกติกาบางอย่างเพื่อให้มีรูปแบบเป็นกีฬามากขึ้นและเพื่อความเหมาะสมแก่ยุคสมัย”
—–คัดย่อจากบทความ “ประวัติเคนโด้” โดย ชมรมเคนโด้ไทย-ญี่ปุ่นดินแดง—-
และนี่คือการ์ตูนที่หยิบยกเอาจิตวิญญาณของการต่อสู้ในเกมกีฬาที่นอกจากจะต้องเอาชนะผู้อื่นแล้ว ยังต้องเอาชนะอุปสรรคในชีวิตอีกด้วย กับการ์ตูนดราม่าสุดเข้มข้นที่มีชื่อว่า “มุซาชิ เจ้าหนูเคนโด้” (หรือ “ข้าชื่อมุซาชิ” ฉบับหนังสือการ์ตูนไพเรท)
“มุซาชิ เจ้าหนูเคนโด้” (六三四の剣 มุซาชิ โนะ เคน) เป็นการ์ตูนที่วาดขึ้นโดย อ. มุราคามิ โมโตกะ (ปัจจุบันมีผลงาน “จิน หมอทะลุศตวรรษ”) ที่ได้เล่าเรื่องราวความผูกพันในวิถีแห่งเคนโด้ของเด็กชายนัทสึกิ มุซาชิ จนก้าวไปสู่การเป็นยอดฝีมือเคนโด้ระดับม.ปลายวัยว้าวุ่น ที่ตีพิมพ์ลงนิตยสาร “โชเนน ซันเดย์” ในปี 1981 -1985 และยังเป็นการ์ตูนที่ได้รับรางวัล Shogakukan Manga Award สาขาการ์ตูนผู้ชายยอดเยี่ยมอีกด้วย
และหลังจากนั้น ทาง สตูดิโอเอย์เคน (Eiken) ก็ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปแปลงเป็นอนิเม ที่เล่าเรื่องเหมือนในหนังสือการ์ตูนแบบไม่มีผิดเพี้ยน! และได้เข้าฉายในบ้านเราช่วงช่อง 9 การ์ตูน ช่วงปี 2534 (ฉายไม่จบ) และรีรันซ้ำ ช่วงปิดเทอมอีกครั้ง (แต่ว่าตอนนั้นก็ยังฉายไม่จบนะ)
—-
เรื่องย่อ
เรื่องราวของมุซาชิ เจ้าหนูเคนโด้ เริ่มต้นในวันที่ 3 มิถุนายน ที่เมืองยางิว เมื่อเด็กชาย “นัทสึกิ มุซาชิ” ลูกชายคนเดียวของนายตำรวจ “นัทสึกิ เออิจิโร่” และ แชมป์เคนโด้หญิง “นัทสึกิ คาโย” ได้ถือกำเนิด ซึ่งก็เป็นวันเดียวกันที่เออิจิโร่คว้าแชมป์เคนโด้ของกรมตำรวจได้ และตั้งชื่อลูกชายตามนักดาบที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น “มิยาโมโต้ มุซาชิ”
มุซาชิเติบโตด้วยความกล้าหาญ ชาญฉลาด และพรสวรรค์ด้านเคนโด้ที่พ่อ และแม่คอยฝึกฝนให้ตั้งแต่3ขวบ ซึ่งเขายังเขียนหนังสือไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ และมุซาชิก็รักพ่อและแม่มากพอๆกับเคนโด้ ด้วยความห้าวหาญ มีน้ำใจ และ แข็งแกร่งเกินเด็กวัยเดียวกัน จึงเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆที่โรงเรียนอนุบาล
ด้วยคำสัญญาที่ให้กับพ่อและหุบเขาอิวาเตะ เขาจะต้องเก่งกาจให้ได้ มุซาชิจึงพร่ำเรียนวิชาจากพ่อแม่ และบรรดาเด็กประถมที่มาเรียนเคนโด้ในโรงฝึกประจำเมือง แต่ก็ข้ามรุ่น ไปท้าสู้กับ “โออิชิ อิวาโอะ” เด็กหัวโจกชั้น ป.5 ที่มีฝีมือดาบเหนือกว่ามุซาชิ แล้วก็แพ้ยับหมดรูปทั้งที่อิวาโอะใช้แค่ท่อนไม้เท่านั้น
เออิจิโร่จึงพร่ำสอนเรื่องการวางเท้า และจังหวะให้ ด้วยการ “ใช้ไม้จิ้มฟัน1อัน สู้กับยากูซ่า 4 คน” ทำให้มุซาชิชื่นชมในความเก่งกาจของพ่อเขา ที่มีฉายาว่า “พยัคฆ์ร้ายแห่งอิวาเตะ” มีอเคนโด้อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
การฝึกอย่างหนักของมุซาชิก็เข้าสู่ช่วงการแข่งขันระดับเยาวชน เพียงแค่ 4 ขวบ มุซาชิก็ลงเข้าแข่ง และเจอกับ “โทโดโรกิ รันโกะ” เด็กผู้หญิงมาดทอมบอย ที่เป็นอัจฉริยะเคนโด้เช่นเดียวกับมุซาชิ และกลับไปท้าสู้กับอิวาโอะ ที่เพิ่งขึ้นมัธยมอีกครั้ง แต่ก็แพ้กลับมา คราวนี้มุซาชิกลับรู้สึกขอบคุณ เหมือนเขาได้เรียนรู้เรื่องการปประมาณตน และทิ้งสัญญาใจเอาไว้ว่า “ไม่ว่าอีกกี่สิบปี เขาก็จะฝึกเพื่อเอาชนะอิวาโอะให้ได้”
หลังจากนั้นไม่นานนัก พ่อของมุซาชิก็ได้เป็นตัวแทนของอิวาเตะ ไปเข้าแข่งเคนโด้ระดับประเทศ เขาต้องเจอกับ “โทโด คุนิฮิโกะ” คู่ต่อสู้ที่เก่งกาจกว่าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่างเออิจิโร่ ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากการเป้นตำรวจ เพื่อฝึกฝนเคนโด้อย่างจริงจัง เพราะหลังจากที่เจอกับ “ท่าแทงคอหอย” อันทรงพลังของคุนิฮิโกะ เขาก็ทราบดีว่าในตอนนี้เอาชนะไม่ได้แน่นอน และในตอนนั้น มุซาชิกก็เลื่อนชั้นเป็นเด็กป.1แล้ว…
แต่การดวลกันในการแข่งขันชิงแชมป์ญี่ปุ่น คุนิฮิโกะ และ เออิจิโร่ ก็ดวลกันอย่างสูสี แต่ทว่า ด้วยท่าแทงคอหอย ที่รุนแรงหนักหน่วง ทำให้การจิตสังหารคู่ต่อสู้ของเออิจิโร่ถึงจุดพีคสุด และเอาชนะจนคว้าแชมป์ญี่ปุ่นได้ แต่ทว่าก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตหลังจากการแข่งในครั้งนั้น และการตายของพ่อ ก็ทำให้มุซาชิตั้งใจที่จะเก่งกว่าพ่อให้ได้ แต่ก็ต้องหยุดฝึกเคนโด้ไปนานถึง 3 ปี เพื่อฝึกท่าแทงเพียงอย่างเดียวด้วยโทสะเท่านั้น
และมุซาชิก็ตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อไปล้างแค้นให้พ่อด้วยการท้าสู้กับ “โทโด คุนิฮิโกะ” ชายผู้ที่ใช้ท่าแทงคอหอย ที่ทำให้พ่อของเขาต้องตาย แต่ว่าก็ไม่เป็นผล เพราะมุซาชิจ้องแต่จะเอาชนะด้วยจิตใจที่เปี่ยวด้วยโทสะ ซึ่งนั่นเป็นการปิดหูปิดตาในวิถีแห่งดาบของตัวเอง แถมแพ้ “โทโด ชูร่า” ลูกชายของเขาด้วย
หลังจากกลับมา มุซาชิก็ได้พบกับผู้คนมากมาย และยังคงฝึกเคนโด้อย่างหนัก และรับมือกับคู่ต่อสู้มากมาย ในการแข่งขันระดับประเทศ
จนกระทั่งเข้าสู่ ม.ปลาย มุซาชิเติบโตเป้นเด็กหนุ่มนักเคนโด้ฝีมือฉกาจ ได้รับการเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงมาตลอด ทั้งการฝึกกับชมรมเคนโด้ในหอพักหญิงล้วนของวิทยาลัยยาคุโมะที่โหดหิน อีกทั้งยังต่อสู้กับแนวคิดของเคนโด้ที่ต่างจากการฝึกเพื่อการเอาชนะการแข่ง สู้กับตัวเอง สู้กับบางอย่างในใจ
แต่มุซาชิก็ก้าวเข้าใกล้พ่อของเขาเต็มที…และสู้โดยหวังว่า จะเอาชนะ“โทโด ชูร่า”ให้ได้ในการแข่งระดับประเทศ โดยมี“โทโดโรกิ รันโกะ” เพื่อนสาวที่เคยเป็นศัตรู ที่มีความรู้สึกที่เป็นมากกว่าเพื่อนไปแล้วคอยเคียงข้าง และสัญญาว่าจะไปแข่งระดับประเทศด้วยกัน แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุในการแข่ง จนรันโกะขาหัก สละสิทธิ์ในการแข่รอบระดับประเทศ
ใน3วัน ก่อนวันแข่งระดับประเทศ และ ตัดสินกับ “โทโด ชูร่า” มุซาชิได้ถูกหน่วยปราบปรามพิเศษ 3 นาย ลากตัวเข้าไปในโรงฝึกเคนโด้ของโรงพักอิวาเตะ เพื่อไปพบกับ “โออิชิ อิวาโอะ” ที่ปแัจจุบันกลายเป็นครูฝึกของโรงพักอิวาเตะๆไปแล้ว โดยมุซาชิต้องผ่านด่านหน่วยปราบปรามพิเศษเสียก่อน ทั้งหมดนี้ อิวาโอะต้องการทดสอบฝีมือของมุซาชิ ก่อนที่จะเริ่มทำตามที่ได้รับปากเมื่อสิบกว่าปีก่อนว่าจะกลับมาสู้กับมุซาชิ…และในที่สุด มุซาชิก็สามารถเอาชนะทาแทงคอหอยที่รุนแรงอิวาโอะได้ และยังได้รับการยอมรับจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษ เหมือนอย่างที่พ่อของมุซาชิเป็น…บัดนี้ “เสือร้ายแห่งอิวาเตะคนที่สอง” ได้ถือกำเนิดแล้ว!
วันแข่งจริง มุซาชิต้องรับมือกับคู่ปรับเก่าอย่าง “อินุอิ ชุนอิจิ” ชายที่เคยพลาดถูกมุซาชิตีเข้าที่แขนจนกระดูกแตกละเอียด ก็กลับมาลงแข่งด้วยวิชาดาย “นิโตริว” (ดาบคู่) ที่เน้นการสังหารเป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่มุซาชิก็เอาชนะได้อย่างยากลำบาก
และก็เข้าสู่รอบชิงกับ โทโด ชูร่า ด้วยอาการแผลฉีกขาดที่คอ ทำให้มุซาชิไม่สามารถใช้ท่าต่างๆอย่างเต็มที่ แต่ด้วยจิตใจที่สู้ไหวก็ทำให้เขากลับไปที่ลานประลองอีกครั้ง โดยมีรันโกะ ที่รู้ใจตัวเองแล้วว่าอยากจะอยู่เคียงข้างมุซาชิคอยเป็นกำลังใจให้
การต่อสู้กับชูร่าเป็นไปอย่างยากลำบากถึงขีดสุด ด้วยความเยือกเย็น และโหดเหี้ยมในเชิงดาบดุจเทพอสูร“อาชูร่า” ที่รุกไล่มุซาชิ และด้วยสภาพที่ย่ำแย่ของทั้งคู่ ดาบสุดท้ายที่ทั้งคู่ตั้งใจจะแลกชีวิตกันในเกมกีฬา ผลก็คือมุซาชิสามารถฟาดดาบเข้าแสกหน้าของชูร่าได้สำเร็จ ปิดฉากการครองแชมป์ 3 สมัยของชูร่า และในขณะเดียวกัน “โทโด คุนิฮิโกะ” ที่กำลังอยู่ในอาการป่วยหนัก ก็สิ้นใจในวันที่ชูร่าพ่ายแพ้
และ มุซาชิสิ้นสติเพราะความเหนื่อยล้าในอ้อมกอดของรันโกะ
4 เดือนต่อมาหลังจากการดวล ชูร่าได้เขียนจดหมายถึงมุซาชิว่า กำลังจะเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์ คราวนี้เขาเลือกเส้นทางของตัวเองได้แล้ว หลังจากที่พ่อของเขาคอยขีดเส้นทางนักดาบมาทั้งชีวิต เขาเลือกที่จะวางดาบ และจับมีดหมอเพื่อช่วยเหลือผู้คน ไม่ให้ทนทุกข์กับโรคภัยเหมือนพ่อของเขา
ส่วนมุซาชิก็กำลังง่วนกับการหนังสือสอบ เพื่อเรียนวิทยาลัยครู โดยหวังว่าอนาคต จะสอนให้เด็กๆในเมืองอิวาเตะ ได้เรียนรู้ถึงเพลงดาบที่พ่อของเขาพร่ำสอนไปใช้ในทางที่ถูกต้อง และเพื่อการกีฬาต่อไป…บัดนี้ จากคู่อาฆาต กลายมาเป็นเพื่อนรักที่เข้าใจกันและกันมากที่สุดไปแล้ว…
—-
ตัวละคร
นัทสึกิ มุซาชิ
เด็กหนุ่มที่เกิดมาภายใต้สายเลือดของนักเคนโด้ระดับเทพของญี่ปุ่น “นัตสึกิ เออิจิโร่” และ “นัทสึกิ คาโย” มุซาชิเป็นเด็กซนชนิดที่ว่า “สร้างความวุ่นวายไปทุกที่” ด้วยนิสัยห้าวๆ แบบไร้เดียงสา ก็มักจะเกิดเรื่องวุ่นวายเสมอ แต่กับวิชาดาบ มุซาชิจะเป็นคนที่เรียนรู้เร็วมาก เขาได้รับการฝึกจากพ่อ และแม่ โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเอาชนะพ่อ ที่เป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่นให้ได้
หลังจากการเสียชีวิตของพ่อ มุซาชิได้ย้ายโรงเรียน และเรียนรู้เรื่องราวการต่อสู้ด้วยเพลงดาบมามากมาย แถมสร้างโจทย์เอาไว้เยอะมาก แต่ฝีมือก็ก้าวกระโดดเช่นกัน โดยมีคู่ปรับที่เขาต้องทุ่มเทพลังชีวิตทั้งหมดเพื่อเอาชนะให้ได้คือ “โทโด ชูร่า” ลูกชายของ “โทโด คุนิฮิโกะ” ชายผู้สังหารพ่อของมุซาชิด้วยเพลงดาบ “ท่าแทงคอหอย”
หลังจากสู้กับชูร่า มุซาชิตัดสินใจที่จะเป็นครูสอนวิชาเคนโด้ต่อไป…
โทโด ชูร่า
นักดาบหนุ่มน้อยหน้าตาใจดี เป็นลูกชายของ “โทโด คุนิฮิโกะ” ยอดนักดาบ “ที่เหนือกว่าอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น” เขาถูกพ่อของเข้าเคี่ยวกรำอย่างหนักตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนโต เขายิ่งถูกฝึกอย่างหนักด้วยดาบจริง ถึงขั้นแลกชีวิตกับพ่อของเขาเองก็ยังทำมาแล้ว
ดูเหมือนจะไม่ได้รับความรักจากพ่อ แต่ชูร่าเข้าใจในความหวังดีของพ่อจึงอดทนฝึกดาบราวกับได้รับการฝึกกับปีศาจ ถึงชูร่าจะเป้นเด็กที่จิตใจดี แต่เมือเข้าสู่ลานประลอง เขาจะกลายเป็นเหมือนปีศาจ”อาชูร่า” เทพอสูรที่แข็งแกร่งสุดๆ หลังจากที่พ่อของเขาจากโลกไป และพ่ายแพ้แก่มุซาชิ เขาก็ได้เลือกเส้นทางของการเป็นหมอ เพื่อช่วยเหลือคนต่อไป
โทโดโรกิ รันโกะ
สาวน้อยมาดทอมบอย ที่มาในฐานะศัตรูของมุซาชิ แต่หลังจากผ่านการฝึกฝนด้วยกันมาในช่วงมัธยม ความรู้สึกของรันโกะที่มีต่อมุซาชิก็เริ่มเปลี่ยนไป และยังเป็นคนที่เข้าใจมุซาชิมากที่สุดต่อจากแม่ของเขา ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับชูร่า รันโกะเป็นคนที่อยู่กับมุซาชิ และรู้ว่ามุซาชิกำลังบาดเจ็บสาหัส แต่ก้ต้องทนให้กำลังใจ ทั้งๆที่ตัวเองก็กลัวจะเสียมุซาชิไป
“ชูร่า” คู่อาฆาตฟ้าประทาน ที่มุซาชิต้องเอาชนะให้ได้ เพื่อพิสูจน์ความเป็นหนึ่งในญี่ปุ่น
การพบกันครั้งแรกของ มุซาชิ กับ รันโกะ ในฐานะคู่แข่งตอน 4ขวบ ซึ่งหลังจากนั้นสิบปี ทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่รักกันในที่สุด
วิถีของเลือดนักสู้ของญี่ปุ่น ถูกปลูกฝังใส่ในตัวมุซาชิมาตลอด เขาจึงกลายเป็นเด็กที่เติบโตอย่างเข้มแข็ง และท้าชนกับทุกอุปสรรค ถึงจะมีอาการหวั่นใจ หนักใจ หรือทุกข์ร้อนซัเท่าไหร่ เราจะไม่เคยเห็นมุซาชิวิ่งหนีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว
จัดว่าเป็นการ์ตูนดราม่าชั่นเยี่ยมที่ให้ทั้งความสนุก แง่คิด และหลักการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ เราจะได้เห็นพัฒนาการของมุซาชิตั้งแต่เล็กจนโต ถึงจะบอกว่ามุซาชิมีพรสวรรค์ แต่ก็แค่ 30% เท่านั้น แอดมินเชื่อว่า อีก 70% คือความพยายามของเขามากกว่า ดังคำกล่าวว่า
“ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน”
แอดมิน Ak47
เพลงเปิดสุดแสนคุ้นเคย
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console